22 พ.ย. 2550

คืนวันเพ็ญเดือน 12 กับ 9 สถานที่ลอยกระทง

ประเพณีลอยกระทงประจำปีนี้กำลังจะมาเยือนในอีกไม่กี่วันข้างหน้าแล้ว หลายๆคนคงนัดแนะเพื่อนคู่คิด มิตรคู่ใจ พร้อมกับเล็งสถานที่เหมาะๆไว้สำหรับคืนประเพณีแบบไทยๆที่พิเศษนี้ สถานที่เด่นดังที่มีชื่อเสียงในงานประเพณีลอยกระทงก็มีให้เลือกกันหลากหลายใครชอบที่ไหนก็ไปที่นั้น

สำหรับปีนี้ทางการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.)ได้ชูงานลอยกระทงเด่นๆ ใน 6 จังหวัดเป็นไฮไลท์ภายใต้สโลแกน“อะเมซิ่ง มหกรรมลอยกระทง” ประกอบด้วย

“ประเพณีลอยกระทง เผาเทียน เล่นไฟ” จ.สุโขทัย
ต้นตำรับนางนพมาศ ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 22 – 24 พ.ย.

“ประเพณียี่เป็ง” จ.เชียงใหม่
ที่บนฟากฟ้าจะดารดาษไปด้วยการปล่อยโคมลอย จัดขึ้นวันที่ 21 – 24 พ.ย.

“ประเพณีลอยกระทงตามประทีป” ที่ศูนย์ศิลปาชีพบางไทรฯ จ.พระนครศรีอยุธยา
จัดขึ้นระหว่างวันที่ 23 – 24 พ.ย.

“ประเพณีลอยกระทงสาย ไหลประทีปพันดวงฯ” จ.ตาก
อันสวยงามเป็นเอกลักษณ์ ระหว่างวันที่ 23 – 27 พ.ย.

“มหกรรมโคมไฟเฉลิมพระเกียรติฯ สีสันเมืองใต้”อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา
ที่เป็นอีกหนึ่งงานอันน่าสนใจ จัดตั้งแต่วันที่ 24 พ.ย.-5 ธ.ค.

“สีสันแห่งสายน้ำ มหกรรมลอยกระทง” ณ บริเวณ 2 ฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา จากสะพานกรุงเทพ ถึง สะพานกรุงธน
ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 21-24 พ.ย.

แต่สำหรับใครที่ไม่สะดวกจะมางานลอยกระทงตาม 6 สถานที่กระแสหลัก(จากททท.)เหล่านี้ “ผู้จัดการท่องเที่ยว”ก็มีสถานที่ลอยกระทงกระแสรองดีๆจากทั่วฟ้าเมืองไทยมาเสนอแนะ เพื่อเป็นแนวทางประกอบการตัดสินใจในการไปลอยกระทงในคืนวันเพ็ญเดือน 12 นี้

ม่วนอกม่วนใจ "ยี่เป็ง ลอยโคม กว๊านพะเยา"
งานประเพณีลอยกระทงที่จังหวัดพะเยา จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 22 – 24 พฤศจิกายน 2550 ตั้งแต่เวลา 10.00 – 22.00 น. บริเวณถนนชายกว๊าน อำเภอเมือง จังหวัดพะเยา ภายใต้ชื่องาน “ยี่เป็ง ลอยโคม กว๊านพะเยา” ซึ่งในปีนี้มีไฮไลท์อยู่ที่ การปล่อยโคมลอยเฉลิมพระเกียรติฯ จำนวน 10,081 ดวง เนื่องในปีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 ปี และในทุกวันจะมีการจัดกิจกรรมการแสดงแสง สี เสียง “ประทีปทอง ส่องธารา ติโลกอาราม”จากสำนักศิลปะศาสตร์ มหาวิทยาลันนเรศวรพะเยา โดยใช้ทีมงานผู้แสดงและนักดนตรีกว่า 500 คน จัดแสดงทุกคืน

โดยงานประเพณียี่เป็ง ลอยโคม กว๊านพะเยา จะมีพิธีเปิดงานในวันที่ 24 พฤศจิกายน ซึ่งพิธีเปิดงานนั้นทางจังหวัดพะเยาได้รับเกียรติจากเจ้าแขวงไชยะบุลี สาธารณะรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว และผู้บริหารจากเขตปกครองตนเองสิบสองปันนา ร่วมเป็นเกียรติเปิดงานพร้อมทั้งได้ร่วมส่งการแสดงศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่นเข้าร่วมแสดงตลอดงาน

พร้อมทั้งยังมีกิจกรรมอื่นๆมากมาย อาทิ การจำหน่ายสินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ กาดสุ่มมืด อาหารพื้นบ้าน และการแสดงทางวัฒนธรรม นั่งเรือพายไหว้พระวัดติโลกอาราม อายุกว่า 500 ปีกลางกว๊านพะเยา กิจกรรมการแสดงดนตรีโฟล็คซองคำเมือง การประกวดนางนพมาศ การจำหน่ายสินค้าพื้นเมืองและอาหารพื้นบ้าน ขันโตกริมกว๊านพะเยา กิจกรรมการแข่งขันวิ่งเพื่อสุขภาพ “กว๊านพะเยา มินิ-ฮาล์ฟมาราธอน”ขบวนแห่กระทงใหญ่ การแสดงศิลปวัฒนธรรมสี่ภาค

ลอยกระทงที่เมืองสองแคว
ที่จังหวัดพิษณุโลกก็มีการจัดงานประเพณีลอยกระทงเช่นกัน โดยมีขึ้นระหว่างวันที่ 22-24 พฤศจิกายน 2550 ซึ่งในส่วนขององค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลกจะจัดงาน ณ สวนสาธารณะบึงราชนก ต.วังทอง อ.วังทอง และในส่วนของเทศบาลนครพิษณุโลกจะจัดขึ้น ณ หน้าวัด “พระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร”และ “สวนชมน่านเฉลิมพระเกียรติ”

โดยที่สวนสาธารณะบึงราชนก ภายในงานจะพบกับกิจกรรมมากมาย อาทิ การประกวดนางนพมาศ การประกวดกระทงเล็ก-กระทงใหญ่ การประกวดไก่ชนนเรศวร การประลองไก่ชนพระนเรศวร การประกวดสุนัขพันธุ์บางแก้ว การแสดงวงดนตรีลูกทุ่งโรงเรียนจ่านกร้อง การประกวดนักร้องลูกทุ่งแดนเซอร์ การแข่งขันชกมวยไทยอาชีพ การแสดงลิเกคณะยอดชายมาลัยทองและการแสดงจากศิลปิน ดารา นักร้องคับคั่ง

ส่วนที่ บริเวณหน้าวัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหารและสวนชมน่านเฉลิมพระเกียรติ ก็มีกิจกรรมไม่น้อยหน้าทั้ง การประกวดอาหาร ชุมชน อาหารประเภท ขนมเทียน และ ข้าวต้มมัด ชมรมฯ อาหารประเภท ต้มยำกุ้ง การประกวดประดิษฐ์กระทงฝีมือ การประกวดร้องเพลงไทยลูกทุ่ง - เพลงไทยสากล และวงดนตรีชิงถ้วยประทาน พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ การประกวดหนูน้อยนพมาศ การประกวดกระทงใหญ่ของชุมชนเทศบาลนครพิษณุโลก การประกวดนางนพมาศ

ลอยกระทงสายกาบกล้วยเมืองแม่กลอง
ที่ จ.สมุทรสงครามได้ฟื้นฟู "ประเพณีลอยกระทงสายกาบกล้วย"ที่เลือนหายให้ฟื้นกลับมาใหม่ โดยงานจะมีขึ้นในวันที่ 24 พฤศจิกายน 2550 ณ บริเวณอุทยาน ร.2 อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม พบกับความสายงามของการ ลอยกระทงสายกาบกล้วยกว่า 84,000 ใบ และมีกิจกรรมวัฒนธรรมพื้นบ้านให้ชมอีกมากมาย

ลอยกระทงสายกาบกล้วยนี้ได้ห่างหายไปจากท้องน้ำแม่กลองเป็นเวลากว่า 50 ปี เพิ่งมีการรื้อฟื้นขึ้นใหม่เมื่อช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา ปีนี้เป็นการจัดงานลอยกระทงสายกาบกล้วยครั้งที่ 3 จุดปล่อยกระทงสายกาบกล้วยในวันงานจะลอยกันที่บริเวณอุทยาน ร.2 ให้ไหลไปออกยังปากอ่าวแม่กลอง โดยจะเริ่มปล่อยกระทงประมาณตั้งแต่สองทุ่มขึ้นไป และปล่อยเป็นจังหวะ ตามกระแสน้ำ

นอกจากกิจกรรมการลอยกระทงสาบกาบกล้วยแล้ว งานนี้ยังมีกิจกรรมที่น่าสนใจอื่นๆอีกมากมาย อาทิ การจุดพลุอย่างยิ่งใหญ่ การตักบาตรพระสงฆ์ทางน้ำในช่วงเช้าจำนวน 81 รูป ที่คลองอัมพวา

การแข่งขันเรือพายมินิมาราธอน "แม่กลอง" แบ่งเป็นสองประเภทได้แก่ เรือสำปั้นขนาดความยาวไม่เกิน 8 ศอก 2 ฝีพาย และเรือมาด เรือขุด และเรืออื่นๆขนาดความยาว 10 ศอกขึ้นไป 4 ฝีพายโดยเริ่มแข่งขั้นตั้งแต่เวลา 15.00 น. จากหน้าวัดช่องลม(ธรรมโชติ) และจุดเข้าเส้นชัยบริเวณข้ามคลองอัมพวา การแสดงดนตรีและการประกวดดนตรีจากสถาบันต่างๆรวมถึงการประกวดนางนพมาศเน้นความงานด้วยผ้าไทย ณ ที่ว่าการอำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสงครามในช่วงค่ำ

งาน "จองเปรียง เพ็ญเดือนสิบสอง" จ.สมุทรปราการ
"จองเปรียง"เป็นพิธีเก่าแก่ครั้นโบราณที่สืบทอดมาจนปัจจุบัน จัดขึ้นใน วันที่ 24 พฤศจิกายน 2550 เวลา 17.00-22.00 น. ณ พิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ พิธีจองเปรียง คือ การยกโคมตามประทีปบูชาเทพเจ้าตรีมูรติซึ่งจะกระทำในเดือนสิบสองหรือเดือนอ้าย

ทั้งนี้ผู้เข้าชมงานต้องเสียค่าใช้จ่ายคนละ 50 บาทเพื่อเข้างาน เพื่อไปชมกิจกรรม การประกวดกระทงสวยงาม ชมการประกวดโคมชัก บรรจงประดิษฐ์ประดับด้วยดอกไม้ร้อยเป็นสายประกอบเป็นรูปโคมอย่างสวยงามและหาชมได้ยาก

ชมการประกวดหนูน้อยนพมาศ การประกวดแต่งกลอนแปด ชมการแข่งขันวาดภาพประกอบเพลง ชมการสาธิตการแทงหยวก - ภาพสลักลายไทยบนกาบกล้วยซึ่งต้องใช้ความชำนาญและการฝึกฝนเป็นพิเศษ ร่วมลอยกระทงในสระน้ำรอบช้างเอราวัณที่มีความสูงเท่ากับตึก 14 ชั้น

ลอยกระทง ย้อนเวลา หาวิถีไทย จังหวัดฉะเชิงเทรา
แต่งชุดไทยไปเที่ยวงาน “ลอยกระทง ย้อนเวลา หาวิถีไทย ” ในวันที่ 23 – 24 พฤศจิกายน 2550 บริเวณริมฝั่งแม่น้ำบางปะกงและสวนมรุพงษ์ อำเภอเมือง จังหวัดฉะเชิงเทรา ซึ่งการจัดงานในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์หลัก คือ เน้นในเรื่องของการอนุรักษ์และฟื้นฟูประเพณีอันดีงามของไทย ร่วมรณรงค์ แต่งกายชุดไทย “นุ่งโจงห่มจีบ ย้อนอดีตย้อนเวลา ”

ชมความงามของขบวนแห่พระพุทธโสธรทางน้ำบริเวณริมฝั่งแม่น้ำบางปะกง ชมการประกวดหนูน้อยนพมาศ ชมการแสดงวงดนตรีลูกทุ่งของเยาวชน จังหวัดฉะเชิงเทรา ชมการ ประกวดกระทงใหญ่ ประเภทสวยงามและสร้างสรรค์ สัมผัสวิถีไทย “ ลานกิจกรรมวิถีไทย” ประกอบด้วย วิถีเยาว์วัย วิถีปลายจวัก วิถีเวียงวัง วิถีหัตถลานฤาษีดัดตน และการแสดงของเยาวชน ชาวแปดริ้ว ชมการแสดงแสง-เสียง และคอนเสิร์ตจากศิลปินชื่อดัง

ชมการประกวดภาพถ่ายในหัวข้อ “ภาพเก่า เล่าเรื่องเมืองแปดริ้ว" และ "ภาพใหม่ ใสสด งดงาม นามแปดริ้ว"ชิมอาหารพื้นบ้าน ขนมพื้นเมือง ที่หารับประทานได้ยากในบรรยากาศยามเย็นริมฝั่งแม่น้ำบางปะกง เน้นความอร่อย สะอาด ภาชนะใส่อาหารที่เป็นผลผลิตจากธรรมชาติ ถ้วยชามดินเผาใบตองสำหรับใส่อาหาร กระบอกไม้ ไผ่สำหรับใส่เครื่องดื่ม เป็นต้น

ลอยกระทงและเทศน์มหาชาติฟังธรรมวันเพ็ญเดือนสิบสอง จ.นครนายก
วัดฝั่งคลอง ร่วมกับโครงการท่อส่งก๊าชธรรมชาติ (ปตท.) เทศบาลตำบลเกาะหวาย ศูนย์วัฒนธรรมไทยสายใยชุมชนวัดฝั่งคลอง และชุมชนชาวปากพลี จัดงานประเพณี “ลอยกระทงและเทศก์มหาชาติ เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา” ระหว่างวันที่ 22 – 26 พฤศจิกายน 2550 ณ วัดฝั่งคลอง ตำบลเกาะหวาย อำเภอปากพลี จังหวัดนครนายก เพื่ออนุรักษ์ ฟื้นฟู ส่งเสริมประเพณีลอยกระทงและเทศน์มหาชาติ ร่วมอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมโดยเฉพาะแม่น้ำลำคลอง วัฒนธรรมประเพณีไทยพวน กระจายรายได้สู่ชุมชน

ภายในงานมีกิจกรรมที่น่าสนใจ อาทิ ร่วมงานบุญการกุศล “ฟังเทศน์มหาชาติ” ชมการประกวดกระทงสวยงาม ชมการแสดงพื้นบ้านไทยพวน และการแสดงของเยาวชนในอำเภอปากพลี ชมการแสดงมหรสพ เครื่องเล่นสวนสนุก และการแสดงศิลปินชื่อดัง เลือกซื้อของฝากสินค้าชุมชนและผลิตภัณฑ์พื้นบ้านร่วมงานลอยกระทงการกุศล และจับฉลากชิงโชค

ปล่อยกระทงสู่ฟากฟ้า ในงาน “ลอยกระทงสวรรค์” จังหวัดแม่ฮ่องสอน

จังหวัดแม่ฮ่องสอนร่วมกับองค์การบริหารส่วนจังหวัดแม่ฮ่องสอนและเทศบาลเมืองแม่ฮ่องสอนจัดงานประเพณีลอยกระทงสวรรค์ขึ้น ณ บริเวณวัดพระธาตุดอยกองมู ในระหว่างวันที่ 21-24 พฤศจิกายน 2550 โดยประเพณีลอยกระทงสวรรค์นี้จัดเป็นสิ่งที่หาชมได้ยากและมีเพียงที่เดียวในประเทศไทย

จุดปล่อยกระทงสวรรค์อยู่ที่ “วัดพระธาตุดอยกองมู” โดยทางวัดจะเตรียมกระทงซึ่งทำมาจากกระดาษสีเล็กๆ มีฐานเป็นโฟมเพราะมีความเบาจุดเทียนตรงกลาง ลักษณะของกระทงสวรรค์เป็นกระทงขนาดเล็ก คล้ายโคมลอย แต่เล็กกว่า นำกระทงมาผูกติดกับลูกโป่งสวรรค์แล้วลอยขึ้น เชื่อว่าชาวแม่ฮ่องสอนลอยกระทงสวรรค์มาประมาณ 30 ปี แล้วโดยผู้ริเริ่มเป็นเจ้าอาวาสวัดพระธาตุดอยกองมู สำหรับช่วงเวลาที่เหมาะสมต่อการลอยกระทงสวรรค์ คือ ระหว่าง18.00-19.00น.


ล่องสะเปาเมืองรถม้า
ที่จังหวัดลำปางมีการจัดงานลอยกระทงหรือล่องสะเปาในหลายพื้นที่ด้วยกันทั่วเมืองลำปาง ซึ่งในช่วงประเพณีลอยกระทง จังหวัดลำปางมีงานใหญ่เกิดขึ้นพร้อมกันถึง 3 งาน ได้แก่ งาน “ มหกรรมวัฒนธรรมพื้นบ้านนานาชาติเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว” ซึ่งจัดขึ้นที่บริเวณลานเพ็ญทรัพย์ ต.สวนดอก อ.เมือง ระหว่างวันที่ 20 - 26 พฤศจิกายน 2550 จากความร่วมมือจัดงานโดย สภาวัฒนธรรมพื้นบ้านโลก กระทรวงวัฒนธรรมและจังหวัดลำปาง งานที่ 2 คือ “งานเที่ยวเพ็ญเดือนสิบสองท่องเมืองลำปาง” ซึ่งจัดขึ้นที่วัดพระธาตุลำปวงหลวง อ.เกาะคา ระหว่างวันที่ 25 - 26 พฤศจิกายน 2550 จัดโดย อบจ.ลำปาง และงานสุดท้าย คือ “งานล่องสะเปาจาวละกอน”ซึ่ง “สะเปา”ในภาษาเหนือ ก็หมายถึงคำว่า “สำเภา”ในภาษากลางนั่นเอง จ.ลำปางนับเป็นจังหวัดเดียวในภาคเหนือที่อนุรักษ์ประเพณีล่องสะเปานี้ไว้ โดยงานล่องสะเปาจาวละกอน จะมีขึ้น ระหว่างวันที่ 23 - 25 พฤศจิกายน 2550 จัดขึ้นโดยเทศบาลนครลำปาง

แอ่วเมืองแพร่ผ่องาน “จุดผางปะตี้ปตี๋นก๋า ปูจาแม่ก๋าเผือก”
ด้านสำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดแพร่ เทศบาลเมืองแพร่จะจัดงานประเพณีลอยกระทง ประจำปี 2550 วันที่ 21-24 พฤศจิกายน 2550 ที่สวนสุขภาพเฉลิมพระเกียรติ ร.9 ภายในงานจัดให้มีการประกวดและการแสดงต่างๆมากมาย เช่น การประกวดโคมลอย ประกวดกระทงฝีมือ ประกวดกลองปูจา ประกวดซุ้มประตูวัด

การแข่งขันจุดบอกไฟดอกประกวดเชียร์ลีดแดนซ์ ประกวดหนูน้อยนพมาศ ประกวดนางนพมาศ ชมขบวนแห่ธรรมหลวงถวายเทศน์มหาชาติ เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมพรรษา 80 พรรษา การจัดมหกรรมอาหารและของดีเมืองแพร่ นอกจากนี้ยังมีศิลปิน นักร้องชื่อดังอีกมากมาย

1 ความคิดเห็น: