28 ม.ค. 2551

100 Tips การใช้งานคอมพิวเตอร์ในแบบที่ไม่ซ้ำใคร (7)

61. Google แอบดัน Firefox ให้ผู้ใช้ IEแม้นักพัฒนาเว็บส่วนใหญ่จะให้ความเห็นว่า Firefox เป็นบราวเซอร์ที่มีประสิทธิภาพเหนือกว่า Internet Explorer แต่ประเด็นของความสำเร็จอยู่ที่ว่า ทำอย่างไร ผู้ใช้ส่วนใหญ่ถึงจะมีโอกาสได้ลองใช้บราวเซอร์โอเพ่นซอร์สตัวนี้ ซึ่งล่าสุด ดูเหมือน Google กำลังจะบอกผู้ใช้ว่าอย่างนั้นก่อนหน้านี้ผู้ใช้บราวเซอร์ Internet Explorer ในสหรัฐฯ ที่เข้าไปเยี่ยมชมเว็บไซต์ google.com จะต้องประหลาดใจเมื่อได้พบกับโฆษณาผลิตภัณฑ์ของผู้อื่นเป็นครั้งแรกบนหน้าโฮมเพจของ Google โดยข้อความบนโฆษณาชิ้นนั้นเขียนไว้ว่า “Firefox with Google Toolbar: tabbed browsing, safer surfing”

แวบแรกที่เห็นกราฟิกของโฆษณา ผู้ใช้อาจจะเข้าใจว่า Google แค่ต้องการโปรโมต Google Toolbar เท่านั้น แต่พอได้อ่านข้อความที่อยู่เหนือกราฟิกขึ้นไป (หรือแม้แต่ในภาพกราฟิกที่เห็น) ผู้ใช้จะเข้าใจเกมการตลาดได้ทันที กล่าวคือ Google กำลังดันให้ผู้ใช้ (ที่ใช้ Google Toolbar และผู้ใช้ทั่วไป) เลือกใช้บราวเซอร์ Firefox แทนที่จะยังคงแนะนำให้ผู้ใช้ Google Toolbar บน IE เหมือนเช่นเคย

62. ลดปัญหา Firefox สวาปามหน่วยความจำสำหรับแฟนคลับไฟร์ฟ็อกซ์ (Firefox) คงจะเคยได้ยินมาบ้างว่า บราวเซอร์ตัวนี้มีปัญหาเรื่องของการสวาปามหน่วยความจำ (memory leak) โดยมันจะไม่ยอมคืนหน่วยความจำที่ไม่ได้ใช้แล้ว ซึ่งถ้าคุณอัพเดต Firefox 1.5.0.1 ทางทีมพัฒนาได้แก้ปัญหานี้ให้เบาบางลงไปมากแล้วเมื่อทรัพยากรของระบบลดลง โดยเฉพาะหน่วยความจำ แน่นอนว่า มันย่อมส่งผลกระทบต่อการทำงานโดยรวมด้วย กล่าวคือ อาการเครื่องทำงานช้า อืดอาดปราศจากเหตุผลจนทำให้วัยรุ่นเซ็งไปเลย ครั้งนี้ผมจึงมีเทคนิคที่ช่วยลดปัญหา ต้องขอใช้คำว่า ‘ลด’ นะครับ ไม่ใช่แก้ แต่เท่าที่ทดลองทำดูแล้วบอกได้เลยว่ามันเวิร์กจริงๆ

แม้ว่าผู้ใช้ส่วนใหญ่จะทราบดีว่า ปกติแล้ว Firefox จะไม่ใช้หน่วยความจำมากเกินความจำเป็น แต่จากประสบการณ์ของผู้ใช้อีกกลุ่มหนึ่งกลับพบว่า การบริโภคหน่วยความจำของ Firefox เป็นปัญหาใหญ่สำหรับพวกเขา โจทย์ของเราก็คือ ทำอย่างไรอย่างให้ Firefox ใช้หน่วยความจำน้อยลง โดยทั่วไป รายงานการใช้หน่วยความจำของ Firefox บน Windows จะอยู่ที่ประมาณ 50 – 100 เมกะไบต์ และหน่วยความจำเสมือนอยู่ที่ 100 – 150 เมกะไบต์ ซึ่งตัวเลขดังกล่าวจะไม่เท่ากันในแต่ละเครื่อง เนื่องจาก Firefox ถูกคอนฟิกให้ใช้หน่วยความจำของระบบมากน้อยขึ้นอยู่กับหน่วยความจำระบบ หมายความว่า ถ้าเครื่องของคุณมีหน่วยความจำมาก Firefox ก็จะใช้มากตามไปด้วย และถ้ามีน้อยมันก็จะใช้น้อยนั่นเอง แต่ถ้าประสบการณ์ในการใช้งานของคุณ ตรงกันข้าม ลองทำตามวินทิปนี้ดูนะครับ

เทคนิคการปรับแต่งที่จะแนะนำต่อไปนี้จะเป็นการย้าย Firefox ขณะมินิไมซ์หน้าต่างโปรแกรมให้ไปอยู่บนฮาร์ดดิสก์แทน เพื่อให้ได้หน่วยความจำคืนมา ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้ก็คือ มันจะใช้หน่วยความจำเหลือประมาณ 10 เมกะไบต์เท่านั้น ในขณะที่ปกติแล้ว ไม่ว่าจะเป็นตอนเปิด หรือมินิไมซ์หน้าต่าง Firefox ก็จะยังคงใช้หน่วยความจำเท่าเดิม (ประมาณ 40 – 50 เมกะไบต์ที่การเปิด 5 แท็บหน้าต่าง) สำหรับการปรับแต่งเพื่อลดการใช้หน่วยความจำขณะมินิไมซ์มีดังนี้

- เปิดโปรแกรม Firefox พิมพ์คำสั่ง about:config เข้าไปในช่องใส่แอดเดรส (Address bar)
- คลิ้กขวาบนหน้าเว็บ เลือกคำสั่ง New -> Boolean
- พิมพ์ config.trim_on_minimize เข้าไปในไดอะล็อกบ็อกซ์ที่ป๊อปอัพขึ้นมา แล้วกดปุ่ม Enter
- กำหนดค่าเป็น True แล้วกดปุ่ม Enter
- ปิดโปรแกรม Firefox แล้วเปิดขึ้นใหม่อีกครั้ง

63. รู้จัก AjaxAjax หรือ Asynchronous JavaScript and XML เป็นเทคนิคในการเขียนโปรแกรมของเว็บ ที่ช่วยขจัดปัญหาของการโหลดหน้าของเว็บ เพราะทุกครั้งที่เราต้องการอัพเดตหน้าเว็บ เราต้องมีการส่งและรับข้อมูลทั้งหน้า ทั้งๆ ที่เราต้องการอัพเดตเฉพาะจุด เช่น ตัวเลขดัชนีหุ้น พยากรณ์อากาศAjax ไม่ใช่เทคโนโลยีใหม่ล่าสุดของเว็บ แต่เป็นเทคนิคที่ประกอบไปด้วยเทคโนโลยีที่เราคุ้นเคยกันดี เช่น HTML หรือ XHTML และ CSS

สำหรับการแสดงข้อมูล DOM (Document Object Model) สำหรับให้ JavaScript ในการทำงานเพื่อใช้ในการแสดงไดนามิกข้อมูล XML และ XSLT สำหรับการส่งข้อมูลและการจัดการข้อมูล XMLHttpRequest เป็นออบเจ็กต์ที่ใช้ในการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างไคลเอ็นต์และเซิร์ฟเวอร์ JavaScript คือเครื่องมือที่รวมทุกสิ่งทุกอย่างเข้าด้วยกัน

อย่างที่กล่าวมาแล้วว่า Ajax เป็นเทคนิคที่อยู่บนพื้นฐานของเทคโนโลยีที่มีอยู่ในปัจจุบัน ไม่มีอะไรใหม่ จึงทำให้โปรแกรมบราวเซอร์ที่เป็นที่นิยมกันอยู่ในปัจจุบันสามารถทำงานร่วมกับ Ajax ได้ สรุปก็คือ Ajax ไม่ใช่เทคโนโลยีล่าสุดของการพัฒนาเว็บแอพพลิเคชัน แต่มันประกอบไปด้วยเทคโนโลยีที่เราคุ้นเคยกันดีอยู่แล้ว แต่ถูกจับมารวบอยู่ด้วยกัน Ajax ในวันนี้มีแนวโน้มที่จะเติบโตอย่างรวดเร็วในอนาคตอันใกล้ เพราะแม้แต่ Google ที่ได้รับการยอมรับว่ามีการพัฒนาเรื่องของเทคโนโลยีทางเว็บก้าวหน้าอย่างมากยังนำ Ajax มาใช้ในแอพพลิเคชันของตน เราในฐานะของนักพัฒนาชาวไทย เราคงต้องหันมาสนใจและนำ Ajax มาใช้มากขึ้น

64. ควบคุม IE ให้อยู่หมัดถ้าในองค์กรของคุณต้องการควบคุมการทำงานของ IE ให้มีขีดความสามารถเฉพาะเท่าที่จำเป็นเท่านั้น เทคนิคการปรับแต่งในตอนนี้ช่วยได้ครับ นอกจากนี้ คุณยังสามารถเลือกตั้งข้อกำหนดเพื่อป้องกันไม่ให้เครื่องของผู้ใช้เต็มไปด้วยขยะจากอินเทอร์เน็ตได้ด้วยผู้ใช้สามารถควบคุม หรือจำกัดฟีเจอร์ต่างๆ ของบราวเซอร์ Internet Explorer ได้ด้วยการปรับแต่งรีจิสทรี โดยการเพิ่มคีย์ย่อย (subkey) ที่ใช้เปิดปิดฟีเจอร์ระดับปุ่มใช้ และเมนูต่างๆ ซึ่งมีขั้นตอน และรายละเอียดดังนี้

- สั่งรันโปรแกรม Registry Editor (คลิ้กปุ่ม Start -> Run พิมพ์คำสั่ง regedit)

- ในกรอบด้านซ้ายคลิ้กเข้าไปที่ HKEY_CURRENT_USERSoftwarePoliciesMicrosoftInternet Explorer

- ในกรณีที่ใต้คีย์ Internet Explorer ไม่ปรากฏว่ามีคีย์ Restrictions ให้คลิ้กขวา เลือกคำสั่ง New -> Key พร้อมกับตั้งชื่อว่า Restrictions

- จากนั้นที่ด้านขวา เราจะสร้างคีย์ย่อย (subkey) ที่มีชนิดเป็น REG_DWORD และมีค่า (Value) เป็น 1 สมมติว่า ถ้าเราจะปิดไม่ให้ผู้ใช้เข้าไปแก้ไขเมนู

Internet Options ที่กรอบด้านขวามือให้คลิ้กขวาบนพื้นที่ว่าง เลือกคำสั่ง New -> DWORD Value พร้อมกับตั้งชื่อว่า NoBrowserOptions คลิ้กเมนู Edit เลือกคำสั่ง Modify ไดอะล็อกบ็อกซ์ Edit DWORD Value จะปรากฏขึ้นมา เพื่อให้แก้ไขค่า DWORD ของคีย์ NoBrowserOptions ในกล่องใต้คำว่า Value Data: พิมพ์ 1 เข้าไป คลิ้กปุ่ม OK คราวนี้ลองเปิด IE คลิ้กเมนู Tools เลือกคำสั่ง Internet Options บราวเซอร์จะแสดงพร้อมพ์แจ้งไม่ให้ใช้คำสั่งนี้ พร้อมทั้งแนะนำให้ติดต่อแอดมิน

หากคุณต้องการควบคุมฟีเจอร์อื่นๆ ของ IE เพิ่มเติม ก็เพียงแค่เพิ่มคีย์ย่อยเข้าไปในกรอบด้านขวา และกำหนดค่า DWORD ให้เป็น 1 กับคีย์เหล่านั้น ดังเช่นในขั้นตอนที่ 4 ซึ่งคีย์ย่อยสำหรับควบคุม IE ที่อยากจะแนะนำมีดังนี้ครับ

- AlwaysPromptWhenDownload แสดงพร้อมพ์ทุกครั้งเมื่อผู้ใช้กำลังจะดาวน์โหลดไฟล์

- NoBrowserContextMenu ยกเลิกคลิ้กขวาที่ใช้เปิดคอนเท็กซ์เมนูของบราวเซอร์

- NoBrowserSaveAs ยกเลิกการทำงานของคำสั่ง Save As

- NoBrowserOptions ไม่ยอมให้ใช้คำสั่ง Internet Options ในเมนู Tools

- NoSelectDownloadDirปิดออปชันสำหรับการเลือกไดเร็กทอรีสำหรับการดาวน์โหลด

หมายเหตุ: คีย์ควบคุมเหล่านี้จะทำงานก็ต่อเมื่อคุณเปิดโปรแกรม Internet Explorer ขึ้นใหม่ หลังจากกำหนดคีย์เสร็จแล้ว

65. IE ซ่อมได้ (ง่ายนิดเดียว)เวลาที่ IE มีปัญหา ผู้ใช้ส่วนใหญ่จะนึกถึงวิธีแก้ไขง่ายๆ โดยเข้าไปที่ Add/Remove Programs ใน Control Panel เลือกรายการ Microsoft Internet Explorer แล้วกดปุ่ม Change/Remove

...แต่นั่นเห็นจะยังไม่ใช่วิธีแก้ไขที่ถูกต้องเสียทีเดียวครับก่อนอื่นคุณควรจะทราบว่า แท้จริงแล้ว Internet Explorer เป็นคอมโพเน็นต์หนึ่งของระบบปฏิบัติการ ดังนั้น มันจะถูกเก็บไว้ในเซ็คชั่น Add/Remove Windows Components ในหน้าต่าง Add or Remove Programs (อยู่ในกรอบด้านซ้ายมือ) แต่ที่คุณอาจจะยังไม่ทราบอีกด้วยก็คือ ขั้นตอนที่เกิดขึ้นเป็นแค่เพียงตัดขาดการเข้าถึง IE จากเมนู Start และ Desktop เท่านั้น
วิธีเดียวที่จะซ่อม Internet Explorer ได้ก็คือ ใช้ยูทิลิตี sfc ตรวจสอบไฟล์ระบบ โดยใช้คำสั่ง sfc /scannow จากหน้าต่าง Command (กดปุ่ม Windows + R พิมพ์คำสั่ง cmd ตามด้วยกดปุ่ม Enter) ถ้าหลังจากซ่อมด้วยวิธีดังกล่าว ไม่สามารถแก้ไขได้ แนะนำให้ติดตั้ง IE ใหม่เลยจะดีกว่า ซึ่งจะมีขั้นตอนที่ค่อนข้างจะจุกจิกนิดหนึ่งดังนี้

- เรียกโปรแกรม Registry Editor (พิมพ์ regedit ในไดอะล็อกบ็อกซ์ Run (กดปุ่ม Windows + R))
- เข้าไปที่ HKEY_LOCAL_MACHINESOFTWAREMicrosoftActiveSetupInstalled Components {89820200-ECBD-11cf-8B85-00AA005B4383}
- กดคลิ้กขวาบนไอเท็ม IsInstalled เลือกคำสั่ง Modify
- แก้ไขค่าจาก 1 เป็น 0
- ปิดโปรแกรม Registry Editor
- ดาวน์โหลด และติดตั้ง Internet Explorer 6

ขั้นตอนข้างบนนี้จะช่วยให้คุณสามารถติดตั้งคอมโพเน็นต์บราวเซอร์ของ IE 6 ได้อย่างสมบูรณ์ อ้อ...เกือบลืมไป ก่อนแก้ไขให้คุณล็อกอินเข้าสู่ระบบปฏิบัติการด้วยบัญชีผู้ใช้ที่เป็น administrator นะครับ หมายเหตุ : สำหรับการติดตั้ง OE 6 ให้แก้ไขค่าของ IsInstalled เหมือนในข้อ 3 และ 4 ก่อนที่จะเข้าไปในรีจิสทรีคีย์ HKEY_LOCAL_MACHINESOFTWAREMicrosoftActiveSetupInstalled Components{44BBA840-CC51-11CF-AAFA-00AA00B6015C}

66. OE กับ Outlook ต่างกันตรงไหน?มีใครสงสัยมั้ยครับว่า โปรแกรม Outlook Express 6 กับ Outlook 2003 เหมือนหรือต่างกันอย่างไร ?จริงๆ แล้ว Outlook สองเวอร์ชันนี้ มีทั้งความเหมือนและความต่าง ซึ่งผมจะอธิบายอย่างสั้นๆ ก็แล้วกันนะครับ ประเด็นแรกเลยก็คือ โปรแกรมอีเมล์ทั้งสองตัวเป็นของไมโครซอฟท์ โดย Outlook Express หรือเรียกย่อๆ ว่า OE ไม่ได้มีความหมายว่า มันเป็นเวอร์ชันที่เร็วกว่า (ก็เห็นมีคำว่า Express) Outlook เฉยๆ แต่อย่างใด ในขณะที่ Outlook 2003 ก็จะมาพร้อมกับเครื่องมือที่มีประโยชน์มากกมายไม่ว่าจะเป็น ระบบจัดการอีเมล์ ปฏิทิน (ใช้กำหนดตารางเวลาสำหรับสิ่งที่ต้องทำในแต่ละวัน) รายชื่อผู้ติดต่อ ตลอดจนคุณสมบัติอื่นๆ ของโปรแกรมที่ทำให้มันมีความแข็งแรงมากกว่า ทำอะไรได้มากกว่า Outlook Express มาก

สำหรับ OE จะเป็นแค่โปรแกรมอีเมล์ที่มีคุณสมบัติการทำงานง่ายๆ ช่วยให้จัดการรายชื่อผู้ติดต่อได้บ้างเท่านั้น ทั้งสองโปรแกรมสามารถเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์อีเมล์ด้วยโพรโตคอล POP3, IMAP และ HTTP แต่ Outlook 2003 จะมีคุณสมบัติการทำงานต่างๆ มากมายที่ไม่พบใน OE ยกตัวอย่างเช่น คุณสามารถจัดการกับแอดเดรสบุ๊กที่มีอยู่หลายอันได้ สามารถเตือนจำสำหรับอีเมล์ฉบับต่างๆ บันทึกการกิจประจำวันลงในปฏิทิน และงานต่างๆ รวมถึงการกำหนดสิทธิ์ว่า จะให้ผู้รับสามารถสังพิมพ์ ก๊อบปี้ หรือฟอร์เวิร์ดอีเมล์ฉบับที่ส่งไปได้หรือไม่ ? ได้อีกด้วย

67. Java ไม่ยอมทำงานใน Firefox ?มีคุณผู้อ่านเมล์เข้ามาถามผมว่า ลองใช้บราวเซอร์ไฟร์ฟ็อกซ์มาได้สักระยะหนึ่งแล้ว ซึ่งโดยรวมก็อยู่ในขั้นน่าพอใจ แต่วันก่อนเข้าไปในเว็บไซต์แห่งหนึ่งที่มีการใช้จาวาด้วย แต่ปรากฏว่า ไฟร์ฟ็อกซ์ไม่สามารถรันจาวาได้ ในขณะที่พอเปิดด้วยบราวเซอร์เพื่อนเก่าอย่าง IE ทุกอย่างฉลุย พอจะมีคำแนะนำง่ายๆ สำหรับการแก้ไขปัญหานี้ หรือไม่ครับ?

จากคำถามนี้สามารถพิจารณาสาเหตุที่ทำให้ไฟร์ฟ็อกซ์ไม่รันจาวาได้ 4 แนวทางด้วยกันนั่นคือ ประการแรก ไฟร์ฟ็อกซ์ไม่ได้ติดตั้งโมดูลที่รันจาวา ประการที่สองติดตั้งเข้าไปแล้ว แต่ไม่ได้เปิดการทำงาน ประการที่สาม ติดตั้งเข้าไปแล้วแต่มันไม่ยอมทำงาน และประการสุดท้าย มันถูกบล็อกไม่ให้ทำงานโดยไฟร์วอลที่อยู่ในเครื่องคอมพิวเตอร์ปกติที่ดีฟอลต์ของการทำงาน จาวาจะถูกติดตั้งเข้าไปในไฟร์ฟ็อกซ์อยู่แล้ว แต่มันอาจจะถูกปิดการทำงานอยู่ก็ได้ แนะนำให้ลองตรวจสอบโดยคลิ้กเมนู Tools เลือกคำสั่ง Options คลิ้ก Content ตรวจสอบให้แน่ใจว่า เช็กบ็อกซ์หน้าข้อความ Enable Java ถูกเลือกเป็นเครื่องหมายถูกเรียบร้อยแล้ว แต่ถ้าไม่... ก็คลิ้กเลือกให้เรียบร้อย แล้วรีสตาร์ต Firefox

ส่วนในกรณีที่มันถูกเลือกแล้ว แต่ก็จาวายังไม่ทำงานอยู่ดี แนะนำให้ลองติดตั้งจาวาเข้าไปใหม่ ซึ่งสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ โดย คลิ้กที่นี่ (บางทีถอดถอดไฟร์ฟ็อกซ์แล้วติดตั้งเข้าไปใหม่อาจง่ายกว่า) สำหรับวิธีแก้สุดท้าย ให้คุณลองปิดการทำงานของ Firewall แล้วเปิด Firefox เพื่อเข้าไปในเว็บไซต์ดังกล่าวอีกครั้ง ถ้าทำงานได้ปกติ ลองตรวจสอบให้แน่ใจว่า ไฟร์วอลไม่ได้บล็อกการทำงานไฟร์ฟ็อกซ์ เชื่อว่า ปัญหาของคุณไม่น่าจะเป็นอื่นไปได้จากกรณีเหล่านี้ ขอให้โชคดีในการแก้ปัญหานะครับ

68. แบ็กอัพข้อมูลให้กับเครือข่ายภายในบ้านนี่ก็เป็นอีกหนึ่งปัญหาที่คุณผู้อ่านเมล์เข้ามา บอกว่าตอนนี้มีคอมพิวเตอร์อยู่ 3 เครื่องเชื่อมต่อเป็นเครือข่ายภายในบ้าน โดยมีคอมพ์ 2 เครื่องเชื่อมต่อแบบอีเธอร์เน็ต ส่วนคอมพ์อีกเครื่องหนึ่งเชื่อมต่อแบบไร้สาย อยากให้ช่วยแนะนำวิธีง่ายๆ ในการที่จะแบ็กอัพข้อมูลจากเครื่องคอมพิวเตอร์เหล่านี้ให้ด้วยในกรณีนี้ผมแนะนำให้มองหาฮาร์ดดิสก์มาเพิ่มอีกสักตัวหนึ่ง จากนั้นต่อมันเข้ากับคอมพิวเตอร์เครื่องใดเครื่องหนึ่งในเครือข่าย โดยฮาร์ดดิสก์ที่ใช้อาจจะเลือกเป็นแบบติดตั้งภายใน หรือภายนอกก็ได้ ขั้นตอนต่อมาก็คือ กำหนดแชร์ให้กับฮาร์ดดิสก์ เพื่อว่าคอมพิวเตอร์ทุกเครื่องในเครือข่ายสามารถเข้าถึงได้ เพียงแค่นี้ คุณก็ได้สตอเรจแยกต่างหากไว้เพื่อสำรองข้อมูลให้กับคอมพิวเตอร์ทุกเครื่องในเครือข่ายของคุณแล้ว วิธีนี้น่าจะง่าย และสะดวกที่สุดแล้วนะครับ
69. Streamingเชื่อว่า คุณผู้อ่านหลายคนคงจะเคยพบเห็นคำว่า “สตรีมมิ่ง” (streaming) ตามสื่อต่างๆ มากมาย และผมก็เชื่ออีกเช่นกันว่า ยังคงมีผู้อ่านอีกหลายๆ คนที่เป็นมือใหม่ยังไม่เข้าใจความหมายของคำคำนี้ ครั้งนี้นายเกาเหลาขออนุญาตทำความเข้าใจเรื่องนี้กับคุณผู้อ่านนะครับโดยพื้นฐาน คำว่า ‘สตรีมมิ่ง’ จะถูกนำไปใช้ในกรณีที่คุณสามารถเล่นไฟล์มัลติมีเดียบนเครื่องคอมพิวเตอร์ได้โดยไม่ต้องมีการดาวน์โหลดจากอินเทอร์เน็ตจนครบไฟล์ เนื่องจากการดาวน์โหลดไฟล์มัลติมีเดียทั้งไฟล์จะใช้เวลาค่อนข้างมาก ดังนั้น การเล่นไฟล์มัลติมีเดียจากอินเทอร์เน็ตด้วยเทคนิค ‘สตรีมมิ่ง’ จะทำให้สามารถแสดงผลข้อมูลได้ก่อนที่ไฟล์ทั้งหมดจะถูกส่งผ่านเข้ามายังเครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณนั่นเอง

สำหรับการทำให้เทคนิคสตรีมมิ่งสามารถเล่นไฟล์มัลติมีเดียได้อย่างสมบูรณ์นั้น คอมพิวเตอร์ที่ใช้จะต้องประมวลประมวลผลได้เร็วพอด้วย เนื่องจากข้อมูลที่ถูกส่งเข้ามายังเครื่องนอกจากจะต้องได้รับการจัดเก็บเข้าไว้ในหน่วยความจำบัฟเฟอร์แล้ว มันยังต้องมีการแปลงข้อมูลเหล่านั้น เพี่อนำไปแสดงผลในรูปของเสียง หรือวิดีโอ อีกด้วย ซึ่งถ้าขั้นตอนใดขั้นตอนหนึ่งล่าช้า คุณก็จะสังเกตเห็นได้ทันทีว่าวิดีโอ หรือเสียงมีการกระตุก หรือแน่นิ่งเป็นพักๆ (การกำหนดขนาดของหน่วยความจำบัฟเฟอร์ ความเร็วของเครื่องคอมพิวเตอร์ และอินเทอร์เน็ต เป็นตัวแปรสำคัญในการปรับแต่งให้การเล่นสตรีมมิ่งบนเครื่องคอมพ์ของคุณราบรื่น)
ตัวอย่างของการใช้สตรีมมิ่งที่คุณสามารถพบเห็นได้ก็เช่น เวลาที่คุณเข้าไปในเว็บไซต์ศิลปินเพลง แล้วพบว่า มีตัวอย่างเพลงใหม่ให้ลองฟัง ซึ่งพอคลิ้กปุ๊บภายในอึดใจก็ได้ยินเพลงนั้นเล่นออกมา นั่นแสดงว่า ทางเว็บไซต์ได้ใช้เทคนิคการทำสตรีมมิ่งเพื่อเล่นเพลงใหม่ให้คุณได้ทดลองฟังทันที ที่เล่นเพลงได้เร็วก็เนื่องจากมันไม่ใช่เป็นการดาวน์โหลดไฟล์เพลงใหม่ทั้งเพลงเข้ามาในเครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณนั่นเอง

ซึ่งส่วนใหญ่ทางเว็บไซต์ก็จะให้ได้ฟังแค่บางส่วนของเพลงเท่านั้น ทั้งนี้เพื่อสร้างความรู้สึกให้เกิดความต้องการฟังทั้งเพลง นอกจากนี้ ไฟล์มัลติมีเดียต่างๆ ที่เล่นใน Real Audio หรือ QuickTime ส่วนใหญ่ก็จะเป็นสตรีมมิ่ง ซึ่งข้อมูลที่สตรีมมิ่งเข้ามายังเครื่องคอมพิวเตอร์จะไม่อยู่ในรูปของไฟล์ที่นำไปใช้งานต่อได้ แต่ถ้าคุณดาวน์โหลดซอฟต์แวร์ที่เป็นแชร์แวร์ หรือฟรีแวร์จากอินเทอร์เน็ต ไฟล์เหล่านี้ไม่ใช่ข้อมูลสตรีมมิ่ง เนื่องจากมันได้ผ่านกระบวนการดาวน์โหลดไฟล์ที่สมบูรณ์ เพื่อสามารถนำไฟล์ไปใช้งานต่อได้นั่นเอง

70. ตำแหน่ง ‘ฮอต’ สำหรับโฆษณาบนโฮมเพจใครที่คิดจะทำธุรกิจออนไลน์ อยากรู้มั้ยครับว่าการวางตำแหน่งโฆษณา และสปอนเซอร์บนหน้าเว็บนั้นควรอยู่ตรงไหนมากที่สุด เพื่อให้ผู้บริโภคสนใจโฆษณาที่อยู่บนหน้าเว็บคำตอบนี้ผมขออนุญาตอ้างอิงข้อมูลจากการทำสำรวจตำแหน่งโฆษณาบนหน้าเว็บที่จัดทำโดย Google นะครับ สำหรับตำแหน่งโฆษณาที่ได้รับความสนใจมากที่สุดจะอยู่ตรงกลางหน้าเว็บ นอกจากนี้ โฆษณาที่ส่วนพับบน (First Fold) ของหน้าเว็บจะเป็นจุดสังเกตที่ดีกว่าด้วยเช่นเดียวกัน สำหรับคำว่า ‘พับบน’ ของหน้าเว็บ เป็นศัพท์เฉพาะ

ซึ่งหมายถึงบริเวณพื้นที่หน้าเว็บที่สามารถเห็นได้จากในบราวเซอร์ได้ทันทีโดยผู้ใช้ไม่ต้องเลื่อนหน้าจอ แต่ถ้าผู้ใช้ต้องเลื่อนหน้าเว็บอ่านเนื้อหาทั้งหน้า โอกาสที่ลูกค้าจะเห็นโฆษณาในหน้าเว็บก็ยังมีอยู่ เพียงแต่ความสนใจอาจจะน้อยกว่าบริเวณข้างต้น นอกจากนี้ ตำแหน่งของโฆษณาที่อยู่ตอนท้ายของบทความบนหน้าเว็บก็มีโอกาสได้รับความสนใจสูงเช่นเดียวกัน เนื่องจากผู้ใช้จะใช้เวลาพิจารณาให้ถี่ถ้วนอีกทีว่า เขาสามารถทำอะไรได้อีกบ้างหลังจากอ่านบทความจนจบหน้าเว็บนั้นแล้ว ซึ่งหากโฆษณาที่อยู่ถัดจากบริเวณนี้ ตอบโจทย์ความสนใจที่เกี่ยวเนื่องกับบทความ โอกาสที่โฆษณาจะได้รับความสนใจจะสูงขึ้นตามไปด้วย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น