1. ผู้ที่แพ้ไรฝุ่น
ควรซักล้างผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน ผ้าห่ม ทุก 1-2 สัปดาห์ โดนใช้น้ำอุณหภูมิมากกว่า 55 องศาเซลเซลติเกรดเป็นเวลาอย่างน้อย 30 นาที และควรจะคลุมที่นอนและหมอนด้วยผ้าใยสังเคราะห์ชนิดพิเศษที่ตัวไรฝุ่นไม่สามารถไชทะลุขึ้นมาได้
2. ผู้ที่แพ้ซากแมลงสาบ
ควรทำลายแหล่งเพาะพันธ์และขจัดแหล่งอาหารของแมลงสาบ ถุงใส่ขยะและเศษอาหารต้องปิดปากถุงและเก็บทิ้งทุกวัน บางครั้งอาจต้องใช้ยาฆ่าแมลงสาบและกับดักแมลงสาบร่วมด้วย
3. ผู้ที่แพ้เชื้อรา
ต้องหมั่นตรวจตราบริเวณที่จะพบเชื้อราได้บ่อย เช่น ห้องน้ำ ห้องครัว ไม่ให้มีรูรั่วของท่อน้ำ ถ้าพบเชื้อราให้ใช้ยาฆ่าเชื้อราเช่น ไลโซล หรือ คลอรอกซ์ เปิดห้องให้อากาศถ่ายเทและแสงแดดส่องถึง ไม่ควรปลูกต้นไม้ใส่กระถางภายในบ้านและควรกำจัดใบไม้ที่ร่วงทับถมในบริเวณบ้าน
4. ผู้ที่แพ้สัตว์เลี้ยงที่สำคัญ ได้แก่ แมวและสุนัข
สารก่อภูมิแพ้จากแมวพบได้จากขี้รังแค น้ำลาย ซีรั่ม และปัสสาวะ สารก่อภูมิแพ้เหล่านี้จะกระจายไปได้ทั่วบ้านและคงตัวอย่ได้นานถึง 5-6 เดือน จะพบสะสมได้มากตามฝุ่นบ้าน เฟอร์นิเจอร์บุนวม พรม ที่นอน และผ้าม่าน
สารก่อภูมิแพ้จากแวพบได้จากขี้รังแค ขน และน้ำลาย ผู้ที่แพ้แมวหรือสุนัขควรกำจัดสัตว์เหล่านี้ออกไปจากที่อยู่อาศัย ถ้าไม่สามารถทำได้จริงๆ ควรให้สัตว์เลี้ยงอยู่เฉพาะนอกบ้านและอาจลดปริมาณสารก่อภูมิแพ้ได้บ้างโดยการอาบน้ำสัตว์เหล่านี้ทุกสัปดาห์ ร่วมกับการกำจัดแหล่งสะสมสารก่อภูมิแพ้เหล่านี้โดยใช้เครื่องดูดฝุ่นและเครื่องกรองอากาศ
5. ผู้ที่แพ้ละอองเกสรหญ้า/วัชพืช/ต้นไม้
ละอองเกสรสามารถปลิวตามลมไปได้ไกลๆ ดังนั้นแม้ในบริเวณบ้านจะไม่มีพืชอะไรเลย ผู้ป่วยก็อาจเกิดอาการแพ้ได้ ถ้าภายในบริเวณบ้านมีสนามหญ้าต้องตัดหญ้าและวัชพืชบ่อยๆ เพื่อลดจำนวนเกสรของมัน สำหรับห้องปรับอากาศที่ปิดมิดชิดจะลดปริมาณละอองเกสรได้
ถ้าท่านได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคภูมิแพ้นอกจากการรักษาโดยการใช้ยา การฉีดวัคซีนภูมิแพ้ และ/หรือ การผ่าตัดแล้ว เพื่อให้การควบคุมโรคภูมิแพ้ได้ผลดีที่สุด ท่านควรปฏิบัติตัวดังนี้
1. ดูแลสุขภาพทั่วไปให้แข็งแรง โดยการออกกำลังกายสม่ำเสมอ
2. หลีกเลี่ยงสารก่อความระคายเคืองทั้งนอกและในบ้าน
สารเหล่านี้ทำให้อาการภูมิแพ้เป็นมากขึ้น สารเหล่านี้ได้แก่ ควันบุหรี่ ควันท่อไอเสีย ควันไฟ ฝุ่นละอองจากแหล่งต่าง ๆ ละอองจากการฉีดยาฆ่าแมลง เป็นต้น
3. กำจัด และหลีกเลี่ยงสิ่งที่แพ้
สารก่อภูมิแพ้ที่เข้าสู่ร่างกายโดยการสูดดมหรือสัมผัส แบ่งออกเป็นสารก่อภูมิแพ้ที่พบในบ้าน และสารก่อภูมิแพ้ที่พบนอกบ้าน ในคนไทยมักจะเป็นสารก่อภูมิแพ้ที่พบในบ้าน ซึ่งที่พบบ่อยได้แก่ ไรฝุ่น ซากแมลงสาบ และเชื้อรา ซึ่งส่วนหนึ่งจะปะปนกับฝุ่นบ้าน ส่วนสารก่อภูมิแพ้ที่พบนอกบ้านที่พบบ่อยได้แก่ ละอองเกสรหญ้า วัชพืช หรือต้นไม้ และเชื้อรา
การกำจัดและหลีกเลี่ยงสารที่แพ้โดยทั่ว ๆ ไป สำหรับผู้ที่เป็นโรคภูมิแพ้ควรประกอบด้วย
1. การใช้เครื่องเรือนให้น้อยชิ้นที่สุดโดยเฉพาะอย่างยิ่งในห้องนอน
2. ไม่ใช้ที่นอนและหมอนที่ทำด้วย นุ่นหรือขนนก
3. ไม่ใช้ พรมปูพื้น และไม่ใช้เก้าอี้หรือเครื่องเรือนที่บุด้วยผ้า
4. ควรเก็บหนังสือเข้าตู้มิดชิด
5. ไม่เล่นของเล่นหรือตุ๊กตาที่เป็นขน
6. ไม่ควรใช้ผ้าม่านที่ทำด้วยผ้าอย่างหนาและต้องซักผ้าม่านและใช้ผ้าเปียกเช็ดถูความสะออาดพื้นและเครื่องเรือนเพื่อขัจดฝุ่นละอองบ่อย ๆ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น