ถึงฉลากจะบอกว่าดีสำหรับคุณ
แต่ข้อความที่ติดอยู่ข้างบรรจุภัณฑ์ก็ไม่จำเป็นต้องหมายความอย่างนั้นเสมอไป อย่าลืมว่าแผนการตลาด ไขมันต่ำ และ คุณค่าทางอาหารสูง อาจจะทำให้คุณเขวเหมือนกับหลายคนที่หลงกลกับเรื่องง่ายๆ
เพราะฉะนั้น สิ่งที่คุณควรทำทุกครั้งก่อนเลือกซื้ออาหารสุขภาพคือ คำนวณคุณประโยชน์จริงๆ มากกว่าเชื่อในหน้าตาอาหารที่เห็นหรือเฉพาะข้อความโฆษณา
และต่อไปนี้คือ 5 รายการอาหารสุขภาพที่คุณควรจะหันมาพิจารณา
ทุกครั้งก่อนที่จะเลือกซื้อหรือรับประทานโ
โยเกิร์ตผสมเนื้อผลไม้ ในด้านหนึ่ง ดูยังไงโยเกิร์ตและผลไม้ก็เป็นอาหารที่มีประโยชน์ ในมุมมอง ของผู้ชายที่เข้าฟิตเนสและรักสุขภาพร่างกาย แต่ในอีกด้านหนึ่ง น้ำเชื่อมที่อยู่ในโยเกิร์ต ผสมเนื้อผลไม้นั้นไม่ใช่ ทั้งโยเกิร์ตและผลไม้ล้วนมีความหวานในตัวอยู่แล้ว น้ำเชื่อมเป็นความหวานเกินพอดีจากน้ำตาลที่เพิ่มเข้าไป คุณจึงควรเลือกที่จะหลีกเลี่ยงความหวานเกินจำเป็นที่ว่า ด้วยการกินโยเกิร์ตควบคุมน้ำตาล หรือมีน้ำตาลต่ำกว่าโยเกิร์ตที่กินเป็นประจำ
แคลิฟอร์เนีย โรล
ภายใต้ชั้นสาหร่ายนั้นล่ะ ลองมาดูกันหน่อยว่าสิ่งที่ซ่อนอยู่ในนั้นประกอบด้วยอะไร ถ้าไม่ใช่น้ำตาลที่เป็นส่วนประกอบสำคัญในการหุงข้าวญี่ปุ่น (หุงด้วยน้ำตาลและน้ำส้มสายชู) และเนื้อปูอัดอีกนิดหน่อย รวมๆ แล้วแคลิฟอร์เนีย โรลคำใหญ่จึงมีแต่แป้ง น้ำตาล และเกือบจะไม่มีโปรตีนเลย ทางออก ก็คือ การกินซูชิ ที่ทำจากทูน่าหรือแซลมอน ความหลากหลายของโปรตีนในซูชิจะให้ปริมาณโปรตีนแบบเต็มๆ เยอะกว่ามาก และมีปริมาณคาร์โบไฮเดรตน้อย ถ้ายังไม่พอใจคุณจะสั่งเมนูซาชิมิ เลี่ยงข้าว รับโปรตีนไปเต็มๆ เลยก็ยังไหว รับรองได้ว่าอร่อยและปลอดภัยจาก
น้ำสลัดไขมันต่ำ
ดูเหมือนว่าน้ำสลัดไขมันต่ำจะช่วยลดไขมันและลดแคลอรี แต่ที่จริงแล้ว คุณรู้ไหมว่าน้ำตาลถูกเพิ่มเข้าไปแทนที่เพื่อให้ได้รสชาติที่ดี และที่แย่กว่านั้นก็คือความจริงที่ว่าไขมันที่ซึมซับวิตามินได้ถูกแยกออกไป เนื่องจากนักวิจัยมหาวิทยาลัยโอไฮโอค้นพบว่า ร่างกายของคนที่กินผักกับน้ำสลัดธรรมดาดูดซึมเบตาแคโรทีนซึ่งมีคุณสมบัติของแอนตี้ออกซิแดนท์ช่วยป้องกันการก่อมะเร็งได้มากกว่าถึง 15 เท่า และดูดซึมลูเทียน (Lutein) สารสีเหลืองซึ่งมีส่วนช่วยในการสกัดกั้นการอุดตันของเส้นเลือดในปริมาณที่มากกว่าน้ำสลัดไขมันต่ำจึงอาจไม่ใช่ทางออกของอาหารสุขภาพที่คุณกำลังมองหา ในเวลาเดียวกันคุณสามารถกินน้ำสลัดทั่วไปได้แต่ในปริมาณน้อย หรือเลือกกินน้ำสลัดที่ทำจากน้ำมันมะกอกและน้ำมันดอกคาโนลา (Canola Oil ) ร้อยเปอร์เซ็นต์ก็
ธัญพืชชนิดแท่ง
ทุกคนรู้ว่ามันทำมาจาก โฮลวีต ข้าวโอ๊ต และธัญพืชอื่นๆ ที่ให้ไฟเบอร์หรือเส้นใยสูง แต่สิ่งที่คุณลืมคือ เมล็ดพืชและธัญพืชเหล่านี้ถูกทำให้มีความเหนียวติดกันด้วยส่วนผสมอย่างน้ำเชื่อมข้าวโพดที่มีฟรักโทสสูงและน้ำผึ้ง สิ่งที่พูดมาทั้งหมดทำให้น้ำตาลในเลือดของคุณค่อยๆ สูงขึ้น คุณจึงควรเผื่อเวลาสำหรับกินให้อิ่มและจบไปเป็นมื้อ ๆ หรือถ้าต้องการเพิ่มพลังงานจริงๆ คุณควรจะกินธัญพืชที่เตรียมด้วยตัวเอง แทนที่จะฝากชีวิตไว้กับธัญพืชชนิด
น้ำมันข้าวโพด
คุณรู้แต่เพียงว่า น้ำมันข้าวโพดมีกรดโอเมก้า 6 และไขมันไม่อิ่มตัว จึงไม่เพิ่มระดับคอเลสเตอรอลในร่างกาย แต่คุณอาจยังไม่รู้ว่า ความเป็นจริงแล้ว น้ำมันข้าวโพดมีโอเมก้า 6 มากกว่าโอเมก้า 3 ที่พบในปลาและวอลนัทถึง 60 เท่า ซึ่งผลการศึกษาพบว่าการกินโอเมก้า 6 มากเกินไปมีเหตุเกี่ยวโยงที่ทำให้เพิ่มการติดเชื้อซึ่งเพิ่มความเสี่ยงใน การเกิดมะเร็ง รวมทั้งโรคข้ออักเสบ ข้อเสื่อม รวมทั้งโรคอ้วน ได้เช่นเดียวกัน ดังนั้น น้ำมันมะกอกและน้ำมันจากดอกคาโนลา ซึ่งมีสัดส่วนของโอเมก้า 6 และโอเมก้า 3 ที่ต่างกันในปริมาณพอเหมาะจึงน่าจะเป็นคำตอบที่ดีที่สุดสำหรับคุณในบรรดาประเภทของน้ำมัน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น