20 ก.ย. 2551

เล่นโยคะแบบหยิน-หยาง

มีโอกาสได้เจอคุณเอก-พงพิพัฒน์ เกียรติประพิน หนุ่มวัยสามสิบต้นๆ ที่อดีตเคยทำงานอยู่ในแวดวงสื่อวิทยุมาก่อน ทั้งที่คลิก เรดิโอ และ สกายไฮ เน็ตเวิร์ค แต่ปัจจุบันผันตัวเองมาเป็นครูสอนโยคะเต็มเวลาให้กับ Absolute Yoga มาได้ 3 ปีแล้ว

เพิ่งรู้ว่าโยคะในบ้านเรามีคนสนใจจำนวน ไม่น้อย ครูเอกบอกกับเราว่ามีคนมาเรียนอย่างน้อยๆ เป็นร้อยคนต่อวัน “โยคะไม่ใช่แค่การออกกำลังกาย แต่โยคะเป็นการสอนให้เราใช้ชีวิต ทั้งเรื่องสุขภาพกายที่แข็งแรง การรับประทานอาหารและสุขภาพจิตที่ดี ซึ่งหมายถึงสมาธิที่ดีขึ้น” วันนี้เราก็เลยได้เคล็ดลับการฝึกโยคะแบบหยิน-หยาง ซึ่งเป็นอีกหนึ่งแขนงของโยคะมาฝาก “การเล่นโยคะแบบหยินและหยางคือการรักษาสมดุลของร่างกาย การเล่นโยคะแบบหยินเป็นการเน้นการสร้างความยืดหยุ่นของกล้ามเนื้อ ช่วยผ่อนคลายได้ดี

“การเล่นหยินโยคะนั้น เน้นไปที่ข้อต่อและเส้นเอ็นต่างๆ ให้ยืดหยุ่นได้ดีขึ้น ควบคู่ไปกับการรักษาสมาธิในการเล่น เพราะการเล่นแบบหยินจะเน้นการค้างท่าไว้เป็นเวลานานๆ เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นของกล้ามเนื้อ ซึ่งจำเป็นมากสำหรับคนที่มีอายุเกิน 30 ปีที่ร่างกายส่วนต่างๆ เริ่มเสื่อมสภาพ”

ได้ที GM เลยลองให้คุณเอกแนะนำท่าง่ายๆ ที่คุณสามารถใช้บริหารเองได้

หยางโยคะ เน้นความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ ฉะนั้นแล้วควรเล่นก่อนที่จะเล่นหยิน

1. Eagle post การไขว้แขนขานั้นจะช่วยบริหารหัวไหล่ ข้อต่อบริเวณแขนขาและหัวเข่า ครูเอกแนะนำว่าหากเริ่มแรกยังไม่สามารถไขว้กันได้เช่นในรูป ให้อาศัยการหนีบ การเกร็งกล้ามเนื้อ ให้แน่นก่อน ก็ช่วยได้ “โยคะของแต่ละคน ไม่จำเป็นต้องทำได้เหมือนกันไปหมดครับ เพราะร่างกายแต่ละคนไม่เหมือนกัน” ทำท่านี้ค้างไว้ประมาณ 10-15 วินาทีแล้วสลับข้าง

2. Triangle post เคล็ดลับคือลำตัวต้องตั้งฉากกับพื้น และต้นขาควรขนานกับพื้นเมื่องอเข่า ท่านี้เมื่อทำคุณจะรู้สึกเมื่อย ซึ่งเป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้ว เพราะความเมื่อยจะช่วยให้กล้ามเนื้อคุณแข็งแรงและยืดหยุ่นได้ดีขึ้น ท่านี้จะได้แทบทุกส่วนของร่างกาย ทำค้างไว้ประมาณ 10-15 นาทีแล้วสลับข้าง

หยินโยคะ เน้นตั้งแต่หลังส่วนล่างลงไปจนถึงสะโพก แต่ละท่าคุณต้องค้างไว้อย่างน้อย 5 นาทีและทำสลับกันทั้งซ้ายและขวา

1. Twist Dragon post ท่านี้จะช่วยในเรื่องของสะโพก การยึด กด ทับ จะช่วยในเรื่องของเส้นเลือดและข้อให้ทำงานได้เป็นปกติ

2. Gecko post ท่านี้เลียนแบบมาจากท่าของตุ๊กแก ท่านี้จะได้ในเรื่องของการยืดหยุ่นของกล้าม-เนื้อสะโพกและต้นขา

3. Dragonfly post ท่านี้ครูเอกแนะนำว่าในครั้งแรกที่ทำ ไม่จำเป็นต้องทำให้ราบ “โยคะเป็นเรื่องของสรีระแต่ละคนครับ ค่อยๆ ทำไปเรื่อยๆ แล้วความยืดหยุ่นของร่างกายจะเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ” ค่อยๆ ลองกดลงต่ำทีละนิดทีละหน่อยจนสามารถนอนราบ แล้วจะเห็นการเปลี่ยนแปลง ท่านี้นอกจากจะได้สะโพกแล้ว ยังได้หลังส่วนล่างเป็นของแถมอีกด้วย

4. Sleeping Swan post เริ่มจากท่า Swan ก่อน จากนั้นลองพยายามนอนราบลงไป ท่านี้ช่วยระบบการไหลเวียนของเลือดและลดอาการตึงบริเวณหลังได้ดี

5. Snail post หรือท่าหอยทาก “ทุกท่าในส่วนของหยินโยคะนั้น เน้นลำตัวช่วงล่างครับ หากเป็นไปได้ หลังจากที่เล่นโยคะแบบอื่นๆ เสร็จ ก่อนเลิกให้ลองเล่นหยินโยคะเพื่อเป็นการผ่อนคลายและฝึกสมาธิครับ”

ครูเอกย้ำว่าทุกท่าควรทำสลับซ้าย-ขวา และหากคุณมีโรคประจำตัว เช่น โรคหัวใจ มะเร็ง โรคที่เกี่ยวกับความดันโลหิต ควรแจ้งให้ครูฝึกทราบเพื่อการดูแลเป็นพิเศษ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น