เลือกสรรสิ่งดีๆ มีประโยชน์ให้กับตัวเอง
เข้าสู่ช่วงหน้าหนาวกันแล้ว หลายคนอาจจะกำลังประทินผิวด้วยครีมหรือโลชั่นกันอยู่ เพื่อไม่ให้ผิวแตกคัน ซึ่งการดูแลสุขภาพผิวพรรณเป็นสิ่งจำเป็น เพราะผิวพรรณเปรียบเสมือนด่านแรกที่จะช่วยตัดสินความมีสุขภาพดีของเราได้
อย่างไรก็ตาม การจะมีสุขภาพผิวดีก็ต้องดูแลกันตั้งแต่ภายใน และต่อไปนี้เป็นหลักการโดยทั่วไปที่จะช่วยให้คุณมีผิวพรรณที่ดีอยู่เสมอ
กินอาหารที่มีประโยชน์ต่อผิวพรรณ เพราะอาหารเป็นสิ่งสำคัญต่อผิวมากกว่าเครื่องสำอางใดๆ ดังนั้นเราจึงควรเลือกอาหารที่จะช่วยดูแลสุขภาพผิวพรรณอย่างถูกต้องได้แก่
- อาหารอุดมวิตามินเอ เช่น นมสดผลิตภัณฑ์จากนม ตับ ฟักทอง แครอด ผักบุ้ง ตำลึง อาหารพวกนี้นอกจากจะช่วยทำให้ผิวสวยแล้ว ยังช่วยซ่อมแซมและสร้างเนื้อเยื่อในร่างกายอีกด้วย
- อาหารอุดมด้วยวิตามินบี เช่น เนื้อปลา เป็ด ไก่ ถั่วเมล็ดแห้งต่างๆ
- อาหารอุดมด้วยวิตามินซี เช่น ผัก ผลไม้ทั้งหลายวิตามินซีในผักผลไม้จะช่วยทำให้ผิวหนังยึดหยุ่น กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน
- อาหารอุดมด้วยวิตามินอี เช่น จมูกข้าวสาลี ธัญพืชต่างๆ วิตามินอีจะช่วยทำให้ผิวเรียบเนียน ป้องกันแผลเป็น
- น้ำมันปลา ซึ่งมีกรดไขมันโอเมกา - 3 จะช่วยฟื้นฟูผิวให้ดูมีสุขภาพดี
- ดื่มน้ำให้ได้วันละ 2 ลิตร หรือ 6-8 แก้วต่อวัน เพื่อให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว
ทำให้อารมณ์ให้แจ่มใสอยู่เสมอ แม้อารมณ์จะมีความสำคัญโดยอ้อมกับผิวพรรณ แต่ก็เป็นปัจจัยหนึ่งที่สำคัญ เพราะถ้าอารมณ์หงุดหงิด โกธรง่ายจะทำให้ระบบการไหลเวียนเลือดไม่ดี ท้องอืดเฟ้อ อาหารไม่ย่อย ไม่อยากอาหาร ซึ่งจะทำให้ร่างกายได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ จึงส่งผลให้สุขภาพผิวแย่ไปด้วย
พักผ่อนให้เพียงพอ การพักผ่อนให้เพียงพอจะช่วยทำให้ใบหน้าดูสดใสเต่งตึง เนื่องจากผิวได้รับการซ่อมแซมในระหว่างหลับอย่างเต็มที่การพักผ่อนในที่นี้ยังรวมถึงการผ่อนคลายในรูปแบบต่างๆ ด้วย เช่น การเล่นโยคะ บริหารร่างกาย นั่งสมาธิ อ่านหนังสือ เป็นต้น
ออกกำลังกาย การออกกำลังกายอย่างเหมาะสมจะช่วยให้โลหิตนำพาออกซิเจนไปเลี้ยงทั่วร่างกายได้ดีขึ้น ทั้งยังช่วยขับถ่ายพิษหรือของเสียออกจากร่างกายทางเหงื่อได้ ผิวพรรณจึงดูสดใส เปล่งปลั่งและมีเลือดฝาด
ดูแลความสะอาดของผิวพรรณ เป็นวิธีช่วยเพิ่มเสน่ห์ของผิวพรรณได้อีกทางหนึ่ง เพราะจะทำให้ผิวสดชื่นปลอดจากเชื้อโรคหรือเชื้อราที่ทำให้เกิดโรคผิวหนัง การอาบน้ำอุ่นอุณหภูมิพอเหมาะ (ประมาณ 38 องศาเซลเซียส) จะช่วยทำความสะอาดผิวหนังได้ดีมาก และยังกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด แต่หากอาบน้ำอุ่นจัดเป็นเวลานานเกินไปอาจทำให้อ่อนเพลียได้ง่าย
สำหรับสบู่ที่ใช้ทำความสะอาดผิวควรมีค่า pH5 หรือน้อยกว่านั้น และควรหลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์อาบน้ำชนิดโฟม เพราะทั้งสบู่มีฤทธิ์แรงและโฟมจะทำลายไขมันตามธรรมชาติที่เคลือบอยู่บนผิว ทำให้ผิวแห้ง หลังอาบน้ำควรหาครีมบำรุงผิวให้ทั่วตัว เพื่อรักษาความชุ่มชื้นให้กับผิว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น