*หัวล้าน ผมร่วง*
สำหรับอาการผมร่วงของผู้ชายเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ เช่น ผมร่วงเป็นหย่อมมักเกิดจากอายุที่เพิ่มมากขึ้น หรือเกิดจากฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนในเพศชายสูงผิดปกติ ซึ่งจะทำลายโคนรากผมให้เน่าเสียหรืออ่อนแอ และหลุดร่วงในที่สุด รวมถึงสาเหตุสำคัญ ซึ่งจะแสดงออกในเพศชายมากกว่าเพศหญิงก็คือ การสืบทอดทางพันธุกรรม นั่นเอง อาจารย์สาทิสได้แนะนำหลักการเกี่ยวกับการดูแลเส้นผมทั่วๆ ไป โดยกว้างๆ ไว้ว่า รักษาสุขภาพทั่วไปของร่างกายให้ดีเสียก่อน สุขภาพร่างกายดี สุขภาพของเส้นผมก็จะดีตามไปด้วยแต่หากชายใดประสบปัญหาผมร่วงเข้าให้แล้ว เรามีสูตรสมุนไพรป้องกันผมร่วงมาฝากค่ะ
*สมุนไพรกระตุ้นให้ผมงอก*
ผักบุ้ง ใบบัวบก และฟ้าทะลายโจร นำใบชนิดใดชนิดหนึ่งประมาณ 1 กำมือ มาคั้นเอาแต่น้ำ หมักผมทิ้งไว้ประมาณ 20 นาที จึงล้างออก ทอง พันชั่ง ใช้ใบทองพันชั่งสดๆ ในปริมาณพอเหมาะกับบริเวณที่มีปัญหา โดยตำให้ละเอียดผสมน้ำเล็กน้อยพอให้เนื้อสมุนไพรเหนียวจับกัน หลังสระผมนำสมุนไพรดังกล่าวมาพอกบริเวณที่ผมร่วง ใช้ผ้าคลุมศีรษะทิ้งไว้ทั้งคืน รุ่งเช้าจึงล้างออก ทำทุกวันติดต่อกัน 2 สัปดาห์ - 1 เดือน (สูตรนี้ช่วยรักษาอาการผมร่วงจากเชื้อรา) มะกรูด ใช้มะกรูดแก่ 2 ผลย่างไฟให้สุกจนนิ่ม เมื่อมะกรูดนิ่มดีแล้ว นำมาขยำกับน้ำอุ่นๆ ทิ้งไว้ให้เย็น กรองด้วยผ้าขาวบาง ใช้น้ำที่ได้มาชโลมให้ทั่วศีรษะหลังสระผม นวดกระตุ้นสักครู่ จึงล้างออกด้วยน้ำเปล่า ทำสัปดาห์ละ 2 ครั้ง (ถ้าใช้น้ำซาวข้าวล้างแทนน้ำเปล่าจะทำให้ยาออกฤทธิ์ดีขึ้น) ขิงแก่ นำขิงแก่แง่งขนาดฝ่ามือมาเผาไฟแล้วทุบให้แตก ผสมน้ำแล้วนำไปขยี้ให้ทั่วศีรษะษะ ทิ้งไว้ 20 -30 นาที วันละ 2 ครั้ง ประมาณ 3 - 5 วันจะเห็นผล ด้วยวิธีง่ายๆ ข้างต้นนี้ผู้ชายทั้งหลายก็บอกลาปัญหาผมร่วงหัวล้านกันได้แล้วค่ะ
*อ้วนลงพุง*
สาเหตุสำคัญของการลงพุง เกิดจากการที่ผู้ชายมีภาวะขาดฮอร์โมนเพศ ซึ่งมีผลทำให้ร่างกายมีการสะสมไขมันบริเวณส่วนต่างๆ มากขึ้น จึงมักจะพบการลงพุงในชายสูงอายุพร้อมๆ กับการลีบเล็กของกล้ามเนื้อ และยิ่งเมื่อรวมกับพฤติกรรมตามใจปาก ไม่ระมัดระวังเรื่องการบริโภคด้วยแล้ว ยิ่งทำให้ผู้ชายอ้วนลงพุงได้ง่าย ที่สำคัญไม่เพียงแต่ทำให้คุณผู้ชายขาดความมั่นใจหรือรู้สึกมีปมด้อยในรูป ร่างของตัวเองเท่านั้น ยังส่งผลเกิดปัญหาสุขภาพต่างๆ ตามมาคุกคามคุณผู้ชายอีกด้วย
สำหรับหนุ่มๆ ที่กำลังมองหาวิธีลดพุงที่ปลอดภัยและได้ผลดี นอกจากจะดูแลเรื่องอาหารการกินอย่างถูกวิธีด้วยอาหารชีวจิตสูตร 2 แล้ว อย่าลืมออกกำลังกายเป็นประจำด้วยนะคะ เพราะทั้งอาหารและการออกกำลังกายจะช่วยปรับฮอร์โมนในร่างกายให้เป็นปกติดี ขึ้น นอกจากนี้ การดูแลเรื่องของจิตใจก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่สำคัญไม่แพ้กันค่ะ เรามีแนะนำดีๆ มาฝากค่ะ
*สลายพุงด้วยการสร้างพลังใจ*
ขอให้พิจารณาตัวเองและรู้จักแง่ดีของตัวเองให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ ตั้งเป้าหมายอย่างมั่นคงกับ ตัวเองว่า เราจะกินให้น้อยลง เราจะกินอย่างฉลาด และเราจะชนะตัวเองให้ได้ เปิดเผยเรื่องนี้ต่อทุกคนในครอบครัว และขอให้ทุกๆ คนช่วยเป็นกำลังใจให้ด้วย ฝึกผ่อนคลายด้วยการทำ Relaxation เพื่อให้การหมุนเวียนของเลือดในร่างกายและสมองดีขึ้น นอกจากนั้นจิตใจที่แน่วแน่จะสามารถติดต่อกับสมองส่วนกลางได้ แล้วจะสามารถบังคับส่วนที่เป็นนิสัยเกี่ยวกับเรื่องกินได้กลิ่นตัว
สาเหตุของการเกิดกลิ่นตัวมาจากฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนในผู้ชายมีมากกว่าผู้หญิง ทำให้ apocrine ซึ่งเป็นต่อมเหงื่อที่อยู่บริเวณรักแร้และอวัยวะเพศ ขับออกมามากกว่าปกติ ทำให้เกิดกลิ่นตัวได้มาก นอกจากนี้ผู้ชายมักขาดการดูแลความสะอาดของร่างกาย อีกทั้งลักษณะงานของผู้ชายและความนิยมออกกำลังกายหนักๆ จึงทำให้เสียเหงื่อมาก และมีกลิ่นตัวมากกว่าผู้หญิง
*สูตรระงับกลิ่นจากธรรมชาติ*
*ต้นตำลึง* ใช้ต้นตำลึงสดๆ (เอาทั้งต้นและใบ) ประมาณ 1-2 กำมือ นำมาตำให้ละเอียดผสมกับปูนแดงเล็กน้อยใช้ทาที่รักแร้ ทิ้งไว้สักครู่ค่อยล้างออก ทำเช่นติดต่อกันเป็นประจำประมาณ 1 สัปดาห์จะช่วยลดอาการกลิ่นเหม็นที่รักแร้ได้
*เปลือกมังคุด* ใช้เปลือกมังคุดแห้ง 1 ส่วน ต้มกับน้ำ 3 ส่วน เคี่ยวให้เหลือ 1 ส่วน กรองเอากากออก แล้วนำน้ำต้มเปลือกมังคุดที่ได้ผสมกับน้ำเปล่า 20 ลิตรใช้อาบน้ำ หรือใช้น้ำเล็กน้อยต้มกับเปลือกมังคุดแห้งประมาณ 1-2 กำมือ จะได้น้ำเปลือกมังคุดเข้มข้น ใช้ทาบริเวณรักแร้ ทิ้งไว้สักครู่ แล้วจึงล้างออกด้วยน้ำสะอาด จะช่วยระงับกลิ่นกายได้เป็นอย่างดี เพราะเปลือกมังคุดมีสรรพคุณในการยับยั้งเชื้อแบคทีเรีย
*มะขามเปียก* ใช้น้ำมะขามเปียกแทนสบู่ตอนอาบน้ำ น้ำมะขามเปียกจะช่วยกำจัดเซลล์ที่ตายแล้วไม่ให้เกิดการหมักหมมซึ่งเป็นบ่อเกิดของกลิ่นตัว
*ขมิ้นชัน* โดยใช้ผงขมิ้นทาบริเวณรักแร้ ทิ้งไว้สักครู่แล้วจึงล้างออก จะช่วยระงับกลิ่นตัวได้เช่นกัน น้ำ ส้มสายชู ใช้ก้อนสำลีแต้มน้ำส้มสายชู นำมาเช็ดบริเวณใต้วงแขนเพื่อลดปริมาณแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดกลิ่น ทั้งนี้ไม่ควรใช้หลังโกนขนเสร็จ เพราะจะทำให้แสบมาก *เบคกิ้งโซดา และแป้งข้าวโพด* นำมาทาบริเวณที่มีกลิ่น แป้งข้าวโพดจะช่วยดูดซับความชื้นได้ดี ส่วนเบคกิ้งโซดายังช่วยฆ่าแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดกลิ่นได้อีกด้วยค่ะ
*ปัญหาต่อมลูกหมาก*
สาเหตุสำคัญของต่อมลูกหมากอักเสบเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียในลำไส้ผ่าน เข้าไปถึงต่อมลูกหมากทางท่อปัสสาวะ พบได้บ่อยในผู้ชายอายุระหว่าง 30-50 ปี อาการสำคัญของต่อมลูกหมากอักเสบ ได้แก่ ถ่ายปัสสาวะบ่อย เจ็บขณะถ่าย ปวดหลัง ปวดเอว อัณฑะบวม เจ็บบริเวณต่อมลูกหมาก และมีน้ำใสๆ ไหลออกจากปลายอวัยวะเพศ
*ดูแลตัวเองเท่ากับดูแลต่อมลูกหมาก*
หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มและอาหารที่ระคายต่อกระเพาะปัสสาวะ เช่น เครื่องดื่มประเภทแอลกอฮอล์ กาแฟ น้ำผลไม้ และอาหารเผ็ดๆ
*แก้พฤติกรรม* ถ้าคุณมีปัญหาในการวิ่งเข้าห้องน้ำไม่ทัน ให้ปัสสาวะทุก 3 ชั่วโมง ไม่ว่าจะเป็นหรือไม่ก็ตาม ควรตั้งนาฬิกาไว้เพื่อเตือน และอย่าให้ท้องผูก ใช้เวลาให้นานขึ้น อย่ารีบร้อนปัสสาวะจนหมดให้ใจเย็นๆ จะช่วยให้เราอั้นปัสสาวะในครั้งต่อไปได้นานขึ้น
*วารีบำบัด* หากคุณเกิดอาการดังกล่าวขึ้นแล้ว ให้นั่งแช่ก้นในน้ำอุ่นสลับน้ำเย็น ทุกวันหรือวันเว้นวัน เพื่อกระตุ้นให้เลือดไปเลี้ยงต่อมลูกหมากได้มากขึ้น ท่า โยคะบริหารต่อมลูกหมาก เริ่มต้นด้วยการนอนหงาย วางแขนข้างตัว ชันเข่าขึ้น เลื่อนเท้ามาใกล้สะโพก จากนั้นดึงฝ่าเท้าด้านในแตะกัน ปล่อยเข่าให้เลื่อนตกลงมาหาพื้น ค้างท่านี้ไว้สัก 5 นาที โยคะท่านี้จะช่วยกระตุ้นให้เลือดไปเลี้ยงต่อมลูกหมากและบริเวณรอบๆได้ดีขึ้น และช่วยลดอาการอักเสบทั่วไปได้ด้วย นอกจากนี้ ควรออกกำลังกายทุกวัน เพื่อช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดไปเลี้ยงบริเวณเชิงกราน และการหลั่งน้ำอสุจิ ซึ่งมีประโยชน์ต่อต่อมลูกหมากเช่นกัน
*หย่อนสมรรถภาพทางเพศ*
สาเหตุของการหย่อนสมรรถภาพทางเพศโดยมากมักจะมีหลายสาเหตุร่วมกัน หากมีหลายสาเหตุก็จะทำให้มีโอกาสเกิดมากขึ้น สาเหตุหลักของภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ คือ การลดลงของระดับฮอร์โมนเพศชาย นอกจากนี้ยังเกิดจากสาเหตุอื่นได้อีก ได้แก่ ปัญหาทางกาย เช่น โรคเบาหวาน โรคหัวใจและหลอดเลือด เป็นต้น หรือการดูแลสุขภาพที่ไม่เหมาะสม เช่น การสูบบุหรี่ การดื่มสุรา และการบริโภคอาหารที่มีไขมันสูง รวมถึง ผลข้างเคียงจากการใช้ยาบางชนิด เช่น ยาลดความดันโลหิตบางชนิด ยาระงับอาการซึมเศร้าบางชนิด และยารักษาโรคต่อมลูกหมากโตบางชนิด
นอกจากนี้ ในบางรายอาจเกิดจากสาเหตุจากปัญหาทางจิตใจ เช่น ความกังวลว่าอวัยวะเพศไม่สามารถแข็งตัวได้ ความขัดแย้งภายในจิตใจเกี่ยวกับเรื่องเพศ ชีวิตสมรส เป็นต้น
*บำบัดด้วยสมุนไพร*
มีสมุนไพรหลากหลายชนิด เช่น ใบแปะก๊วย โสม และขิง ที่มีสรรพคุณเพิ่มการไหลเวียนเลือดทั่วทั้งร่างกาย รวมถึงที่อวัยวะเพศด้วย นอกจากนี้ ยังมีสมุนไพรชนิดอื่นๆ ที่ช่วยเยียวยาอาการนกเขาไม่ขันให้คุณผู้ชายได้อีก เช่น
ชาคาโมไมล์ ชงดื่มเป็นประจำวันละ 1 ถ้วย กระชายดำ นำกระชายดำ 30 กรัม ต้มในน้ำ 1-2 ลิตร แล้วดื่มแทนน้ำทั้งวัน จะทำให้กระปรี้กระเปร่าและแก้อาการปวดเมื่อย และเพิ่มสมรรถภาพทางเพศได้ด้วย พริกไทย กินวันละ 4-5 แคปซูล จะช่วยเพิ่มความกระชุ่มกระชวยมากขึ้น
*สร้างอารมณ์ด้วยน้ำมันหอมระเหย*
*น้ำมันกระดังงา* จะช่วยผ่อนคลายและเร้าความรู้สึกทางเพศ และน้ำมันเจอราเนียม (jeranium) จะช่วยกระตุ้นความต้องการทางเพศที่ถูกเก็บกดจากอาการซึมเศร้าได้ โดยใช้สูดดมไอระเหยหรือใช้หยดลงบนผ้าปูที่นอน 2-3 หยด นอกจากนี้ยังใช้นวดขา หลัง และท้อง เพื่อสร้างสมดุลให้จิตใจ ซึ่งเป็นพื้นฐานของการแก้ปัญหาทางเพศได้ค่ะ ภาวะมีลูกยาก
การมีลูกยากของผู้ชายบางคนเกี่ยวข้องกับความบกพร่องทางกายหรือมีแผลเป็นใน ช่องอวัยวะสืบพันธุ์ที่อาจเกิดจากการติดเชื้อ แต่มีไม่น้อยเกิดจากมีเชื้ออสุจิน้อย เพราะฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนต่ำ (ฮอร์โมนกระตุ้นต่อมลูกหมากให้ผลิตอสุจิ) ซึ่งมีสาเหตุปัจจัยหลายประการ เช่น การดื่มสุรา สูบบุหรี่ แม้กระทั่งความเครียด ทั้งนี้ จำนวนอสุจิก็ไม่ใช่สิ่งเดียวที่ชี้วัดโอกาสมีลูก อัตราส่วนของอสุจิที่สมบูรณ์และเคลื่อนไหวได้ดีต้องสูงด้วย
*สารอาหารช่วยเพิ่มอสุจิ*
*ไลโคพี*น ช่วยเพิ่มจำนวนอสุจิและทำให้อสุจิเคลื่อนไหวได้ดี พบมากในมะเขือเทศ องุ่นเขียว องุ่นแดง ฝรั่ง
*กรดโฟลิค* สำหรับผู้ชายช่วยเพิ่มจำนวนอสุจิ และยังช่วยบำรุงระบบเจริญพันธุ์ของผู้หญิงให้สมบรูณ์ พบมากในหน่อไม้ฝรั่ง บรอกโคลี ผักขม อะโวคาโด กะหล่ำปลี และพืชตระกูลถั่ว
*วิตามินบี 12* จำเป็นต่อกระบวนการสร้างเซลล์ ถ้าขาดจะทำให้อสุจิลดลงและเคลื่อนที่น้อยลง พบมากในปลาน้ำจืด ปู หอยทะเล ปลาทูน่า และโยเกิร์ต
*วิตามินซี* มีประโยชน์ช่วยทำให้อสุจิมีคุณภาพที่ดี มีความแข็งแรงทนทานต่อปฏิกิริยาทำลายเนื้อเยื่อจากสารเคมีบริเวณปากมดลูกของ ฝ่ายหญิงได้ แหล่งที่พบ ได้แก่ กะหล่ำปลี กะหล่ำสีม่วง ผลกีวี สตอเบอร์รี่ มันฝรั่ง ส้ม ส้มจีน พริก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น