14 ก.พ. 2552

โรคเกี่ยวกับต่อมลูกหมาก

โรคของผู้ชายสูงอายุ ซึ่งจะเป็นกันมากก็คือ โรคเกี่ยวกับต่อมลูกหมาก โรคที่เป็นมีตั้งแต่เบาๆ ขนาดต่อมลูกหมากโต ต่อมลูกหมากอักเสบ ไปจนกระทั่งถึงหนักที่สุดคือ มะเร็งต่อมลูกหมาก ผู้ชายอายุตั้งแต่ 40 ปีขึ้นไปมีโอกาสเป็นต่อมลูกหมากอักเสบได้ และถ้าอายุ 50 ปีขึ้นไปก็มักจะเป็นต่อมลูกหมากโต และทั้งสองอย่าง มีโอกาส เป็นมะเร็งต่อมลูกหมากได้ทั้งสิ้น อาการขนาดเบาๆคือ ปัสสาวะกะปริบกะปรอย

คุณผู้ชายบางคนที่เคยภาคภูมิใจในความเป็นลูกผู้ชาย หรือความเป็นชายฉกรรจ์ของตน อาจจะรู้สึกเหมือนเทวดาตกสวรรค์ ลงมานั่งจุ้มปุ๊กอยู่ข้างถังขยะโดยไม่รู้ตัว เมื่ออยู่ๆก็พบว่ามีปัญหาเรื่องการขับถ่ายปัสสาวะ คือปัสสาวะได้ไม่สุด ทั้งๆที่เมื่อก่อนเคยเข้าห้องน้ำแล้วรู้สึกเบาเนื้อเบาตัว น้ำปัสสาวะออกโล่งโถงเบาในกระเพาะปัสสาวะ แต่คราวนี้กลับออกได้ไม่หมด มิหนำซ้ำ ปัสสาวะยังไหลกระท่อนกระแท่น เหมือนมีถุงทรายใบเล็กๆห้อยอยู่ในกระเพาะปัสสาวะข้างล่าง พอเดินออกมานอกห้องน้ำ ก้มลงมองดูข้างล่าง ก็ใจหายวาบ เพราะกางเกงเปียกเป็นหย่อมๆ ขายหน้าสาวๆอีกต่างหาก

ตอนนี้ความเป็ขชายฉกรรจ์ชักจะหดหายไปหมด ต่อมา อาการกะปริบกะปรอยก็เริ่มจะมีมากขึ้น จนเกิดความรักโถส้วมมากขึ้น ปัสสาวะทีก็ต้องยืนกระบิดกระบวนอยู่หน้าโถส้วมเป็นนานสองนาน พอต่อๆไป อาการก็เริ่มจะแปรปรวน ตอนกลางคืน ต้องเข้าห้องน้ำ 3-4 ครั้ง บางคนมากกว่านั้น เข้าเกือบทุกชั่วโมงเลยก็มี อาการอีกอย่างก็คือ เวลาปัสสาวะ บางคนจะรู้สึกแสบๆ ปัสสาวะสีแก่จัดและขุ่นข้น ที่ร้ายไปกว่านั้น ( หรืออาจจะร้ายที่สุด สำหรับผู้ที่รู้สึกว่า เป็นชายฉกรรจ์ )

คุณผู้ชายบางคน เตะปีบไม่ดังเอาดื้อๆ อาการซึ่งเริ่มจะไม่ดีจนถึงขั้นเป็นมะเร็งได้ก็คือ เริ่มมีไข้และรู้สึกหนาวเป็นบางครั้ง มีอาการปวดบริเวณสามเหลี่ยมระหว่างใต้ลูกอัณฑะกับทวารหนัก ปวดหลังปวดเอว บางครั้งฉี่ไม่ออกเลย หรือไม่ก็จะมีเลือดออกปนมากับน้ำปัสสาวะด้วย ทั้งหมดนี้เป็นอาการรวมๆ ตั้งแต่น้อยไปหามาก และถึงแม้ว่าอาการต่อมลูกหมากโตจะไม่เกี่ยวกับการเป็นมะเร็งต่อมลูกหมาก แต่อาการจากน้อยไปหามากก็จะมีเหมือนๆกัน แม้ว่าอาการเจ็บป่วยของต่อมลูกหมากจะเป็นเพียงอาการเบาๆ แต่ก็เป็นการทรมาณทางกายมากพอดู ความทรมาณที่สาหัสสากรรจ์ที่สุดอีกอย่างหนึ่งซึ่งไม่มีใครมองเห็นแม้แต่แพทย์ผู้รักษา ก็คือความทรมาณทางจิตใจของคุณผู้ชายซึ่งเป็นเทวดาตกสวรรค์นั่นเอง

ยิ่งไปกว่านั้น ผู้ที่เป็นโรคเกี่ยวกับต่อมลูกหมาก มักจะมีปัญหาเกี่ยวกับต่อมฮอร์โมนด้วย คือการผลิตฮอร์โมนของร่างกายจะผิดปกติ บางตัวขาด บางตัวเกิน และมีผลทำให้เกิดอาการหงุดหงิดหรือซึมเศร้าได้ และยิ่งถ้าอาการร้ายแรงถึงขั้นเป็นมะเร็งด้วยแล้ว ก็ยิ่งจะมีความเครียด และความ ซึมเศร้ามากขึ้น จนถึงขั้นอยากตายเลยก็ได้ ฉะนั้น จะถือได้ว่าปัญหาซ่อนเร้นที่สำคัญนั้นก็คือ ปัญหาด้านจิตใจที่ผู้ป่วยจะรู้สึกคับแค้นใจและทุกข์ทรมาณ มากกว่าการเจ็บป่วยทางกายหลายเท่านัก สำหรับการรักษาทางการแพทย์ในปัจจุบัน จะต้องอาศัยการผ่าตัดเป็นส่วนใหญ่ โดยมีเทคนิคและเครื่องมือใหม่ๆมาใช้อย่างมากมาย

ซึ่งในที่นี้ เราจะไม่ขอกล่าวถึงวิธีการรักษาของโรงพยาบาลหรือตามคลินิก แต่จะขอกล่าวถึงการรักษาด้วยวิธีผสมผสานและด้วยวิธีธรรมชาติ ซึ่งเป็นวิธีที่จะช่วยป้องกันมิให้เป็นโรคที่แสนทรมาณโรคนี้ แผนการป้องกันที่ดีที่สุด ซึ่งพิสูจน์มาแล้วทั้งในแผนปัจจุบันและแผนผสมผสาน ก็คือ การใช้อาหาร อาหารที่ดีที่สุดสำหรับต่อมลูกหมาก ได้แก่ อาหารที่มีธาตุสังกะสี ( Zinc ) ซึ่งอาหารที่มีธาตุสังกะสีมากที่สุดก็คือ ฟักทองและเมล็ดฟักทอง นอกจากนั้นธาตุสังกะสียังมีอยู่ในอาหารอย่างอื่นอีก เช่นจมูกข้าว ( ได้ทั้งจากข้าวสาลี ข้าวสาร และข้าวอื่นๆ ) และมัสตาร์ดผง

ในขณะเดียวกันก็ควรรับประทานอาหารที่มีวิตามินและแร่ธาตุต่างๆ ซึ่งจะไปช่วยส่งเสริมการทำงานของธาตุสังกะสี ในทางกลับกัน ธาตุสังกะสีจะช่วยสนับสนุนวิตามินและแร่ธาตุต่างๆนั้นด้วย เรียกว่าร่วมมือร่วมใจกันทำงาน ให้ประโยชน์แกร่างกายอย่างเต็มที่ วิตามินและแร่ธาตุต่างๆนั้นได้แก่

วิตามิน A อาหารซึ่งมีวิตามินเอ ได้แก่ ตับปลา แครอต ผักผลไม้ที่มีสีเหลือง เช่น ฟักทอง มะละกอสุก เป็นต้น

วิตามิน B คอมเพล็กซ์ มีอยู่ในอาหารพวกถั่ว รำข้าว ข้าวโอ้ต ผักสีเขียวต่างๆ ยีสต์แห้ง ปลา ไข่ แคนตาลูป กะหล่ำปลี โมลาส

วิตามิน C มีอยู่ในผลไม้และผักรสเปรี้ยว ผักใบเขียว ดอกกะหล่ำ มันฝรั่ง มันเทศ

วิตามิน E มีอยู่ในจมูกข้าว ถั่วเหลือง น้ำมันพืช บร็อคเคอรี่ ผักโขม ข้าวสาลี ข้าวซ้อมมือ ไข่

วิตามิน F และเลคซิทิน ( ไขมันจำเป็น Essential Fatty Acids ) มีอยู่ในเมล็ดฟักทอง เมล็ดทานตะวัน และงา แมกนีเซียม มีอยู่ในลูกมะเดื่อ มะนาว ส้มโอ ข้าวโพดเหลือง ถั่วอัลมอนด์ ถั่วต่างๆ ผักใบเขียวจัด แอ็ปเปิ้ล เกสรผึ้ง ( Bee Pollen )

ในเกสรผึ้งมีแร่ธาตุและฮอร์โมนหลายชนิด ได้มีการทดลองในทางการแพทย์หลายครั้ง พบว่าแร่ธาตุและฮอร์โมน ในเกสรผึ้งมีประโยชน์ต่อต่อมลูกหมากโดยตรง เหล่านี้คืออาหารซึ่งจะช่วยให้ต่อมลูกหมากดีขึ้นและช่วยป้องกันการอักเสบของต่อมลูกหมากได้ แต่ในกรณีที่เกิดการอักเสบขึ้นแล้ว ทั้งอาหารและอาหารเสริมก็ยังช่วยได้ และช่วยได้ดีขึ้นถ้าจะเพิ่มปริมาณ ( Dose ) ของวิตามิน-แร่ธาตุให้มากขึ้น โดยใช้วิตามิน-แร่ธาตุเหล่านี้ ในลักษณะของเม็ดยาซึ่งสกัดมาแล้ว คือเพิ่มขึ้นตามปริมาณต่อไปนี้

วิตามินเอ 10,000-25,000 I.U. ต่อวัน
วิตามินบี1 , 6 , 12 อย่างละ 50 มก. ต่อวัน
เกสรผึ้ง 3-9 เม็ด ต่อวัน
วิตามินซี 3,000-5,000 มก. ต่อวัน
วิตามินอี 800 I.U. ต่อวัน แมกนีเซียม 500 มก. ต่อวัน
Zinc 200 มก. ต่อวัน

และควรจะงดเหล้า - บุหรี่ พร้องทั้งลองเปลี่ยนจากการนั่งเก้าอี้เบาะ มาเป็นนั่งเก้าอี้แข็ง ถ้าจะให้ดี ควรเสริมท่าบริหารด้วยการ นอนหงาย งอเข่า เท้าทั้งสองชิดกัน แล้วแยกเข่าออกสองข้างช้าๆ ยกกลับคืนท่าเดิม ทำอย่างนี้เช้า-เย็น อย่างน้อยได้สัก 20 ครั้งจะดีมาก

คุณผู้ชายทั้งหลาย อ่านแล้วก็ลงมือปฏิบัติได้เลยนะครับ จะไดห่างไกลไร้กังวลจากโรคที่เกี่ยวกับต่อมลูกหมาก

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น