รังแค (dandruff)
เกิดจากผิวหนังอักเสบ ส่งผลให้เซลล์หนังศีรษะตาย และเกิดการเพาะตัวของเชื้อรา ซึ่งจับตัวรวมอยู่กับน้ำมันจากต่อมไขมัน จนหลุดลอกออกเป็นขุย เป็นแผ่นๆ หรือเป็นผงเล็กๆ ติดอยู่ตามเส้นผม และหนังศีรษะ ทำให้ศีรษะมีกลิ่นเหม็น และมีอาการคัน รังแคเกิดได้กับทั้งคนผมแห้งและผมมัน ในผู้ที่มีผมมัน มักเกิดจากกรดไขมันบนหนังศีรษะ ซึ่งทำให้ระคายเคืองต่อเซลล์รอบรากขน และไปกระตุ้นให้เซลล์โตเร็วขึ้น จนลอกออกเป็นรังแค แต่สำหรับคนที่มีหนังศีรษะปกติ เกิดจากการขาดความชุ่มชื้น หรือขาดการดูแลรักษาความ สะอาดเส้นผม
ในบางรายอาจอาจจะมีปัญหาของโรคผิวหนังตามมา เช่น ผิวหนังอักเสบ โรคสะเก็ดเงิน โรคแพ้สารเคมี หรือหนังศีรษะถลอก เนื่องมาจากการแคะ แกะ เกา หรือในรายที่เป็นมากอาจเป็นที่คิ้ว ร่องจมูก แก้ม ไรผม รอบหู หลังหู รักแร้ และอวัยวะเพศ
5 ข้อควรเลี่ยงเมื่อเป็นรังแค
1. ความเครียด ก็มีส่วนสำคัญไม่น้อยในการไปกระตุ้น หรือซ้ำเติมปัญหาผิวหนังขึ้นมาได้
2. อาหารที่ควรหลีกเลี่ยงได้แก่ น้ำตาล แป้ง ไขมัน เครื่องเทศต่างๆ และเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ทุกชนิด เพราะจะทำให้หนังศีรษะมัน และเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดรังแค
3. หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์เพื่อความงาม ที่ระคายเคืองต่อหนังศีรษะ เช่น น้ำยาย้อมสีผม น้ำยายืดผม น้ำยาดัดผม น้ำมันใส่ผม สเปรย์จัด แต่งทรงผม เยล และมูสต่างๆ
4. ไม่เกาหรือถูหนังศีรษะแรงๆ เพราะจะทำให้หนังศีรษะถลอก และกระตุ้นให้เกิดรังแคมากขึ้น
5. เลี่ยงแชมพูที่มีส่วนผสมของสารเคมี แต่ควรเลือกใช้แชมพูสระผมชนิดอ่อน เพราะจะช่วยควบคุมการเกิดไขมัน โดยไม่ไปซ้ำเติมหนังศีรษะมากนัก
น้ำมันหอมถนอมหนังศีรษะ
หลังจากลองปรับเปลี่ยนพฤติกรรมต่างๆ แล้ว ลองใช้น้ำมันหอมช่วยเสริมอีกทางก็ได้• ธาตุเจ้าเรือนดิน ใช้ไม้จันทน์ แพ็ทชูลี่
• ธาตุเจ้าเรือนน้ำ ใช้ลาเวนเดอร์ เจอเรเนียม
• ธาตุเจ้าเรือนลม ใช้ตะไคร้ มะกรูด
• ธาตุเจ้าเรือนไฟ ใช้โรสแมรี่ ทีทรี ไม้จันทน์
วิธีใช้
• แบบที่ 1 ผสมน้ำมันนวด แล้วนวดลงบนหนังศีรษะ (น้ำมันตัวกลางในการผสม ขอแนะนำให้ใช้น้ำมันงา น้ำมัน มะพร้าว น้ำมันโจโจบา หรือน้ำมันสวีทอัลมอนด์) นวดให้ทั่วหนังศีรษะ ห่อด้วยผ้าขนหนูชุบน้ำอุ่น (เหมือนหมักผม) ทิ้งไว้ 1-2 ชั่วโมง แล้วจึงสระผมออกด้วยแชมพูชนิดอ่อน แล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น
• แบบที่ 2 ผสมลงในแชมพูที่ไม่มีกลิ่น แล้วใช้สระผม ปัญหารังแคจะค่อยๆ หมดไป
5 สูตรสมุนไพรไล่รังแค
แชมพูสมุนไพร มีสรรพคุณในการรักษารังแคและเส้นผมทุกสภาพ โดยไม่เสี่ยงต่ออันตรายจากสารเคมี
1. มะนาว ใช้ไข่แดงล้วนๆ 1 ฟองตีให้แตกนำมาชโลมให้ทั่วศีรษะ ทิ้งไว้สักครู่แล้วล้างออกให้สะอาด หลังจากนั้นใช้น้ำมะนาวประมาณ 1 ช้อนโต๊ะผสมน้ำเปล่า 1 ถ้วย นำมาสระผม เพื่อล้างสารตกค้างที่ก่อให้เกิดรังแคออกจากผม
2. มะกรูด ใช้แชมพูชนิดอ่อนสระผมให้สะอาด จากนั้นนำมะกรูด 1-2 ลูก ต้มในน้ำประมาณ 3-5 แก้วให้เดือด ทิ้งให้อุ่น แล้วขยำลูกมะกรูด ในน้ำ จากนั้นกรองเอาเนื้อและกากออก นำน้ำมะกรูดที่ได้มาสระผม ชโลมทิ้งไว้สัก 5-10 นาที แล้วล้างออก ทำเป็นประจำสัปดาห์ละ 3 ครั้ง
3. ว่านหางจระเข้ ปอกเปลือกใบสดของว่านหางจระเข้ออก เหลือแต่วุ้นประมาณ 1 ถ้วย แล้วปั่นหรือบด จากนั้นนำไปหมักผมทิ้งไว้ 30 นาที แล้วจึงล้างออก
4. น้ำซาวข้าว เก็บน้ำซาวข้าวและตั้งทิ้งไว้จนตกตะกอน จากนั้นเทน้ำซาวข้าวใสๆ ข้างบนทิ้งไป ชโลมหลังสระผมแล้วทิ้งไว้ 15 นาที จึงค่อยล้างออก ผมจะเงางาม รังแคจะหายไป
5. ตะไคร้ นำตะไคร้สด 3 ต้น ทุบให้แตก แช่ไว้ในน้ำ 1 ลิตร ประมาณ 10 นาที ขยำให้น้ำตะไคร้ออก แล้วนำน้ำตะไคร้มาชโลมผม หมักทิ้งไว้ ประมาณ 10 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด ทำติดต่อกัน 3 วัน
ขจัดรังแคตามสภาพเส้นผม
• ผมมัน สระผมด้วยแชมพูสำหรับผมมันโดยเฉพาะ แล้วสระซ้ำด้วยแชมพูป้องกันรังแค ที่มีส่วนผสมของกำมะถัน เช่น ซีบูเลกซ์ (sebulex) ซีบูโทน (sebutone) หรือ เซลซัน (selson) เพื่อลอกเซลล์ที่ตายแล้ว และลดการผลิตน้ำมันจากต่อมไขมัน จากนั้นให้ล้างออกด้วยน้ำ มะนาว (ผสมน้ำมะนาว 1 ลูกในน้ำอุ่น 1 ถ้วย) ราดลงบนศีรษะ ขยี้ให้ทั่ว แล้วล้างออกด้วยน้ำเย็น
• ผมแห้ง นวดผมและหนังศีรษะด้วยโลชั่นที่ใช้ทาผิว 1/4 ถ้วย เอาผ้าผ้าขนหนูชุบน้ำร้อน บิดให้หมาดแล้วโพกศีรษะทิ้งไว้ประมาณ 15-20 นาที ขั้นต่อไปให้สระผมด้วยแชมพูป้องกันรังแคสูตรอ่อนโยน แล้วล้างออกให้สะอาดด้วยน้ำอุ่น
• ผมธรรมดา สระผมด้วยแชมพูสำหรับผมธรรมดา แล้วใช้น้ำแอสไพริน (ผสมยาแอสไพริน 6 เม็ด ในน้ำอุ่น 1 ถ้วย) ชโลมผมให้ทั่ว ปล่อยทิ้งไว้ 15 นาที เพื่อให้ตัวยาซึมเข้าไปในเส้นผมและหนังศีรษะ แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด เมื่อรังแคหายดีแล้ว ให้กลับไปใช้วิธีดูแล ความสะอาดเส้นผมตามปกติ
• ผมทำสีหรือผมดัด สระด้วยแชมพูที่มีส่วนผสมของโปรตีน หรือแชมพูที่มีปริมาณกรดสมดุล จากนั้นจึงสระด้วยแชมพูป้องกัน รังแคสูตรอ่อนโยนผสมซิงก์ไพริไทออน (zinc pyrithione) หลังล้างเส้นผมจนสะอาดแล้ว ให้ใช้ครีมนวดผสมโปรตีนที่มีค่าพีเอชต่ำ
เมื่อสระผมเสร็จแล้ว ควรเป่าหรือเช็ดผมให้แห้ง อย่าปล่อยให้ผมแห้งเอง และไม่ควรนอนหรือรวบผมในขณะที่ผมยังไม่แห้ง เพราะจะทำให้เส้นผมชุ่มน้ำมันได้เร็วขึ้น ถ้าเป็นไปได้ให้หลีกเลี่ยงการใช้สเปรย์ เพราะเป็นตัวช่วยจับฝุ่นและน้ำมัน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น