1. อัญประกาศ (เครื่องหมายคำพูด) ช่วยได้
เราสามารถใช้เครื่องหมาย "..." นี้เพื่อผลการค้นหาออกมาตามคำค้นหาที่เราใส่แบบเป๊ะๆ เช่น ถ้าเรา พิมพ์ Guitar Hero ก็จะมีเว็บที่กำกับคำเฉพาะว่า Guitar หรือ Hero ติดมาด้วย
แต่ถ้าเราใส่ "Guitar Hero" เท่านั้นแหละ มันจะมีแต่ชื่อเว็บ ที่มีคำว่า Guitar Hero เท่านั้นเลย...
2. ไม่อยากได้อะไร ก็ ลบ [-] มันไปซะ
เช่น ถ้าเรา ต้องการดาวน์โหลด Nod32 Antivirus แต่ไม่อยากได้ตัวทดลองใช้ (Trial) เราก็แค่ พิมพ์ใส่ในช่องค้นหาว่า download nod 32 antivirus -trial
(ลบ trial ด้วยเครื่องหมาย ซะอย่างนั้น)
3. หาคำเหมือน ไม่ยาก ด้วยตัวหนอน
เครื่องหมายตัวหนอนช่วยให้เราค้นหาคำที่พ้องความหมายได้ด้วย ตัวอย่างเช่น ถ้าเราหาคำว่า ~citation ผลการค้นหาจะมีคำว่า Reference ซึ่งมีความหมายพ้องกันอยู่ด้วย
4. ไม่แน่ใจว่าอันไหน ใช้ OR ช่วยเลยครับ
ก็ใช้สำหรับการที่เราไม่แน่ใจอะไรบางอย่างแล้วอยากให้มีตัวเลือกเยอะๆ เช่น ถ้าผม เคยไปอ่าน tool เขียนเกมส์XNAแปลภาษาไทยที่เข้าใจง่ายๆจากเว็บๆนึง แต่จำไม่ได้ว่า เว็บไหน ระหว่าง XNAnoob หรือ XNAthai ผมก็ค้นหาโดยใช้คำว่า XNA OR xnanoob OR xnathai เท่านี้ กูเกิ้ลจะค้นหาคำว่า XNA รวมกับตัวเลือกที่ใส่ ประหยัดเวลาไปได้มากขึ้นเลย
5. ให้จุดจุด [..] ช่วยจำกัดช่วงเวลา
เช่น ผมต้อการทราบ ข้อมูลงาน Commart ระหว่างปี 2004 ถึง 2007 ผมก็พิมพ์ไปว่า Commart 2004..2007 แม้ผมจะไม่ได้พิมพ์ปี 2006 ลงไปแต่ก็จะมีผลการค้นหาของปีนั้นด้วย
6. ดอกจัน (*) ช่วยเติมเต็ม สิ่งที่ขาดหายไป
เวลาต้องการค้นหาอะไรสักกะอย่างแต่ไม่ยักกะนึกชื่อเต็มๆออก...นึกได้แค่ลางๆ ลองใส่เครื่องหมายดอกจัน(*) แทนที่คำไม่รู้สิครับ แล้วมันจะช่วยเติมเต็มรัก...เอ้ย...เติมคำที่หายไปให้ เช่น ผมอยากจัรู้ว่า แวน โก๊ะ เนี่ย เค้ามีชื่อนำว่าอะไร ผมก็พิมพ์ไปว่า [ * แวน โก๊ะ] ผลการค้นหาก็จะออกมาให้เห็น (วันไหนว่างๆ จะเอารูปมาลงนะครับ ช่วงนี้เอาเนื้อไปก่อน)
7. ไม่ต้องเปิดพจนานุกรมก็หาความหมายได้ แค่ใช้ define:
อันนี้เป็นคำสั่งเพิ่มเติม (Extension) ตัวหนึ่งของกูเกิลซึ่งมีประโยชน์มากๆ แค่ใส่คำที่ต้องการหาความหมายตามหลัง define: เช่น ผมต้องการหาความหมายของคำว่า asshole (แปลว่าอะไรน้ออ) ผมก็พิมพ์ define: asshole ก็จะขึ้นคำแปลมาให้ พร้อมชื่ออื่นๆที่อาจจะเกี่ยวข้องกัน แต่...มันจะแปลออกมาเป็นภาษาอังกฤษนะครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น