รายงานข่าวล่าสุดระบุว่า เหล่าวายร้ายบนเน็ตเริ่มโจมตีเฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ และโซเชียลเน็ตเวิร์กต่างๆ หนักข้อขึ้น ซึ่งเป็นผลต่อเนื่องมาตั้งแต่ช่วงปลายปีที่แล้ว โดยพยายามจะล้วงข้อมูลส่วนตัว ตลอดจนหลอกล่อให้คลิกลิงค์เข้าไปเยี่ยมชมเว็บไซต์อันตรายของพวกมัน
รายงานที่ว่านี้เผยแพร่โดย Sophos บริษัทผู้เชี่ยวชาญระบบรักษาความปลอดภัยชั้นนำที่ระบุว่า สแปม และมัลแวร์บนเว็บไซต์โซเชียลเน็ตเวิร์กกำลังเพิ่มขึ้น โดยมีรายงานจากผู้ใช้ที่ได้รับสแปมจากการใช้บริการเว็บไซต์โซเชียลเน็ตเวิร์กมากถึง 57% ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วเกือบ 71% ในขณะเดียวกัน ผู้ใช้ประมาณ 36% ให้ข้อมูลว่า พวกเขาได้รับมัลแวร์จากโซเชียลเน็ตเวิร์ก โดยเมื่อเทียบกับปีที่แล้วยอดตัวเลขเพิ่มขึ้นเกือบ 70% เลยทีเดียว
และเมื่อวิเคราะห์ในรายละเอียดให้ลึกลงไปยังพบอีกด้วยว่า เป้าหมายใหญ่ของการโจมตีอยู่ที่เฟซบุ๊ก (Facebook) โดยในจำนวนผู้ร่วมตอบแบบสอถาม 61% กล่าวว่า เฟซบุ๊กมีความเสี่ยงอันตรายต่อการถูกโจมตีมากที่สุด รองลงมาก็เป็น MySpace 18% และที่ตามมาติดๆ ก็คือ ทวิตเตอร์ (Twitter) 17% มีเพียง 4% เท่านั้นที่ระบุว่า LinkedIn เป็นเว็บไซต์โซเชียลที่เสี่ยงมากทีสุด ทางด้านโซฟอสให้ความเห็นว่า "เราต้องไม่ลืมว่า เฟซบุ๊กเป็นโซเชียลเน็ตเวิร์กที่ใหญ่ที่สุด ซึ่งย่อมมีผู้ไม่หวังดีอยู่ในนั้นมากที่สุด ข้อเท็จจริงก็คือ ทีมระบบรักษาความปลอดภัยที่เฟซบุ๊กต้องทำงานอย่างหนัก เพื่อต่อกรกับภัยคุกคามที่พยายามเข้ามาโจมตีเว็บไซต์ การไล่จับโจรผู้ร้ายที่แฝงตัวอยู่ในสมาชิกกว่า 350 คนไม่ใช่งานง่ายๆ"
นอกจากประเด็นของความปลอดภัยของระบบที่มีต่อผู้ใช้แต่ละคนแล้ว ในรายงานที่ทำกับบริษัทต่างๆ ยังระบุว่า 72% ของบริษัทกล่าวว่า พวกเขากังวัลในพฤติกรรมการใช้เว็บไซต์โซเชียลเน็ตเวิร์กของลูกจ้าง โดยเกรงว่าพวกเขาจะนำข้อมูลเกี่ยวกับโครงสร้างภายใน ตลอดจนความลับของบริษัทเผยแพร่ออกไปบนเว็บไซต์เหล่านี้โดยไม่ตั้งใจ ในขณะที่ 49% ของบริษํทที่ตอบแบบสอบถามอนุญาตให้พนักงานใช้เฟซบุ๊กได้อย่างอิสระ โดยเพิ่มขึ้น 13% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น