19 มิ.ย. 2553

รักษ์หัวใจ...รักสุขภาพสำหรับสาว (หนุ่ม) ทุกวัย


รักษ์หัวใจ...รักสุขภาพสำหรับสาว (หนุ่ม) ทุกวัย (Lisa)
ไม่มีวันสายเกินไป (หรือเร็วเกินไป) กับการลดความเสี่ยงเป็นโรคหัวใจ และผู้เชี่ยวชาญได้มาให้คำแนะนำในการใช้ชีวิตอย่างสุขภาพดีต่อหัวใจให้แล้ว ไม่ว่าคุณจะอายุเท่าไหร่ก็ตาม

อย่าเพิ่งคิดว่าโรคหัวใจเป็นโรคของคนแก่ หรือโรคที่ผู้ชายชอบเป็น (ประเภทหัวใจวายคาอก) เพราะในความเป็นจริงแล้วนั้น ทั้งสำหรับทั่วโลกและในประเทศไทย โรคหัวใจคร่าชีวิตผู้หญิงมากกว่าโรคมะเร็งเสียอีก! เพราะผู้หญิงมีปัจจัยหลายต่อหลายอย่าง ที่ช่วยเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจ เช่น ความเครียดเรื้อรัง น้ำหนักที่เกินมาตรฐาน หรือภาวะหมดประจำเดือน


ดูอย่าง โทนี่ แบรกซ์ตัน นักร้องสาวเจ้าของรางวัลแกรมมี่วัย 40 นั่นปะไร ดูภายนอกเธอก็ดูสมบูรณ์แข็งแรงดีทุกอย่าง แต่เมื่อสี่ปีที่แล้วโทนี่ล้มพับลงในขณะแสดงละครเรื่อง "Aida" จนต้องถูกส่งเข้าห้องฉุกเฉิน และได้รับรู้ว่าเธอเป็นโรคหัวใจ ทั้งที่อยู่ในวัยเพียงเลข 3 เท่านั้น! แต่โรคนี้ก็สามารถป้องกันได้ และไม่มีคำว่าสายเกินไปกับการดูแลหัวใจของเรา มาฟังคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญในการดูแลรักษาหัวใจให้แข็งแรง สำหรับสาวทุกวัยกันเถอะค่ะ


สาววัยเลข 2


นี่เป็นช่วงที่คนเรารู้สึกแข็งแรงสุด ๆ และโรคหัวใจไม่ได้เป็นปัญหามากนัก เหมือนกับเป็นสิ่งน่ากังวลในอนาคตมากกว่า สิ่งสำคัญที่ต้องจำเอาไว้ตอนนี้ (และตลอดชีวิตต่อไป) ก็คือ "อย่าสูบบุหรี่" และในวัยนี้ควรจะตระหนักถึงความสำคัญของการออกกำลังอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งสำหรับหัวใจแล้ว การออกกำลังกายที่ดีที่สุด คือกิจกรรมอะไรก็ตามที่เร่งเครื่องให้คุณร้อน และเหงื่อแตกอย่างน้อย 3-5 ชั่วโมงต่อสัปดาห์

Tips


ถ้าคุณชอบเล่นกีฬาก็ควรเล่นต่อไปเรื่อย ๆ การเป็นส่วนหนึ่งของทีมกีฬาจะทำให้คุณมีแรงกระตุ้น และมีกำลังใจจากสังคมรอบตัวด้วย นี่คือสิ่งสำคัญที่ทำให้หัวใจของคุณแข็งแรงเลยล่ะ แต่ถ้าไม่ชอบกีฬาประเภททีม จะฉายเดี่ยวอย่างปั่นจักรยานวิ่ง หรือว่ายน้ำก็ไม่ว่ากัน


มองโลกในแง่ดีกันเถอะ การวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสาร Circulation เมื่อเร็ว ๆ นี้ เผยว่า ทัศนคติต่อชีวิตในแง่บวกอาจช่วยป้องกันโรคหัวใจได้นะ โดยนักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยรัฐพิตสเบิร์กในสหรัฐฯ วิเคราะห์บันทึกสุขภาพของอาสาสมัครหญิงกว่า 97,253 คน โดยที่ทุกคนต้องทำแบบทดสอบว่า มองโลกในแง่ร้ายหรือแง่ดี


หญิงสาวที่มีแนวโน้มมองโลกในแง่ดี จะมีอัตราการเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจต่ำกว่า คนที่มองโลกในแง่ร้ายอย่างเห็นไปชัด โดยที่กลุ่มหลังยังมีอัตราการเสียชีวิตสูงกว่าอีกด้วย


นักวิจัยกล่าวว่า การมองโลกในแง่ดีหรือแง่ร้ายนั้นจะส่งผลต่อความเครียด ที่แต่ละคนรู้สึกความสามารถในการรับมือกับความเครียดนั้น รวมถึงกำลังใจจากคนรอบข้างด้วย ซึ่งอธิบายได้ว่าทำไมคนมองโลกในแง่ดีถึงมีผลต่อสุขภาพในแง่บวก ตรงกันข้ามกับกลุ่มมองโลกในแง่ร้าย


ขณะที่มนุษย์โลกสวยงามทั้งหลายมีสังคมรอบตัวคอยให้กำลังใจ คนที่ไม่เป็นมิตรก็มักจะตัดความสัมพันธ์กับกลุ่มเพื่อน จนท้ายที่สุดแล้วคนที่มองโลกในแง่ร้ายก็จะเครียดมากขึ้น และมีสุขภาพหัวใจตกต่ำลงมากกว่าน่ะสิคะ


สาววัยเลข 3


ถ้ายังไม่เริ่มดูแลตัวเองก็ควรเริ่มที่วัยเลขสามแล้วล่ะ มาลองสำรวจดูว่า "เรามีไลฟ์สไตล์ที่เอาหัวใจของเราไปเสี่ยงรึเปล่านะ?" ตั้งแต่การสูบบุหรี่ ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ หรือใช้ยาผิดกฎหมาย ล้วนแต่เป็นสาเหตุหลักของโรคหัวใจทั้งนั้น และอย่าเลิกเล่นกีฬาหรือหยุดออกกำลังกายนะ เราอาจต้องมีวินัยมากขึ้นในการใช้ชีวิต เพื่อที่จะได้แบ่งเวลาไว้สักนิดสำหรับออกกำลังกาย


Tips


ถ้าคุณยุ่งอยู่กับเจ้าตัวน้อย จนดูเหมือนไม่มีเวลาให้ตัวเองเลย ไม่ต้องกังวลไป คุณสามารถออกกำลังเพื่อให้หัวใจแข็งแรงได้ง่าย ๆ ด้วยการเดินเร็ว ๆ ทุกวัน พร้อมกับพารถเข็นเด็กไปด้วย (ช่วยบริหารหัวใจ)


ถ้ามีนิสัยไม่ดีอื่น ๆ ที่ควรจะต้องลด ละ เลิก พยายามหาความช่วยเหลือและกำลังใจจากคนรอบข้าง หรืออาจปรึกษาผู้เชี่ยวชาญในการเลิกสิ่งเสพติดที่ไม่ดีทั้งหลาย อย่างเช่น มูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ เว็บไซต์ www.ashthailand.or.th/th หรือโทร. 0-2278-1828


สาววัยเลข 4


เอาล่ะ ในวัย 40 ระบบการเผาผลาญของคุณจะค่อย ๆ ช้าลง และไม่ต้องการแคลอรีเท่ากับในวัยเลขสองหรือสามอีกต่อไป เริ่มลดปริมาณอาหารด้วยการกินน้อยลง และใช้เครื่องนับก้าว เพื่อให้แน่ใจว่าคุณเดินได้วันละหนึ่งหมื่นก้าว เพื่อเป็นการออกกำลังประจำวัน และอย่างเลิกกินไขมันโดยสิ้นเชิง เพราะไขมันบางชนิด เช่น โอเมก้า -3 เป็นไขมันที่ดีต่อสุขภาพหัวใจ


ในขณะที่ไขมันทรานส์ จะทำให้เซลล์ของเราเปราะบางและอาจนำไปสู่อาการหัวใจวายได้ เช่นเดียวกับไขมันอิ่มตัวที่เพิ่มคอเลสเตอรอลในเลือด และเพิ่มโอกาสในการเป็นโรคหัวใจให้มากขึ้นด้วย นอกจากนี้ วัย 40 ยังเป็นเวลาที่ความเครียดเริ่มส่งผลต่อสุขภาพหัวใจ ดังนั้น การทนทุกข์อยู่คนเดียวไม่ใช่ทางออกที่ดีแน่ ๆ เช่นเดียวกับบุหรี่ เหล้า หรือการใช้ยาแบบผิด ๆ นั่นแหละค่ะ

Tips


เซย์โนกับไขมันแปรรูป ด้วยการหลีกเลี่ยงอาหารทอดหรืออาหารสำเร็จรูปทั้งหลาย และอย่าลืมอ่านฉลาก เพื่อดูปริมาณไขมันอิ่มตัวก่อนตัดสินใจซื้อของกลับบ้านด้วยล่ะ


เซย์เยสกับไขมันดี โดยเฉพาะกรดไขมันโอเมก้า -3 ซึ่งได้รับการพิสูจน์แล้วว่าช่วยบำรุงหัวใจ กินปลา 3-4 มื้อต่อสัปดาห์ เลือกอาหารที่เพิ่มกรดไขมันโอเมก้า -3 และกินน้ำมันปลาเสริมสัก 4,000 มิลลิกรัม


ค้นหาวิธีดี ๆ ในการลดความเครียด ลองเล่นโยคะ นั่งสมาธิ ออกกำลังกาย หรือวิธีง่าย ๆ เพียงแค่ใช้เวลาว่างกับครอบครัวและเพื่อนฝูง ถ้าคุณคิดว่าคุณเข้าข่ายซึมเศร้าหรือมีโรคอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับความเครียด จงไปแพทย์อย่ารอช้าค่ะ


สาววัยเลข 5


ช่วงวัย 50 ต้น ๆ เป็นเวลาที่ผู้ชายควรเริ่มไปตรวจ CT Scan ดูหลอดเลือดหัวใจ ขณะที่คุณผู้หญิงควรเริ่มตรวจเมื่ออายุ 60 อันเป็นเวลาที่ความเสี่ยงโรคหัวใจของผู้หญิงจะใกล้เคียงกับผู้ชาย


CT Scan เป็นการวัดแคลเซียมในหลอดเลือด โดยไม่มีการฉีดสีใด ๆ เข้าไป และเป็นวิธีการที่แม่นยำที่สุด ในการคาดคะเนโอกาสที่จะเกิดหัวใจวาย และหลังหมดประจำเดือนแล้ว คุณผู้หญิงควรใส่ใจในระดับคอเลสเตอรอล ความดันโลหิต และขนาดรอบเอวของตัวเอง ซึ่งระดับคอเลสเตอรอลมักจะพุ่งสูงขึ้นหลังจากหมดประจำเดือน และไขมันก็มักจะสะสมที่กลางลำตัวมากกว่าต้นขาหรือสะโพก โดยคุณผู้ชายควรมีรอบเอวต่ำกว่า 94 เซนติเมตร และคุณผู้หญิงควรมีรอบเอวเล็กกว่า 80 เซนติเมตร


ผลตรวจอื่น ๆ ที่คุณควรจะปรึกษาแพทย์ ได้แก่ ไตรกลีเซอไรด์และน้ำตาลในเลือด ระดับ HDL (คอเลสเตอรอลดี) และระดับ LDL (คอเลสเตอรอลเลว) หากมีระดับไตรกลีเซอไรด์สูงก็จะยิ่งเพิ่มโอกาสเส้นเลือดอุดตัน นอกจากนี้ การรู้ระดับน้ำตาลในเลือดก็สำคัญมาก เพราะเบาหวานที่ไม่ได้รับการรักษา ก็เหมือนกับบัตรเชิญของโรคหัวใจนั่นเอง


การตรวจเลือดสามารถตรวจหาระดับโฮโมซิสเตอีน ไลโพโปรตีน และโปรตีนชนิด High Sensitivity C-Reactive Protein ซึ่งถ้าเห็นชื่อใดชื่อหนึ่งทะลุเพดาน แสดงว่าคุณมีความเสี่ยงหัวใจวายแล้วล่ะ


Tips


ขอแพทย์ตรวจความเสี่ยงโรคหัวใจ ซึ่งรวมถึงการทดสอบทั้งหมดที่จำเป็น ให้มั่นใจว่าหัวใจของคุณยังแข็งแรงดีอยู่

พบทันตแพทย์เป็นประจำ มีหลักฐานว่า คนที่มีเชื้อโรคที่เหงือกมากจะมีสิ่งอุดตันในหลอดเลือดมากเช่นกัน

คุณเองก็สามารถลดระดับไตรกลีเซอไรด์ได้ง่าย ๆ ด้วยการลดอาหารที่มีไขมันอิ่มตัว แอลกอฮอล์ และอาหารที่มีน้ำตาลมาก ๆ ส่วนระดับคอเลสเตอรอล ก็ปรับปรุงได้ด้วยการกินอาหาร

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น