อันดับที่ 10
Just Do Nothing
ลองหยุดภารกินวุ่น ๆ สักสัปดาห์ละวัน หรือวันละ ๑ ชั่วโมง ให้ปลอดจากเรื่องงาน และคนรอบข้าง ใช้เวลาอยู่คนเดียวตามลำพัง จะช่วยทำให้คุณรู้สึกสงบ เป็นเวลาที่จะได้เรียนรู้วิธีหยุดพักใจ อาจจะฟังเพลงเงียบๆ คนเดียว หรืออาบน้ำอุ่นๆ แล้วอ่านหนังสือเล่มโปรด ค่อยๆ จิบน้ำชา ชมดอกไม้ เป็นการเติมความรื่นรมย์ด้านจิตใจ ทำให้คุณสดชื่น และมีความสุขอย่างไม่น่าเชื่อ และยังห่างไกลจากโรคความรีบร้อน อันหมายถึงโรคที่ทำให้คุณตื่นตัว และเร่งรีบ จนแทบไม่มีเวลาสำหรับตัวเอง
อันดับที่ 9
เติมไขมันดี ๆ ให้ร่างกาย
ไขมันนั้น ไม่ได้เป็นผู้ร้ายซะทีเดียว เพระไขมันมีอยู่หลายชนิด ไขมันที่เป็นมหามิตรกับร่างกายน่ะ หากร่างกายขาดแคลน อาจมีผลต่อการดูดซึมวิตามินเอ ดี อี เค และทำให้รู้สึกอ่อนเพลียได้ เลือกรับประทานอาหารที่มีไขมันชนิดไม่อิ่มตัว จากน้ำมันมะกอก น้ำมันถั่ว และไขมันโอเมก้า ๓ จากปลา ซึ่งเป็นไขมันดีๆ ที่ไม่เพียงให้พลังงาน ทำให้มีเรี่ยวแรงแล้ว ยังช่วยป้องกันโรคมะเร็งและหัวใจอีกด้วย
อันดับที่ 8
เดินไวๆ ช่วยให้สุขภาพหัวใจแข็งแรง
คนที่ไม่ค่อยมีเวลาออกกำลังกาย แต่ยังห่วงใยสุขภาพของตัวเองอยู่ ลองใช้วิธีเดินขึ้นลงบันได หรือให้ไวขี้นอีกนิด อาจใช้เวลาเดินในช่วงเช้า หรือหลังเลิกงาน เดินไปที่ป้ายรถเมล์สักสามสี่ป้าย หรือเดินขึ้นลงบันได ให้ได้วันละ ๒๐ นาที จะช่วยบริหารหลอดเลือดหัวใจให้แข็งแรง และยังจะได้หุ่นผอมบางสมส่วนเป็นของแถม
อันดับที่ 7
สลัดปลาทูน่าเพิ่มความจำ
ใครที่รู้ตัวว่า เริ่มจะหลงๆ ลืมๆ ลองหันมาทานสลัดปลาทูน่า หรืออาหารเมนูปลารวมทั้งเพิ่มอาหารที่มีวิตามินบี ๒ เช่น ไข่ นม ถั่วเหลือง นอกจาก จะช่วยให้อารมณ์ดีแล้ว ยังช่วยเพิ่มพลังความจำให้กับสมองได้
อันดับที่ 6
หันมาทานขนมปังโฮลวีทกันเถอะ
สำหรับมื้อว่างยามบ่าย แทนที่จะไปคว้าคุกกี้หรือเค้กช็อกโกแลต หรือแวบไปกินเกี๋ยวเตียวสักชาม ข้าวสักจาน ซึ่งเต็มเพียบด้วยแคลอรี่ เปลี่ยนมารับประทานทานขนมปังโฮลวีทสัก ๒ แผ่น รับรองว่า จะช่วยให้คุณรู้สึกมีกำลังวังชา แถมยังได้คุณค่าจากวิตามินบี ที่ช่วยบำรุงระบบประสาท ทำให้ตื่นตัว สมองแจ่มใส และได้เส้นใย (ไฟเบอร์) ในปริมาณที่สูง ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อระบบขับถ่าย และทำความสะอาดลำไส้อย่างยิ่
อันดับที่ 5
รับแสงแดดอ่อน
มีข้อมูลจากการวิจัยระบุว่า ผู้หญิงที่ไม่ค่อยโดนแดดเอาเสียเลย มีโอกาสที่จะเป็นมะเร็งเต้านมมากกว่าผู้หญิงที่อยู่ในเมืองที่มีแดด เนื่องจากแสงแดดช่วยสังเคราะห์วิตามินดีในร่างกาย แต่การโดนแดดจัดในช่วงบ่ายๆ ก็เป็นอันตรายเช่นกัน ควรรับแดดอ่อนๆ ในช่วงเย็นจะดีกว่า
อันดับที่ 4
เปลือยเท้า คลายเครียด
การย่ำเท้าเปล่าไปบนทราย หรือสนามหญ้านุ่มๆ จะช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย เนื่องจากการเดินเท้าเปล่า จะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด
อันดับที่ 3
ดื่มน้ำมากขึ้น
การดื่มน้ำให้ได้อย่างน้อยวันละ ๕ แก้ว จะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ และมะเร็งกระเพาะปัสสาวะได้เกือบ ๕๐% เชียวล่ะ
อันดับที่ 2
เหงือกดี ด้วยน้ำชายามเช้า
องค์การอาหารและยา ของสหรัฐและสวีเดน บอกว่า การบ้วนปากในช่วงเช้าด้วยน้ำชา จะช่วยลดแบคทีเรียในช่องปากได้ เนื่องจากสารโพลีฟีนอล จะช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย ที่เป็นต้นเหตุของฟันผุ ส่วนการดื่มชาหลังมื้ออาหาร ก็ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคเหงือกได้
อันดับที่ 1
สำรองผลไม้ในตู้เย็น
ผักผลไม้ที่ควรสำรองในตู้เย็นอย่าให้ขาด ได้แก่ กะหล่ำปลี แครอท ส้ม แอปเปิ้ล ซึ่งนอกจากจะมีประโยชน์มาก สำหรับคนที่กำลังควบคุมน้ำหนักตัวแล้ว การรับประทานผักผลไม้เป็นประจำ ยังช่วยลดความเสี่ยง จากโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้อีกด้วย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น