14 ก.ย. 2553

จงขจัดตัว "ว" ออกจากชีวิต

*ถ้า คุณสังเกตจะแปลกใจว่า คำไทยแท้ที่ออกเสียง "ว"
เกือบทั้งสิ้นล้วนแสดงลักษณะทางลบของคุณภาพ, บุคลิกภาพ, อุปนิสัย, ความรู้สึก
ฯลฯ หาความ "ดี" หรือความ "งาม" ไม่พบ
ซ้ำร้ายยังทำให้สุขภาพจิตของผู้เป็นเจ้าของคำกริยาหรือคำวิเศษณ์ นั้นๆ
เสื่อมอีกด้วย*

ไม่ มีใครมีความสุขและสุขภาพจิตก็คงเสื่อมถ้าเขาผู้นั้น จมูกโหว่ ปากแหว่ง
สวมเสื้อผ้าขาดวิ่น เป็นหวัด หวุดหวิดจะถูกรถชน เป็นแผลเหวอะหวะ
เกิดอาการวิงเวียนใจหวิว ถูกไฟไหม้วอดจนใจหายวาบ แทบจะหัวใจวาย

นอก จากคำที่ออกเสียง "ว"
เหล่านั้นจะทำให้เจ้าของลักษณะหรืออาการนั้นสุขภาพจิตเสื่อมแล้ว
ยังมีคำไทยแท้ออกเสียง "ว" หลายคำที่ทำให้ใครๆ ไม่รักและไม่อยากคบอีกด้วย

ไม่มีใครอยากเข้าใกล้คน "มือไว"

ผู้ชายที่มีรสนิยมแห่งเพศตรงข้ามสูงย่อมรังเกียจผู้หญิง "ไวไฟ"

*ลองวาดภาพผู้หญิงสาวแสนสวยคนหนึ่ง ซึ่งมีลักษณะบุคลิกภาพล้วนบรรยายด้วยอักษร
"ว" ทั้งสิ้น ดังนี้*

*เป็น คนโวยวาย โว้เว้ ส่งเสียงโหวกเหวก อ้าปากหวอ อารมณ์วู่วาม
และหวั่นไหวง่าย ชอบคุยโว จิตใจว้าวุ่น มักวอแว หวาดหวั่น วอกแวก
มีชีวิตอยู่อย่างว้าเหว่ ขาดเพื่อน และไวไฟกับผู้ชาย*

คนสติดีที่ไหนเล่าจะรักผู้หญิงชนิดนี้ แม้เธอจะมีรูปโฉมระดับนางงามจักรวาล

*คน โวยวาย* เป็นคนประเภทขาดความอดทน เมื่อไม่ได้ดังใจ
หรือเกิดความคับข้องใจแม้เพียงเล็กน้อยซึ่งคนอื่นส่วนมากทนได้
เขาจะทนไม่ได้และเก็บไว้ในใจไม่อยู่ ต้องแสดงความไม่พอใจ, บ่น, ด่า
หรือคร่ำครวญให้ผู้อื่นฟังไม่เลือกหน้า
จึงทำให้คนรอบข้างเบื่อหน่ายรำคาญไม่อยากเข้าใกล้

แต่ คนที่เก็บทุกอย่างไว้ในใจ ไม่ระบายออกเสียบ้างเลย คือ
ไม่เคยโวยวายเลยไม่ว่าความทุกข์นั้นใหญ่หลวงสักปานใด ก็เป็นคนสุขภาพจิตเสื่อม
จนอาจถึงกับเป็นโรคไซโคโซมาติคหรือโรคประสาทบางชนิดได้

โปรด อย่าเข้าใจผิดว่า คนเงียบเก็บความรู้สึกทุกอย่าง เป็นคน "ดี"
กับคนอื่นไม่เลือกหน้าและตลอดเวลา อย่างที่เราชอบพูดกันติดปากว่า "nice"
เหลือเกิน (ไม่ใช่ "nice" เฉยๆ) นั้น เนื้อแท้จะเป็นคนน่ารัก และน่าคบทุกคนไป

คน เงียบเกินไปและเก็บความรู้สึกเกินไปไม่น่าเข้าใกล้เท่าใดนัก
เพราะไม่สามารถหยั่งอารมณ์และความรู้สึกของเขาได้
ไม่มีใครชอบชายคนชาเย็นและลึกลับ เพราะไม่ทราบว่าเขาซ่อนเขี้ยวเล็บไว้ที่ใดบ้าง
คนอบอุ่นและเปิดเผยน่าคบกว่า เพราะสื่อนำความรู้สึกและอารมณ์ต่อกันได้ดีกว่า
ถ้าต้องใช้ชีวิตผูกพันกับคนเงียบเกินไป
คุณจะอึดอัดเมื่อมีความขัดแย้งหรือความขุ่นข้องเขาจะนิ่ง
คุณจึงลำบากใจและหนักอก แล้วจะมีความสุขได้อย่างไร

ส่วนคนที่ดีเกินไป หรือ *"nice"* เกินไป นั้น ดูผิวเผินช่างมีเสน่ห์น่ารัก
เพราะไม่เคยโกรธใคร, ไม่เคยขัดใจใคร, ไม่เคยโวยวายแม้เมื่อถูกเอารัดเอาเปรียบ
ฯลฯ แท้จริงในจิตไร้สำนึก เขาอาจมีความก้าวร้าว และความไม่เป็นมิตรอยู่มากมาย
จึงต้องใช้จิตกลไกลชนิดทำตรงกันข้าม หรือเขาอาจเป็นคนขาดความรักมาแต่วัยเด็ก
จึงต้องใฝ่หาความรักจากผู้อื่นไม่รู้จักพอ ด้วยการเป็นคนดีเกินปกติ

เพราะฉะนั้น จงเป็นคน "ดี" แต่พอดี ถ้าดีเกินพอดีอาจจะกลายเป็นไม่ดี

คน ไม่โวยวายเมื่อควรโวยวาย คือ
เมื่อความทุกข์เกินขีดความอดทนต้องฆ่าตัวตายมาแล้วหลายราย แต่คนที่ทั้งโวยวาย
และวู่วามไม่เลือกกาลเทศะก็ถูกฆ่าตายมาแล้วหลายรายเช่นกัน

ฉะนั้น เมื่อเผชิญปัญหาชีวิตหนักหน่วง
มีความทุกข์หรือความเดือดร้อนมากเกินขีดความอดทน ก็จงโวยวายออกมาเสียบ้าง
แต่ต้องรู้จักเลือกคนรับฟังและรับอารมณ์ของคุณได้ และอย่าโวยวายพร่ำเพรื่อ
แล้วคุณจะทั้งสุขภาพจิตดีทั้งเป็นที่รักของใครๆ

*คนวู่วาม *คือ คนวุฒิภาวะทางอารมณ์ต่ำ ขาดความยับยั้ง
และขาดความสามารถควบคุมอารมณ์ จึงเหมือนทารก
หรืออาจเป็นพวกบุคลิกภาพผิดปกติชนิดที่เรียกว่า "Explosive Personality"
ซึ่งถือว่าเป็นความผิดปกติทางจิตเวชชนิดหนึ่งให้โทษทั้งแก่ตนเองและผู้อื่น
ความวู่วามโกรธง่ายทำลายบุคลิกภาพที่ดีงาม ทำให้ผู้อื่นเสื่อมความนิยม
ทำให้แก่เร็ว และทำให้ตนเองและผู้เข้าใกล้สุขภาพจิตเสื่อม
ถ้ารู้ตัวว่าเป็นคนวู่วามต้องรีบแก้ไข แม้จะไม่ง่ายนัก
แต่ถ้าตั้งใจก็ไม่ยากเกินไป
ถ้าเกินกำลังจะแก้ไขเองต้องขอความช่วยเหลือจากจิตแพทย์ เพราะถ้าทิ้งไว้ไม่แก้
วันใดวันหนึ่งคุณอาจจะเคราะห์ร้ายไปวู่วามผิดคน ผิดจังหวะเข้า
ก็อาจถึงกับวางวายได้

*คนโว *คือ คนขี้โมโห, ขี้คุย, ขี้อวด, ขาดความถ่อมตัว
ไปที่ใดจึงมีแต่คนรำคาญหรือหมั่นไส้ และไม่น่ารักในสายตาของใครสักคนเดียว
เนื้อแท้ของคนประเภทนี้คือ เป็นคนมีปมด้อย เช่น บางคนฉลาดแต่ขี้เหร่,
บางคนสวยแต่โง่, บางคนร่ำรวยแต่มีต้นตระกูลยากไร้และต่ำต้อย
บางคนเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ ฯลฯ จึงต้องใช้จิตกลไกชนิดชดเชย เพื่อลบล้างปมด้อย

ปม ด้อยของเราสามารถชดเชยได้ทางอื่นที่ไม่ใช่การโว โดยใช้จิตกลไกอันเดียวกันนี้
แต่อย่าถูกทาง อับราฮัม ลินคอล์น ผู้ยากจนอาศัยแสงเทียนไข
อ่านกระดาษหนังสือพิมพ์เก่าๆ ที่ใช้ห่อของ
ได้กลายเป็นประธานาธิบดีผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดของสหรัฐอเมริกา
และเป็นบุรุษแห่งประวัติศาสตร์คนหนึ่งของโลก

*คนวอกแวก* คือ คนขาดสมาธิ, จิตใจไม่สงบ โดยมากเกิดจากความวิตกกังวล
ซึ่งถ้ามีมากเกินไปหรือหาทางออกไม่ได้ อาจกลายเป็นโรคประสาท
ถ้ารู้ตัวว่าจิตใจวอกแวกมากจนรบกวนการทำงานหรือการเรียน ควรปรึกษาจิตแพทย์

*คนหวาดหวั่น *อาการ หวาดหวั่นรุนแรง
มีความกลัวหรือความพรั่นพรึงเป็นเจ้าเรือนตลอดเวลา มักพบในโรคประสาท
หรือโรคจิตบางชนิด ถ้าหวาดหวั่นกระวนกระวายและซึมเศร้าอย่างมากร่วมด้วยในวัยต่อ
คือวัยประมาณ 45-55 ปีในหญิง และ 50-60 ปีในชาย
ก็น่าสงสัยว่าจะเป็นโรคจิตซึมเศร้าในวัยต่อ

*คนหวั่นไหวง่าย *อาจ หมายถึง อารมณ์หวั่นไหวง่าย
หรืออารมณ์ไม่คงเส้นคงวาเปลี่ยนตามสิ่งแวดล้อมได้ง่าย และยอมให้สิ่งเร้าต่างๆ
เป็นนายของอารมณ์หรือาจหมายความว่าหวั่นไหวง่ายต่อคำติชมของผู้อื่น
เพราะต้องการการค้ำจุนใจจากผู้อื่นมาก จึงเป็นคนไม่มีความสุข
เหมือนเอาชีวิตของตนไปผูกแขวนไว้กับท่าทีและถ้อยคำของคนอื่นเป็นลักษณะของคน
ขาดความเชื่อมั่นในตนเอง ขาดความมั่นคงทางใจ
เป็นผลจากภูมิหลังของบุคลิกภาพแต่เยาว์วัย ถ้าเราเชื่อว่า
เราได้ตัดสินใจทำสิ่งใดอย่างรอบคอบถูกต้อง
และอย่างดีที่สุดเท่าที่เราจะทำได้แล้ว จงพอใจไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น
และถือว่าคำวิจารณ์ที่ตามมานั้นหาใช่ธุระกงการอะไรของเราไม่

*คนวอแว *คำ ว่า "วอแว" พจนานุกรมแปลว่า รบกวน, เซ้าซี้ เพราะฉะนั้น
คงไม่ต้องอธิบายว่าเหตุใดคนวอแวจึงทำให้สุขภาพจิตของคนอื่นเสื่อม
และทำให้ไม่มีใครรัก

*คนโว้เว้ *คำ ว่า "โว้เว้" พจนานุกรม แปลว่า พูดหาเรื่อง, พูดเหลวไหล
ทำเหลวไหล คนมีปัญญาที่ไหนเล่าจะรักคนโว้เว้ และแน่นอนเหลือเกินว่า
คนโว้เว้เข้าใกล้ใครรังแต่จะบั่นทอนสุขภาพจิตของผู้นั้น

นอก จากนั้น ยังมีคำไทยแท้ออกเสียง "ว" อีกสองคำ
ซึ่งเป็นประเภทดาบสองคมสุดแต่คุณจะเลือกใช้คือ ถ้าคุณเลือก เว้าวอน
เฉพาะกับคนที่คุณมีสิทธิตามกฎหมายและศีลธรรมให้ เขาวาบหวาม จะด้วยสายตา, วาจา
หรือ การสัมผัสของคุณก็ตาม ทั้งคุณและเขาจะมีสุขภาพจิตดีขึ้น
แต่ถ้าคุณเผอิญไปเว้าวอนเอาคนที่คุณไม่มีสิทธิตามกฎหมาย
หรือศีลธรรมเข้าจนเขาวาบหวาม ผลที่ได้รับอาจกลับหน้ามือเป็นหลังมือ คือ
สุขภาพจิตทั้งของคุณและของเขา จะเสื่อมอย่างร้ายกาจ
เพราะชีวิตของคุณจะพบแต่ความวุ่นวาย จิตใจก็จะมีแต่ความหวาดหวั่น
มิหนำซ้ำคุณยังได้ชื่อว่าทำลายสุขภาพจิตของบุคคลที่สามอย่างไร้ศีลธรรมอีก ด้วย
ซ้ำร้ายถ้าบุคคลที่สามคือคู่หมั้น หรือภรรยาของเขาวู่วามถึงขีด
คุณก็อาจถึงกับเหวอะหวะจนหวุดหวิดจะวางวายได้

มี คำไทยแท้ออกเสียง "ว" เพียงสองคำเท่านั้นที่นอกจากจะไร้ "พิษ" และ ปลอด
"ภัย" ต่อตนเองและผู้อื่นแล้ว ยังช่วยสร้างเสริมสุขภาพจิตเป็นอย่างดียิ่ง
สองคำนั้นคือ "ความหวัง" กับ "ความหวาน"

จง หว่านเพาะความหวังและความหวาน แล้วหมั่นรดน้ำพรวนดินด้วยน้ำใจ,
ไมตรีจิตและความจริงใจ ให้มันงอกงาม ผลิดอกออกช่อบานสะพรั่งเต็มหัวใจของคุณ
แล้วแผ่กิ่งก้านให้ร่มเงาสดชื่นร่มเย็นแก่ชีวิตของผู้อื่นด้วย

ถ้า คุณสามารถฝึกจิตใจให้บรรจุแต่ความหวังและความหวาน
แล้วยังสามารถปลุกผู้อื่นให้เกิดความหวัง
และเจือจานความหวานแห่งชีวิตให้แก่เขาด้วย คุณย่อมจะมีแต่ความสุข
ทั้งยังได้ชื่อว่าเป็นผู้ให้ความสุขแก่ผู้อื่นอีกโสดหนึ่ง
แถมได้รับผลพลอยได้ที่ปุถุชนจิตใจปกติทุกคนย่อมอยากได้คือ
ได้เป็นที่รักของทุกคนที่เข้าใกล้คุณ

*
ที่ มาของข้อมูล: จากบทความเพื่อสุขภาพจิต ของ แพทย์หญิงสุพัฒนา เดชาติวงศ์ ณ
อยุธยา สถาบันจิตเวชศาสตร์สมเด็จเจ้าพระยา กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข
*

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น