บทความนี้สรุปประเด็นจากหนังสือเรื่อง Secrets of the Millionaire Mind แต่งโดย T. Harv Eker ผู้แต่งได้ศึกษาข้อมูลจากเหล่ามหาเศรษฐีที่ประสบความสำเร็จทั้งหลายและค้นพบว่า คนที่จะพลิกผันตัวเองให้เป็นมหาเศรษฐีได้นั้นไม่ใช่เพราะโชคช่วย การศึกษาสูง สติปัญญาที่เฉลียวฉลาด ความเชี่ยวชาญพิเศษ การมีเส้นสาย การอยู่ในวงสังคม หรือการมีบุญวาสนาเหนือคนอื่น สิ่งหนึ่งที่คนเหล่านี้มีแตกต่างจากคนทั่วไปคือ เขามีทัศนคติที่ดีเกี่ยวกับเงินทองและความร่ำรวย
ผู้แต่งได้สรุปรวบรวมวิธีการพลิกผันตนเองให้กลายเป็นมหาเศรษฐี แนวความคิดและวิถีการดำรงชีวิตของมหาเศรษฐีทั้งหลาย มีใจความสำคัญ ดังต่อไปนี้
วิธีการพลิกผันตนเองให้กลายเป็นมหาเศรษฐี
1.สำรวจทัศนคติของตนเองที่มีต่อเรื่องเงินทอง
สิ่งที่เราได้เรียนรู้มาตั้งแต่ในวัยเด็กจะเป็นตัวกำหนดกรอบการมองโลกหรืออาจจะเป็นตัวกำหนดชะตาชีวิตของเราเลยก็ว่าได้ ในกรณีนี้ถ้าเราถูกปลูกฝังความเชื่อที่ผิดหรือได้รับข้อมูลในแง่ลบเกี่ยวกับว่าบุคคลที่ร่ำรวยเช่น คนรวยคือคนที่ละโมบโลภมาก คนจะรวยได้ก็ต้องคดโกงเอาเปรียบผู้อื่น แม้จะมีเงินมากมายก็ไม่สามารถซื้อความสุขได้ ความรวยหรือความจนล้วนเกิดจากกรรมเก่าเปลี่ยนแปลงไม่ได้ เป็นต้น ถ้าเราเชื่อว่ามันเป็นความจริง
จิตใต้สำนึกของเราก็จะไม่ปรารถนาความร่ำรวย เมื่อมีโอกาสดี ๆ ผ่านเข้ามาในชีวิตเราก็จะปล่อยผ่านไป เราเป็นคนที่ดึงตัวเองเข้าสู่วัฏจักรแห่งความยากจนโดยที่เราไม่รู้ตัว ฉะนั้น เราต้องหัดสำรวจทัศนคติของตัวเองว่าเมื่อเราเห็นคนที่ร่ำรวย เราคิดและรู้สึกอย่างไร ถ้าความคิดใดที่จะนำเราไปสู่ทางต่ำ เศร้าหมอง เบื่อหน่าย ท้อแท้
หมดกำลังใจในชีวิตให้รีบตัดทิ้งเสียและให้รู้จักมองโลกในแง่ดี อย่างไรก็ตาม คนที่ต้องการร่ำรวยเพราะกลัวความยากจนหรือต้องการจะเอาชนะหรือต้องการจะเหนือกว่าผู้อื่น คนพวกนี้แม้จะประสบความสำเร็จสมความปรารถนาแต่พวกเขาก็จะไม่มีความสุข ผู้แต่งกล่าวเพิ่มเติมว่าคนที่ร่ำรวยในมุมมองของเขานั้นจะต้องมีความสุขด้วย ซึ่งคนพวกนั้นมักจะคิดเสมอว่า พวกเขาจะทำงานอย่างสุดความสามารถจนประสบความสำเร็จร่ำรวยและจะนำเงินไปแจกจ่ายช่วยเหลือผู้ที่เดือดร้อนและยากจน
การเริ่มสำรวจทัศนคติเกี่ยวกับเรื่องเงินทองนั้นอาจจะเริ่มจากการถามตนเองว่า เราอยากได้เงินเดือนแบบไหนเช่น เราอยากได้เงินเดือนสูง ๆ และชอบที่จะแสวงหาช่องทางหาเงินอื่น ๆ อยู่เสมอหรือไม่ หรือขอแค่ได้เงินเดือนมีกินมีใช้ก็พอ เราเลือกที่จะทำงานที่เรารัก งานที่เราถนัด หรืองานอะไรก็ได้ขอให้มีเงินใช้ในแต่ละเดือนก็พอแล้ว เราเป็นคนที่ชอบเก็บเงินหรือชอบใช้เงิน เป็นต้น
2.ศึกษาแนวความคิดของพวกมหาเศรษฐีและนำมาประยุกต์ใช้กับตนเอง เหล่ามหาเศรษฐีทั้งหลายมีแนวคิดและทัศนคติเกี่ยวกับเงินทองและการใช้ชีวิต ดังนี้
1)ชีวิตต้องสร้างด้วยสองมือ
พวกมหาเศรษฐีจะไม่เคยจมปลักและยอมแพ้ไปกับโชคชะตาของตนเอง พวกเขาจะใช้เวลาทุกวินาทีเพื่อเปลี่ยนความคิดเป็นตัวเงิน บุคคลเหล่านี้จะระมัดระวังความคิดของตนเองอย่างมาก พวกเขาจะไม่ยอมเสียเวลาคิดในแง่ลบ คิดถึงเรื่องที่หดหู่ท้อแท้ หรือเรื่องที่ขัดขวางความเจริญของตนเอง เขาเชื่อว่าชีวิตเกิดมาแล้วต้องมีการพัฒนาและทุกปัญหาย่อมมีทางออกเสมอ
2)เกิดมาแล้วต้องรวย
พวกเขามีความเชื่ออย่างแนบแน่นว่า เกิดมาแล้วต้องรวยมิฉะนั้นถือว่าเสียชาติเกิดและเขาเชื่อมั่นว่าเขาจะต้องทำได้แน่ ๆ คนอื่นทำได้ทำไมเขาจะทำไม่ได้ แต่เขาไม่ได้หลงตัวเองหรือเพ้อฝันเพราะคนเหล่านี้จะพยายามหาเหตุและปัจจัยที่จะทำให้ตนเองร่ำรวยด้วยวิธีที่สุจริต พวกเขาจะพยายามค้นหาว่าตนเองชอบอะไรและพัฒนาความรู้ความสามารถของตนเองจนรู้แจ้งแทงตลอดในสาขานั้น
3)มีความเชื่อมั่นและมีความเคารพในตนเองสูง
บุคคลเหล่านี้จะไม่คิดอิจฉาริษยาคนที่ร่ำรวยเงินทองแต่พวกเขาจะคอยสังเกตและศึกษาว่าคนพวกนั้นเขาคิดเขาทำอย่างไรจึงประสบความสำเร็จและเขามีสิ่งใดบ้างที่เราไม่มีเช่น คนที่ประสบความสำเร็จทั้งหลายล้วนมีความมุ่งมั่นและมีกำลังสมาธิที่เข้มแข็ง เมื่อรู้เช่นนี้พวกเขาก็จะหาทางพัฒนาตนเองให้มีเช่นกัน
4)ลงมือกระทำเพื่อให้เกิดผล
บุคคลเหล่านี้เมื่อคิดอยากจะรวย พวกเขาจะคิดวางแผนและลงมือกระทำในสิ่งที่ถูกต้องเพื่อให้ร่ำรวย ในทางกลับกัน คนที่มีแนวโน้มว่าจะยากจนชั่วชีวิตนั้นจะได้แต่ฝันว่าอยากจะรวยโดยไม่คิดจะทำอะไรเพิ่มเติม หรือไม่ก็เลือกที่จะไปบนบานศาลกล่าวขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์ หรือไม่ก็หวังรวยทางลัดโดยการเล่นการพนันหรือเล่นล็อตเตอรี่
5)เมื่อได้อย่างก็ไม่จำเป็นต้องเสียอีกอย่าง
บุคคลเหล่านี้เชื่อว่าคนที่ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานสามารถมีครอบครัวที่อบอุ่นได้ในเวลาเดียวกัน คนที่ทำงานหนักก็มีโอกาสทำในสิ่งที่ตนเองรักได้ พวกเขาสามารถทำงานอย่างมีความสุขสนุกสนานและได้เงินด้วย คนมีเงินก็สร้างประโยชน์ให้แก่สังคมได้ คนที่หาเงินเก่งก็เก็บเงินเก่งและใช้เงินเป็นด้วย คนรวยไม่จำเป็นต้องตระหนี่ถี่เหนียวหรือเอาเปรียบผู้อื่น เป็นต้น พวกเขาเหล่านี้เชื่อว่ามนุษย์สามารถทำอะไรได้อีกมากมายถ้าเราไม่มองโลกในแง่ร้าย วิตกกังวล หรือละโมบโลภมากจนเกินไป
6)ชอบที่จะศึกษาหาความรู้
บุคคลผู้ที่จะผันตัวเองไปเป็นมหาเศรษฐีได้นั้นชอบที่จะศึกษาหาความรู้อยู่เสมอเพราะเขาเชื่อว่าชีวิตคือการเรียนรู้และยังมีสิ่งต่าง ๆ อีกมากมายที่เขาต้องศึกษา
3.มองโลกในแง่ดีและมีจิตสำนึกในการช่วยเหลือสังคมและผู้ที่ด้อยโอกาสกว่า
คนรวยจะคิดใหญ่คิดช่วยเหลือคนอื่นและคิดพัฒนาสังคมให้ดีขึ้น แต่คนจนจะคิดถึงแต่ประโยชน์ของตนเองและพวกพ้อง นอกจากนั้น เมื่อประสบปัญหาและอุปสรรคคนรวยจะมองเป็นเรื่องธรรมดา เขาจะไม่สนใจว่าปัญหานั้นจะใหญ่ขนาดไหนแต่จะคิดว่าจะแก้ไขและอยู่เหนือปัญหาได้อย่างไร พวกเขาจะมองว่าปัญหาเป็นเรื่องท้าทายและเป็นเหมือนบททดสอบครั้งใหม่ที่จะช่วยให้เขาเข้มแข็ง เจริญก้าวหน้า และร่ำรวยมากขึ้น ปัญหาจะช่วยฝึกฝนทักษะการคิดอย่างรอบคอบเพื่อป้องกันไม่ให้ปัญหาที่เกิดขึ้นแล้วเกิดซ้ำอีก พวกคนรวยจะเชื่อว่าครั้งใดที่เขาสามารถข้ามผ่านอุปสรรคไปได้นั่นแสดงถึงความสำเร็จในการขยายขีดความสามารถของตัวเขาเองเพิ่มขึ้นไปอีก นอกจากนั้น คนเหล่านี้พร้อมที่จะน้อมรับสิ่งต่าง ๆจากผู้อื่นด้วยความรู้สึกขอบคุณอย่างจริงใจเพราะเขาเชื่อว่าการปฏิเสธความปรารถนาดีและการมีทิฏฐิมานะมากจนเกินไปนั้นจะเป็นการปิดช่องทางแห่งโชคลาภที่จะหลั่งไหลเข้ามาสู่ตัวเรา
4.รู้จักวางแผนการเงินในระยะยาว
1)คนรวยจะรู้จักวางแผนจัดการทรัพย์สมบัติที่หามาได้ในระยะยาว
พวกเขาจะคิดถึงการลงทุนและจะออมเงินทุกเดือนอย่างต่ำร้อยละสิบของเงินเดือนทั้งหมดไว้ใช้ยามชรา อีกร้อยละสิบไว้เพื่อการศึกษา และอีกร้อยละสิบไว้เพื่อบริจาคเพื่อสาธารณกุศล การวางแผนเช่นนี้จะทำให้เขาเห็นคุณค่าของตัวเอง จิตใจจะผ่องใสเบิกบาน มีกำลังวังชาในการขยันขันแข็งทำงานหาเงินต่อไป
2)วางแผนจะมีธุรกิจเป็นของตนเอง
หลังจากทำงานในองค์กรมาไม่ต่ำกว่าห้าถึงสิบปีและมีผลงานยอดเยี่ยมเป็นที่ยอมรับ บุคคลคนเหล่านี้จะเริ่มขยับขยายออกมามีธุรกิจเป็นของตนเอง พวกเขาเลือกที่จะทำงานในองค์กรก่อนเพื่อสะสมประสบการณ์และฝึกฝนให้ตนเองมีความเชี่ยวชาญในงานที่ตนทำอย่างแท้จริง สิ่งเหล่านี้จะช่วยให้พวกเขาเข้าอกเข้าใจลูกน้องได้เป็นอย่างดีเมื่อจะต้องผันตัวเองมาเป็นเจ้านาย เมื่อมีความเห็นอกเห็นใจลูกน้องๆ ก็ย่อมรักเคารพและเต็มใจทำงานอย่างสุดความสามารถ ธุรกิจก็ย่อมรุ่งเรืองความร่ำรวยก็ย่อมตามมาอย่างแน่นนอน
3)รู้จักบริหารเงินและใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย
พวกมหาเศรษฐีจะไม่ใช้เงินเกินตัวพวกเขาจะใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายเพื่อจะได้มีเงินเก็บเพิ่มขึ้นงดใช้บัตรเครดิตหรือใช้เท่าที่จำเป็นและไม่ก่อหนี้ พวกเขาจะทำบัญชีรายรับรายจ่ายและจะประหยัดออดออมเพื่อชีวิตที่ดีในวันข้างหน้า ใช้เงินอย่างมีสติ รู้จักยับยั้งชั่งใจ และเลือกจับจ่ายแต่สิ่งที่จำเป็น
4)รู้จักใช้เงินต่อเงิน พวกเขาจะใช้เงินที่หามาได้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดเช่น ใช้เงินจ้างพนักงานที่ดีมีความสามารถมาทำงานให้เรา หรือเพิ่มเทคโนโลยีเพื่อพัฒนาสินค้าและบริการให้ดีขึ้น เป็นต้น
5)ยอมทำงานหนักเพื่อชีวิตที่ดีในวันข้างหน้าและกล้าเสี่ยงมากกว่าจะคอยกังวลและหวาดกลัว พวกเขาจะเลือกทำสิ่งที่ยากและท้าทายก่อนเสมอ เพราะเขาเชื่อว่า ปัญหายิ่งยากจะยิ่งทำให้พวกเขาเก่งมากขึ้น
6)ใฝ่หาความรู้ใหม่ ๆ เพื่อพัฒนาสินค้าและบริการอยู่เสมอ
7)แสวงหาเหตุปัจจัยเพิ่มเติมเพื่อเพิ่มช่องทางหาเงินตลอดเวลา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น