9 เม.ย. 2554

ได้เวลาล้างพิษแล้วหรือยัง ?


ทุกวันนี้เรารับสารพิษเข้าไปยังร่างกายทุกวันจนแทบ ไม่รู้ตัว ทั้งอาหารการกิน โดยเฉพาะสาวออฟฟิศ ที่ไม่มีเวลาทำอาหารเอง และต้องฝากท้องไว้กับร้าน อาหารข้างทาง ซึ่งจะแน่ใจได้อย่างไรว่า อาหารเหล่านั้น ผ่านกระบวนการอะไรมาบ้างก่อนจะมาถึงมือคุณ นี่ยัง ไม่นับรวมถึงอากาศที่สูดเข้าไป ยิ่งคนในเมืองหลวง เป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เลยเชียว ดังนั้น การหาเวลา เพื่อล้างพิษภายในจึงเป็นเรื่องสำคัญ เพราะหากคุณ ยังคงกักเก็บของเสียในร่างกายอยู่ ถึงคุณจะทาน ของดีเข้าไป มันก็ทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ ก็เหมือนกับจานที่ทานแล้วและคุณก็ยังไม่ได้ล้าง หรือ ล้างไม่สะอาด พอใส่อาหารใหม่เข้าไป ก็ยังมีเชื้อโรค นอนรอเข้าไปยังร่างกายคุณอยู่ดี
ถ้าเห็นภาพตามนี้แล้ว คิดว่า คุณพร้อมที่จะมาเข้ากระบวนการล้างพิษกับเราแล้วหรือยัง ? ถ้าพร้อม แล้วเริ่มเลยค่ะ

ผลไม้ก็ล้างพิษได้

ขอเริ่มจากวิธีง่าย ๆ ใกล้ตัว สำหรับคนที่ไม่มีเวลาทำ ดีท็อกซ์หรือยังไม่กล้าพอ ผลไม้บ้างชนิดก็มีประสิทธิภาพ ในการล้างพิษ เริ่มจาก

แอปเปิ้ล สารเปกตินในแอปเปิ้ลจะช่วยนำสารพิษไป กำจัดทิ้ง ทั้งยังช่วยป้องกันไม่ให้โปรตีนในลำไส้เน่าบูด และ ด้วยความที่เส้นใยในแอปเปิ้ลมีมาก จึงเข้าไปช่วยทำความ สะอาดลำไส้ ช่วยให้ตับและระบบย่อยอาหารทำงานดียิ่งขึ้น
องุ่น อยู่ในข่ายผลไม้ที่ช่วยฟอกล้างสำหรับผิวหนัง ตับ ลำไส้ และไต เนื่องจากองุ่นให้พลังงานสูงและนำไป ใช้ได้ง่าย จึงช่วยบำรุงเลือดและซ่อมสร้างเซลล์ในร่างกาย
สับปะรด เอ็นไซม์โปรเมลินช่วยในการทำงานของ กรดไฮโดรคลอริกในกระเพาะ และช่วยทำให้ของเสียแตกตัว ได้เร็วขึ้น และยังช่วยรักษาอาการอักเสบในทางเดินอาหาร
มะละกอ ผลไม้ชนิดนี้มีเอ็นไซม์ชื่อปาเปน ซึ่งมี ลักษณะคล้ายกับน้ำย่อยเปปซินในกระเพาะอาหาร ดังนั้น มันจึงช่วยทำให้ของเสียที่เป็นโปรตีนแตกตัวได้เร็วขึ้น ดีสำหรับทำความสะอาดลำไส้และช่วยย่อยอาหาร
แตงโม มีฤทธิ์ขับปัสสาวะ จึงช่วยฟอกล้างร่างกาย ได้เป็นอย่างดี ใช้รักษาแผลในกระเพาะ ลดความดัน เลือดสูง ทำให้สบายท้อง

ล้างพิษด้วยผัก

ทางเลือกนี้เหมาะสำหรับคนที่ชอบทานผัก ไปดูว่า ผักแต่ละชนิดที่คุณทานนั้นจะช่วยอะไรคุณได้บ้าง

สาหร่าย จากการศึกษาของ Mcgill University ที่ Montreal แสดงผลว่า สาหร่ายสามารถจับของเสียจาก รังสีที่สะสมในร่างกายสาหร่ายจะช่วยดูดซึมคลื่นรังสี ต่าง ๆ จากคลื่นวิทยุ คลื่นโทรศัพท์ คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า และคลื่นไมโครเวฟทั้งหลายได้ และสามารถจับกับพวกโลหะ หนักได้ด้วย นอกจากนี้ยังเต็มไปด้วยโปรตีนและเกลือแร่ ในปริมาณมาก
มะนาว สุดยอดอาหารที่ช่วยทำความสะอาดตับ มีวิตามินซีสูง น้ำมะนาวสดเมื่อนำมาผสมกับน้ำอุ่นแล้วดื่ม ตอนเช้าจะช่วยล้างพิษ และทำให้เลือดสะอาดขึ้น แต่ถ้านำ น้ำมะนาวสดผสมกับโยเกิร์ตและน้ำผึ้ง ก็จะเป็นอาหารที่ ช่วยล้างพิษในลำไส้และป้องกันอาการท้องผูกได้อีกด้วย
พืชตระกูลถั่ว (เช่น ถั่วแดง ถั่วเขียว ถั่วเหลือง และถั่วขาว) พืชตระกูลถั่วนี้ประกอบด้วยไฟเบอร์สูง จาก การศึกษาพบว่า ผู้ที่กินถั่วเป็นประจำมีระดับคอเลสเตอรอล น้อยกว่าผู้ที่ไม่ได้กิน และลดอัตราความเสี่ยงต่อการเกิด โรคหัวใจ ลดการสะสมของสารพิษในลำไส้ และช่วยควบคุม ระดับน้ำตาลในเลือดให้คงที่
ขึ้นฉ่าย ช่วยในการทำความสะอาดเลือดและช่วย ลดความดันโลหิต ถ้าจะให้ดีควรดื่มน้ำคั้นจากขึ้นฉ่ายสดตอน เช้า เพื่อช่วยควบคุมระดับแรงดันเลือดให้คงที่ ในขึ้นฉ่าย ยังประกอบไปด้วยสารต้านการเกิดมะเร็งและสารที่ช่วยขับ ของเสียจากบุหรี่ในคนที่สูบบุหรี่หรือผู้ที่ได้รับควันบุหรี่
แครอท เต็มไปด้วยสารอัลฟาและเบตาแคโรทีนซึ่ง เป็นส่วนหนึ่งของวิตามินเอ และถือว่าเป็นสารต้านอนุมูล อิสระที่ดีเยี่ยม ช่วยปกป้องร่างกายจากสารพิษจากสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะระบบทางเดินประสาท สายตา ผิวหนัง ที่ต้อง สัมผัสแสงแดดเป็นประจำ
มะเขือพวง เป็นผักที่เต็มไปด้วยไฟเบอร์ ซึ่ง สามารถช่วยดูดซึมไขมันในอาหาร โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วย จับไขมันอิ่มตัว (ไขมันอันตราย) และขับออกจากร่างกายโดย ระบบขับถ่าย ทั้งยังมีวิตามินซีและสารต้านอนุมูลอิสระสูง จึงช่วยกำจัดของเสียออกจากระบบทางเดินอาหารได้เร็วขึ้น

อดอาหารล้างพิษ

วิธีนี้หากใครคิดจะทำ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อความ ปลอดภัยก่อนค่ะ วิธีการนี้ทางการแพทย์เชื่อว่า มนุษย์เราจะ สามารถสะสมพลังงานในรูปไขมันไว้เพียงพอต่อการอด อาหารประมาณ 1-2 วัน ข้อดีคือ จะช่วยลดการทำงานของ อวัยวะภายใน อย่างกระเพาะไม่ต้องย่อยอาหาร ลำไส้ไม่ต้อง ดูดซึม ซึ่งเขายังเชื่ออีกว่า การที่อวัยวะส่วนใดทำงานมากไปจะทำให้เกิดการสร้างสารพิษนั้นก็คือ มะเร็ง ซึ่งวิธีนี้ทำได้โดยการกินผลไม้ (ตามที่กล่าวมาข้างต้น) หรือน้ำผลไม้ ตลอดทั้งวันก่อน แล้วจึงค่อยอดในวันต่อมา ขอเตือนก่อนว่า ควรให้แพทย์ตรวจร่ายกายก่อนและในวันที่อดอาหาร ไม่ควร เป็นวันที่จะต้องใช้แรงกายหรือพลังในการทำงานใด ๆ

สวนลำไส้ล้างพิษ

หรือเรียกว่า ดีท็อกซ์ ซึ่งเป็นวิธีที่หลายคนลังเลที่ จะทำ เพราะวิธีการนั้นหากใครไม่ชำนาญจริง ๆ อาจก่อให้ เกิดอันตรายได้ ดังนั้น หากใครที่เพิ่งเริ่ม ควรอยู่ในความ ดูแลของผู้ที่มีความชำนาญหรือแพทย์โดยเฉพาะ ซึ่งใน ปัจจุบันการสวนล้างพิษยังทำได้หลากหลายวิธีอีกด้วย
การสวนลำไส้ใหญ่ระดับบน เป็นการสวนด้วยน้ำอุ่น จะสวนด้วยเครื่องสวนลำไส้ที่ชื่อว่า colontheraphy ที่ ปัจจุบันมีบริการตามโรงพยาบาลหลายแห่ง ใช้เวลาทำ ประมาณ 30-40 นาที ควรทำประมาณปีละ 4-5 ครั้ง วิธีนี้ จะช่วยทำความสะอาดตลอดทั้งลำไส้เพื่อล้างอุจจาระ ที่ตกค้าง หรือเมือกที่เป็นอาหารบูดเน่าเกาะอยู่ตามผนังลำไส้ การสวนด้วยกาแฟ วิธีนี้ทำได้ง่าย ไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องมือ เหมือนที่ทางโรงพยาบาลมี สามารถหาซื้ออุปกรณ์ทำเองที่ บ้านได้ เชื่อว่าจะช่วยชำระอุจจาระที่ค้างในลำไส้ และฤทธิ์ กาแฟจะซึมเข้าทางผนังลำไส้ เส้นเลือดและตับ ช่วยให้ตับ สะอาดกลับมาทำงานได้ดีขึ้น

ล้างพิษให้ร่างกายแล้วอย่าลืมล้างพิษที่ใจด้วย

คนที่ฝึกสมาธิได้ระดับหนึ่งร่างกายจะหลั่งสาร เอนดอร์ฟินหรือสารแห่งความสุขออกมา และเมื่อร่างกาย สงบ เกิดสมาธิ หัวใจจะเต้นช้าลง ความเครียดจะค่อย ๆ หายไป เพราะลมหายใจเริ่มยาวขึ้น เมื่อฝึกควบคุม ลมหายใจได้ทำให้ปอดขยาย ร่างกายก็สามารถปรับ ออกซิเจนได้มากขึ้น เกิดกระบวนการเผาผลาญไขมัน ลดการอักเสบในระบบภูมิคุ้มกัน ร่างกายจะสร้างเม็ดเลือด ขาวที่เป็นภูมิคุ้มกันของร่างกายได้มากขึ้น และทำให้คลื่น สมองเป็นระเบียบ ช่วยให้มีความจำดีขึ้น ผลสุดท้าย เมื่อ สุขภาพจิตดี สุขภาพกายก็จะดีตามไปด้วยไงคะ



ที่มา ... กุลสตรี

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น