21 พ.ค. 2554
6 ทางด่วน ชวนได้โรคจากโรงพยาบาล
พูดถึงเรื่องผ่าตัดก็น่ากลัวพออยู่แล้ว แต่ผู้อ่านรู้หรือไม่ว่า หลังผ่านมีดหมอ เสร็จสิ้นการผ่าตัดแล้ว แผลที่เกิดยังมีโอกาสเสี่ยงติดเชื้อโรคยามเมื่อท่านนอนพักฟื้นอยู่ในโรงพยาบาลอีกด้วย
เรื่องนี้ นพ.กฤษดา ศิรามพุช ผู้อำนวยการศูนย์เวชศาสตร์อายุรวัฒน์นานาชาติ เตือนว่ามี
6 ช่องทาง หรือ 6 ทวาร เป้าหมายของเชื้อโรคร้ายนำความเจ็บป่วยมาเพิ่มให้...
เมื่อช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา คุณพ่อของผมต้องเข้ารับการผ่าตัดลำไส้ที่โรงพยาบาลจุฬา เพื่อกำจัดหนองที่อยู่ในจุดลึกในหมดไป ซึ่งในการผ่าตัดนี้ผมก็ได้คอยดูแลช่วยทำแผลให้พ่อในภายหลัง แผลผ่าตัดที่กว้างทำให้พ่อลุกนั่งไม่สะดวกเพราะเจ็บระบมต้องให้ยาแก้ปวดก่อนทำแผล...สงสารพ่อจับหัวใจ
ตอนทำแผลไปก็ให้ระวังอย่างที่สุดเพราะหลังผ่าตัดมีสิทธิ์ติดเชื้อได้อีกโดยเฉพาะผ่านทางทวารต่างๆของร่างกาย ไหนจะทางเลือดที่มีสายน้ำเกลือคาอยู่ ท่อปัสสาวะที่ต้องคาสายสวนไว้และในหลอดลมที่พ่อต้องคอยขากเสมหะออก เลยอยากนำมาบอกเล่าให้ท่านที่รักฟังกันว่าทางด่วนชวนติดเชื้อหลังผ่าตัดมีดังนี้ครับ...
'หลอดลม' ระดมจัดหนักเข้าปอดได้ถือเป็นจุดอ่อนให้เชื้อเข้ามาเป็นอย่างดี แค่นอนมากเกินไปหลังผ่าตัดจนเสมหะไปคั่งในปอดหรือแค่สำลักน้ำก็ทำให้ปอดอักเสบติดเชื้อรุนแรงได้ ในยามพักฟื้นหลังผ่าตัดจึงต้องถือว่าเป็นช่วงวิกฤตที่ต้องคอยให้ลุกขึ้นมาไอขับเสมหะครับ
'โพรงไซนัส' เป็นแหล่งซ่อนของการติดเชื้อได้เหมือนกัน สิ่งสำคัญจึงต้องห้ามการเยี่ยมด้วยดอกไม้สดที่จะมีละอองเรณูและละอองเชื้อราปนอยู่ นอกจากนั้นการใส่ท่อยางให้อาหารทางจมูกก็ถือว่าเป็นทางด่วนให้เชื้อขึ้นไปได้เหมือนกัน
' หลอดเลือด' ดูเป็นเรื่องเข้าถึงยากแต่หากมีแผลกดทับจากการนอนนานเกิดขึ้น การเจาะเลือดบ่อยๆ หรือเอาเข็มแทงเส้นคาไว้ในเส้นเลือดดำใหญ่ที่คอ ก็เป็นแหล่งของการติดเชื้อผ่านกระแสเลือดเข้าไปทั่วร่างกายได้ อันตรายอยู่ที่อาจช็อคจากโลหิตเป็นพิษ(Septicemia)ได้ครับ
'หลอดอาหาร' เป็นทางผ่านของอาหารและแน่นอนเชื้อที่มากับอาหารด้วย คนไข้หลังผ่าตัดควรได้รับอาหารอ่อนที่ไม่บูดง่าย พวกเข้านม,เนยหรือกะทิควรเลี่ยงไว้ก่อน รวมถึงผักผลไม้สดที่อาจปนเปื้อนเชื้อจากดินและฝุ่นที่ผิว
'ทวารหนัก' แม้เป็นช่องขับถ่ายของเสียแต่ยามติดเชื้อขึ้นมาก็ลามยาวขึ้นไปถึงช่องท้องได้ มักเกิดจากแผลกดทับ(Pressure sore)จากพักฟื้นอยู่นาน ต้องระวังเรื่องการขับถ่ายให้ดีเพราะเชื้อที่มีมักเป็นเชื้อในอุจจาระส่วนใหญ่
'ท่อปัสสาวะ' หลังผ่าตัดบางรายอาจต้องคาสายสวนปัสสาวะไว้ทำให้เป็นแหล่งเรียกเชื้อเข้ามา นอกจากนั้นเมื่อถอดออกใหม่ก็ยังไม่ชินต้องค่อยฝึกเบ่งปัสสาวะกันอีกครั้งเหมือนเมื่อยังเด็ก เทคนิกป้องกันคือให้ดื่มน้ำเยอะเข้าไว้ให้ล้างท่อปัสสาวะและถ้าไม่มีข้อบ่งชี้แล้วอย่าคาสายสวนไว้นาน
จะเห็นว่าทุกทางล้วนแต่เป็นเส้นทางธรรมดาแต่ทว่ายามผ่าตัดแล้วมันจะกลายเป็น “ทางด่วนอันตราย” ได้ง่ายๆ ไหนจะร่างกายที่กะปลกกะเปลี้ยอยู่แล้ว อีกทั้งสายระโยงระยางที่ประดังกันเข้ามาเพื่อช่วยรักษาอีก
มากสายก็มากโรค เพราะของทางการแพทย์เหล่านี้แม้จะมีการฆ่าเชื้อสเตอไรส์เป็นอย่างดีแต่ถ้าทิ้งไว้นานก็เป็นบ้านของเชื้อโรคได้เหมือนกัน มันมีหลักอยู่ข้อหนึ่งว่าถ้ามีรูเปิดที่ใดในร่างกายเราก็อาจเป็นประตูเข้าให้เชื้อโรคได้หมด ดังนั้นถ้าเมื่อใดที่หมดข้อบ่งชี้ของการใส่ท่อคอ,ท่ออาหาร,ท่อเลือด,ท่อฉี่และอีกสารพัดท่อแล้วก็ขอให้ถอดออกเถิดครับ.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น