เมื่อโน้ตบุ๊ค (notebook) ตัวเก่ง (หรือตัวเก่า) ของคุณ เริ่มทำงานช้าลง ซึ่งคุณผู้อ่านอาจจะสังเกตได้จากการโหลดหน้าเว็บที่ช้าลง รอวิดีโอตั้งนานกว่าจะเริ่มเล่น ตลอดจนความเชื่องช้าของการทำงานส่วนอื่นๆ ทั่วไปจนคุณรู้สึกได้ น่าเสียดายที่ผู้ใช้โน้ตบุ๊คหลายรายในแต่ละปี เลือกใช้วิธีเปลียนแบตเตอรี่ โดยไม่เคยได้ทำให้แบตเตอรี่ฟิตปั๋งเหมือนวันแรกๆ เลยสักครั้ง ทั้งๆ ที่ความจริง มันเป็นกิจกรรมที่ควรทำทุกเดือน โดยเฉพาะหากต้องการให้โน้ตบุ๊คทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ ลองทำตามขั้นตอนต่อไปนี้ดูครับ
-ชาร์จแบตเตอรี่ของโน้ตบุ๊คจนเต็ม 100%
-เมื่อแบตฯเต็มแล้วถอดปลั๊ก จากนั้นใช้งานเครื่องจนแบตเตอรี่เกือบจะหมด จัดเก็บงานเอกสารที่แก้ไข ปิดบราวเซอร์เว็บ และโปรแกรมต่างๆ ให้หมด แล้วปล่อยให้โน้ตบุ๊คชัตดาวน์ไปเอง (Hibernate Mode) แบตฯจะเหลือประมาณ 5% - 10%
-ทิ้งไว้อย่างนั้นเป็นเวลา 5 - 6 ชั่วโมง หรือหนึ่งคืน ซึ่งแบตฯจะมีการคายประจุไฟฟ้าจนเกือบจะสมบูรณ์ เพื่อการชาร์จแบตฯครั้งต่อไปจะได้เหมือนกับเป็นการชาร์จครั้งแรกๆ
-จากนั้นเปิดเครื่องแล้วชาร์จแบตฯจนเต็ม 100% แล้วค่อยนำไปใช้
-ทำขั้นตอนทั้งหมดนี้ เดือนละครั้ง หรือทุกๆ การชาร์จแบตฯ 30 ครั้ง
การดูแลแบตเตอรี่ หรือ Calibration เป็นขั้นตอนสำคัญที่ผู้ใช้ส่วนใหญ่จะละเลย การฟิตแบตฯด้วยขั้นตอนข้างต้นทุกเดือน มันก็น่าจะทำให้ได้ผลลัพธ์ของประสิทธิภาพการทำงานที่ดีที่สุดอยู่เสมอ หากคุณทำเป็นปกติ คุณจะสังเกตเห็นว่า แบตเตอรี่ของโน้ตบุ๊คใช้งานได้นานขึ้น แถมยังช่วยยืดอายุใช้งานแบตฯ ไม่ต้องเปลี่ยนอันใหม่ในระยะเวลาอันสั้นอีกด้วย
ข้อมูลเพิ่มเติม: แบตเตอรี่ Lithium-ion จะไม่ต้องการให้มีการ"ดิสชาร์จ"จนหมด โดยเฉพาะการใช้งานจนแบตฯเหลือต่ำกว่า 10% ทุกครั้งแล้วค่อยชาร์จ ซึ่งอาจทำให้แบตฯเสื่อมเร็วกว่าเวลาอันควร แต่สำหรับการทำ Calibration ที่แนะนำข้างต้น จะทำแค่ครั้งเดียวต่อเดือน (หรือทุกๆ 30 ครั้งของการชาร์จแบตฯ) สำหรับการใชั้งานทั่วไป เมื่อแบตเตอรี่เหลือไฟประมาณ 30% - 40% ก็ควรชาร์จได้แล้ว นอกจากนี้ ความร้อนของโน้ตบุ๊ค หรือแหล่งความร้อนภายนอก อย่างเช่น ทิ้งโน้ตบุ๊คไว้กลางแดด ก็ส่งผลต่อแบตฯเสื่อมเร็วขึ้นได้อีกด้วย หากคุณผู้อ่านไม่ต้องการทำ Calibration ให้หลีกเลี่ยงการเสียบปลั๊กโน้ตบุ๊คนานเกินกว่า 8 ชั่วโมง เนื่องจากคุณสมบัติของแบตฯ Lithium-ion จะใช้ได้นาน เมื่อมีการชาร์จ และดิสชาร์จตามความเหมาะสม หากต้องทิ้งโน้ตบุ๊คไว้โดยไม่ใช้นานเกินกว่า 1 สัปดาห์ ควรมั่นใจว่า มีแบตเตอรี่เหลืออยู่อย่างน้อย 40%
โดย กองบรรณาธิการเว็บไซต์ ARiP.co.th
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น