26 ก.ค. 2554

เมื่อเกิดอาการอาหารเป็นพิษควรทำอย่างไร


เมื่อเกิดอาการอาหารเป็นพิษควรทำอย่างไร

"อาหารเป็นพิษ" คือ อาการท้องเดินเนื่องจากการกินอาหารที่มีสารพิษปนเปื้อนเข้าไปอาจเป็นสารพิษ ที่มาจากเชื้อโรค สารเคมี หรือพืชพิษ รวมถึงอาหารที่ปรุงสุกๆ ดิบๆ จากเนื้อสัตว์ที่ปนเปื้อนเชื้อ อาหารกระป๋อง อาหารทะเล หรืออาหารค้างคืนที่ไม่ได้อุ่นก็ทำให้เป็นโรคนี้ได้เช่นกันค่ะ

อาการที่สังเกตเห็นอย่างเด่นชัด คือ จะ มีอาการท้องร่วง คลื่นไส้ และอาการปวดท้องอันเนื่องมาจากเชื้อโรค ทำให้เกิดการอักเสบของลำไส้ อาจมีไข้ ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยตามเนื้อตัวตามมาด้วย แต่ถ้าคุณมีอาการท้องเสียมากๆ ร่างกายจะเกิดอาการขาดน้ำและเกลือแร่ บางคนอาจมีอาการรุนแรงมากขึ้นเนื่องจากมีการติดเชื้อและเกิดการอักเสบที่ อวัยวะต่างๆ ของร่างกาย และเมื่อเชื้อเข้าสู่กระแสโลหิตก็ทำให้เกิดโลหิตเป็นพิษได้ แต่ถ้าพิษนั้นเกิดจากสารเคมีหรือพืชพิษบางชนิดจะมีผลต่อระบบประสาท เช่น ชัก หมดสติ และร้ายแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้เลย

เมื่อเกิดอาการอาหารเป็นพิษควรทำอย่างไร....รักษาแบบอาการท้องเดินทั่วๆไป เช่น

- ถ้าคุณท้องเสียมากเกินไปควรดื่มน้ำเกลือแร่เพื่อทดแทนการสูญเสียน้ำของร่างกาย

- ถ้ามีอาการทางระบบประสาท (เช่น ชัก หมดสติ) หรือสงสัยว่าจะเกิดจากยาฆ่าแมลงหรือสารพิษอื่นๆ ควรรีบนำส่งโรงพยาบาลโดยด่วน

- ถ้าท้องเสีย อย่ากินยาหยุดถ่ายนะคะ อาการท้องร่วงส่วนใหญ่มักจะหายได้เองเพราะการขับถ่ายเป็นกลไกธรรมชาติของ ร่างกายที่จะต้องขับของเสียออกจากร่างกายอยู่แล้วค่ะ

5 วิธีรับมืออาหารเป็นพิษ

1. การล้างมือให้สะอาดทุกครั้งก่อนปรุงและกินอาหาร

2. ดื่มน้ำสะอาดหรือน้ำต้มสุกทุกครั้ง

3. อย่านึกเสียดายอาหารที่เหลือจากเมื่อวานเลยค่ะ ยิ่งเป็นพวกที่มีกะทิด้วยแล้วยิ่งเสียง่ายมาก

4. ล้างผักและผลไม้ด้วยน้ำไหล ถ้าแช่ด่างทับทิมได้จะดีมากเลย (ควรแช่ทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที แล้วล้างด้วยน้ำสะอาดอีกครั้ง)

5. ไม่ควรทิ้งเนื้อสดๆ ไว้นอกตู้เย็น เพราะอุณหภูมิที่ร้อนจะเร่งให้แบคทีเรียเจริญเติบโตได้อย่างรวดเร็ว

แค่วิธีง่ายๆ เพียงเท่านี้ ก็ทำให้คุณสามารถรับมือกับอาหารเป็นพิษได้อย่างสบายๆ แล้วล่ะค่ะ หรือถ้าคนรักคนสนิทกำลังเจออาการป่วยอาหารเป็นพิษก็แนะนำต่อได้นะคะ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น