ปวดท้อง (โรงพยาบาลพญาไท)
อาการปวดท้อง เป็นหนึ่งในอาการยอดฮิตที่หลาย ๆ คนเป็น บางคนปวดท้องอยู่เป็นประจำ แต่ก็ไม่ได้ใส่ใจเพราะมักคิดว่า อาการปวดท้อง เป็นแล้วเดี๋ยวก็คงจะหายไปเอง แต่รู้ไหมว่า อาการปวดท้องบางอย่าง ก็เป็นสัญญาณเตือนภัยที่ร่างกายกำลังบอกคุณว่า ควรจะไปพบแพทย์ได้แล้ว เช่นนั้นแล้ว มาดูกันดีกว่าว่า อาการปวดท้องบอกโรคอะไรได้บ้าง แล้วคุณควรจะไปพบแพทย์เมื่อไหร่
สาเหตุของอาการปวดท้อง
ปวดท้องเกิดได้จากหลายสาเหตุ อาการอาจเป็นแค่ปวดเล็กน้อย หรือปวดมากและรุนแรงมากได้ อาการปวดมักจะไม่จำเพาะเจาะจง อวัยวะในช่องท้องอาจมีหลายอย่าง อาการปวดท้องอาจสัมพันธ์กับอวัยวะโดยตรง เช่น กระเพาะปัสสาวะ รังไข่ โดยทั่วไปอาการปวดท้องเกิดจากอวัยวะในระบบทางเดินอาหาร ยกตัวอย่างเช่น ไส้ติ่งอักเสบ ท้องเสีย อาหารเป็นพิษ เป็นต้น ลักษณะของอาการปวดท้องและตำแหน่งที่ปวด สามารถช่วยในการวินิจฉัยได้ เช่นเดียวกับความรุนแรงของอาการปวดท้อง และช่วงเวลาที่เกิดอาการปวดท้อง
ลักษณะอาการปวดท้อง
อาจมีลักษณะปวดเสียด ปวดตื้อ ๆ ปวดบิด บางครั้งปวดไม่กี่วินาทีแล้วก็หายปวด หรือปวดท้องชนิดไม่หายสักที บางครั้งปวดท้องแล้วอาเจียน หลังจากได้อาเจียนอาจรู้สึกดีขึ้นบ้าง
สาเหตุที่ทำให้ปวดท้อง อาจแบ่งเป็นชนิดเฉียบพลันและชนิดเรื้อรัง โรคที่คนส่วนใหญ่กลัว ได้แก่ ไส้ติ่งอักเสบ ถุงน้ำดีอักเสบ โรคแผลในกระเพาะอาหาร ภาวะการติดเชื้อ และอาการที่เกิดจากการตั้งครรภ์
โรคบางอย่างที่อาจต้องคำนึงถึงด้วย
ได้แก่ โรคของหลอดเลือดขนาดใหญ่ในช่องท้อง อาการหัวใจวายเฉียบพลันและตับอักเสบ นิ่วในไต รวมทั้งโรคของลำไส้บางชนิด อาการปวดท้องอาจจะไม่ได้เกิดจากอวัยวะในช่องท้องเท่านั้น โรคหัวใจและปอดอักเสบอาจก่อให้เกิดอาการปวดท้องที่รุนแรงได้เช่นกัน ในเพศหญิงต้องนึกถึงสาเหตุจากอวัยวะในอุ้งเชิงกรานด้วย ผู้ป่วยที่เป็นโรคงูสวัดที่บริเวณท้องจะมีอาการปวดท้องที่รุนแรง โดยที่อวัยวะภายในไม่ได้มีความผิดปกติแต่อย่างใด และประสบการณ์สุดท้ายอาการเป็นพิษบางอย่างทำให้เกิดอาการปวดท้องได้ เช่น แมลงกัด สัตว์ต่อย
โดยเฉลี่ยแล้วประมาณครึ่งหนึ่งของผู้ป่วยที่มีอาการปวดท้อง จะตรวจพบสาเหตุที่ชัดเจน ในขณะที่อีกครึ่งหนึ่งที่มักจะตรวจไม่พบสาเหตุ และอาการอาจทุเลาน้อยลงไป โดยยังไม่ทราบแน่ชัดว่าปวดท้องจากสาเหตุอะไร แต่ถ้ายังคงมีอาการปวดท้องอยู่ ส่วนใหญ่จะพบสาเหตุในเวลาอีกไม่นานต่อมา
อาการปวดท้องที่ควรไปพบแพทย์
1.ปวดนานมากกว่า 6 ชั่วโมงแล้วอาการเป็นมากขึ้น
2.ปวดจนทานอาหารไม่ได้
3.ปวดท้องและอาเจียนอย่างมาก มากกว่า 3-4 ครั้ง
4.อาการปวดท้องเป็นมากขึ้นเมื่อขยับตัว
5.ปวดท้องที่บริเวณท้องน้อยด้านขวา
6.อาการปวดท้องรุนแรงจนทำให้นอนไม่ได้
7.อาการปวดร่วมกับเลือดออกจากช่องคลอด
8.มีไข้ร่วมด้วย
คำแนะนำสำหรับการปฏิบัติตัวของผู้ปวดท้อง
1.รับประทานยาตามแพทย์สั่ง
2.รับประทานอาหารที่ย่อยง่าย งดนม อาหารรสจัด น้ำผลไม้
3.ถ้ายังมีอาการต่อไปนี้ คือ คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้องน้อยด้านขวามากขึ้น หลังทานยาแก้ปวดไปแล้ว 2 ชม. ให้รีบกลับมาพบแพทย์ทันที
4.โปรดกลับไปโรงพยาบาลเพื่อตรวจตามที่แพทย์นัด
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น