นพ.โอภาส นวสิริพงศ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านประสาทวิทยา รพ.บำรุงราษฎร์ กล่าวไว้ในงาน Brain Explorer รวมทุกเรื่องน่ารู้เกี่ยวกับสมอง ว่า บางคนเกิดอาการชาเพราะจัดวางท่าทางไม่เหมาะสมระหว่างใช้ชีวิตประจำวัน ส่งผลให้เส้นประสาทถูกกดทับ
อย่างเช่น
การชาที่นิ้วชี้ กลาง และนาง เพราะใช้หรือออกแรงมือมาก จนเกิดพังผืดข้อมือทับเส้นประสาท พบมากในผู้ที่ใช้คอมพิวเตอร์บ่อย คนที่เล่นกีฬาประเภทกอล์ฟ เทนนิส และแบดมินตัน
อาการชาที่นิ้วก้อย เกิดจากเส้นประสาทบริเวณรักแร้ที่ยาวไปถึงนิ้วก้อย สาเหตุจากงอและเกร็งข้อศอกเพื่อถือหูโทรศัพท์เป็นเวลานาน
ส่วนการชาที่ต้นขาและรู้สึกปวดแสบปวดร้อน เป็นเพราะมีน้ำหนักตัวมาก หรือไม่ก็ชอบรัดเข็มขัดแน่นจนเกินพอดี ส่งผลให้เส้นประสาททำงานลำบาก เนื่องจากถูกอัดแน่นติดกับไขมัน
ชาที่ขาและข้อพับ จากการนั่งพับเพียบหรือนั่งไขว้ขวานาน ทำให้เท้าตก ยกเท้าไม่ขึ้น เพราะเส้นประสาทถูกกดทับไว้กับพื้นและเข่า
ชาที่ต้นขาและไปที่เข่า จะเกิดกับผู้หญิงที่สวมรองเท้าส้นสูงเป็นเวลานาน ทำให้ปลายเท้าและปลายนิ้วถูกกดทับจนเส้นประสาทอักเสบ
และถ้าอาการชาที่เริ่มเกิดขึ้นจากปลายเท้า ฝ่าเท้า ปลายนิ้ว ลามขึ้นไปที่ข้อเท้า เข่า และลำตัว เป็นอาการที่เกิดกับนักดื่ม เนื่องจากฤทธิ์แอลกอฮอล์จะเข้าไปทำลายเส้น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น