19 พ.ค. 2551

~* อันดับเศรษฐีโลก มาแล้ว *~

3คนไทยติดกลุ่ม"บิล เกตส์"ตกชั้น
"บิล เกตส์" แชมป์เก่า 13 ปีคนรวยที่สุดในโลกจากการจัดอันดับประจำปีของนิตยสารฟอร์บส์ ถูกรองแชมป์เศรษฐีหุ้นวัย 77 ปีชาวอเมริกัน "วอร์เรน บัฟเฟต์" เบียดเข้าป้ายคนรวยที่สุดในโลกไปครองด้วยมูลค่าทรัพย์สิน 1.9 ล้านล้านบาท ตามมาด้วยเจ้าพ่อธุรกิจโทรคมนาคมจากเม็กซิโก "คาร์ลอส สลิม เฮลู" ทรัพย์สิน 1.89 ล้านล้านบาท และ เจ้าพ่อไมโครซอฟต์ร่วงลงมาอยู่อันดับสาม ขณะที่คนรวยทั่วโลกเพิ่มขึ้นมากโดยเฉพาะจากอินเดียและจีน ขณะที่เศรษฐีของไทยก็ยังติดอันดับโลก 3 คนด้วยกัน "เจ้าพ่อกระทิงแดง-เบียร์ช้าง-เจ้าสัวซีพี"

สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากนครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 6 มี.ค. ว่า นิตยสารฟอร์บส์ซึ่งเป็นนิตยสารที่ทรงอิทธิพลด้านการเงินของสหรัฐ ได้จัดอันดับบุคคลระดับอภิมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในโลกประจำปีนี้โดยระบุว่า บุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในโลกเป็นอันดับ หนึ่งนั้น ได้มีการเปลี่ยนมือจากแชมป์ 13 ปี นายบิล เกตส์ มาเป็นอภิมหาเศรษฐีโลกคนใหม่ชาวอเมริกัน คือ นายวอร์เรน บัฟเฟต์ วัย 77 ปี ซึ่งเคยอยู่อันดับสองมาตลอดนั้น ได้ก้าวขึ้นมาเป็นแชมป์คนรวยที่สุดในโลกคนใหม่ด้วยมูลค่าทรัพย์สินจาก 52,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือ 1.6 ล้านล้านบาทของปีที่แล้ว เพิ่มขึ้นมาเป็น 62,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 1.9 ล้านล้านบาท อันเป็นผลมาจากหุ้นบริษัทเบิร์กไชร์ แฮธาเวย์ ของเขานั้นมีราคาพุ่งสูงขึ้น

สำหรับอันดับสองเป็นของนายคาร์ลอส สลิม เฮลู นักธุรกิจด้านโทรคมนาคมผู้มั่งคั่งจากประเทศเม็กซิโก ด้วยมูลค่าทรัพย์สินเพิ่มขึ้นจาก 49,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐของปีที่แล้วเพิ่มขึ้นมาเป็น 60,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 1.89 ล้านล้านบาท อันดับที่สามเป็นของแชมป์เก่า นายบิล เกตส์ ประธานบริษัทไมโครซอฟต์ ด้วยมูลค่าทรัพย์สิน 58,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

ที่เหลือก็มีอันดับสี่ นายลักษมี มิต ตาล จากอินเดีย ทรัพย์สิน 45,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากธุรกิจเหล็กกล้า อันดับห้า นายมูเกช อัมบานี จากอินเดีย ทรัพย์สิน 43,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากธุรกิจปิโตรเคมี อันดับหก นายอานิล อัมบานี จากอินเดีย ทรัพย์สิน 42,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากธุรกิจหลายประเภท อันดับเจ็ด นายอิงฟาร์ แคมปาร์ด จากสวีเดน ทรัพย์สิน 31,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ อันดับแปด นาย เค.พี. ซิงห์ จากอินเดีย ทรัพย์สิน 30,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ อันดับเก้า นายโอเลก เดริปาสก้า จากรัสเซีย ทรัพย์สิน 28,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และอันดับสิบ นายคาร์ล อัลเบรชต์ จากเยอรมนี ทรัพย์สิน 27,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

การจัดอันดับอภิมหาเศรษฐีโลกประจำ ปีนี้มีผู้ติดอันดับเข้ามามากถึง 1,125 คน มาก กว่าปีที่แล้วซึ่งมี 946 คน โดยมีเศรษฐีจากสหรัฐอเมริกาเข้ามามากที่สุดเป็นอันดับหนึ่งจำนวน 469 คน ตามมาด้วยรัสเซีย 87 คน และอันดับสามจากประเทศอินเดียจำนวน 53 คน ซึ่งในจำนวนนี้มีถึง 4 คนที่ติดอยู่ใน 10 อันดับโลก ตามมาด้วย จีน 42 คน ตุรกี 35 คน ฮ่องกง 26 คน และญี่ปุ่น 24 คน

สำหรับอภิมหาเศรษฐีที่มีอายุน้อยที่สุดในโลกตกเป็นของนายมาร์ก ซัคเกอร์เบิร์ก วัย 23 ปี ชาวอเมริกันและอดีตนักศึกษาจากมหา วิทยาลัยฮาร์วาร์ด ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ เฟซบุ๊ก เครือข่ายสังคมออนไลน์ชื่อดัง ด้วยมูลค่าทรัพย์สินประมาณ 1,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่วนเมืองที่มีอภิมหาเศรษฐีอยู่มากที่สุดคือ กรุงมอสโกของรัสเซีย มี 74 คน ตามมาด้วยอันดับสอง นคร นิวยอร์กของสหรัฐ 71 คน และกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ 36 คน

ผลของการจัดอันดับยังพบอีกว่า ภูมิภาค เอเชียมีจำนวนอภิมหาเศรษฐีเพิ่มขึ้นร้อยละ 30 ซึ่งส่วนใหญ่มาจากอินเดียและจีน แต่ถ้ารวมภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกเข้าไปด้วยก็จะมีเศรษฐีจากออสเตรเลียติดอันดับเข้ามาด้วย 14 คน เกาหลีใต้ 12 คน มาเลเซีย 8 คน ไต้หวัน 7 คน อินโดนีเซียกับสิงคโปร์ 5 คนเท่ากัน ไทย 3 คน และฟิลิปปินส์ 2 คน

ในส่วนของประเทศไทยซึ่งติดอันดับ 3 คนนั้น ได้แก่ นายเฉลียว อยู่วิทยา เจ้าของธุรกิจเครื่องดื่มบำรุงกำลังยี่ห้อกระทิงแดง รวยที่สุด โดย อยู่ในอันดับที่ 260 ของโลก ด้วยมูลค่า ทรัพย์สิน 4,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 126,000 ล้านบาท รองลงมาคือ นายเจริญ สิริวัฒนภักดี เจ้าของบริษัทเบียร์ช้าง รวยสุดเป็นอันดับที่ 307 ของโลก ด้วยมูลค่าทรัพย์สิน 3,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 110,000 ล้านบาท และ นายธนินท์ เจียรวนนท์ เจ้าสัวซีพี รวยสุดเป็น อันดับที่ 897 ด้วยมูลค่าทรัพย์สิน 1,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 41,000 ล้านบาท.

ไม่มีความคิดเห็น: