โดย : นพ.กฤษดา ศิรามพุช, พบ.(จุฬาฯ)
แพทย์อายุรวัฒน์มีคำแนะนำ สำหรับคนที่ชอบทำงานพร้อมกันในขณะเดียวที่เรียกว่า Multitasking ลองแกล้งทำตัวช้าๆ แล้วดูความเปลี่ยนแปลงที่ตามมา
อากาศยิ่งร้อนจัดผมยิ่งคิดถึงคอนเส็ปต์ “ชีวิตช้า” หรือสโลว์ไลฟ์ตามสไตล์ที่ทั่วโลกกำลังนิยมกัน แม้ว่ามันจะดูเหมือนไม่ทันใจแต่สำหรับคนที่ชอบทำงานพร้อมกันในขณะเดียวที่เรียกว่า “Multitasking” การทำตัวให้ช้าลงจะช่วยได้มาก
ขณะที่เรากำลัง “ร้อนใจ”
แต่ถ้าค่อยทำค่อยคิดเอาจิตมาจ่ออยู่กับของตรงหน้าเพียงอย่างเดียวก็จะช่วยทำให้สมองได้ตั้งหลักและพักคิดได้
พูดง่ายๆ ว่าลองแกล้งทำตัวช้าดูก่อนแล้วมันจะช่วยให้ใจข้างในเย็นได้
เพราะกิจกรรมที่เราทำในแต่ละวันนั้นมันสร้างความเสื่อมให้กับองคาพยพทั้งหลายในกายไม่มากก็น้อย แม้เราจะว่ามันเป็นความสุขที่ได้ทำหลายอย่างแบบไม่อยู่นิ่ง
แต่ร่างกายอาจสะสมความเครียดแฝงไว้ในตัว แล้วอวัยวะใดบ้างเล่าที่เข้าข่าย “ไปก่อนกำหนด” เช่นนี้ เราไปดูพร้อมๆ กันครับ
อวัยวะรับเสี่ยง
ก่อนอื่นอยากให้ท่านที่รักมองอวัยวะแต่ละส่วนของเรา เหมือนกับสิ่งมีชีวิตหนึ่งเพียงแต่มันไม่สามารถยืนอยู่ได้ด้วยตัวมันคนเดียวเท่านั้น เมื่อหนึ่งอวัยวะคือหนึ่งชีวิตจึงไม่ผิดแปลกอะไรที่บางอันจะเสื่อมไปก่อนวัยเพราะงานที่มันทำนั้นต่างกัน เช่น
สมอง ต้องใช้อยู่ตลอดเวลาแม้ตอนนอนหลับ ก็อาจเกิดตะกรันแก่สะสมได้ หัวใจ ที่ไม่ได้พักผ่อนเลยและเริ่มเต้นตั้งแต่ยังอยู่ในท้องแม่ด้วยซ้ำ ตับ ที่ต้องรับยา,อาหาร,สารเคมีจรต่างๆที่เราใส่ผ่านเข้าปากลงมา
แล้วก็ยังมีอีกหลายภาคส่วนที่พร้อมจะร้องอุทธรณ์ของบ เอ๊ย...ขอความสนใจดูแลหาเวลาผ่อนเบาให้มันบ้าง โดยข้อเสนอที่อวัยวะเหล่านี้พร้อมจะยื่นให้ท่านก็คือ ถ้าไม่หยุดใช้แบบไม่ปรานีปราศัยก็จะขอสไตรค์หยุดทำงานตลอดกาล ซึ่งเป็นข้อเสนอที่ควรต้องพิจารณาอย่างเร่งด่วนสุดซึ่งอวัยวะที่จะเริ่มงอแงตั้งแต่เรายังอายุน้อยๆ ถือเป็นพื้นที่เสี่ยงของการ “แก่ก่อนวัย” มีดังต่อไปนี้ครับ
อวัยวะเสี่ยงโดนเต็มๆ จังๆ
สมอง อารมณ์ที่ขึ้นลงรุนแรง, ครอบครัวที่กดดันและการดื่มอัลกอฮอล์จะทำให้ก้อนเนื้อสมองฝ่อก่อนวัยได้ ทำให้เคมีสมองแปรปรวนกลายเป็นโรคซึมเศร้า, ย้ำคิดย้ำทำ, นอนไม่หลับ แล้วที่สุดก็ได้สมองเสื่อมมานอนกอดเล่นตั้งแต่ยังไม่เข้าวัยทองวัยแพลตตินั่ม
มีแถมไว้อีกหน่อยคือการกระเทือนสมองบ่อยๆ ก็ทำให้โกร๊ทฮอร์โมนไม่หลั่งได้นะครับ เช่นการเบรกรถกะทันหันอันทำให้คอสะบัดไปมาหน้า-หลังอย่างรวดเร็วอาจทำให้ก้อนมันหัวเรากลิ้งครูดไปโดนเปลือกกะโหลกเกิดเลือดตกข้างในได้
ลูกตา ท่องไว้ 3 อย่างที่ควรเลี่ยงคือ แดด,ลมและฝุ่น เพราะจะเรียก “ต้อเนื้อ” ให้มาเกิดเร็วได้ นอกจากนั้นการเพ่งดูหน้าคอมพิวเตอร์แช่นานข้ามวันคืนก็ทำให้ปวดกล้ามเนื้อรอบลูกตาลามไปถึงปวดศีรษะได้ด้วย
จมูก อย่าเอานิ้วล้วงแคะให้บ่อยนักเพราะในช่องจมูกนั้นเป็นที่สะดวกรับเชื้อทำให้ตัวป่วยมากทีเดียว ในเด็กที่แคะบ่อยก็จะป่วยเป็นหวัดจามฟุดฟิดได้บ่อยจนเลือดกำเดาไหล
ช่องปาก แค่แปรงฟันให้สะอาดใช้ไหมคอยขัดอยู่ทุกวันท่านว่าจะทำให้อายุยืนได้อีกถึง 7 ปี แต่ถ้าปล่อยให้เป็นโรคฟัน,โรคเหงือกอยู่ไม่รู้หายก็จะทำให้ป่วยง่ายเป็นได้ถึงโรคหัวใจและหลอดเลือดสมองได้ครับ
มือ เป็นตัวรวมเชื้อจะป่วยจะเจ็บบ่อยก็จากมือนี่เองครับ แค่ตัดเล็บให้สั้นเข้าแล้วเอามือไปล้างสะอาดบ่อยๆก็ช่วยให้ไกลเชื้อได้เยอะแล้วครับ
คอ เป็นเสมือนชุมทางแห่งเส้นประสาท ถ้าเลี่ยงได้อย่าไปผ่าตัดให้มากเรื่องทีเดียวเพราะจะเหมือนเอามือลงไปกวนในกองด้ายทีเดียวจะเกิดเรื่องยุ่งตามมาได้มาก
ผิวหนัง ใช้บอกโรคได้ถ้าวันไหนผิวหมองไปแสดงว่าอาจมีความผิดปกติในกายไปจนถึงฮอร์โมนแปรปรวน และในท่านที่ผิวผ่องใสอมชมพูก็อาจไม่ได้เกิดจากเสริมสวยเสมอไปแต่มาจากความ “ใส” ในใจด้วย
เยื่อบุหลอดเลือด ได้แชมป์อวัยวะใหญ่สุดในกายไปแทนหนังหุ้มตัวแล้วเพราะถ้ากางออกมาจะได้พอกับสนามเทนนิสใหญ่หลายสนาม ถ้าหลอดเลือดป่วยไปจะทำให้เกิดโรคความดันสูง,เส้นเลือดตัน,โรคหัวใจได้
การมีพื้นที่เสี่ยงอันตรายหลายจุดไม่ใช่เรื่องน่าหงุดหงิดแต่อย่างใดครับ ตรงข้ามมันช่วยรายงานให้เราได้เห็นความผิดปกติแต่เนิ่นๆ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น