21 พ.ค. 2554
สาว ๆ ชอบไดเอ็ต ระวังไตอักเสบ
ไตอักเสบเกิดขึ้นได้กับวัยรุ่นหรือหนุ่ม ๆ สาว ๆ ที่ไดเอ็ต กลั้นปัสสาวะบ่อย ดื่มน้ำน้อยเกินไป หรือมีโรคบางอย่าง เช่น SLE ต่อมทอนซิลอักเสบ
นางแบบสาวแมรี่-เคต โอลเซ่น เคยเข้าโรงพยาบาลที่นิวยอร์ก เนื่องจากไตอักเสบ ซึ่งเป็นไปได้ว่าเกิดจากการที่เธออดอาหารลดความอ้วนมานานจนขาดสารอาหาร ส่งผลให้ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ และก่อให้เกิดการติดเชื้อในไต เช่นเดียวกับดาราสาว ลินด์ซีย์ โลแฮน ก็เคยประสบกับไตอักเสบจากการไดเอ็ตมาแล้ว จึงเป็นข้อเตือนใจให้แก่สาว ๆ ที่นิยมอดอาหารลดน้ำหนัก สาว ๆ ที่ไม่ค่อยดื่มน้ำ หรือกลั้นปัสสาวะบ่อย ๆ ก็จะส่งผลให้เกิดการติดเชื้อที่กระเพาะปัสสาวะ และส่งผลให้กรวยไตอักเสบได้
ไต...สำคัญไฉน
ไตเป็นอวัยวะที่มีสองข้าง ทำหน้าที่หลัก ๆ ก็คือกรองของเสีย ปรับน้ำ ปรับความสมดุลของร่างกาย และขับของเสียส่วนใหญ่ที่เกิดจากการย่อยสลายโปรตีน นอกจากนี้ ไตยังทำงานคล้ายกับต่อมไร้ท่อที่หลั่งฮอร์โมนอีกหลายตัว
ไตอักเสบจากการติดเชื้อ
จะมีอาการปัสสาวะแสบขัด ปัสสาวะบ่อย และกะปริดกะปรอย ซึ่งสาเหตุมาจากกระเพาะปัสสาวะ แต่บางคนการอักเสบจากการติดเชื้อก็ทำให้ไตวายได้ ถ้าติดเชื้อแบคทีเรียก็จะเป็นแบบเฉียบพลันอาจไม่ได้เริ่มจากกระเพาะปัสสาวะ แต่มีอาการไข้ หนาวสั่น และปวดเอว หรือบางคนมีนิ่วแล้วมีทางเดินปัสสาวะผิดปกติก็จะทำให้ติดเชื้อเฉียบพลันที่ไตได้ โดยจะมีอาการไข้สูง หนาวสั่น หรือผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่องก็อาจเป็นไตอักเสบแบบเฉียบพลันได้เช่นกัน
ไตอักเสบจากการไม่ติดเชื้อ
จะมีอาการบวม ตาบวม หน้าบวม แขนขาบวม เพราะมีน้ำขังอยู่ เนื่องจากไตขับน้ำไม่ออก ทำงานแปรปรวน ปัสสาวะเป็นฟอง หรืออาจมีเลือดปนกับปัสสาวะ คือ มีสีชาหรือสีน้ำล้างเนื้อ มีความดันสูงเฉียบพลัน ตรวจพบโดยการเจาะเลือด ตรวจปัสสาวะ ทั้งนี้ไตอักเสบที่ไม่ได้ติดเชื้อมีหลายกรณี ต้องวินิจฉัยโดยการเจาะไต ผู้ที่เสี่ยงไตอักเสบ เช่นเป็นโรค SLE โรคเบาหวาน หรือเกิดจากการที่ร่างกายตอบสนองต่อสิ่งที่เรากินเข้าไป หรือสูดดมเข้าไป ก็จะเกิดปฏิกิริยาทางด้านระบบภูมิคุ้มกัน ทำให้มีการอักเสบของเนื้อเยื่อแล้วลงที่ไตเช่น ต่อมทอนซิลเป็นหนองแล้วไม่ได้กินยารักษาให้ครบ
รักษาอย่างไรเมื่อไตอักเสบ
ต้องรักษาด้วยยาปฏิชีวนะ หากรักษาไม่หายขาดหรือเป็น ๆ หาย ๆ ก็จะทำให้กรวยไตอักเสบเรื้อรังจนกระทั่งไตวายได้ ดังนั้น เมื่อแพทย์สั่งจ่ายยาปฏิชีวนะให้ ก็ควรกินยาให้ครบตามแพทย์สั่ง อย่าหยุดยาเอง เพราะจะทำให้เชื้อโรคดื้อยา ซึ่งจะส่งผลให้รักษาไม่หายขาด ที่สำคัญคือควรไปพบแพทย์ตามนัด
ทำอย่างไรให้ไตทำงานดี
การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอนอกจากจะช่วยให้สุขภาพดีแล้ว ยังช่วยให้มีการหลั่งฮอร์โมนแห่งความสุขและช่วยกระตุ้นให้เลือดที่ไตไหลเวียนดี
การออกกำลังกายวันละ 15 นาทีทุกวัน จะช่วยลดความเสี่ยงโรเบาหวาน และปกป้องไต
ควบคุมน้ำหนักตัว เพราะยิ่งอ้วนก็จะทำให้อวัยวะต่าง ๆ ทำงานหนักในการขจัดพิษ
ไม่สูบบุหรี่ เพราะนอกจากจะทำลายผิว ไม่ดีต่อหัวใจและเส้นเลือดแล้ว ยังเป็นอันตรายต่อไตด้วย
การป้องกันไตอักเสบ
กินผักผลไม้ให้ได้วันละ 5 กำมือ เพื่อให้ไตได้รับวิตามินอย่างเพียงพอ หากหิวเล็กน้อยระหว่างวันก็กินสาลี่หนึ่งผล หรือสลัดจานเล็ก ก็จะช่วยบำรุงไตได้
กินโปรตีนน้อยลง การกินโปรตีนมากเกินไปจะทำให้ไตทำงานหนักในการขับออก จึงควรกินโปรตีนจากสัตว์ประมาณวันละไม่เกิน 100 กรัม แต่กินข้าวหรือก๋วยเตี๋ยววันละประมาณ 500 กรัม ข้อแนะนำก็คือ ไม่กินเนื้อสัตว์ 2 ครั้งต่อสัปดาห์
หากมีอาการไตอักเสบ ก็ควรนอนหลับพักผ่อนร่วมกับการรักษาทางการแพทย์ การป้องกันการอักเสบที่ไม่รุนแรงของไต ก็อย่างเช่น ดื่มน้ำผสมน้ำส้มสายชูแอปเปิ้ลหนึ่งช้อนชาทุกวัน เพื่อช่วยรักษาน้ำปัสสาวะให้สมดุล
กินอาหารรสเค็มให้น้อยลง เพราะจะทำให้ไตทำงานหนัก
ดื่มน้ำประมาณ 1-2 ลิตรต่อวัน
ความเครียดและการกินอาหารผิดสุขลักษณะก่อให้เกิดกรดในร่างกายมากเกินไป มีอาการอ่อนเพลียเรื้อรัง กระดูกพรุน และเมื่อร่างกายต้องขจัดกรดที่มากเกิน ก็มีผลเสียกับไต
หากรู้สึกว่ากระเพาะปัสสาวะเริ่มอักเสบก็ควรดื่มน้ำให้มาก ๆ เพื่อขับเชื้อโรคออก แต่หากเป็นมากก็ควรไปพบแพทย์ และกินยาตามแพทย์สั่งให้ครบ
หากเป็นต่อมทอนซิลอักเสบ หรือแผลพุพอง ควรกินยาปฏิชีวนะตามแพทย์สั่งให้ครบ เพื่อป้องกันโรคแทรกซ้อนที่กรวยไต
ข้อแนะนำ จาก พญ.นภิสวดี ว่องชวณิชย์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคไต จากบำรุงราษฎร์อินเตอร์เนชั่นแนลคลินิก
การป้องกัน คือวิธีที่ดีที่สุด ควรตรวจเช็กร่างกายเป็นประจำทุกปี ไม่กินโปรตีนมาก ยกเว้นนักกีฬายกน้ำหนักและเด็กในวัยเจริญเติบโต และควรกินอาหารที่มีวิตามินและแร่ธาตุทุกวัน เช่น ผักและผลไม้ นอกจากนี้ ก็ควรดื่มน้ำให้เพียงพอในแต่ละวัน และไม่ควรกลั้นปัสสาวะ เพื่อป้องกันกระเพาะปัสสาวะอักเสบ ซึ่งจะส่งผลให้กรวยไตอักเสบได้
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น