17 ส.ค. 2554

Apple cider vinegar (แอปเปิ้ลไซเดอร์)

apple cider organic

น้ำส้มสายชูหมักจาก แอปเปิ้ล ออร์แกนิค ซึ่งไม่ได้ผ่านกระบวนการใช้ความร้อนและการกรอง จึงยังคงเอนไซน์ และแร่ธาตุ จากธรรมชาติอย่างครบถ้วน น้ำส้มสายชูนี้เป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางในทางวิทยศาสตร์ว่าเป็นหนึ่งในอาหารธรรมชาติที่ดีที่สุดสำหรับสุขภาพและชีวิตที่ยืนยาว
น้ำส้มสายชูหมักที่ได้จะมีลักษณะเป็นสีน้ำตาลและเมื่อส่องกับแสง จะสังเกตเห็น เส้นใยบางๆ ที่เรียกว่า "Mother" ตามปกติ "Mother" จะอยู่ที่ก้นขวดและจะมีมากขึ้นตามอายุดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องเก็บในตู้เย็น

ประโยชน์
ช่วยชลอความแก่
ช่วยปรับสมดุลใและกำจักพิษในร่างกาย
ช่วยในการนำไปใช้ของแคลเซียม
ช่วยปรับสมดุลน้ำหนัก
ช่วยปรับระดับกรด-ด่างในร่างกายให้อยู่ในระดับที่สมดุล
ช่วยในเรื่องของการขับถ่ายให้เป็นปกติ
ช่วยบรรเทาอาการปวดข้อ และเกาต์
ช่วยกำจัดนิ่วในไต และนิ่วในถุงน้ำดี

วิธีการใช้ ผสม ACV กับน้ำผึ้งออร์แกนิค อย่างละ 2 ช้อนช้า ในน้ำ 1 แก้ว ดื่ม 2 หรือ 3 เวลาต่อวัน
เหมาะในการดื่มเป็นเครื่องดื่มแก้วแรกหลังตื่นนอน และ 1ซม. ก่อนอาหารเที่ยงและเย็น

ประโยชน์ ช่วยย่อยอาหาร
วิธีการใช้ ผสมน้ำ1 ช้อนโต๊ะ กับ ACV 1/3 ช้อนชา และทานก่อนอาหาร 5 นาที โดยอมไว้ในปาก 3-5 วินาทีก่อนกลืน

ประโยชน์ ช่วยรักษาอาการเจ็บคอ คันคอ
วิธีการใช้ ผสม ACV 1 ช้อนโต๊ะกับน้ำ 1/2 แก้ว กลั้วคอทุกๆ ครึ่งชั่วโมง

ประโยชน์ ช่วยกำจัดไขมันส่วนเกิน และปวดตามข้อ
วิธีการใช้ ผสมน้ำมันมะกอกบริสุทธิ์ 1 ส่วนกับ ACV 2 ส่วน แล้วนวดกดบริเวณที่ต้องการลดอย่างน้อย 3 ครั้งต่อสัปดาห์

ประโยชน์ ช่วยรักษาสภาพผิว
วิธีการใช้ นำ ACV และน้ำผสมในอัตราส่วนเท่ากัน แช่ในตู้เย็น นำมาใช้เช็ดหน้าและแปะไว้บนหน้า เพื่อปิดรูขุมขน

ประโยชน์ ช่วยป้องกันอาการผมแห้ง หนังศรีษะมัน ผมร่วง และรังแค
วิธีการใช้ ใช้ล้างผมหลังสระ โดยผสม ACV 1/3 ถ้วย กับน้ำ 1 ถ้วย

ประโยชน์ ช่วยในการรักษาโรคไซนัส ปวดหัวและเป็นไข้
วิธีการใช้ ผสม ACV 2 ช้อนโต๊ะกับน้ำ 1 ถ้วย ในกระทะแล้วต้มให้เดือด เมื่อเริ่มมีไอระเหยให้ปิดไฟ แล้วนำผ้ามาคลุมศรีษะและก้มหน้าใกล้กระทะเพื่อสูดหายใจเข้าลึกๆ


1.น้ำผึ้งแท้-- ในน้ำผึ้งจะมีฮอร์โมนธรรมชาติคล้ายฮอร์โมนเพศหญิง ช่วยทำให้ผิวเต่งตึง เนื่องจากสารที่คล้ายฮอร์โมนนี้จะไปกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจน
ทำให้ริ้วรอยลดลงนั่นเองค่ะ และในน้ำผึ้งยังมีสารอาหารต่างๆเช่นวิตามินและแร่ธาตุมากมายที่ช่วยทำให้เซลล์ผิวเปล่งปลั่งขึ้น โดยเฉพาะ กรดอะมิโนที่ชื่อว่า ซีสเทอีน
กรดอะมิโนตัวนี้ มีฤทธิ์ในการทำให้เม็ดสีเมลานินในผิวหนังสร้างได้น้อยลงค่ะ นี่เองจึงเป็นสาเหตุให้บางท่านนำน้ำผึ้งไปพอกหน้าแล้วหน้าขาวขึ้น ในอาหารเสริมที่กินเพื่อให้ผิวขาวขึ้นก็มีสารตัวนี้ผสมลงไปค่ะ
(ทำงานร่วมกับ กลูทาไธโอน) ในเครื่องสำอาง ก็มีครีมหลายยี่ห้อ ที่ผสมกรดอะมิโนตัวนี้ลงไปค่ะ

2.น้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิ้ล---(Apple Cider Vinegar) ขอเรียกสั้นๆว่าน้ำส้มแอปเปิ้ล นะคะ ในน้ำส้มแอปเปิ้ลนี้ มีเอนไซม์ที่ช่วยล้างพิษได้ดีมาก
พร้อมทั้งแร่ธาตุสารอาหารต่างๆมากมายอย่างอุดม นักธรรมชาติบำบัดนิยมใช้ผสมน้ำดื่มหลังตื่นนอนตอนเช้า เพื่อล้างพิษค่ะ
สังเกตว่าเดี๋ยวนี้จะมีผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางสกินแคร์ที่บอกว่าผสมเอนไซม์ที่ดูแลรักษาผิวได้ อันนี้ก็จริงค่ะ แต่อาจจะสิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายของคุณไม่ใช่น้อยๆ
อีกทั้งเอนไซม์เมื่อไปอยู่ในเครื่องสำอางอาจเสื่อมสภาพได้เนื่องจาก เอนไซม์จะคงสภาพดีก็ต่อเมื่ออยู่ในค่าPHที่เหมาะสมและ อุณหภูมิที่เหมาะสม
บางทีหากทำสกินแคร์ใดๆที่ผสมเอนไซม์ เราไม่สามารถรู้ได้เลยว่า ปฏิกิริยาทางเคมีในอนาคตเมื่อใช้ๆไป เอนไซม์จะเสื่อมลงหรือไม่ ทำให้อาจใช้สินค้านั้นๆไม่ได้ผลค่ะ
และอาจแพ้ได้ในอนาคต แต่ก็มีหลายบริษัทชั้นนำที่สามารถคิดสูตรให้เอนไซม์คงสภาพได้จริง แต่ราคาก็แพงเป็นเงาตามตัว นอกจากนี้ในน้ำส้มแอปเปิ้ลยังมีสาร AHA
ที่อ่อนโยนต่อผิว หากมีการนำมาใช้กับผิว น้ำส้มแอปเปิ้ลจะมีพร้อมทั้งสารอาหารต่างๆ เอนไซม์บำบัด และ กรดAHA จึงช่วยบำรุง ล้างพิษ และผลัดเซลล์ผิว ได้ดีเยี่ยม

วิธีทำ
1.นำน้ำผึ้งแท้มาผสมกับน้ำส้มแอปเปิ้ล น้ำผึ้ง 5ส่วน น้ำส้มแอปเปิ้ล 1-2ส่วน ทั้งนี้เมื่อผสมแล้วลองเทสต์ที่ท้องแขนดูสัก1ชม.
เพื่อดูว่าผิวเราระคายเคืองหรือไม่ เนื่องจากน้ำส้มแอปเปิ้ลมีค่าPHเป็นกรด ดังนั้นต้องลองเทสต์ดูก่อนว่า ความเข้มข้นเหมาะกับสภาพผิวคุณแค่ไหน

2.นำมาพอกบนผิวหลังอาบน้ำ-ล้างหน้า ใช้ได้ทั้งผิวหน้าและผิวกายค่ะ จะช่วยให้ผิวเนียนใสขึ้นค่ะ ไม่ต้องทำทรีทเม้นท์อะไรเลยค่ะ ผิวจะนุ่มไม่หยาบ
ผิวจะค่อยๆขาวขึ้น ลดจุดด่างดำ และยังลดริ้วรอยได้ค่ะ ต้องใช้เวลาค่ะ ทำทุกวันสม่ำเสมอ พอกวันละ30นาทีค่ะ

3.นำมาพอกหัวนม รักแร้ หัวเข่า ข้อศอก ขาหนีบ ก็จะช่วยลดรอยหมองคล้ำได้ค่ะผิวจะเต่งตึงขึ้นด้วย ไม่ต้องเปลืองเงินซื้อครีมเลย แต่ต้องใช้เวลานะคะ

4.ในน้ำผึ้งมีฮอร์โมนธรรมชาติคล้ายเอสโตรเจนในเพศหญิง ดังนั้นนำมาพอกทรวงอกก็จะช่วยให้เต่งตึงขึ้นได้ค่ะ ต้องใช้เวลาเช่นกันค่ะ

Apple Cider Vinegar หรือ ACV ซึ่งก็คือ น้ำส้มสายชูหมักชนิดหนึ่ง ซึ่งใช้กรรมวิธีหมักหัวเชื้อน้ำส้มกับผลแอปเปิ้ล โดยปกติน้ำส้มที่ได้จะมีความเป็นกรดสูง รสเปรี้ยวจัด
เนื่องจากมีส่วนผสมของกรด Acetic Acid ประมาณ 5 % และให้สีคล้ายน้ำชา ในความจริงถ้าจะพูดถึงแอปเปิ้ลละก็ แทบจะทุกๆชนชาติเลยทีเดียว
ที่มีการใช้ผลไม้ชนิดนี้มาบำรุงสุขภาพให้แข็งแรง ซึ่งในความเป็นจริงนั้น แอปเปิ้ลเองก็เป็นผลไม้ที่อุดมไปด้วยธาตุอาหารต่างๆกว่า 30 ชนิด พร้อมเกลือแร่
และวิตามินมากกว่า 6ชนิด โดยเฉพาะธาตุโพแทสเซียม และเส้นใยเฉพาะ ที่มักพบในแอปเปิ้ลที่เรียกว่า เพ็คติน(Pectin) ซึ่งล้วนแต่ให้ประโยชน์แก่ร่างกายทั้งสิ้น
ดังนั้นเนื่องด้วยประโยชน์มากมายนี้เอง จึงมีการนำสารสกัดในรูปหัวน้ำส้มแอปเปิ้ล เข้ามาใช้ในหลายๆจุดประสงค์ ซึ่งโดยปกตินั้นด้วยความที่หัวน้ำส้มเองก็มีรสเปรี้ยวจัด สูตรการรับประทานส่วนใหญ่จึงนิยมนำมาเจือจางด้วยน้ำสะอาด หรือให้เติมน้ำผึ้ง เพื่อกลบรสชาตินั่นเอง ทีนี้เราลองมาดูซิว่าโดยทั่วไปแล้วเรานำ Apple Cider มาใช้อย่างไรกันบ้าง เริ่มด้วย

ช่วยชะลอความชราและรักษาความเป็นหนุ่มสาว โดยผสม Apple Cider กับ น้ำผึ้ง 1:1 แล้วทาน 15 CC (1 ช้อนโต๊ะ) หลังตื่นนอน และก่อนนอน แล้วดื่มน้ำตาม 1 แก้ว

ลดน้ำหนักและไขมันสะสม เนื่องด้วยเส้นใยเพคตินนั้นเองที่สามารถ ขัดขวางการดูดซึมของไขมันและคลอเรสเตอรอล ที่มาจากกระบวนการย่อยอาหาร รวมทั้งยังเป็นตัวช่วยให้ร่างกายเพิ่มการใช้ไขมันสะสมที่เก็บตามเนื้อเยื่อต่างๆได้ด้วย
โดยทาน Apple Cider 15 CC พร้อมน้ำผึ้ง 30 CC แล้วตามด้วยน้ำ Grape Fruit ที่ไม่หวาน 1 แก้ว ทาน 30 นาทีก่อนอาหารทุกมื้อ

เร่งขจัดสารพิษในกระแสเลือดและอวัยวะภายใน เนื่องจาก Apple Cider มีฤทธ์ในการป้องกันการเกาะตัวของไขมันและสารเมือกต่างๆที่อวัยวะภายในร่างกาย
พร้อมส่งเสริมการทำงานของระบบต่างๆในร่างกายและอวัยวะภายใน เช่น ตับ ไต ถุงน้ำดี ให้เป็นปกติ โดยทาน 10-15 CC.เช้าและก่อนนอน
บำรุงผมและเล็บ โดยทาน 10 CC พร้อมน้ำ 1 แก้วหลังอาหาร 3 เวลา

บางตำรามีการใช้เพื่อแก้ผมแตกปลาย รังแคและอาการคันศีรษะ เนื่องด้วยความเป็นกรดและมีเอนไซม์ธรรมชาติหลายชนิด โดยอาจจะนำไปนวดกับรากผมเบาๆให้ทั่วแล้วทิ้งไว้ 2-3 ช.ม. แล้วสระผมด้วยแชมพูปกติ

ทำให้สดชื่นหลังออกกำลังกายหรือทำงานหนัก โดยดื่ม Apple Cider 15 CC ผสมน้ำผึ้ง 15 CC ละลายน้ำแล้วดื่มทันที จะทำให้รู้สึกสดชื่น กระปรี้กระเปร่าทันที
นอกจากนี้ Apple Cider ยังมีฤทธิ์เป็นสารปฏิชีวนะ ซึ่งสามารถใช้ลดเชื้อในช่องคอหากมีอาการเจ็บคอ โดยนำ Apple Cider 15 CC ผสมน้ำอุ่นแล้วกลั้วคอทุกๆ 1-2 ชม.จะช่วยบรรเทาอาการได้ดี

แต่อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่เป็นผู้ป่วยโรคไต อาจต้องปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ทุกครั้ง


แอปเปิล ไซเดอร์ วีนีการ์ (APPLE CIDER VINEGAR)
VS
น้ำผึ้ง(HONEY BEE)

ส่วนที่ 1 ว่าด้วยแอปเปิล ไซเดอร์ วีนีการ์ (ACV)

ACV คือ น้ำส้มสายชูหมักจากผลแอปเปิล มีคุณสมบัติเป็นกรดสูง รสเปรี้ยวจัด มีส่วนประกอบของกรด 5 % ( 5%Acetic Acid) มีสีเหลืองคล้ายสีชา
มีส่วนประกอบของธาตุโพแทสเซี่ยมสูง ซึ่งธาตุโพแทสเซี่ยมมีคุณสมบัติ ช่วยในการแบ่งเซลล์ ถ้าร่างกายขาดธาตุนี้ ร่างกายจะมีอาการผิดปกติคือ เติบโตช้า แก่เกินวัย ผมร่วง และหงอกเร็ว ฯลฯ
และ ACV ยังประกอบด้วยธาตุอาหารกว่า 30 ชนิด มีวิตามินมากกว่า 6 ชนิด มีกรดอะมิโน และสารเพ็คติน ล้วนแต่เป็นประโยชน์แก่ร่างกายทั้งสิ้น นอกจากนี้ ยังมีคุณสมบัติเป็นยาอีกด้วย
คือเป็นพวก ยาปฏิชีวนะ ยาฆ่าเชื้อ และมีเอนไซม์หลายชนิดรวมอยู่ด้วย

ACV ช่วยร่างกายได้หลายประการ กล่าวคือ

ชะลอความแก่ ช่วยให้เป็นหนุ่มเป็นสาวอยู่เสมอ
ช่วยย่อยอาหาร คือช่วยระบบย่อยอาหาร แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ
ช่วยระบบหายใจ แก้ไซนัส แก้เจ็บคอ แก้หวัด แก้การเกิดเสมหะ
ช่วยลดน้ำหนักได้ดี
ช่วยลดการปวดข้อ
แก้โรคคัน กำจัดรังแค แก้ผมแตกปลาย
ช่วยความจำให้ดีขึ้น
ป้องกันโลหิตจาง
แก้อ่อนเพลีย
ส่วนที่ 2 ว่าด้วยน้ำผึ้ง (HONEY BEE)

น้ำผึ้งเป็นผลิตผลของน้ำหวานจากดอกไม้ แหล่งน้ำหวานอื่นๆ ที่ผึ้งเก็บมา และผ่านการเปลี่ยนแปลงทางเคมีจากเอนไซม์ในต่อมน้ำลายของผึ้งที่ขับออกมา แล้วเปลี่ยนน้ำตาลกลูโคส และฟรุกโตส ให้เป็นน้ำตาลแปรรูป ซึ่งเป็นน้ำตาลเชิงเดี่ยว ได้แก่ น้ำตาลกลูโคส 38.19% และเดกโทรส 31.28 % นอกจากนั้นเป็นน้ำตาลเชิงคู่ และเชิงซ้อนอีก 10% และยังมีแร่ธาตุที่เป็นประโยชน์อีกมากมาย ได้แก่ โพแทสเซี่ยม แคลเซี่ยม โซเดียม ฟอสฟอรัส ซัลเฟอร์ เหล็ก แมงกานีส นอกจากนั้นยังมีพวกน้ำย่อย เช่นเอนไซม์กลูโคออกซิเดส ที่ทำหน้าที่เปลี่ยน น้ำตาลกลูโคส เป็นกรดกลูโคนิค และไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ ซึ่งตัวหลังนี้มีคุณสมบัติยับยั้งและทำลายเชื้อโรคได้ น้ำผึ้งมีวิตามินอยู่หลายชนิด ได้แก่ วิตามิน บี1 วิตามิน บี 2

ไนอาซิน วิตามิน บี 6 แพนโทซินิคแอซิค และวิตามิน ซี ในปริมาณต่างๆกันไป ขึ้นอยู่กับชนิดของดอกไม้ องค์ประกอบสุดท้ายที่มีอยู่ในน้ำผึ้ง คือ น้ำ น้ำผึ้งที่ถูกบ่มโดยสมบรูณ์จะมีน้ำอยู่ประมาณ 17-20 % เท่านั้น

ส่วนที่ 3 ว่าด้วยการใช้แอปเปิล ไซเดอร์ วีนีการ์ ร่วมกับน้ำผึ้ง

เมื่อท่านทราบคุณสมบัติของน้ำแอปเปิล ไซเดอร์ วีนีการ์ และน้ำผึ้งแล้ว ท่านจะใช้ร่วมกัน หรือ ใช้อย่างเดียว ก็ขึ้นอยู่กับว่าท่านต้องการจะใช้เพื่อรักษา หรือป้องกันโรคอะไร ดังนี้

*ช่วยชะลอความแก่ (ให้หนุ่มสาวอยู่เสมอ) นำน้ำผึ้ง 1 ส่วน ACV 1 ส่วน ผสมให้เข้ากันเป็นอย่างดี กินครั้งละ 1 ช้อนโต๊ะ ระยะตื่นนอนใหม่ๆและ ก่อนเข้านอน ควรดื่มน้ำตาม 1 แก้ว

*ช่วยย่อยอาหาร แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ ใช้ ACV อย่างเดียว 2 ช้อนชา ละลายในน้ำดื่ม 1 แก้ว ดื่มทุกครั้ง ขณะรับประทานอาหาร

*แก้ท้องร่วง ท้องเสีย ก่อนทานอาหาร 30 นาที ใช้น้ำผึ้ง 2 ช้อนชา ผสมกับน้ำ ACV 2ช้อนชา ผสมกันแล้วดื่ม

*แก้โรคไขข้ออักเสบ ให้ดื่มน้ำผึ้ง 2 ช้อนชา หรือ 1 ช้อนโต๊ะ ผสมกับ ACV 2 ช้อนชาหรือ 1 ช้อนโต๊ะ ดื่มน้ำตาม 1แก้วทุกครั้งหลังอาหาร

*ช่วยลดน้ำหนักได้ดี ให้ใช้ ACV 1 ช้อนแกง ผสมน้ำผึ้ง 2 ช้อนแกง แล้วผสมน้ำ grape fruit ที่ไม่หวาน 1 แก้ว ดื่ม 30 นาที ก่อนทานอาหารทุกมื้อ

*ช่วยให้ความจำดีขึ้น ให้ใช้ ACV 2 ช้อนชาผสมน้ำผึ้ง 2 ช้อนชา ดื่มน้ำตาม 1 แก้ว ดื่มวันละ 2 ครั้ง ตื่นนอนตอนเช้าและก่อนนอน

*แก้ปลายผมแตกแห้ง กำจัดรังแค หรือคันศรีษะ เนื่องจาก ACV เป็นกรดสูง และมีเอนไซม์ ประกอบด้วยหลายชนิด จึงสามารถรักษามิให้ผิวหนังมีโรครังแค หรือ ผมแห้ง หรือคันศรีษะได้ การรักษา คือ เอาสำลี จุ่มน้ำจนเปียกแล้วจุ่ม ACV แล้วนำไปนวดหนังศรีษะ ให้หมักทิ้งไว้ 2-3 ชั่วโมง(อาจจะใช้หมวกพลาสติกครอบไว้) หลังจากนั้นสระผมด้วยแชมพู หรือ นำเอา ACV ที่อุ่นๆ ไปทาศรีษะให้เปียกจนทั่ว แล้วใช้หมวกพลาสติกคลุมทิ้งไว้ 1 ชั่วโมง แล้วจึงใช้น้ำธรรมดาล้างออก

*แก้เจ็บคอ ใช้ ACV 1 ส่วน และน้ำผึ้ง 1ส่วนผสมให้เข้ากัน แล้วดื่มครั้งละ 1 ช้อนโต๊ะ ทุกๆ 4 ชั่วโมง หรือใช้ ACV อย่างเดียว 1 ช้อนโต๊ะผสมน้ำอุ่น แล้วอมกลั้วคอ ทุก ๆ 1 ชั่วโมง กลั้วในลำคอ ให้ลึก ไปถึงส่วนล่างของลำคอ แต่อย่ากลืนลงไปในกระเพาะ เมื่อการเจ็บคอบรรเทาลง ให้กลั้วคอต่อไปทุก ๆ 2 ชั่วโมง เพราะ ACV ทำหน้าที่เป็นสารปฏิชีวนะ

*แก้อ่อนเพลียและเมื่อยล้า หลังทำงานหนัก หรือหลังจากออกกำลังกาย แนะนำให้ท่านดื่มน้ำผึ้งผสม ACV ท่านจะหายเพลียได้ โดยใช้น้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ ผสมกับ ACV 1ช้อนโต๊ะ ละลายน้ำดื่ม 1 แก้วเต็ม ๆ

*แก้ปวดหัว การปวดหัวที่เกิดขึ้น ส่วนใหญ่เกิดจาก อาหารที่เรารับประทานเป็นด่างมากเกินไป การทาน ACV ที่เป็นกรดอ่อนๆ ลงไป จะช่วยให้อาหารลดความเป็นด่าง คือเป็นกลาง การปวดหัวก็จะหายไป หรือลดบรรเทาอาการปวดหลังลงได้ ทางที่ดี ท่านควรทาน ACV 2 ช้อนชา ผสมกับ น้ำผึ้ง 2 ช้อนชาเต็มๆ ทุกครั้งที่ทานอาหาร

ยังมีอีกมากมายที่น้ำผึ้ง และ ACV ช่วยท่านได้
อนึ่งท่านที่มีปัญหาเกี่ยวกับโรคไต และโรคเบาหวาน ควรพบแพทย์สม่ำเสมอ ถ้าท่านจะทานน้ำผึ้ง หรือ ACV ขอ ให้ปรึกษาแพทย์ก่อน

อัตราส่วน

3 ช้อนชา = 1 ช้อนโต๊ะ
1 ช้อนชา = 5 มิลลิลิตร
1 ช้อนโต๊ะ = 15 มิลลิลิตร
รวบรวมและเรียบเรียง โดยอาจารย์ปรัชญา ธัญญาดี เลขาชมรมคนรักต้นไม้ F.M.97

http://www.trinityradio.com/html/apple_cider_vinegar.html

Apple cider vinegar สามารถลดปริมาณของไขมัน เมือกของเสียในร่างกายและเสมหะ ซึ่งทำให้ร่างกายแข็งแรงและสุขภาพดี เพิ่มความสามารถในการทำงานของ ตับ กระเพาะปัสสาวะ และไต ซึ่งอวัยวะเหล่านี้เป็นส่วนหลักที่ทำหน้าที่ขับสารพิษออกจากร่างกายและทำให้เลือดของเราสะอาด ซึ่งถ้าระบบการทำงานของอวัยวะเหล่านี้ดี นั่นก็หมายถึงว่าสิวที่เราเป็นอยู่ก็มีโอกาสที่จะดีขึ้นได้

Apple cider vinegar ยังช่วยเพิ่มการทำงานของระบบการย่อยอาหาร ดูดซึมสารอาหารและเพิ่มประสิทธิภาพของระบบขับถ่าย น้ำส้มสายชูจากแอปเปิ้ล ประกอบไปด้วย วิตามินซี วิตามินอี วิตามินเอ วิตามินบี 2 และบี 6 วิตามิน P และเบต้า แคโรทีน และความสามารถอีกอย่างของน้ำส้มสายชูจากแอปเปิ้ลคือสามารถฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ยีสต์ เชื้อไวรัส

หลายๆคนที่ผมอ่านเค้ากิน Apple cider vinegar เป็นประจำทุกวัน ช่วยทำให้สิวดีขึ้นได้ ตามความเข้าใจส่วนตัวคิดว่าถ้าระบบภายในของเราดี ก็คงช่วยให้ผิวพรรณเราดีขึ้นด้วย

วิธีการกิน Apple cider vinegar

ผสม Apple cider vinegar 2 ช้อนโต๊ะ กับน้ำผึ้ง 2 ช้อนโต๊ะ กับน้ำหนึ่งแก้ว ดื่มเป็นประจำทุกวัน วันละครั้ง คุณสามารถผสม Apple cider vinegar โดยที่ไม่ต้องผสมน้ำผึ้งก็ได้ แต่ผมว่ากลิ่นมันสุดจะทนครับ ผสมน้ำผึ้งจะรสชาติโอเค เปรี้ยวๆหวานๆ ใส่น้ำแข็งหน่อยก็อร่อยดีเหมือนกัน



วิธีการใช้กับผิว

ACV อุดมไปด้วย AHA (malic acid ซึ่งเป็นกรดผลไม้ชนิดหนึ่งที่ได้จากแอปเปิ้ล) ซึ่งช่วยละลายไขมันบนผิวหน้าและลดการตกสะเก็ดจากรอยแผล ช่วยให้ผิวเนียน นุ่มขึ้น อีกทั้งยังช่วยปรับค่า pH บนหน้าเราให้สมดุล หลายๆคนจึงใช้ ACV มาแทนโทนเนอร์


ประโยชน์ของ ACV เมื่อใช้กับคนเป็นสิวคือ ACV มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ช่วยผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วให้หลุดออก ไม่ไปอุดตันรูขุมขน และละลายไขมันที่อยู่ที่ผิว ช่วยปรับค่า pH ของผิวให้สมดุล

1.เตรียม Apple cider vinegar (ACV) หาซื้อได้ตามซุปเปอร์ ขวดที่เห็นข้างบนนั่นขนาด 946ml. ราคา 155 บาท ACV 1 ส่วนผสมกับน้ำ 8 ส่วน

2.เอาสำลีชุบและเช็ดหน้าหลังล้างหน้าแทนโทนเนอร์

คุณสามารถเพิ่มอัตราส่วนของ ACV เป็น 1:5, 1:3 ได้ถ้าหน้าคุณไม่ระคายเคือง

ประโยชน์ของ Malic Acid ที่อยู่ใน ACV

เป็นกรดผลไม้หรือที่รู้จักกันว่า AHA ชนิดหนึ่งที่ได้จากผลแอปเปิ้ล ออกฤทธิ์ช่วยผลัดเซลล์ผิวและสามารถต่อต้านอนุมูลอิสระ ช่วยให้ความชุ่มชื้นกับผิวและป้องกันการสูญเสียน้ำจากผิว

คะแนนที่ได้จากเวบ http://www.makeupalley.com = 4.2 และเปอร์เซ็นต์กลับมาใช้ซ้ำ 82%

เห็นคะแนนแบบนี้เราก็ต้องสงสัยว่าแล้วจะรู้ได้ยังไงว่าคะแนนเท่านี้โอเคหรือยัง ผมเอาเทียบกับ Aspirin mask นะครับ ของ Aspirin mask = 4.3 และเปอร์เซ็นต์กลับมาใช้ซ้ำ 87%

*** ถ้าใครเป็นโรคกระเพาะไม่ควรทานตอนท้องว่างนะครับ

http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=255club&month=07-2007&date=30&group=6&gblog=4


ตอนนี้ลองดื่ม อัตราส่วน น้ำผึ้ง 1 ส่วน กับ กับ ACV 1 ส่วน หรือ ACV 2 ส่วน ดื่มหลังจากตื่นนอน อยู่ค่ะโดยส่วนตัวไม่ชอบทานหวานค่ะ ใส่น้ำผึ้งให้พอดับกลิ่นฉุนๆ ของ ACV จะได้ดื่มง่ายหน่อย = ชอบค่ะ ทานไม่ยาก และก็อร่อยดี ปกติตื่นเช้าต้องหากาแฟทาน แต่ตอนนี้ หา ACV ทานแทนค่ะ ^^

ตอนนี้มีเวลาก็ชงให้ที่บ้านดื่มด้วยค่ะ มีประโยชน์ จะลองก็ไม่เสียหายเนอะ

*AVC คือ Apple Cider Vinegar


1 ความคิดเห็น:

Pchu กล่าวว่า...

อยากทราบว่า ชงทิ้งไว้ ได้มั้ยคะ อาจชงเช้า แล้วแช่ตุ้เย้น เอามาดื่ม บ่ายๆ จะเสียคุณค่ามั้ย