สาวๆ หลายคนมักมีปัญหากับ "ตกขาว" ซึ่งเจ้าสิ่งนี้ได้สร้างความกังวลใจให้กับพวกเธอ แต่ถามหน่อยซิว่า คุณผู้หญิงรู้จักกับตกขาวดีแล้วหรือยัง
ตกขาว คือ ของเหลวที่ไหลออกมาจากช่องคลอด เป็นของเหลวที่ถูกขับออกจากโพรงมดลูก ปากมดลูก ปากช่องคลอด และเซลล์ของเยื่อบุผนังช่องคลอดที่ตายและหลุดออกมา ซึ่งปริมาณของตกขาวจะขึ้นกับแต่ละคน โดยตกขาวจะมีมากในช่วงไข่ตกในระยะกลางของรอบเดือน นอกจากนั้น ขณะตั้งครรภ์จะพบว่า มีตกขาวมากจนบางครั้งอาจเหนียวหนืด การกระตุ้นทางเพศสัมพันธ์ก็จะมีการหลั่งน้ำออกมาหล่อลื่นมาก หลังจากมีกิจกรรมทางเพศอาจมีตกขาวปริมาณ การใช้ยาคุมกำเนิดทำให้มีตกขาวเพิ่มได้
ความสัมพันธ์ระหว่าง "วัย" กับ "ตกขาว"
- วัยเด็ก มักเกิดจากความสกปรก สุขอนามัยไม่ดี ทำความสะอาดไม่เป็น มีสิ่งแปลกปลอมที่เด็กสอดใส่เข้าไป เช่น กระดาษทิชชู เมล็ดผลไม้
- วัยเจริญพันธ์ มักเกิดจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
- วัยหมดประจำเดือน มักเกิดจากการขาดฮอร์โมน ทำให้ช่อคลอดแห้ง ระคายเคืองง่าย
ตกขาวปกติ
ตามปกติแล้วในสตรีที่อยู่ในวัยเจริญพันธุ์ (ผู้หญิงที่อยู่ในช่วงอายุที่ยังมีประจำเดือน หรือมีฮอร์โมนเพศหญิงเจริญเต็มที่) จะมีการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนแตกต่างกันไปตามระยะของประจำเดือน การเปลี่ยนแปลงนี้ จะมีผลต่อการลักษณะของเหลวที่สร้างขึ้นมาจากอวัยวะต่างๆ ในระบบสืบพันธุ์สตรี เช่น ในช่วงกึ่งกลางรอบประจำเดือนหรือระยะใกล้เคียงกับการตกไข่ ซึ่งเป็นเวลาที่มีฮอร์โมนเอสโตรเจนสูง ทำให้ในช่วงเวลานี้ จะมีตกขาวลักษณะค่อนข้างเหลวใสๆ ปริมาณมากกว่าระยะเวลาอื่น ส่วนตกขาวในระยะเวลาอื่นจะมีสีขาวขุ่นคล้ายแป้งเปียก นอกจากนั้นแล้ว ตกขาวที่ปกติควรจะไม่คัน และไม่มีกลิ่น ถ้าตกขาวมีลักษณะอย่างกล่าวมาถือว่าปกติ ไม่มีความจำเป็นต้องรักษา
อย่างไรก็ตาม สตรีแต่ละท่านจะมีปริมาณตกขาวแตกต่างกันไป บางท่านอาจมีปริมาณตกขาวมากจนเปื้อนชุดชั้นในอยู่หลายวันในแต่ละเดือน แต่สำหรับบางท่านอาจมีปริมาณน้อยจนไม่รู้ว่ามีตกขาวเลย
นอกจากนี้ ฮอร์โมนในสตรีในวัยดังกล่าว ทำให้เซลล์ในช่องคลอดสมบูรณ์ และมีการสร้างสารประเภทแป้งที่เรียกว่าไกลโคเจน ซึ่งจะถูกเปลี่ยนแปลงโดยแบคทีเรียชนิดหนึ่งให้เป็นกรดอ่อน ๆ ภาวะนี้จะช่วยป้องกันการรุกรานจากเชื้อโรคชนิดอื่นที่ก่อให้เกิดความผิดปกติได้
ตกขาวผิดปกติ
1. ตกขาวมีสีเหลืองปนเขียว น้ำตาล หรือปนเลือด
2. มีปัสสาวะแสบขัด
3. คันช่องคลอด
4. เจ็บท้องน้อย
หากมีอาการดังกล่าวควรจะต้องพบแพทย์เพื่อรับการรักษา ไม่ให้เชื้อโรคลุกลามไปยังอวัยวะอื่นๆ ซึ่งสาเหตุของตกขาวผิดปกติอาจเกิดจาก
- เกิดจากการอักเสบภายในหรือมีการติดเชื้อ
- มีสิ่งแปลกปลอมตกค้างในช่องคลอด
- โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
- มีเนื้องอก ซึ่งหากเกิดจากเนื้องอกแล้วมักมีเลือดปนด้วย
- สตรีวัยทอง มีภาวะขาดฮอร์โมน ทำให้ช่องคลอดแห้ง อักเสบง่าย
การรักษา
สำหรับการรักษาตกขาวที่ผิดปกติจะขึ้นอยู่กบเชื้อโรคที่เป็นสาเหตุ โดยแพทย์จะตรวจภายใน และนำตกขาวมาตรวจด้วยกล้องจุลทรรศน์ ซึ่งจะพบลักษณะเฉพาะของการติดเชื้อแต่ละชนิด หรือย้อมสีเพิ่มเติมเพื่อตรวจหาเชื้อ จากนั้น จึงพิจารณาใช้ยาฆ่าเชื้อโรค เพื่อบำบัดรักษาการอักเสบติดเชื้อ ซึ่งยาที่ใช้มีหลายชนิด ทั้งยาสอดช่องคลอด ชนิดรับประทาน หรืออาจใช้ยาทาภายนอกร่วมด้วยตามความเหมาะสม
ดูแลร่างกายตามแบบฉบับหญิงสาว
1. รักษาความสะอาดบริเวณอวัยวะเพศให้สะอาด ไม่จำเป็นต้องสวนล้างช่องคลอดด้วยน้ำยาที่โฆษณามากมาย เพราะอาจเกิดการระคายเคืองและอาจทำลายเชื้อแบคทีเรียในช่องคลอดตามปกติด้วย
2. ในการทำความสะอาดให้เช็ดอวัยวะเพศจากด้านหน้าไปยังด้านหลัง เพื่อป้องกันเชื้อแบคทีเรียจากทวารหนักเข้าสู่ช่องคลอด
3. หลีกเลี่ยงสเปรย์ดับกลิ่นหรือสบู่กลิ่นแรงที่ทำให้ระคายเคือง
4. ควรใส่กางเกงในที่ทำจากผ้าฝ้าย เพราะระบายอากาศได้ดี ไม่อับชื้น
5. กางเกงใน ผ้าเช็คตัว ผ้าถุง ควรซักแล้วตากแดด ไม่ควรตากในร่มหรือในห้องน้ำ
6. หลีกเลี่ยงกางเกงรัดรูป
7. หลีกเลี่ยงการใช้ผ้าอนามัยแบบสอด ถ้าใช้ควรเปลี่ยนบ่อยๆ
8. แนะนำคู่นอนทำความสะอาดมือและอวัยวะเพศก่อนและหลังมีเพศสัมพันธ์
9. รับประทานอาหารที่มีคุณภาพ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ นอนหลับให้เพียงพอ ดื่มน้ำมากๆ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น