20 มิ.ย. 2553
เหงื่อบำบัด
โดย : นพ.กฤษดา ศิรามพุช, พบ.(จุฬาฯ)
การทำงานให้สำเร็จนั้นเป็นเรื่องธรรมดาที่ต้องมีการ“แลก”บ้างก็แลกด้วยกำลังกาย, กำลังใจ หรือแม้แต่กำลังทรัพย์ ซึ่งงานที่ดีจำต้องแลกด้วย"เหงื่อ" เหงื่อ คือ ความสำเร็จ นี่คือกฏตายตัว
แต่กระนั้นก็ดีมันก็ช่างยั่วให้คนที่คิดหาทางลัดพยายามหาช่องทางที่จะ “ได้ง่าย” ที่สุดไม่ว่าจะเป็นทางที่เลวร้ายเพียงใดก็ตาม
คนพวกนี้จะคิดว่านี่คือความชอบธรรม
ทำอย่างไรก็ได้ให้ได้มานี่สิคือธรรม คนที่ไม่ทำเช่นนี้คือคนไม่ฉลาด ซึ่งเขาจะมองอย่างเวทนาด้วยซ้ำ แต่กลับไม่เห็นการกระทำอันเป็น “อธรรม” ที่ตนกำลังกระทำอยู่ ถ้าจะลองดูว่าใครกำลังกระทำสิ่งไรไม่สุจริตใจอยู่นั้นดูได้ง่ายยิ่ง
เพราะคนโกงมักจะคิดว่าคนอื่นรู้ไม่ทันเสมอ
ไม่ว่าจะเป็นการโกงแบบเนียนๆ ตามน้ำหรือแบบโต้งๆ ก็ยังคิดเข้าข้างตัวเองได้ง่ายๆ หนำซ้ำจะคิดด้วยว่าถ้าไม่ทำก็ไม่ได้มา จึงขอใช้วิธีง่ายดีกว่าที่จะต้องอาบเหงื่อต่างน้ำเหมือนคนอื่น
แต่ขอให้ลองดูไปเถิดครับเพราะความสำเร็จใดที่ได้มาง่ายคือความสำเร็จเทียมประเดี๋ยวก็ต้องเปลี่ยนกลายเป็นอากาศธาตุไปไม่ยั่งยืนเหมือนการลงแรงลงใจจนได้มา
สุขภาพก็ไม่อาจดีได้ถ้าไม่ได้เหงื่อเช่นกันครับ
อาบเหงื่อล้างพิษ
ลองสังเกตดูเวลาเหนื่อยหรือเครียดสิครับบนผิวแก้มสองข้างของท่านจะเปล่งไปด้วยเลือดฝาดที่สาดขึ้นมาหล่อเลี้ยงซึ่งไม่ได้เกี่ยวกับเลือดขึ้นหน้าหรือหน้าเลือดแต่อย่างใด
สมัยวัยเด็ก แก้มของเราและเพื่อนบางคนอาจใสกระทั่งเห็นเส้นเลือดฝอยสีแดงบ้างเขียวบ้างบนพื้นผิวนั้น แต่วันหนึ่งตอนไหนก็ไม่รู้เลือดฝาดที่จับอยู่นี้ก็หายไปกลายเป็นแก้มสีเหมือนพื้นผิวธรรมดาอย่างน่าแปลก
นี่คือสัญญาณสุขภาพอย่างหนึ่ง
ที่ใดมีเลือดมาเลี้ยงมากที่นั่นคือที่อยู่ของอวัยวะสำคัญ เมื่อตัวเราโตกันขึ้นมาถึงเพียงนี้แต่กลับขยับกายน้อยลงไม่ได้ช่วยสร้างทางหลวงเส้นเลือดฝอยให้ไปเลี้ยงตามอวัยวะน้อยใหญ่จึงทำให้ตัวเรารู้สึกเหนื่อยล้าเปลี้ยง่ายโรคร้ายก็เข้ามาแทนที่ เพราะเลือดคือส่วนสำคัญที่พา “ออกซิเจน” ไปพิฆาตเชื้อโรคร้ายรวมถึงอณูมะเร็งที่เกิดอยู่ทุกวัน
การออกกำลังนั้นมีหลายแบบแต่ถ้าจะเอาให้ดีเหมาะมากในการชะลอชรานั้นก็คือแบบ “ได้เหงื่อ” ครับซึ่งจะขอเรียกว่าวิธี “เสโทบำบัด(Sweat therapy)” ดังต่อไปนี้
1) วิ่งสลับช่วง โดยให้วิ่งเร็วสลับช้า เช่นวิ่งเร็วเต็มที่ 2 นาทีสลับกับวิ่งเหยาะ 2 นาทีวันละครึ่งชั่วโมงอย่างน้อย 3 ครั้งต่อสัปดาห์
2) เดินสลับช่วง เช่นเดียวกับวิ่งคือเดินเร็ว 2 นาทีสลับกับเดินธรรมดา 2 นาทีโดยมีหัวใจสำคัญคือช่ วงผ่อนนั้นไม่ได้หมายถึงหยุดเดิน ทำให้ได้อย่างน้อย 6 ครั้งต่อสัปดาห์
3) เล่นกีฬาสลับช่วง หากชอบออกกำลังแบบหมู่คณะก็มีกีฬาหลายแบบครับที่ถือว่าได้เหงื่อบำบัดดี เช่น แบดมินตัน, สควอช, บาสเก็ตบอล,ฟุตบอล โดยมีข้อแม้ว่าต้องเก็บลูกเอง (ถือเป็นช่วงผ่อนพอดี)
4) ออกกำลังสลับชนิด เพื่อให้ไม่เบื่อโดยเริ่มจากเบาะๆ อย่างซิทอัพก่อน 15 นาทีแล้วจากนั้นวิ่งอีก 15 นาทีแค่นี้ก็ได้อาบเหงื่อสมใจแล้วครับ
ถ้าแม้นที่ใดมีรักที่นั่นมีทุกข์แล้วในตัวเราถ้าที่ใดมีออกซิเจนที่นั่นเป็นนรกของเชื้อร้ายด้วย เพราะร่างกายจะสร้างขีปนาวุธจากออกซิเจนที่มาเลี้ยงแล้วยิงส่งไปยังเชื้อที่เข้ามาตีต่อ การจะขอออกซิเจนให้ไปเลี้ยงดูเนื้อเยื่อได้มากนั้นมาจากออกกำลังกายเรียกเหงื่อเป็นหลักเลยครับ
สูตรการออกกำลังกายที่อยากฝากไว้ในใจของท่านที่รักก็คือ “แอโรบิก” สไตล์อายุรวัฒน์ดังข้างต้นเป็นหลัก ซึ่งหมายถึงการออกกำลังแบบไหนก็ได้ให้มีเหงื่อซึมหลังนั่งหอบหายใจน้อยๆ โดยไม่ได้หมายว่าแอโรบิกคือต้องเต้นยึกยักอย่างเดียว
จะเป็น ไท้เก็ก,จี้กง,บีบอยหรือแม้แต่เต้นลีลาศก็ถือเป็นแอโรบิกอายุรวัฒน์ได้
หัวใจสำคัญคือออกให้ได้เหงื่อแลกออกมานั่นจึงจะถือว่าได้ของดีคุ้มกัน เพราะการออกกำลังให้ได้เหงื่อมันจะพาธาตุหนุ่มสาวและธาตุบุรุษ(Growth hormone และ Testosterone) ออกมาให้สดชื่นโดยมีข้อแม้ว่าต้องออกให้ได้สม่ำเสมอให้ได้ 3-6 ครั้งต่อสัปดาห์ครับ
ออกให้ได้เหงื่อแล้วจะไม่เบื่อเลยครับ
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น