สังเกตดูดีๆ คนที่ทำงานสาย software developer นั้น
จะเจอเหตุการณ์ซ้ำไปซ้ำมาอยู่ตลอดชีวิตการทำ
งานสายนี้ และต่อไปนี้ขอเชิญอ่าน
เหตุการณ์สุดคลาสสิคของโปรแกรมเมอร์เมอร์เมอร์….(มีเสียงสะท้อน เล็กน้อย)
* โปรเจ็คที่ได้รับมักจะดูเหมือนง่ายในตอนแรก แต่สับสนวุ่นวายในตอนสุดท้าย
* การให้โปรแกรมเมอร์ทำเอกสาร
เปรียบเสมือนเอานาวิกโยธินสหรัฐไปประกวดนางสาวไทย
* ตอนเขียนโปรแกรมเอง Test เอง ไม่เจอ Bug แต่ตอนไป Test
กับลูกค้าเสือกเจอ!!!
* ตอน Test กับลูกค้าเหมือนจะไม่มีบั้กแล้ว พอเริ่มใช้งานระบบจริง แม่ง
เสือกเจอ!!!
* พอโปรแกรมพังตอนใช้งานจริง โปรแกรมเมอร์มักเอ่ยว่า “ตอน Test
ไม่เห็นเป็นเลย” แล้วก็จบด้วยการทำหน้างงๆ แสดงให้เห็นว่า
กูไม่รู้จริงๆนะเว้ย
* ประเมินเวลาของโปรเจ็ค 10 วัน ไม่ใช่การเขียนโปรแกรม 80 ชั่วโมงต่อคน
แต่อาจะเป็น 100ชั่วโมงต่อคน หรือมากกว่านั้น
* Programmer เก่งกาจจะเป็น System Analyst ทำเอกสารได้ห่วยแตก
* Programmer ที่เก่งกาจมันพูดภาษาคนแล้วเข้าใจยาก
* System Analyst ที่ทำเอกสารได้เก่งกาจ มักจะเคยเป็น Programmer
ที่เขียนโปรแกรมได้ห่วยแตกมาก่อน
* ลูกค้าไม่เคยให้ Requirement ครบ
* ลูกค้าคือพระเจ้า
* นอกจากลูกค้าแล้ว Google ก็เป็นพระเจ้าเหมือนกัน
* งาน Coding ไม่เคยเสร็จก่อนกำหนด
* ออกแบบระบบจนเสร็จ แล้วค่อยเขียนโปรแกรม เป็นแค่เรื่องในฝันเท่านั้น
(สำหรับคนไทย)
* คนให้ Requirement จริงๆ มักจะไม่ค่อยอยากได้ระบบ IT หัวหน้ามันนั้นแหละ
อยากได้
* บางที Bug ก็ไม่มีเหตุผล และไม่ต้องการคำจำกัดความ
* Bug ก็เหมือนความรัก มองไม่เห็น แต่รู้สึกถึงมันได้
* ไม่มี OT มีแต่ O-Free
* Project ที่ โปรแกรมเมอร์ปั่นงานจะจนดึกดื่น มักจะมี Bug เยอะ ถึงเยอะมาก
* ลูกค้ามักจะขี้เกียจ Test โปรแกรมของมันเอง
* แต่พอใช้งานจริงแล้วเจอ Bug ชอบมางอแง
* เขียนโปรแกรมช้า ใช่ว่าจะไม่มี Bug
* เขียนโปรแกรมเทพ ใช่ว่าจะไม่มี Bug
* สรุปว่าเขียนยังไงโปรแกรมก็มี Bug
* การแก้ Code ของคนอื่นที่ไม่ใช่ของตัวเองเป็นเรื่องที่น่าปวดกบาลมาก
* Code ยิ่งเทพเท่าไหร่ แก้ Bug ยิ่งยากขึ้นเท่านั้น
* และคนเขียน Code เทพ มักจะโดนสาปแช่งจาก Programmer ที่ต้องมาแก้งานมัน
* ถ้าโปรแกรมช้า เราจะโทษว่า Server ไม่ดี
* System Analyst ที่แก้ Design บ่อยๆ มักจะอ้างกับ Programmer ว่า
“ก็ลูกค้ามันเปลี่ยน”
* System Analyst ที่เพิ่ม Requirement บ่อยๆ มักจะอ้างกับ Programmer ว่า
“ก็ลูกค้ามันขอเพิ่ม”
* Programmer ที่ทำงานไม่ทัน มักจะอ้างว่าประเมินเวลามาน้อยเกินไป
* มีความเชื่อว่า Application ไม่ต้องการความสวยงาม
* Requirement สามารถเปลี่ยน เพิ่ม ได้ตลอดเวลา แต่มันไม่มีทางลดลงแน่นอน
* การเล่น Internet ไร้สาระ คือการผ่อนคลาย
* การเล่น msn คือการผ่อนคลาย
* การเล่น social network เป็นการผ่อนคลาย
* ด่าลูกค้าเป็นความบันเทิง และผ่อนคลาย
* Internet มีทุกอย่างที่โปรแกรมเมอร์ต้องการ
* พิมพ์สัมผัสได้ เป็นผลจาการ Chat อันหนักหน่วง
* มีความเชื่อว่า ถ้าพิมพ์คีย์บอร์ดด้วยความรุนแรง จะดูเท่
* คนส่วนใหญ่เข้าใจว่า โปรแกรมเมอร์ทำได้ทุกอย่างที่เกียวกับ computer
* ดังนั้น โปรแกรมเมอร์เป็นที่พึ่งให้ เพื่อนๆ พ่อ แม่ พี่น้อง อากง อาม่า
เวลามีปัญหากับเทคโนโลยีใหม่ๆ
* ไม่มีโปรแกรมเมอร์คนไหน กลับบ้านตรงเวลาตลอด
* ชีวิตจะบัดซบทุกครั้ง ที่ไฟดับ
* ตอน Present โปรแกรมให้ลูกค้าดู ต้องไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ก่อนทุกครั้ง
* เวลาขี้เกียจแก้งาน โปรแกรมเมอร์จะบอกว่า “Code
ตรงนี้กูไม่ได้เป็นคนเขียนครับ”
* เวลาโปรแกรมมีปัญหา ลูกค้ามักจะบอกว่า “ยังไม่ได้ไปทำอะไรมันเลยนะ
อยู่ๆก็ใช้ไม่ได้”
* โปรแกรมเมอร์ว่างงาน มักง่วงตอนสายๆ หรือบ่ายๆ
* คาเฟอีนคือยาวิเศษ
* การนั่งหลับเวลาง่วงมักไม่ค่อยได้รับความยอมรับจากหัว หน้า
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น