13 ก.ค. 2552

หัวใจเต้นผิดปกติ ... อย่านิ่งเฉย

ใจสั่น ใจหวิว จากหัวใจเต้นผิดปกติ ... อย่านิ่งเฉยอาจเสี่ยงหลอดเลือดสมองอุดตัน

*** แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการรักษาโรคหัวใจเต้นผิดปกติ เตือนผู้ป่วยที่มีอาการใจสั่น ใจหวิว หน้ามืดคล้ายจะเป็นลมอันเกิดจากโรคหัวใจเต้นผิดปกติ อย่านิ่งนอนใจเพราะหากปล่อยไว้ไม่ได้รับการรักษาที่ตรงจุดอย่างถูกวิธีแล้ว อาจเสี่ยงให้เกิดอาการหลอดเลือดในสมองอุดตันและเสียชีวิตได้ในที่สุด

*** ทั้งนี้ ต้นเหตุที่ทำให้เกิดโรคหลอดเลือดสมองอุดตันในผู้ป่วยโรคหัวใจเต้นผิดปกตินั้น เกิดจากโรคหัวใจเต้นผิดจังหวะชนิดหนึ่งที่เรียกว่า AF (Arrhythmia Fibration) เกิดขึ้นในหัวใจห้องบนเต้นด้วยความเร็วมากกว่า 400 ครั้งต่อนาที ทำให้หัวใจห้องล่างเต้นตามด้วยความเร็ว 100 - 200 ครั้งต่อนาที ซึ่งการเต้นของหัวใจห้องบนเป็นการเต้นที่เร็วแต่ไม่มีประสิทธิภาพ หัวใจห้องบนจะบีบตัวได้ไม่ดี ทำให้มีเลือดค้างอยู่ในหัวใจ ส่งผลให้เลือดตกตะกอนเป็นก้อนเล็กๆ อยู่ในหัวใจแล้วอาจหลุดลอยไปอุดตันในหลอดเลือดสมอง ส่งผลให้เกิดอัมพฤต อัมพาตได้ในที่สุด

*** อาการเตือนเบื้องต้นของหลอดเลือดสมองอุดตัน ผู้ป่วยจะมีอาการแขนขาอ่อนแรงครึ่งซีก อาจเป็นข้างซ้ายหรือขวาก็ได้ บางรายมีอาการหน้าชา ลิ้นแข็ง พูดไม่ชัด ตามืดชั่วคราว และบางรายอาจมีอาการชาครึ่งซีกร่วมด้วย ซึ่งปัจจัยเสี่ยงที่จะเพิ่มโอกาสในการเป็นหลอดเลือดสมองอุดตันของผู้ป่วย AF ให้มีมากขึ้นนั้น อาทิ ผู้ป่วยที่มีอายุมากกว่า 75 ปี เป็นเบาหวาน ความดันโลหิตสูง หัวใจล้มเหลว เป็นต้น สิ่งเหล่านี้จะยิ่งเพิ่มความเสี่ยงของโรคมากขึ้นถึง 16 เท่า

*** วิธีการรักษาที่มีอยู่หลายวิธีขึ้นอยู่กับประเภทของหัวใจที่ผิดปกติ เช่น การรักษาด้วยการทานยา ซึ่งเป็นเพียงการควบคุมเท่านั้นไม่สามารถทำให้อาการดังกล่าวหายขาดได้ แต่วิธีการหนึ่งที่ได้รับการพัฒนาขึ้นมาอย่างรวดเร็วและได้รับความนิยมมากคือการใช้คลื่นวิทยุเข้าไปจี้จุดกำเนิดไฟฟ้าส่วนเกินภายในหัวใจให้กลับมาเป็นปกติ ด้วยเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ใช้ในการตรวจวินิจฉัยและรักษา ได้แก่ เครื่องตรวจวิเคราะห์ระบบการนำไฟฟ้าหัวใจ (EP System) และเครื่องค้นหาตำแหน่งของการเกิดวงจรไฟฟ้าภายในหัวใจ (CARTO System)

เมื่อมีจุดกำเนิดไฟฟ้าส่วนเกินมากกว่า 1 จุด ซึ่งอุปกรณ์ทางการแพทย์ทั้ง 2 ชนิดนี้ จะช่วยให้การตรวจวินิจฉัยและรักษาผู้ป่วยโรคหัวใจเต้นผิดปกติทำได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผู้ป่วยหายขาดโดยไม่ต้องทานยาไปตลอดชีวิตและลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดในสมองตีบตันได้อีกทางหนึ่งด้วย

ไม่มีความคิดเห็น: