รักระยะไกล ทำไงให้ยั่งยืน (ไทยรัฐ)
คิดว่าถ้าคนเราอยู่ห่างกัน จะรักกันได้ไหม?
ใครจะตอบว่าได้หรือไม่ได้ก็แล้วแต่พระเดชพระคุณท่านเหอะจ้ะ เพราะอันที่จริงช่างโชคดีเหลือเกินที่ไม่มีคำตอบสุดท้ายของคำถามนี้... ไชโย จริงอยู่ที่ระยะทางสามารถทำให้ความสัมพันธ์ล้มเหลวได้ง่ายเหลือเกิน แต่คิดอีกที “ไกลกัน” ก็สามารถทำให้ความสัมพันธ์ประสบความสำเร็จได้เช่นกัน ทั้งหมดนี้ขึ้นอยู่กับคู่รักคู่กรณีนั่นแหละว่า จะเอาใจใส่ซึ่งกันและกันมากน้อยเพียงใด และมีความเพียร พยายามที่จะทำให้ความสัมพันธ์ราบรื่นอยู่หรือเปล่า? เพราะคุณไม่ได้ใกล้ชิดกันเหมือนเดิมอีกแล้วนี่นา หนำซ้ำยังไม่มีกิจกรรมบนเตียงอย่างว่าซะด้วย เมื่อไม่มีการสัมผัสทางกายที่จะช่วยให้ความสัมพันธ์ ก้าวหน้าก้าวไกลไปกว่าเดิม ดังนั้นถ้าไม่รู้จักถนอมความรู้สึกที่ดีๆต่อกันไว้ หรือไม่มีความแน่วแน่ที่จะสมัครรักใคร่กันต่อไปล่ะก็ “รักในระยะไกล” ก็มีหวังแพ้ความใกล้ชิดน่ะสิยะ
ในความสัมพันธ์ที่ห่างไกลเป็นไปได้หรือไม่? (Are Long-Distance Relationships Possible?) ก็ทำไมจะเป็นไปไม่ได้ล่ะ ในเมื่อโลกมีนักประดิษฐ์ คิดค้นเยอะแยะจนทำให้เทคโนโลยีการสื่อสารมีความก้าวหน้าเด่นล้ำนำยุคออกอย่างนี้ งั้นพิจารณากันดีกว่าว่า ถ้าคุณต้องห่างแฟนที่ต้องไปศึกษาต่อในต่างประเทศ หรือแฟนถูกส่งไปทำงานในต่างจังหวัดหรือดินแดนอันไกลโพ้น จนส่งผลให้หัวใจมันโหวงๆ แบบตัวไกลใจห่างอย่างงี้ แล้วจะลดช่องว่างของความห่างให้แคบลงได้ไง ก็ลองทำตามนี้ดูละกัน แหมยุคนี้น่ะแฟนอยู่ไกลมีตัวอย่างให้เห็นถมถืด แต่อย่าห่วงเลย คุณทั้งคู่ยังสามารถรักกันได้ถ้า...
1. ใช้อีเมลช่วยในการสื่อสารสิจ๊ะ
ยุคไซเบอร์กลายเป็นหนทางใหม่ที่จะพบปะผู้คนได้ง่ายตายชัก เหตุนี้คุณจึงควรใช้ข้อได้เปรียบของการติดต่อสื่อสารผ่านเครื่องคอมพิวเตอร์นี่แหละให้เป็นประโยชน์มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ แล้วจะรู้สึกเหมือนว่าคุณไม่ได้อยู่ห่างจากดาร์ลิ่งแม้แต่นิดเดียว เพราะฉะนั้น ลองใช้อีเมลหลายๆ ครั้งต่อหนึ่งวันดูสิ หรือจะแชทกันเป็นชั่วโมงๆก็ได้ ไม่งั้นจะคุยกันสองต่อสองด้วยแว็บแคม (กล้องที่ใช้ต่อกับคอมพิวเตอร์ เพื่อถ่ายใบหน้าของผู้ส่งสาร) ก็ได้อีก เหล่านี้ล้วนเป็นช่องทางนำไปสู่ความใกล้ชิดกะหวานใจได้อย่างสบายใจเฉิบ หรือแม้แต่จะส่งอีการ์ดที่แสดงว่าคุณกำลังคิดถึงเค้าก็สะดวกรวดเร็วดีออก ขอให้มีการส่งอีเมลถึงกันเหอะ รับรองความรักยังคงอยู่แน่ ถ้าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่เปลี่ยนใจไปซะก่อนนะ
2. ใช้โทรศัพท์ถึงกัน
ทางที่ดี หากอยู่กันคนละขอบฟ้า ควรใช้วิธีนัดแนะกันก่อนดีกว่าว่าเราจะโทรหากันในเวลาไหนดี เพื่อที่ว่าคุณทั้งคู่จะได้เข้าใจตรงกันไง และเมื่อโทรมาแล้วจะได้ไม่เสียเที่ยว แถมยังสามารถเคลียร์คิวมีเวลาว่างที่จะคุยกันจนหนำใจซะด้วย
แต่แอ่น แอ๊น...สัญญาณที่พยากรณ์ล่วงหน้าได้ว่าความพยายามติดต่อกับคนรักทางไกลกำลังล้มเหลว ก็คือ ถ้าอีกฝ่ายไม่ยอมตอบอีเมลของคุณหรือไม่รับโทรศัพท์คุณ และไม่มีคำอธิบายใดๆ แค่นี้ก็เป็นไปได้ว่า อีกฝ่ายไม่สนคุณแฮะ แหม จะไม่ย้อมไม่ยอมก็ไม่ได้ซะด้วย ถ้าเค้าอยากเปลี่ยนใจเราก็เปลี่ยนบ้างเด้
3. เขียนจดหมายถึงบ่อยๆ
แม้อินเทอร์เน็ตและอีเมลคือแขนขาในความสัมพันธ์ที่ห่างไกล แต่ไม่มีอะไรเอาชนะจดหมายที่เขียนด้วยลายมือได้หรอก ดังนั้น อย่ามัวพึ่งแต่อีเมลมากเกินไป ตรงข้าม ควรสร้างความมั่นใจด้วยการส่งจดหมายยาวๆ เล่าเรื่องราวของคุณในแต่ละวันหรือ ส่งการ์ดแสดงความรู้สึกที่คุณมีไปหาเค้าบ้างเหอะ นอกจากนี้ การทำอะไรที่เวอร์ๆ ยังเป็นสิ่งที่สร้างความประทับใจด้วยอีก เช่น ฉีดน้ำหอมใส่ในจดหมายเพื่อให้อีกฝ่ายนึง อยากอ่านและคิดถึงคนส่งพร้อมกันด้วยยิ่งดี
4. ส่งรูปและวิดีโอไปให้
ส่งรูปภาพให้หวานใจที่อยู่ห่างกันในวันสำคัญๆ เช่น รูปที่คุณทั้งคู่เคยหนุงหนิงไปเที่ยวด้วยกัน หรือจะเป็นรูปคุณคนเดียวที่ไปไหนมาไหนลำพังส่งไปให้ดาร์ลิ่งดู เพื่อให้เค้ายิ้มแป้นกับ ท่าทางบ๊องๆ อย่างนี้แล้วเขาจะอดคิดถึงคุณไหวรื้อ
ว่าแต่ รู้เปล่าว่า ความผิดพลาดใหญ่หลวงในการสื่อสารของ “ว่าที่แฟนกัน” นั้นอยู่ตรงไหน? เห็นเวลาคนเราพอชอบใครหรือรักใครเข้าสักคน ไม่รู้เป็นไงชอบแสดงออกแบบเวอร์ๆ แถมยังพร่ำเพรื่อจนเกินเหตุก็มี
ในหนังสือ คนนึงอยากโทรหา แต่อีกฝ่ายไม่อยากเปลี่ยน (She wants a ring and I don't want to change a thing) บอกว่า พวกผู้หญิงมีแนวโน้มที่จะเผย ความรู้สึกให้เห็นกันจะจะ ในยามที่เธอตกอยู่ในห้วงแห่งรัก ขณะที่ผู้ชายเชื่อว่า รู้เห็นกันน้อยๆ ไว้ดีกว่า โดยเฉพาะในช่วงต้นๆ ของความสัมพันธ์ เหตุนี้ความสับสนอลหม่านจึงเกิดขึ้นในระหว่างการคบหาของคู่เลิฟเสมอ เช่น อีกฝ่ายโทรไปหาบ่อยเกินไป แหมเพราะ ชอบนี่นะจึงอยากใกล้ชิด แต่ถ้าอีกคนดั๊นตีความผิดๆ ว่า เขากำลังรุกรานความเป็นส่วนตัวละก็ อะแฮ่ม คงไม่ต้องบอกก็น่าจะรู้นะว่า ความพินาศใกล้มาเยือนแล้วไหมล่ะ
ขอยกตัวอย่างพฤติกรรมที่คนเพิ่งคบกันไม่ควรทำ ไม่งั้นรักจะร้างเร็วไม่รู้ด้วย เช่น
1. อย่าสาวไส้ของตัวเองให้เขาเห็นเร็วเกินไป
คิดว่าการเล่า เรื่องที่พี่น้องของคุณติดเหล้าเมายาหรือเล่าถึงความร้ายกาจของแม่เลี้ยงให้เขาฟัง จะทำให้คุณทั้ง
2 ยิ่งใกล้ชิดกันมากขึ้นอย่างงั้นหรือ? ถ้าคิดผิดก็คิดใหม่ได้นะ เพราะผู้ชายน่ะ แค่ต้องการเชื่อมโยงกับสาวๆ ผ่านความสนใจร่วมกันเท่านั้น ส่วนอะไรที่หนักหนาไปกว่านั้น ในช่วงเริ่มต้น อาจทำให้เขากลัวจนเตลิดไปก็ได้ ถ้าคบกันแล้วไม่สนุกก็ไม่อยากคบว่างั้นเหอะ
2. พูดจาโจ๋งครึ่มมากไปก็ไม่ดี
หากปล่อยให้ถ้อยคำอนาจารหลุดออกมาก่อนจะรู้ว่าคนที่เราคบด้วยรับได้หรือไม่? อาจทำให้เขาคิดว่า คุณกำลังฝึกเป็นดาวโป๊อยู่ก็ได้ ซึ่งก็เท่ากับไปดิสเครดิตของตัวเอง เฮ้อ! อย่าเผลอสัปดนไม่รู้จักกาลเทศะเชียว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น