14 ก.พ. 2553

แต่งงานกับสาวไซด์ไลน์ ความท้าทายของผู้ชายรักจริง


"แล้วเขาก็บอกว่า เขาเคยขายตัวมาก่อนที่จะคบกับผม และทำเป็นอาชีพหลัก ไม่ได้ทำเล่นๆ เป็นครั้งคราว เป็นระยะเวลา 1 ปีเต็มๆ..."



เมื่อแรกรัก น้ำต้มผักก็ว่า 'หวาน'

ถูกต้องทุกประการ แต่.... 'รักแท้ คือ รักที่หัวใจ มิใช่ สิ่งของปรุงแต่งภายนอก' เป็นความถูกต้องที่สุดนั่นเพราะ ธรรมชาติของคนเรานั้น เมื่อพบกันครั้งแรก ย่อมต้องประพฤติตัวให้เป็นที่ 'ต้องตาต้องใจ' ต่อฝ่ายตรงข้าม ความถูกใจหรือความชอบพอจึงเกิดขึ้นเพียงเพราะความประทับใจครั้งแรก แต่ เมื่อเวลาผ่านไป 'ตัวตน' ที่แท้จริงของแต่ละฝ่ายย่อมเผยให้เห็น หากแต่ละฝ่ายไม่สามารถยอมรับกับความ 'แท้จริง' การเลิกราย่อมเกิดขึ้น แต่หากเข้าใจและยอมรับกับความเป็นจริง นั่นจึงเรียกว่ารักแท้


เต๋า ช่างภาพหนุ่มอิสระ วัย 28 ปี ยอมเปิดเผยเรื่องราวความรักกับแฟนสาว ที่อดีตเคยหาเลี้ยงชีพด้วยการเป็น 'สาวไซด์ไลน์' ว่า

เขา รักภรรยาของเขาด้วยใจจริง แม้จะรู้ว่าเธอเคยมีอดีตเป็นเช่นไร เจ้าของเรื่องราว เล่าย้อนถึงที่มาที่ไปในความรักของเขาว่า เมื่อ 5 ปีที่แล้ว เขาพักอาศัยอยู่ที่คอนโดมิเนียมย่านรามอินทรา กับรุ่นพี่อีกคนหนึ่ง ซึ่งขณะเดียวกัน แฟนสาวก็ได้อาศัยอยู่คอนโดฯเดียวกัน กับเพื่อนผู้หญิงอีกคนหนึ่ง ซึ่งรุ่นพี่และเพื่อนของแฟนได้เกิดอาการ 'ปิ๊งกัน' เมื่อตกกลางคืน แต่ละฝ่ายต่างก็ชวนเพื่อนร่วมห้องออกมาหาของกิน


เรื่องราวความรักจึงเกิดขึ้น ณ จุดนั้น

จาก ความใกล้ชิดเพราะเพื่อนร่วมห้อง ที่เป็นเหมือน สะพานให้คนทั้งสองได้พบกัน บวกกับความเอาใจใส่ทำให้เต๋า เริ่มใจอ่อน เต๋าตกลงใจคบกันแฟนสาวอย่างจริงจัง และในที่สุดเธอผู้นี้ก็เป็น 'ผู้หญิงคนแรก' ของเต๋า หลังจาก 'ค่ำคืน' แรกของเต๋า เขาบอกด้วยความรู้สึกของ 'ผู้ชาย' ว่า 'เขาไม่ใช่ผู้ชายคนแรกของเธอ' ซึ่งแฟนสาวก็ได้ยอมรับความจริงว่า เธอเคยมีสัมพันธ์กับแฟนเก่ามาแล้ว 2 คน ซึ่งเมื่อเต๋ารู้ ก็ไม่ได้ติดใจอะไร เพราะเขาไม่ใช่ผู้ชายที่ยึดติดกับเรื่องความสัมพันธ์ทางเพศของผู้หญิง

คำ 'สารภาพ' ของแฟนสาว มิได้ทำให้เขาหมดรัก


แต่เมื่อเวลาผ่านไป พฤติกรรมหลายอย่างในตัวแฟนสาวกลับทำให้เขาเริ่ม 'สงสัย'

'ไม่ได้ทะลึ่งหรือลามกนะ ครับ แต่ของอย่างนี้ สังเกตได้ หลักฐานบางอย่างมันฟ้อง แต่สิ่งที่ทำให้ผมรู้สึกอึดอัดคือ บ่อยครั้งที่ผมเห็นแฟนนั่งซึม เหมือนมีอะไรเก็บไว้ในใจ แต่ไม่ยอมบอก แล้วหลังจากที่คบกันประมาณ 1 ปี เราเริ่มขัดสนเรื่องเงิน แฟนผมก็จะไป 'ขอยืมเงิน' จากพี่ผู้ชายคนหนึ่ง แรกๆ ไม่คิดอะไร แต่ว่าหลังๆ เริ่มไปบ่อย ไปแล้วกลับมาก็จะได้เงินติดมือครั้งละ 1,000-2,000 บาท

จนวันหนึ่งตอนออกไปเขาถักเปีย แต่ขากลับปล่อยผมที่ยังแห้งไม่สนิท ผมจึงถามว่าไปไหนมา


เมื่อ ซักมากๆ เข้า เขาก็บอกว่าพี่เขาชวนกินเบียร์ และถูกข่มขืน แล้วก็บอกกับผมแต่เพียงว่า พี่ผู้ชายคนนี้เป็นผู้มีพระคุณ ซึ่งตอนนั้นไม่ค่อยเชื่อเท่าไร ได้แต่เก็บความสงสัยไว้ว่า น่าจะมีความจริงอะไรบางอย่างปิดบังผมอยู่' เต๋า อยู่กับความสงสัยได้ 3 ปี ตลอดเวลาที่ผ่านมา เริ่มมีการทะเลาะกัน ความไม่เข้าใจก็ยิ่งก่อตัวมากขึ้น จนกระทั่งเย็นวันหนึ่งหลังจากที่แต่ละคนกลับมาถึงบ้าน เริ่มทะเลาะกันอีกเพราะแฟนสาวไม่อยู่บ้านอีกแล้ว ความอดทนของเต๋ามีจำกัด เขาจึงตัดสินใจพูดคุยกับแฟนสาวอย่างเปิดอก


'ตอนนั้น ผมไม่รู้นะว่าเขาเป็นอะไร แต่ทนไม่ไหวแล้ว เพราะยิ่งอยู่กันไป ยิ่งไม่เข้าใจ ผมไม่สนใจว่าคำตอบมันจะเป็นยังไง เป็นสิ่งที่ผมกังวลหรือเปล่า แต่ขอให้รู้ก่อน รับได้หรือไม่ได้ค่อยว่ากันอีกที ผมพูดว่าเลิกกันดีกว่า แฟนผมเลยพูดว่าถ้าจะเลิกจริงๆ เขาจะเล่าสิ่งที่ผมสงสัยมาตลอด แล้วเขาก็บอกว่า เขาเคยขายตัวมาก่อนที่จะคบกับผม และทำเป็นอาชีพหลัก ไม่ได้ทำเล่นๆ เป็นครั้งคราว เป็นระยะเวลา 1 ปีเต็มๆ' แฟนสาวของเต๋า เปิดใจเล่าสิ่งที่เก็บกดไว้ในใจไป ร้องไห้ไป เธอตอบคำถามเต๋าทุกคำถามอย่างตรงไปมา ไม่ว่าจะเป็น สาเหตุที่ตัดสินใจ 'ขายตัว' , วิธีการหาลูกค้า, แต่ละวันได้ลูกค้ามากน้อยแค่ไหน, ทำมานานเท่าใดแล้ว รวมทั้ง 'ผู้ชายอุปถัมภ์' คนนั้นด้วยว่า เป็นขาประจำของเธอ



'ผมรู้ว่าเธอเจ็บ ปวดมาก เพราะตลอดเวลาเธอร้องไห้ไปเล่าไป ร้องไห้จนตัวโยน สะอึกสะอื้น หูตาแดงไปหมด เพราะเธอบอกว่า นี่เป็นสิ่งที่เธออยากจะลืม แต่ทำยังไงก็ลืมอดีตที่ก้าวพลาดของเธอไม่ได้สักที เธอบอกว่านี่เป็นครั้งแรกที่เธอรู้สึกผิดและอยากจะสารภาพเรื่องนี้กับผม'แม้ จะมีพื้นฐานความคิดเรื่องความรักที่ไม่สนใจเรื่องรูปลักษณ์ภายนอกแต่เมื่อ ได้ยินเช่นนี้ เขาก็ยอมรับว่า 'อึ้ง' ไปเหมือนกัน แต่เต๋ายืนยันว่า เขาไม่มีท่าทีรังเกียจใดๆ


'ในเมื่อแฟนผมเขากล้าเปิด เผยความจริงขนาดนี้กับผม ผมก็คิดว่า นี่ถือว่าเป็นเรื่องร้ายแรงที่สุด หากกล้าเล่า ก็คงจะไม่มีอะไรปิดบังหรือโกหกอีก คุยเปิดใจกันชั่วโมงกว่า จากที่ตั้งใจว่าจะเลิก ก็เปลี่ยนใจ เปลี่ยนเป็นขอแต่งงานแทน ซึ่งเขาก็ตกใจเล็กน้อยว่าทำไมผมถึงยังรักเขาทั้งๆ ที่เขามีอดีตที่เลวร้าย'


คำตอบคือ 'ความจริงใจ'


'สิ่งที่ทำให้เปลี่ยนจากเลิกเป็นแต่งงาน คือ ความจริงใจล้วนๆ เพราะผมไม่สามารถตอบได้ว่า ทำไมผมถึงรักแฟนผม เพราะเวลารักใครผมรักด้วยใจ 100% ไม่มีเหตุผลเลย ส่วนเรื่อง 'นั้น' ผมไม่คิดมากอยู่แล้ว เพราะสมมุติว่าหากเราอยู่กับแฟนแล้วมีอะไรกันทุกวัน แล้วในช่วงก่อนหน้านั้น เขาก็ไปมีอะไรกับผู้ชายทุกวัน เพียงแต่เปลี่ยนหน้าไป ผมว่ามันก็ไม่ต่าง'

เต๋าบอกปิดท้ายด้วยว่า


นับจากวันที่ได้เปิดใจ 2 ปีแล้ว ทุกวันนี้เขาก็ยังรักกับแฟนสาวเหมือนเดิม มีบ้างที่ทะเลาะกัน แต่เขาไม่เคยนำเรื่องราวในอดีตพูดให้เจ็บช้ำน้ำใจ หรือแสดงท่าทีรังเกียจใดๆ ทั้งสิ้น ที่สำคัญเมื่อได้เปิดใจกันแล้ว ทุกอย่างก็ราบเรียบ มีความสุข สบายใจกันมากขึ้น

การใช้ชีวิตคู่ มิใช่แค่ความรักอย่างเดียวจะสามารถประคับประคองให้คนทั้งสองคนเดินทางไปตลอด ด้วยความปลอดภัย แต่ความจริงใจและการยอมรับทั้งส่วนดี และส่วนบกพร่องของกันและกัน จะช่วยให้ชีวิตรักเปี่ยมไปด้วย

ไม่มีความคิดเห็น: