1.สระผมของคุณก่อนเข้านอนทุกคืน โดยเฉพาะในฤดูที่มีเกสรดอกไม้ปลิวว่อนในอากาศ
2.อย่าตากเสื้อผ้า และเครื่องนอน (ผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน) ไว้กับราวตากผ้ากลางแจ้งในฤดูที่มีเกสรดอกไม้ปลิวว่อนในอากาศ เพราะเกสรดอกไม้ และเชื้อราจะเกาะติดกับผ้าที่ตากได้
3.ล้างมือทันทีหากไปเล่นกับสัตว์เลี้ยง หรือให้อาหารมัน
4.เปิดไฟในตู้เสื้อผ้าตลอดเวลา เพื่อลดจำนวนเชื้อราภายในตู้
5.ไม่ควรนำตุ๊กตาที่ยัดไส้ด้วยนุ่น หรือใยสัตว์ไว้ในห้องนอน
6.ช่วงสาย ๆ ไปจนถึงตอนบ่าย เป็นช่วงที่มีเกสรดอกไม้ปลิวว่อนไปทั่ว ซึ่งจะก่อให้เกิดอาการภูมิแพ้ได้ง่าย
7.จงเปลี่ยนเสื้อผ้านอกห้องนอน เพื่อทิ้งสิ่งที่อาจทำให้คุณแพ้ไว้นอกห้องนอน
8.ถอดเสื้อผ้า และซักทันที หากคุณไปเยี่ยมเยียนเพื่อนที่มีสัตว์เลี้ยง
9.ห่อหุ้มหมอน และฟูกในผ้าพลาสติกแล้วปูทับด้วยผ้าฝ้าย
10ใช้เครื่องปรับความชื้นในห้องที่อับชื้นมาก ๆ เพื่อลดจำนวนเชื้อรา ความชื้นที่พอเหมาะควรมีค่าอยู่ระหว่าง 25-50%
11.เลิกใช้พรมปูพื้นห้อง เปลี่ยนพื้นห้องเป็นไม้ หรือกระเบื้อง ซึ่งจะทำความสะอาดได้ง่ายกว่า
12.ถ้าคุณแพ้ผึ้ง หรือมดตะนอย ก็จงหลีกเลี่ยงการสวมเสื้อสีสด ๆ การฉีดสเปรย์ผม การใช้น้ำหอมดับกลิ่นตัว หรือการใส่น้ำหอม รวมทั้งการปิกนิก หรือการตั้งวงปิ้งอาหารรับประทานนอกบ้าน
13.เปลี่ยนเครื่องเรือนที่บุด้วยนุ่น หรือตกแต่งด้วยขนสัตว์มาเป็นเครื่องเรือนที่ทำจากพลาสติก ไม้ โลหะ หรือหนังสัตว์ ซึ่งจะไม่เก็บกักสิ่งที่อาจทำให้คุณแพ้
14.ในการทำความสะอาดบ้าน จงอย่าใช้ไม้ขนไก่ หรือไม้กวาด แต่จงใช้ผ้า หรือไม้ถูพื้นที่ได้ชุบน้ำแล้ว
15.เลือกใช้เครื่องดูดฝุ่นที่มีน้ำเป็นตัวกักฝุ่น และมีแผ่นกรองอากาศประสิทธิภาพสูง
16.สวมผ้าปิดจมูก และปากเสมอ เพื่อกันฝุ่นในขณะที่คุณทำความสะอาดบ้าน
17.อย่ารีบเข้าไปในห้องที่เพิ่งทำความสะอาดเสร็จ ควรรออย่างน้อย 20 นาทีก่อน เพื่อให้ฝุ่นผงที่ล่องลอยอยู่ในอากาศตกลงสู่พื้นให้หมด
18.ถ้าคุณมีสัตว์เลี้ยงคุณต้องป้องกันอากาศมิให้พัดจากนอกบ้านเข้ามาในห้องนอนของคุณ
19.ทำความสะอาดบริเวณที่มีราขึ้นด้วยน้ำยาฟอกคลอรีน โดยผสมผงคลอรีน 10 ส่วน ต่อน้ำ 1 ส่วน
20.ห้ามทุกคนรวมทั้งแยกสูบบุหรี่ในบ้าน หากจุสูบให้สูบนอกบ้าน
21.วานคนที่ไม่แพ้ ทำความสะอาดกรงของสัตว์เลี้ยง
22.ถ้าคุณจะออกกำลังกายกลางแจ้ง ก็ขอให้ทำในช่วงเช้า ๆ บ่ายแก่ ๆ หรือตอนเย็น ๆ
23.ปิดหน้าต่างรถของคุณให้สนิท แล้วเปิดเครื่องปรับอากาศภายในรถให้ไหลเวียน
24.ไม่ใช้พัดลม เพราะจะพัดเอาเกสรดอกไม้ และเชื้อราเข้ามาในบ้าน รวมทั้งไม่ใช้เครื่องทำความเย็นชนิดอังด้วยน้ำ เพราะจะทำให้ห้องชื้น
25.หากคุณปิดบ้านไว้นาน เชื้อราอาจจะเจริญเติบโตได้ ดังนั้นเมื่อคุณกลับมาอยู่บ้านอีกครั้งหนึ่ง คุณควรเปิดบ้านให้ลมโกรม และทำความสะอาดอย่างดีเสียก่อน
26.ตรวจสอบว่ามีอะไรในบ้านบ้างที่เป็นแหล่งเพาะเชื้อรา เมื่อพบแล้วจงกำจัดให้หมด แหล่งเพาะเชื้อราที่อาจเป็นได้ เช่น ในเครื่องทำความชื้นบนพรมที่เปียกชื้น บนพื้นห้องที่ผุ ในถังขยะ บนกระดาษปิดฝาผนังที่เปียกชื้น เป็นต้น
27.เมื่อคุณใช้เครื่องดูดฝุ่น จงเลือกใช้ถุงเก็บฝุ่นชนิดถุงหนา 2 ชั้น และแผ่นกรองอากาศประสิทธิภาพสูง
28.เมื่อคุณจะไปเที่ยวพักผ่อนในที่ใด ๆ ก็ตาม จงเลือกสถานที่ ๆ มีฝุ่นละออง หรือเกสรดอกไม้น้อย เช่น ชายทะเล
29.ถ้าคุณคิดว่าอาหารบางอย่างทำให้คุณแพ้ ก็อย่าลืมปรึกษาแพทย์ก่อนที่จะลงมือเปลี่ยนรายการอาหารอย่างถอนรากถอนโคน
30.อ่านฉลากผลิตภัณฑ์อาหารที่คุณซื้อเสมอ เพื่อดูว่ามีส่วนผสมอะไรบ้าง ส่วนผสม เช่น นม ไข่ ถั่ว อาจทำให้คุณแพ้ก็ได้
31.พกบัตรที่แสดงข้อความว่าคุณเป็นโรคภูมิแพ้ หรือโรคหอบหืดอย่างรุนแรงไว้เสมอ
32.เลือกที่จะมีสัตว์เลี้ยงที่ไม่มีขน เช่น ปลา เต่า แทนการเลี้ยงแมว หรือสุนัข
33.ล้างมือ ผิวหนัง เสื้อผ้า สัตว์เลี้ยง หรืออะไรก็ตามที่เปื้อนยางต้นไม้
34.ถ้าคุณต้องการพ่นยาฆ่าแมลง จงเลือกใช้น้ำยาที่คุณไม้แพ้ คุณควรอยู่นอกบ้าน และวานให้คนอื่นพ่นยาฆ่าแมลงให้ เมื่อพ่นยาเสร็จแล้วคุณควรเปิดบ้านให้ลมโกรกสัก 2-3 ชั่วโมง ก่อนที่จะกลับเข้าบ้าน
35.ทำความสะอาดห้องน้ำ ครัว และห้องใต้ดินบ่อย ๆ เพื่อลดจำนวนเชื้อราภายในบ้าน เพราะห้องเหล่านี้มีความชื้นสูง
36.หลีกเลี่ยงการใช้เตาที่เผาไหม้ด้วยไม้ เพราะควันไฟอาจทำให้คุณแพ้ได้
37.สอบถามครูที่โรงเรียน เพื่อหาสาเหตุที่ทำให้ลูกของคุณแพ้ เช่น มีสัตว์เลี้ยงในห้องเรียนหรือไม่ มีแมลงสาบในตู้เก็บของหรือไม่ มีตัวไรฝุ่นในพรมปูพื้นหรือไม่
38.เปิดเครื่องดูดควันเสมอเมื่อคุณทำอาหาร เพื่อลดความชื้น และกำจัดควัน และกลิ่นอาหาร
39.ซักเครื่องนอนทั้งหลาย (ปลอกหมอน ผ้าปูที่นอน ฯลฯ) ในน้ำร้อนประมาณ 50 องศาเซลเซียสสัปดาห์ละ 1 ครั้ง เพื่อฆ่าตัวไร การเป่าลมร้อนเพียงอย่างเดียวไม่พอที่จะฆ่าตัวไร
40.หากคุณต้องการขับรถท่องเที่ยวพักผ่อน ก็จงทำความสะอาดเครื่องปรับอากาศในรถเสียก่อน เพื่อกำจัดเชื้อราที่อาจแอบซ่อนอยู่
41.หากคุณต้องการออกกำลังกายกลางแจ้ง จงเลือกออกกำลังกายในวันที่ไม่มีลม
42.ติดตั้งพัดลมดูดอากาศที่ห้องน้ำ และเปิดใช้ทุกครั้งที่อาบน้ำ
43.อยู่ให้ห่างไกลจากสิ่งที่ทำให้แพ้ เช่น ควันบุหรี่ หมอกควัน น้ำหอม และสบู่หรือน้ำยาซักล้างที่มีกลิ่นฉุน
44.ถ้าคุณต้องการทาสีบ้านใหม่ จงเลือกใช้สีน้ำมัน และอย่าอยู่บ้านในขณะที่ช่างกำลังทาสีบ้าน
45.หากคุณคิดจะย้ายบ้าน จงแวะเวียนไปยังบ้านใหม่นั้นอย่างน้อย 2-4 สัปดาห์ก่อน เพื่อทดสอบว่าคุณไม่แพ้ แต่ก็อย่าลืมว่าอาการแพ้อาจกลับมาหาคุณได้อีก แม้ว่าคุณจะไม่มีอาการเลยเป็นเวลาหลายเดือน หรือหลายปีก็ตาม
46.เลือกให้หมอน ฟูก หรือผ้าห่มที่บุด้วยยางแทนพวกที่ยัดด้วยนุ่นหรือขนสัตว์
47.หมั่นทำความสะอาดบริเวณใต้ตู้เย็น ซึ่งมักเป็นที่สะสมของเศษอาหาร และฝุ่น และกลายเป็นสวรรค์ของแมลง และเชื้อรา
48.หมั่นตัดกิ่งไม้ ตกแต่งพุ่มไม้ บ่อย ๆ เพื่อไม่ให้รกเรื้อใกล้ตัวบ้านหรือห้องนอนของคุณ
49.ห้ามนำสัตว์เลี้ยงที่มีขน เช่น แมวและสุนัข ไว้ในห้องนอนอย่างเด็ดขาด ห้องนอนของคุณจะได้ปราศจากจากสิ่งที่อาจทำให้คุณแพ้
50.ปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับอาการที่เป็น แพทย์อาจสั่งยาให้คุณ ถ้าคุณไม่สามารถหลีกเลี่ยงสิ่งที่แพ้ได้ ซึ่งจะทำให้คุณไม่ต้องทนทุกข์ทรมานกับอาการแพ้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น