17 ม.ค. 2553

พริกขี้หนู รสเด็ดเผ็ดจี๊ด แต่ประโยชน์ครบเซ็ตนะจ๊ะ

พริกขี้หนู รสเด็ดเผ็ดจี๊ด ประโยชน์ครบเซ็ตด้วยแคลเซียม วิตามินซี และเบต้าแคโรทีน (Lisa) เคยสังเกตจากพี่น้อง เพื่อนฝูง และคนรอบข้าง พบว่า สิ่งหนึ่งที่แทบจะขาดไม่ได้เลยสำหรับการรับประทานอาหารในแต่ละมื้อของคนไทยเรา นั่นคือน้ำปลามะนาวกับพริกขี้หนูซอยบาง ๆ ใส่ถ้วยเล็ก ๆ เคียงไว้ข้างอาหาร

ความเผ็ด ความร้อนแรงของพริกขี้หนูตัวจี๊ดจ๊าดนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมการกินของคนไทยไปแล้ว

พริกขี้หนูถือว่าเป็น "ราชินีของพริก" เพราะเหตุที่มีรสเผ็ดจัดจ้านสุด ๆ นั่นเองที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะในตัวเขามีน้ำมันระเหยที่มีฤทธิ์เป็นด่างอย่างหนึ่ง ในชื่อว่าแคปไซซิน (Capsaicin) ซึ่งจะสะสมตัวมากอยู่ที่บริเวณเมล็ดและรกของพริก (ทุกชนิด) แถมยังมีคุณสมบัติพิเศษสุดยอดตรงที่สามารถทนความร้อนได้ดีแม้ว่าจะผ่านกระบวนการทำให้สุกหรือตากแดดร้อน ๆ จนแห้งแล้วก็ตาม แต่ความดุเด็ดเผ็ดร้อนของรสชาติยังคงไว้เช่นเดิม

นอกจากนี้ความเผ็ดร้อนยังไม่สลายตัวง่าย ๆ ในน้ำอีกต่างหาก เวลาจับหรือหั่นพริก บางคนจะมีอาการแสบร้อนตามมือ ล้างมือ - ล้างสบู่ยังไงก็ไม่หายง่าย ๆ

ฤทธิ์เดชของเจ้าแคปไซซินที่มีการทดลองแล้วพบว่าเพียง 1 หยด (เท่านั้น) ที่ผสมลงในน้ำถึง 100,000 หยด ก็ยังรับรู้ถึงรสเผ็ดเข้าไปเต็ม ๆ ลิ้น ขนาดเพิ่มปริมาณเข้าไปอีก 10 เท่า เป็น 1 ล้านหยด เราก็ยังรับรู้ถึงรสเผ็ดของแคปไซซินในเจ้าพริกขี้หนูตัวนี้ได้อยู่ดี

และใช่ว่าจะมีความเผ็ดให้น้ำหูน้ำตาได้ไหลเพียงอย่างเดียวนะจะบอกให้เพราะพริกขี้หนูเม็ดเล็ก ๆ แบบนี้ยังอัดแน่นไปด้วยสารอาหารตัวจำเป็น ชนิดที่พืชผักอื่น ๆ เขามีกันครบเซ็ตแบบไม่ขาดตกบกพร่อง ที่คุณอาจไม่เชื่อก็คือ ปริมาณของแคลเซียม ฟอสฟอรัส และวิตามินซีนั่นมีสูงมากกว่าผักทั่วไปหลายสิบชนิดทีเดียว แถมยังให้ไฟเบอร์หรือกากใยอาหารสูง พร้อมกับเบต้าแคโรทีนตัวเก่งในปริมาณสูงถึง 140.77 ไมโครกรัม ต่อ 100 กรัมด้วย

ไม่มีความคิดเห็น: