18 ก.ค. 2553

เรื่องเล่าลี้ลับในจุฬาลงกรณ์ ( รวม )

เรื่องที่ 1 ศิลปกรรมศาสตร์ ห้องล้างรูป

ว่ากันว่าห้องล้างรูปรวมของ คณะศิลปกรรมศาสตร์ น่ากลัวที่สุด นอกจากเรื่องเห็นขาแกว่งแล้ว ยังมีแสงลูกไฟสีต่างๆ แวบไปแวบมาในห้องล้างรูปอีกด้วย [ ซึ่งห้องล้างรูปจะต้องมืดหรืออาจให้มีแสงสีแดงได้สีเดียว ] บางทีก็มีเสียงเก้าอี้นั่งรอล้างรูปดังเอี๊ยดอ๊าด ทั้งๆ ที่ไม่มีคนนั่งรอ หรือนิสิตบางคน ได้ยินเสียงคนตบแท็งก์น้ำในห้องล้างรูปทั้งๆ ที่ไม่มีคนอื่นในห้อง ว่ากันว่านิสิตขอให้คณะย้ายห้องหลายครั้งแต่คณะไม่มีงบประมาณ..

เรื่องที่ 2 อักษรศาสตร์ ห้องสมุด

ห้องสมุดที่ตึกเก่าของคณะอักษรศาสตร์ มีนิสิตชายคนหนึ่งไปอ่านหนังสือ เห็นนิสิตผู้หญิงที่นั่งตรงข้ามก้มหน้าอ่านหนังสือนานมากไม่เงยหน้าซะที เลยถามว่าเป็นอะไรหรือเปล่า ผู้หญิงเลยเงยหน้าขึ้นมา ปรากฏว่า.. ไม่มีหน้า !

เรื่องที่ 3 วิทยาศาสตร์ ตึกชีววิทยาทางทะเล

ชั้น 4 หรือชั้น 5 ไม่รู้นิสิตที่อยู่ดึกบอกว่าเห็นเงาคน และแสงไฟวูบวาบบ่อยมากทั้งที่ไม่มีคน ลิฟต์ก็ชอบเปิดชั้นนี้ทั้งที่ไม่มีคนกดเรียก

เรื่องที่ 4 วิทยาศาสตร์ ห้องน้ำภาควิชาเคมี

อยู่ดีๆ บานประตูก็ปิดเอง [ และล็อคด้วย ] บ่อยมากๆ ทั้งๆ ที่ไม่มีลม และแน่นอน ไม่มีคนเข้า พอนิสิตไปถามยามยามก็บอกว่าชินแล้ว บอกอย่างทำใจได้ว่าถ้าเจอก็มาตามก็แล้วกัน จะไปช่วยไขกุญแจให้..


เรื่องที่ 5 เศรษฐศาสตร์ ประตูทางออก

ประตูชั้นล่างที่จะออกไปทางโรงอาหารด้านหลัง ที่ถูกกั้นไม่ให้เข้าออก เพราะเป็นทางผีผ่าน มักจะมีคนเห็นอะไรแปลกประหลาดมามากมายย่านนี้..

เรื่องที่ 6 หอหญิง ตึกดำ

มีคนวงในเคยอยู่หอหญิงบอกว่าชั้น 10 เนี่ยดุสุดๆ คืนหนึ่งก่อนนอนกลัวว่าจะร้อน เลยเปิดประตูมุ้งลวดให้ลมเข้า คนที่นอนริมในสุดบังเอิญเป็นคนที่มีสัมผัสที่หกพอดี เล่าว่ากลางดึกอยู่ดีๆ เธอก็ตื่นขึ้นมาเมื่อมองไปนอกมุ้งลวด เห็นคนคลุมหัวเดินอยู่ ตอนแรกเธอนึกว่าเป็นเพื่อนที่เป็นมุสลิมในชั้นเดียวกันนั้น แต่ร่างที่ว่า เดินเท่าไรก็ไม่พ้นหน้าห้องซักที เธอเลยรู้ว่าเจอดีเข้าแล้วก็เลยคลุมโปงนอนต่อ

เรื่องที่ 7 วิศวกรรมศาสตร์ ห้องสมุด

เป็นห้องที่ดัดแปลงจากอาคารที่เดิมเป็นตึกเรียนเก่า กลางวันแสกๆ วันหนึ่งมีอาจารย์ท่านหนึ่งเข้าไปค้นหนังสือในส่วนที่ห้ามนิสิตเข้า คือ ยืมได้แต่ห้ามเดินเข้าไปเอง ทีนี้อาจารย์ท่านนั้นกำลังก้มหน้าส่องหาหนังสืออยู่ตามชั้นต่างๆ พอขยับหน้าผ่านไปตรงช่องว่างระหว่างหนังสือ ก็เห็นฝั่งตรงข้ามมีหน้าจ้องผ่านร่องหนังสือเข้ามา เห็นว่าใส่ชุดนิสิตอยู่ด้วย อาจารย์ตกใจและโกรธด้วยเลยเดินไปถามว่านิสิตเข้ามาได้ยังไง แต่พอเดินไปถึงช่องนั้นก็ไม่มีใครอยู่เลย ที่สำคัญพออาจารย์เดินหาจนทั่วพบว่า แม้แต่เจ้าหน้าที่ห้องสมุดเองก็ไม่อยู่ด้วยซ้ำไม่มีทางที่ใครจะมาโผล่หน้าให้เห็นได้
แต่เมื่ออาจารย์เดินกลับไปหาหนังสือที่ชั้นเดิมก็ได้กลิ่นฉุนกลิ่นเหม็นที่แรงมาก


เรื่องที่ 8 อักษรศาสตร์ ห้อง Sound Lab

ห้องไหนไม่มีใครรู้ และไม่รู้ด้วยว่าตึกที่ถูกทุบไป หรือตึกที่ยังอยู่ปัจจุบัน เพราะคณะอักษรศาสตร์มี Sound Lab เยอะมาก อาจารย์หญิงท่านหนึ่งรับฝากชั้นเรียนไว้ได้รับคำฝากฝังให้เปิดเทปให้นิสิตฟัง และคอยเช็คชื่อ ขณะกำลังเปิดเทป มีนิสิตหญิงคนหนึ่งนั่งอยู่หลังห้องไม่ยอมใส่หูฟัง อาจารย์เดินไปถามก็ตอบว่าเจ็บคอ พอตอนออกจากห้อง อาจารย์คอยเช็คชื่อ เห็นคนครบแต่ไม่มีชื่อเด็กคนที่ไปคุยด้วย และเด็กก็ไม่ยอมออกมาสักที อาจารย์เลยเดินกลับไปหา ไปดูที่โต๊ะก็ไม่เจอ แต่พอหันออกมา เห็นเด็กยืนอยู่กลางห้องสายหูฟังพันคออยู่ และโยงไปที่เพดาน อาจารย์หมดสติไปเลย มาทราบทีหลังว่ามีเด็กเพิ่งฆ่าตัวตายในห้องนั้น

เรื่องที่ 9 นิเทศศาสตร์ ห้องล้างฟิล์ม

เรื่องมีอยู่ว่า เมื่อก่อนมีรุ่นพี่คนหนึ่งได้เข้าไปล้างฟิล์มในห้องนี้ แล้วไม่ได้กลับออกมาอีกเลย มีคนเข้าไปหาตั้งหลายครั้ง แต่ก็ไม่มีใครพบ ได้มีนิสิตรุ่นน้องต่อๆ มาเล่าให้ฟังว่ายังมี เรื่องแปลกๆ เกิดขึ้นอีก.. เช่น มีนิสิตได้เข้าไปล้างฟิล์มในห้องนี้ ขณะที่เข้าไปนั้นก็คิดว่าตนนั้นเข้าไปกับเพื่อน ก็มีการพูดคุยกัน แต่ไม่ได้ยินเสียงตอบจากเพื่อน บอกให้หยิบของส่งให้ ก็มีคนหยิบส่งให้ แต่พอออกมาเห็นเพื่อนของตนอยู่นอกห้อง จึงได้รู้ว่า ตนเข้าคนเดียว แล้วใครล่ะที่เป็นคนหยิบของส่งให้ยังคงเป็นปริศนาอยู่..


เรื่องที่ 10 ทางเดินระหว่างตึก คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์

ทางเดินที่ว่านี้ มีประวัติอยู่ว่า สมัยก่อนมีคู่สามีภรรยานักการภารโรงของคณะสถาปัตย์ได้ทะเลาะกัน ด้านฝ่ายภรรยาตัดสินใจเอาปืนมายิงสามีจนเสียชีวิต เลือดสาดไปทั่วหน้าห้องทางเดินนี้.. ต่อมาเมื่อทางคณะได้มีการปรับปรุงพื้นชั้นหนึ่งได้มีการเทปูนไว้ แต่มีเฉพาะหน้าห้องนี้เท่านั้นที่ไม่ยอมแห้ง ทิ้งไว้นานสักเท่าไรก็ไม่ยอมแห้ง ทางคณะจึงต้องปูไม้กระดานทับไว้อย่าที่เห็นกันทุกวันนี้..

เรื่องที่ 11 ห้อง 41X หอพักนิสิตหญิง

เป็นเรื่องราวในหอใน ที่เล่าสืบต่อกันกันมาว่าถ้าหากวันไหนคนที่นอนห้องหมายเลขนี้ ตื่นขึ้นมาตอนดึกๆ คนที่ตื่นขึ้นมาจะเห็นผู้หญิงใส่ชุดไทยมายืนอยู่ที่ปลายเตียง..

เรื่องที่ 12 ดาดฟ้า ตึกพยาธิวิทยา

ยามค่ำคืน หรือตอนเย็นใกล้ค่ำ ถ้าหากมีนิสิตคนไหนขึ้นไปบนดาดฟ้าของอาคารหลังนี้ ก็จะเห็นผู้หญิงคนหนึ่งยืนนุ่งชุดสไบสีขาว ท่ามกลางความมืดบนดาดฟ้า..

เรื่องที่ 13 ตู้ล็อกเกอร์ คณะศิลปกรรมศาสตร์

เล่าสืบต่อกันมาหลายปีมากๆ ว่ามีนิสิตหลายคนของที่นั่นเคยเห็นคนเห็นคนนั่งห้อยขาอยู่บนตู้ล็อกเกอร์ ทีแรกเห็นแต่ขาแต่ว่าเมื่อมองขึ้นไปกลับไม่มีตัวตนอยู่เลย..

นี้เป็นเพียงความเชื่อนะครับ ทุกคนโปรดใช้วิจารณญานในการอ่านนะครับ ไม่เชื่ออย่าลบหลู่นะ

ไม่มีความคิดเห็น: