10 ม.ค. 2553

ห่วงวัยโจ๋ใช้อินเตอร์เน็ต-3G ผิดทาง

การใช้เทคโนโลยีในปัจจุบัน นอกจากจะได้รับประโยชน์แล้ว บางรายเจ้าเทคโนโลยีเหล่านั้นก็อาจจะให้โทษหรือเกิดผลเสียเนื่องจากการใช้ผิดวัตถุประสงค์

นพ.กัมปนาท ตันสิถบุตรกุล จิตแพทย์โรงพยาบาลมนารมย์ กล่าวว่า ความเสื่อมโทรมของสังคมและพฤติกรรมการใช้เทคโนโลยีของวัยรุ่นในปัจจุบันนั้น หากใช้ผิดประเภทและไม่ถูกวิธีก็อาจจะได้รับผลเสียหรือตกเป็นเหยื่อจากภัยสังคมได้เพราะในปัจจุบันวัยรุ่นส่วนมากใช้อินเตอร์เน็ตเพื่อวัตถุประสงค์อื่นมากกว่าการค้นคว้าหาข้อมูล ส่วนมากจะใช้เล่น ไฮไฟว์

ที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมากในกลุ่มวัยรุ่น ที่นอกจากจะมีการโพสต์รูปของตัวเองแล้ว ยังมีการขายบริการทางเพศแอบแฝงอีกด้วยนอกจากนั้นยังมีโปรแกรมแชดออนไลน์ที่วัยรุ่นส่วนมากใช้สนทนากัน เช่น เอ็มเอสเอ็น และแคมฟรอก รวมถึงเกมออนไลน์ด้วย สิ่งเหล่านี้ล้วนส่งผลกระทบต่อพฤติกรรมของวัยรุ่น เนื่องจากเกิดการติดงอมแงม เลิกไมได้ เพราะหากไมได้เล่นก็จะเหงา เศร้า แทบจะขาดใจ บางรายมีพฤติกรรมก้าวร้าว และชอบใช้กำลังอีกด้วย “เทคโนโลยีที่ก้าวหน้า

ในปัจจุบันสามารถมีกล้องที่จะติดต่อคุยกันหรือโชว์อวัยวะเพศกันสดๆ ยิ่งเพิ่มความตื่นเต้นเร้าใจขึ้นไปอีก ที่น่าเป็นห่วงก็คือในสมัยก่อนจะกระทำกันในเฉพาะห้องส่วนตัว แต่ปัจจุบันแม้กระทั่งร้านอินเตอร์เน็ตก็ไม่มีใครอาย นี่คือตัวอย่างการใช้เทคโนโลยีที่ผิด ส่วนผลที่ตามมาอาจจะมีการอัดวีดีโอเพื่อทำเป็นคลิปโพสต์ตามเว็ปไซต์ต่างๆ สร้างความเดือดร้อนและอับอายแต่ตนเองและครอบครัว” จิตแพทย์กล่าวนพ.กัมปนาท กล่าวว่า ไม่เฉพาะเพียงแค่อินเตอร์เน็ตเท่านั้นที่วัยรุ่นมักจะใช้ผิดวัตถุประสงค์ โทรศัพท์มือถือก็เช่นกัน เพราะโทรศัพท์มือปัจจุบันมิได้ใช้เฉพาะการโทรคุยกันเท่านั้น แต่มีการถ่ายรูปโป๊ เซ็กซี่ เอาไว้โชว์หรือส่งให้เพื่อน หรือไม่ก็อาจจะถ่ายคลิปขณะมีเพศสัมพันธ์แล้วมีการส่งต่อ

ซึ่งบางครั้งก็อาจเป็นการถูกแอบถ่ายเมื่อนำไปโพสต์ในอินเตอร์เน็ตก็สร้างความอับอายและเสื่อมเสียต่อผู้ที่อยู่ในคลิปได้ และอีกไม่นานโทรศัพท์ก็จะสามารถคุยแบบเห็นหน้า ผ่านหน้าจอโทรศัพท์มือถือด้วยเทคโนโลยี 3G ที่มีรูปแบบไม่ค่อยแตกต่างจากวิธีการสนทนาผ่านโปรแกรมแชดมากนักเพียงแต่เพิ่มความสะดวกมากขึ้นเพราะใครไม่มีคอมพิวเตอร์ก็สามารถคุยกันสดๆ

เห็นภาพผ่านทางโทรศัพท์มือถือได้เลย วัยรุ่นคงจะชื่นชอบเป็นอย่างดี เพราะไม่ต้องใช้คอมพิวเตอร์ เพียงแค่โทรศัพท์มือถือเครื่องเดียวก็สามารถทำกิจกรรมอื่นๆ ที่ต้องการได้นพ.กัมปนาท แนะนำแนวทางในการใช้เทคโนโลยีให้กับวัยรุ่นว่า จุดเริ่มต้นที่ดีที่สุดน่าจะอยู่ตรงที่เริ่มจากในใจของเราเองก่อนโดยการตั้งสติทบทวนดีๆ ว่าสิ่งที่ตนเองกระทำอยู่นั้นเป็นสิ่งที่ดี หรือสังคมโดยทั่วไปยอมรับได้หรือไม่ การมองถึงศีลธรรมและวัฒนธรรมอันดีงามของสังคมที่เคยสั่งสมกันมาน่าจะเป็นเครื่องช่วยเตือนใจได้บ้างแต่สิ่งสำคัญ คือการรู้จักรักตนเองมากกว่าการที่จะคิดแต่เรื่องสนุกอย่างเดียว รวมถึงเปลี่ยนมุมมองของตนเองใหม่ในเรื่องการชอบนำเสนอตนเองออกสู่สาธารณชน

แม้จะอ้างว่าเป็นเรื่องส่วนบุคคล แต่เทคโนโลยีเหล่านี้บางครั้งล้ำลึกเกินความสามารถที่เราจะควบคุมมันได้อย่าลืมว่าตัวเราเองยังไม่สามารถควบคุมใจเราได้ เราจะหวังให้คนอื่นมาเก็บความลับของเราคงไม่ง่ายนัก อาจจะรู้ไม่เท่าทันว่าได้ตกเป็นเหยื่อไปเสียแล้ว การติดต่อกันผ่านเทคโนโลยีต่อให้รุดหน้าเท่าไรก็ตามคงไม่สามารถมาทดแทนการมีปฏิสัมพันธ์กันโดยตรงฉันท์เพื่อนมนุษย์ด้วยกัน จะได้มีการเห็นสีหน้าท่าทาง อารมณ์อย่างแท้จริงนพ. กัมปนาท กล่าวทิ้งท้ายว่า การแบ่งปันความรักให้กับคนรอบข้างโดยเฉพาะคนในครอบครัวที่รักเรา ก็คงจะเป็นเครื่องช่วยเตือนสติได้เช่นเดียวกันว่าเราน่าจะต้องทำอะไรเพื่อเขาเหล่านั้นบ้าง นอกจากจะเห็นแก่ความสุขเล็กๆน้อยๆ

เพียงชั่วคราวของตนเอง สำหรับในครอบครัวใดที่พบว่าลูกๆหลานๆหรือคนในครอบครัวมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมในเรื่อง รักๆใคร่ๆ และน่าจะเกี่ยวข้องกับปัญหาสุขภาพจิต แนะนำว่าการมาพบกับบุคลากรที่ดูแลปัญหาสุขภาพจิตน่าจะเป็นอีกทางเลือกหนึ่งดีกว่าปล่อยไปเรื่อยๆ เพราะปัญหาต่างๆจะทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ จนอาจจะไม่สามารถแก้ไขได้ในที่สุด

ไม่มีความคิดเห็น: