*อย่า!...คุยเรื่องเหล่านี้ในที่สาธารณะเด็ดขาด!! *
*มาจนถึงวันนี้เราคงไม่อาจจะปฏิเสธได้ว่า โทรศัพท์มือถือนั้น
ได้กลายเป็นอุปกรณ์การสื่อสารชิ้นหนึ่งที่ใครหลาย ๆ คนขาดไปไม่ได้เสียแล้ว*
จริงอยู่ที่ว่าหลาย ๆ คนเป็นประเภทคนขี้เหงา
ซึ่งเจ้ามือถือเหล่านี้ก็เปรียบเสมือนสื่อกลางที่จะช่วยให้คุณไม่เคอะเขิน
เวลาที่ต้องอยู่คนเดียว ไม่ต้องเหงาหากต้องไปไหนมาไหนตามลำพัง
ตราบใดที่ปลายสายยินดีที่จะคุยกับคุณได้ในเวลานั้น ๆ
แต่ทั้งนี้นั้น แม้ว่าปลายสายของคุณจะยินดีคุยเป็นเพื่อนกับคุณก็ตาม
หากคุณคุยอยู่ในบ้านของคุณเองก็ไม่เป็นอะไรหรอก หากแต่คุณอยู่ข้างนอกนี่สิ
บางครั้งเรื่องที่คุณกำลังสนทนาอยู่นั้นอาจจะลอยไปเข้าหูคนข้าง ๆ
อย่างไม่ตั้งใจได้ ซึ่งนั่นก็เป็นที่มาว่า คุณควรจะต้องใส่ใจด้วยว่า
เรื่องไหนที่คุณมีควรพูดเมื่ออยู่ในที่สาธารณะ
*การ พูดคุยในทำนองที่ว่าจะทะเลาะกับปลายสาย*แน่นอนว่าหากคุณเริ่มมีอารมณ์ไม่ดีและ
*เริ่ม ต้นที่จะทะเลาะกับปลายสายล่ะก็
เราแนะนำให้คุณวางสายไปเลยจะดีกว่า*เพราะยิ่งคุยไปคุยมา
คุณจะยิ่งใส่อารมณ์มากขึ้น
และแน่นอนว่าคนรอบข้างที่เห็นอาการของคุณเขาไม่รับรู้ด้วยหรอกว่า
คุณมีเรื่องอะไรคับแค้นใจกับปลายสายนักหนา นอกเสียจากว่า
เขากำลังคิดว่าคุณเป็นพวกขี้โมโหร้ายเสียมากกว่า
การปลอบใจเพื่อนเมื่อต้องเผชิญปัญหา หรือกำลังอกหัก
อันนี้เข้าใจว่าอยากจะให้กำลังใจเพื่อน อยากอยู่ข้าง ๆ เมื่อเพื่อนกำลังทุกข์ใจ
แต่ทางที่ดีคุณควรหาที่สงบ ๆ เพื่อพูดคุยจะดีกว่า เดินไปคุยไป
เพราะหากคุณต้องข้ามถนน หรือกำลังเดินเลือกซื้อของ
แน่นอนว่าคุณจะมีสมาธิไม่เพียงพอ
และแทนที่เพื่อนจะดีใจที่คุณเห็นความสำคัญของเธอ / เขา
กลับกลายเป็นว่าเพื่อนของคุณอาจจะคิดว่า เขารบกวนคุณมากกว่า
หรืออาจจะพาลคิดไปว่าเขามีค่าน้อยมาก จนคุณไม่ค่อยให้ความใส่ใจเท่าที่ควร
*การ พูดคุยเรื่องใต้สะดือ
หรือตลกใต้เข็มขัด*แน่ล่ะว่าอย่างไรเสียคุณก็ดูไม่ดีแน่นอนที่สุด
แม้ว่าคุณจะไม่ได้เป็นฝ่ายเริ่มก่อนก็ตาม แต่คนรอบ ๆ
ข้างคุณเขาเห็นแต่หน้าของคุณนี่หน่า
และเขาก็ไม่ได้ทราบด้วยว่าใครที่เป็นคนเริ่ม เพราะฉะนั้น *หากอยู่ในที่สาธารณะ
พวกเรื่องใต้สะดือ
ให้เก็บเอาไว้อย่าได้พูดเชียวนะ*ถ้าไม่อยากถูกมองว่าเป็นคนทะลึ่งน่ะ
*การติดต่อ สมัครงาน* การอยู่ในที่สาธารณะนั้น
หมายถึงการอยู่ในที่ที่มีคนพลุกพล่าน ซึ่อาจจะมีเสียงรบกวนมากมายรอบด้าน
*ดังนั้นหากคุณโทรศัพท์ไปสอบถามเรื่องการสมัครงาน
ในที่สาธารณะ คุณอาจจะสร้างความไม่น่าประทับใจตั้งแต่เริ่มก็ได้*เพราะบางครั้งขณะที่คุณกำลังสนทนาอยู่นั้นอาจจะมีเสียงรบกวนจนคุณต้องสอบถาม
ปลายสายหลาย ๆ ครั้งว่า “อะไรนะคะ” แต่ถ้าจำเป็นจริง ๆ แนะนำว่าให้หาที่เงียบ ๆ
ไม่มีเสียงรบกวนพูดคุยจะดีกว่า
*การเล่าเรื่องสยดสยอง*สมมติว่าคุณกำลังนั่งอยู่บนรถสาธารณะแล้วคุณดันเล่าเรื่องสยดสยอง
ซึ่งสื่อให้เห็นภาพเลือดสด ๆ หรือภาพอุจาดตาที่ไม่น่าดูเลยนั้น
แน่นอนว่าคนรอบข้าง ๆ คุณต้องได้ยินด้วยแน่ ๆ
และที่สำคัญกว่านั้นหากเขาเป็นคนขวัญอ่อนล่ะ *คุณ
อาจจะทำให้เขาคิดมากโดยไม่รู้ตัว
เพราะระดับความเข้มแข็งของจิตใจคนเรานั้นไม่เหมือนกัน *ดัง
นั้นการที่คุณจะเล่าเรื่องชวนขนลุก เล่าเรื่องชวนสะอิดสะเอียน
หรือเล่าเรื่องสยดสยองแนะนำว่าควรจะเก็บเอาไว้ไปเล่าเมื่อเวลาที่ไม่มีคน
อยู่ข้าง ๆ หรือเก็บไว้เล่าเมื่ออยู่บ้านจะดีกว่าค่ะ
จริงอยู่ ที่ว่าการพูดคุยโทรศัพท์นั้นเป็นสิทธิส่วนบุคคล
แต่บางครั้งการคุยโทรศัพท์ในที่สาธารณะคุณเองก็ต้องคำนึงถึงเรื่องมารยาทและ
เรื่องของความเหมาะสมด้วย เพราะในทางกลับกันบางครั้งเมื่ออยู่ร่วมกับคนอื่น
*คุณเองก็อาจจะไม่ชอบใจหากคนข้าง ๆ คุยโทรศัพท์ในเรื่องที่ไม่เป็นเรื่อง
หรือในเรื่องที่คุณไม่ชอบ แถมยังมารบกวนสมาธิของคุณด้วยเลยใช่ไหมล่ะ
เพราะฉะนั้นคุณเองก็ต้องระมัดระวังไม่ทำอย่างที่คุณเองก็ไม่ชอบด้วยเหมือน กัน
เพื่อที่สังคมจะได้น่าอยู่มากขึ้นนะคะ*
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น