2 เม.ย. 2551

คุณยายทอง เศษไม้แลกเศษเงิน (ภาค 2)

ยาวนิดนึงนะ แต่อยากอยากให้อ่านจัง... อ่านตอนว่าง ๆ ก็ได้ค่ะ ....
เคยได้รับ FW Mail เรื่องคุณยายทองคนนี้มาก่อนหน้านี้นานแล้ว ก็ FW ต่อไป คิด ว่าถ้ามีโอกาสจะไปหา
ยายดู พอนาน ๆ เข้าก็ลืมไปแล้ว บังเอิญเย็นวันศุกร์วันหนึ่ง กำลังเช็ค e-mail ก่อนที่จะเก็บของ
เตรียมตัวจะไปทำงาน (ตรวจตลาด) ที่โคราชวันจันทร์ ก็ได้รับ FW mail ฉบับนี้อีก ครั้ง เหมือนมีอะไร
ดลใจให้ไปหายายคนนี้ให้ได้เลย

พอไปถึงโคราช ก็ขับรถวนไปตรงถนนย่าโม หาทางไปตลาดแม่กิมเฮง ผ่านศาลย่าโมมานิด หน่อย พอมอง
หา ก็เห็นคุณยายนั่งอยู่ตรงเสาไฟฟ้าที่สามแยกหน้าร้านทอง (จอดรถที่วัดสะแกแล้ว เดินกลับมานิดหน่อยก็
เจอ) คุณยายนั่งอยู่กับพื้น ตรงหน้ามีผ้าพลาสติกเก่า ๆ มีเศษไม้มัดไว้เป็นกำ ๆ วางไว้เรียบร้อย มี
กระดาษที่คนใจดี print ให้ไว้ว่า 'เศษไม้ก่อไฟ มัดละ 1 บาท'

เราบอกคุณยายไปว่า เห็นเรื่องยายในหนังสือ (หมายถึง email แต่กลัวยายไม่รู้จัก) ก็เลยมาเยี่ยม
คุณยายหูตึงแล้ว แต่ยังคุยรู้เรื่องนะ แกถามว่าหนูมาจากไหน จะอยู่กี่วัน มานี่ พักอยู่ที่ไหน เราก็ตอบแกไป
ว่ามาจาก กรุงเทพฯ แกถามว่าอยู่เขตอะไร ก็บอกแกไปว่าอยู่เขตประเวศ ตอนนั้นคิด ว่าบอกไป แกก็คง
ไม่รู้จักหรอก ระหว่างนั้นก็มีคนเดินมาดูเศษฟืน ถาม ๆ อะไรหน่อยแต่ก็ไม่ได้ซื้อ เราก็เลยบอกคุณยายว่า
หนูขอซื้อกำนึงนะ แล้วก็เอาเงินให้แกไปร้อยนึง ยายก็ยิ้มดีใจ ขอบใจให้พร ตอน นั้นประมาณบ่ายกว่า ๆ
ยายบอกว่ายังไม่ได้กินข้าว เราก็เลยบอกให้ยายเก็บเงินไว้กินข้าวนะ แล้วยายก็เอา เงินซุกลงไปในเสื้อ
เหน็บไว้ตรงหน้าอก ไอ้เราก็กลัวเงินจะหล่นนะ เพราะหน้าอกยายไม่ใช่สาว ๆ แล้ว

เท่าที่คุยกับยายก็เลยรู้ว่าแกต้องจ้างคนผ่าเศษไม้ให้ ถุงนึง 100 บาท แล้วแกก็ เอากรรไกรเก่า ๆ เป็น
สนิมอันนึง นั่งตั้งอกตั้งใจตัดให้เป็นท่อนเท่า ๆ กัน มัดด้วยหนังยาง ขายกำละ 1 บาท เท่าที่เห็น ถ้า
ขายกำละ 1 บาทจนหมด ไม่รู้จะได้ถึง 100 บาทมั้ย ยายบอกว่าก็ขายพอกินข้าวได้ไป วัน ๆ แล้วตอน
เย็นยายต้องจ้างสามล้อ 20 บาท ไปส่งตรงป้ายรถเมล์ จ่ายค่ารถเมล์อีก 8 บาท พอลง รถแล้วต้องเดิน
ต่อไปอีกกว่าจะถึงบ้าน แต่รถบางคันก็ไม่ยอมรับแกขึ้นรถนะ

พอคุยกันซักพัก เราก็ขอตัวลาแกไปทำงาน แกก็อวยพรให้ บอกว่า 'ขอให้เจริญ ๆ นะ หนู... อยู่แถว
ประเวศใช่มั๊ย' ดีจังเลย คุณยายจำได้ด้วย เราคิดว่าคุณยายใส่ใจฟังจริง ๆ นะ คน บางคนเวลาที่เรา
คุยด้วย ก็ถามนั่นถามนี่ไปตามมารยาท ไม่ได้ใส่ใจฟังจริง ๆ อย่างนี้หรอก

คุณยายบอกว่า คิดถึงยายก็มาเยี่ยมยายนะ ยายอยู่ตรงนี้แหละ พอเราเดินออกมานิด หน่อยก็คิดถึงยายแล้ว
หล่ะ หลังจากนั้นประมาณซัก 10 นาที (ไปทำงาน) พอเดินกลับมาเห็นคนขายก๋วยเตี๋ยว หนุ่มทางทางใจดี
กำลังเอาก๋วยเตี๋ยวมาให้ยาย แล้วก็คอยดูอยู่ว่ายายจะทานได้มั๊ย เราเลยเดินไป ซื้อน้ำเปล่ามาให้ยาย
ขวดนึง แล้วก็บอกให้ยายกินน้ำด้วยนะ อากาศร้อน ยายก็ยิ้มดีใจ บอกว่า 'ดีจังเลย ได้กินน้ำเย็น ๆ'
ฟังแล้วก็ดีใจจัง

มาคิด ๆ ดูแล้ว บางทีเราเองกินทิ้งกินขว้าง จ่ายเงินกับเรื่องไร้สาระ ซื้อของ แพงโดยไม่จำเป็น ไป
ร้านทำผมมาทีก็หลายตังค์ แต่น้ำเย็นขวดนึงแค่ 10 บาท ทำให้คนแก่คนนึงยิ้มได้ อย่างมีความสุขขนาดนี้
เย็นวันนั้นโทรไปเล่าให้เพื่อนฟัง บอกว่าวันรุ่งขึ้นก่อนกลับ กทม จะไปหายายอกี ที เพื่อนใจดีก็ฝากเอา
เงินไปให้ยายอีกด้วย

พอวันรุ่งขึ้นตอนใกล้ ๆ เที่ยง ก็ซื้อน้ำเย็นไปให้ยายอีกขวด (คราวนี้ตั้งใจ เลือกขวดเย็นเจี๊ยบเลย) พอ
คุณยายเห็นหน้าเราแล้วก็พูดว่า 'อ๋อ หนูที่อยู่ประเวศใช่มั๊ย' ดูซิ ยายน่ารัก จังเลย จำได้ด้วย เราถาม
แกไปว่ากินข้าวหรือยัง แกบอกว่า 'ยังไม่มีเวลากินเลย มีแต่เวลาทำงาน (ตัดไม้) ตั้งแต่เช้ายังขายไม่
ได้ซักกำเลย' เราก็เลยไปซื้อข้าวมาให้ แล้วก็เอาเงินของเพื่อนกับเงินตัวเองให้ แกไปอีกจำนวนนึง
บอกให้แกเก็บดี ๆ นะ ค่อย ๆ ใช้ ยายกระซิบบอกว่า ต้องเก็บดี ๆ เพราะเคยมีคนมา แย่งเงินแกไป
เฉย ๆ เลย เป็นผู้หญิง (ทำไมใจร้ายนักก็ไม่รู้ !) แล้วแกก็ล้วงเข้าไปในเสื้อ ดึงกระเป๋าผ้าใบเล็ก ๆ
เก่า ๆ ที่มีสายผูกกับเสื้อแกอีกที แล้วก็เก็บเงินเข้าไปในนั้นอย่างระวัง

ตอนขอถ่ายรูป คุณยายบอกว่า 'ยายขายฟืน ให้ยายถือฟืนซักกำนึง ถ่ายรูปด้วยดีมั๊ย' ... แหม คุณยายนี่
ก็มี prop นะคะ โพสต์ท่าเก่งไม่เบา ...
เราเอารูปในมือถือยื่นให้ยายดู แต่ยายบอกว่ามองไม่เห็นหรอก เพราะตายายไม่ดี หมอ เพิ่งลอกต้อออก
ไปแค่ข้างเดียว ตอนนี้ดูฟ้าเห็นพระอาทิตย์เป็นสีเหมือนเลือดเลย น่าเศร้าจัง ยาย บอกว่ากลับไปแล้วถ้ามี
โอกาสมาอีก หรือถ้ามีใครมาโคราช ยายขอรูปแผ่นนึงนะ ฝากเค้าเอามาให้ยายทองตรงนี้ แล้วบอกว่า
จากหนูที่อยู่ประเวศ ยายก็จะจำได้ .... คุณยายความจำดีจริง ๆ

ก่อนกลับ ยายอวยพรให้อีกหลายครั้ง แล้วถามว่าจะมาโคราชอีกเมื่อไหร่ สงกรานต์จะ มามั๊ย เราก็ไม่แน่
ใจหรอก แต่ถ้ามีโอกาสต้องไปหายายอีกแน่ ๆ ใครที่มีโอกาส อยู่โคราชหรือผ่านไปทาง โคราช แวะไป
เยี่ยมคุณยายหน่อยนะคะ ไม่เสียเวลามากหรอกค่ะ แค่มีคนไปคุยด้วย แกก็ดูความสุข ขึ้นมาก ๆ แล้ว ถ้า
พอจะช่วยเหลือได้ ก็ซื้อเศษไม้ของยายซักกำ ถึงจะไม่มีใครต้องการใช้ แต่ตอนนี้ เรารู้สึกว่ามีคุณค่ามาก
สำหรับจิตใจ ของทั้งผู้ให้และผู้รับ

ขอบคุณทุก ๆ คนที่เคย Forward Mail นี้ต่อ ๆ มาให้ และก็หวังว่ามันจะยังคงถูก FW ต่อไปอีกเรื่อย
ๆ อย่างน้อยก็ช่วยต่อชีวิตให้คุณยายทอง ที่ไม่ได้ร้องขออะไรเลย แต่ยังคงทำงาน ขายเศษไม้แลกเศษเงิน
เพื่อประทังชีวิต

ข้างล่างเป็นภาค 1 ค่ะ ขอบคุณคนที่เขียนเรื่องนี้มากนะคะ ที่ทำให้เราได้ไปพบคุณ ยายผู้น่ารักคนนี้
แสงไฟในเศษฟืน::ถ้าเราพอจะช่วยได้..ยาย.. รอ...
: แสงไฟในเศษฟืน::ถ้าเราพอจะช่วยได้..ยาย.. รอ...
คำสอนของยายทอง ขอปล้องกลาง
ชีวิตหญิงชราวัย 81 ปี ที่ต่อสู้ชีวิต ด้วยการ'ขายเศษ ฟืน'
ยายทอง คือยายที่เราเคยไปถ่ายทำสารคดีเรื่อง แสงไฟในเศษ ฟืน

แล้วได้รับรู้ว่าชิวิตของยายนั้นต้องอยู่อย่างลำบากในเพิงสังกะสี เก่าๆ
ไม่ต่างจากกองขยะ ที่ทั้งอุดอู้ สกปรก และไม่สามารถกันแดดฝนอะไรได้ เลย
ยายต้องเดินเท้าหลายกิโลพร้อมกับกระสอบฟืน ขวดน้ำเก่าๆ และร่มคัน หนึ่ง
ใช้พยุงตัวเองมาเรื่อยๆให้ถึงหน้าโรงเรียนบุญวัฒนาเพื่อขอขึ้นรถ โดยสาร
(ที่บางคันจอดรับ และบางคันก็ไม่ให้ยายขึ้น) ไปยังหน้าร้าน ทอง
สามแยกตลาดแม่กิม เฮง

'1 บาท เศษไม้ขอแลกเศษเงิน ขอบคุณลูกหลาน..ที่ช่วยต่อชีวิตให้ ยาย'
ประโยคหนึ่งในเศษกระดาษเก่ายับที่วางอยู่หน้ากอง ฟืน
ได้คนขับสามล้อแถวนั้นเขียนทิ้งไว้ ให้
เผื่อว่าคนที่ผ่านไปมาจะได้เห็น ว่า
ที่มุมเสาไฟฟ้านั้นมีอีกชีวิตที่รอคน เมตตา
ซึ่งความจริงนั้นบางวัน ยาย...
อาจได้แค่คนที่หยุดมองอย่างสงสัยแต่ก็ไม่มีใครสนใจจะซื้อเศษไม้ไร้ค่านั้น เลย
สั ก ค น เ ดี ย ว

เราส่งเมลล์นี้มา ด้วยความที่อยากช่วยเหลือ ยาย
แต่ไม่รู้จะช่วยด้วยวิธีไหน
อยากให้เพื่อนๆช่วยForward mail นี้ต่อกันไป เรื่อยๆ
เผื่อว่าคนที่อยู่โคราช และมีโอกาสผ่าน ไป
ถนนเส้นย่าโม สามแยกทางเข้าตลาดแม่กิมเฮง ตรงเสาไฟฟ้า หน้าร้าน ทอง
เพื่อนๆจะเห็นคนแก่คนหนึ่ง ที่ไม่มีอะไรเลย นั่งอาศัยเงาจากเสา ไฟฟ้า
เพื่อขายของบางอย่าง ที่คนสมัยนี้เค้าไม่ได้ต้องการ แล้ว
แต่ 'ฟืน' มันก็เป็นเหมือนความหวังเดียวที่ยาย มี
ทางออกเดียวที่ยาย เห็น
จากดวงตาที่พร่ามัวเกือบบอดด้วยโรค ชรา
และหูที่ตึงจนเกือบไม่ได้ยินแล้ว
ถ้าเพื่อนไม่ได้ผ่านไปก็ช่วยForward mail นี้ต่อๆกันไป ที
ถือว่าเป็นการทำบุญเท่าที่เราทำได้ เผื่อว่าวัน หนึ่ง
จะมีใครสักคนที่จะเข้ามาช่วย เหลือ
ยายทอง ให้เป็นอยู่ในสภาพที่ดีกว่า นี้....
















ไม่มีความคิดเห็น: