19 ธ.ค. 2550

7 วิธีถนอมพลังงานแบตฯโน้ตบุ๊ก

สำหรับวินทิปในครั้งนี้ ขอเสนอวิธีง่ายๆ ที่จะช่วยถนอมพลังงานแบตเตอรี่ของโน้ตบุ๊กที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Windows XP ให้สามารถใช้งานได้นานขึ้น ไม่หมดเร็วเกินไป...ถ้าพบว่า โน้ตบุ๊กที่รัน Windows XP ของคุณมีปัญหาใช้พลังงานแบตเตอรี่หมดค่อนข้างเร็ว (กรณีนี้แบตฯ ต้องไม่เก่า หรือเสื่อมสภาพแล้วนะครับ) ทำให้ต้องคอยรีชาร์จอยู่บ่อย เทคนิค 7 ข้อต่อไปนี้น่าจะช่วยคุณได้ ลองนำไปปฏิบัติดูนะครับ

1. ตรวจสอบแบตเตอรี่ที่ใช้ว่ายังคงสามารถชาร์จพลังงานได้เต็ม หรือไม่? ซึ่งขั้นตอนของการทดสอบโดยทั่วไปให้ชาร์จแบตเตอรี่ให้เต็มก่อน (ดูจาก Power Meter ใน Power Options) จากนั้นปิดโน้ตบุ๊ก ถอดแบตเตอรี่ออก เพื่อทดสอบว่า มันยังสามารถชาร์จประจุได้เต็ม หรือไม่? โดยมองหาปุ่มที่ใช้ทดสอบที่อยู่บนแบตเตอรี่ ซึ่งบางรุ่นก็จะมีส่วนแสดงผลเล็กๆ ให้สังเกตุได้ง่าย ทั้งนี้จะมีความแตกต่างกันขึ้นอยู่กับแบตเตอรี่ของผู้ผลิตแต่ละเจ้า

2. ถ้าไม่จำเป็นต้องออนไลน์กับเครือข่ายใดๆ แนะนำให้ออฟไลน์จะดีกว่า (ยกเลิก (disable) การเชื่อมต่อกับเครือข่าย) การเชื่อมต่อเครือข่ายตลอดเวลาจะทำให้โน้ตบุ๊กต้องใช้พลังงานมากกว่าปกติ

3. ถอดอุปกรณ์ USB ออกจากพอร์ต เมื่อไม่ได้ใช้งาน

4. ยกเลิกโพรเซสแบคกราวด์ที่ไม่จำเป็นออกให้หมด อย่างเช่น Rnaap ซึ่งถูกโหลดตอนไดอัลอัพ และค้างอยู่ในหน่วยความจำ หรือ Msmsgs.exe กรณีที่คุณไม่ได้ใช้ Microsoft Messenger เป็นต้น แต่ห้ามยกเลิกโพรเซสของซอฟต์แวร์ไฟร์วอล หรือแอนตี้ไวรัส เพราะมันจะทำให้ระบบของคุณตกอยู่ในความเสี่ยง นอกจากนี้ยังห้ามลบโพรเซสที่สำคัญของ Windows XP ซึ่งได้แก่ Explorer.exe, LSASS.EXE, services.exe, System และ WINLOGON.EXE ส่วนวิธีกำจัดโพรเซสที่ไม่จำเป็นให้เรียกโปรแกรม Task Manager (กดปุ่ม Ctrl-Alt-Del) แล้วคลิกแท็บ Processes เลือกโพรเซสที่ต้องการลบออกจากหน่วยความจำ คลิกปุ่ม End Process

5. เปลี่ยน Screensaver เป็น “Blank Screen” เพราะมันไม่จำเป็นเลยที่คุณต้องเสียพลังงาน เพื่อแสดงภาพดอกไม้ไฟ, ตู้ปลา หรือข้อความเลื่อนลอย6. ถึงคุณจะไม่สามารถยกเลิกโพรเซสการทำงานของซอฟต์แวร์แอนตี้ไวรัส แต่ก็ไม่ควรกำหนดให้ซอฟต์แวร์สแกนระบบโดยสมบูรณ์ขณะที่ไม่ได้เสียบปลั๊ก เพราะมันจะทำให้พลังงานของแบตฯ หมดเร็วจนน่าใจหายเลยล่ะ (กรณีของการสแกนหาสปายแวร์ด้วย)

7. สำคัญที่สุดคือ เมื่อเวลาที่โน้ตบุ๊กไม่อยู่ในระหว่างการใช้งาน แนะนำให้ชัตดาวน์ระบบ หรืออาจจะเข้าโหมดแสตนด์บาย (standby) หรือไฮเบอร์เนต (hibernate) จะดีกว่าการเปิดเครื่องทิ้งไว้เฉยๆเชื่อว่า หากปฏิบัติตามเทคนิคง่ายๆ ทั้ง 7 ข้อนี้แล้ว คุณจะสามารถใช้พลังงานจากแบตเตอรี่บนโน้ตบุ๊กได้นานขึ้น ไม่ต้องชาร์จบ่อยเหมือนแต่ก่อน ลองไปทำดูนะครับ สำหรับวิธียืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่ แนะนำให้ใช้พลังงานจากแบตเตอรีให้หมดทุกครั้ง แล้วจึงชาร์จใหม่จนเต็ม และเมื่อเต็มแล้วก็ควรใช้พลังงานจากแบตเตอรี่แทนการเสียบปลั๊กต่อเนื่องเป็นเวลานานๆ เพราะแบตฯจะเสื่อมเร็วครับ

เหล้าปั่น ทำให้สาวๆๆ ทาน......

สูตรการทำ ค็อกเทล
กามิกาเซ่ ( KAMIGAZE )
ส่วนผสม กามิกาเซ่
น้ำแข็งเต็มแก้วล้น ๆ 12-14 ออนซ์ 1 ถ้วย
เหล้าวอดก้า 1 ออนซ์
น้ำหวานรสราสป์เบอร์รี่ 1 ออนซ์
น้ำมะนาวหวาน 1 ออนซ์
ถ้าให้อร่อยเติมเนื้อสับปะรด 2-4 ชิ้น ถ้าไม่มีก็ไม่จำเป็น

วิธีทำ กามิกาเซ่ ใส่ส่วนผสมทั้งหมดลงในโถปั่น (กำลัง 450 วัตต์ขึ้นไป)
ปั่นประมาณ 20-30 วินาที เสิร์ฟเทใส่เหยือกเสิร์ฟพร้อมแก้วเป็ก

แอปเปิ้ล แจ็ค (APPLE JACK)
ส่วนผสม
น้ำแข็งเต็มแก้วล้น ๆ 12-14 ออนซ์ 1 ถ้วย
เหล้าวอดก้า 1 ออนซ์
น้ำหวานรสแอปเปิ้ล 1 ออนซ์
น้ำมะนาวหวาน 1 ออนซ์
เติมเนื้อแอปเปิ้ลจะอร่อยมาก

วิธีทำ ใส่ส่วนผสมทั้งหมดลงในโถปั่น(กำลัง 450 วัตต์ขึ้นไป)
ปั่นประมาณ 20-30 วินาที

บลูเบอร์รี่เฮเว่น (BLUEBERRY HEAVEN)
ส่วนผสม
น้ำแข็งเต็มแก้วล้น ๆ 12-14 ออนซ์ 1 ถ้วย
เหล้าวอดก้า 1 ออนซ์
น้ำหวานรสบลูเบอร์รี่ 1 ออนซ์
น้ำมะนาวหวาน 1 ออนซ์
เติมเนื้อสับปะรดหรือแอปเปิ้ลก็ได้

วิธีทำ ใส่ส่วนผสมทั้งหมดลงในโถปั่น(กำลัง 450 วัตต์ขึ้นไป)
ปั่นประมาณ 20-30 วินาที

18 ธ.ค. 2550

อิฐสองก้อนที่ไม่ดีในตัวคนเรา

วันนี้อ่านหนังสือเล่มนึง อ่านแร้ว...สบายใจจัง เอาเรื่องนึงมาให้อ่านเล่นๆๆนะ ว่าแต่..ทนอ่านหน่อยนะ มันยาวหน่อย แต่เราอ่านแล้วยิ้มเลย

มีพระอยู่องค์หนึ่งท่านอยู่ที่วัดแร้นแค้นมากๆๆ

ท่านต้องสร้างวัดเอง จึงเริ่มก่อกำแพง

ทั้งๆๆที่ท่านมะเคยทำเลยในชีวิต

การก่อกำแพงที่คุณมองว่า แค่เอาอิฐวางเอาปูนใส่นั้น

แท้จริงแล้ว มันยากนะ เพราะว่าจะทำยังไงให้มันตรง

เท่ากันหมด พอพระท่านก่อกำแพงเสด ท่านเห๊นว่า

ตรงกลางของกำแพง มีอิฐอยู่ 2 ก้อนที่มันมะตรง

มันนูนออกมาจากอิฐก้อนอื่น ครั้นจะรื้อก้อมะได้

เพราะค่าใช้จ่ายมันแพง ทุกครั้งที่ญาติโยมมาที่วัด

อาตมาจะรู้สึกอับอาย มากเวลามีคนจ้องไปที่อิฐสองก้อนนั้น

จนกระทั่งวันนึง มีผู้ชายแก่คนนึงมาที่วัด แล้วมองไป

ที่กำแพงอันนี้ ชายแก่พูดว่า..กำแพงนี้สวยดี

อาตมาถามเค้าด้วยความตกใจว่า ลืมใส่แว่นมาเปล่า

คุณไม่เห๊นหรอว่ามันมีอิฐสองก้อนที่วางไม่ดีจนกำแพงนี้

ดูไม่ดี คำพูดที่ชายแก่ตอบอาตมามานั้น ได้เปลี่ยนแปลง

ทัศนคติทั้งหมดของอาตมาชายแก่บอกว่า...ใช่

ผมเห็นอิฐที่วางไม่ดีสองก้อนนั้น แต่ผมก้อเห๊นด้วย

ว่ามีอิฐอีก 998 ก้อนก่อไว้ได้อย่างสวยงาม เปนระเบียบ

อาตมาถึงกับอึ้งทีเดียว นับเปนครั้งแรกในรอบหลายๆๆปี

ที่อาตมามองเห๊นอิฐก้อนอ ื่นๆบนกำแพงนอกเหนือจาก

สองก้อนที่เปนปัญหา ตาของอาตมามืดบอดต่อสิ่งอื่นทั้งหมด

เดวนี้เมื่ออาตมามองเห็นอิฐดีๆๆแล้ว

กำแพงนี้สำหรับอาตมาก้อไม่น่าเกลียดอีกต่อไป

คนเราซักกี่คนที่ตัดสัมพันธ์กะเพื่อน พี่ น้อง

เพียงเพราะเขาเพ่งมองแต่..อิฐที่ไม่ดีสองก้อนนั้น

ที่อยู่ในตัวคนอื่น ทั้งๆๆที่ในความเปนจริง มีทั้งอิฐที่ดี

และอิฐที่ดีจนไม่มีที่ติ เพียงแต่เรามองไม่เห๊นมันเท่านั้น

แทนที่จะเหนสิ่งดีๆๆที่มีอยู่ สายตาของเรากลับเพ่งมอง

จดจ่อเฉพาะสิ่งที่ผิดพลาด มันน่าเศร้าจริงๆ ที่หลายครั้ง

หลายหนเราได้ลงมือทำลาย กำแพงที่ดีลงไปจริงๆๆ

ปล...ขอบคุณพี่ชายที่แสนดีคนนึง กับกำลังใจที่มีให้เสมอมา

14 ธ.ค. 2550

เค้าว่ากันว่า....

1. เค้าว่ากันว่า . . . อ่านหนังสือสักเล่มต้องใช้เวลา เช่นเดียวกัน เราคง ไม่รู้จักใครสักคนได้ดีตั้งแต่วันแรก 2. เค้าว่ากันว่า . . . อย่าตัดสินหนังสือดี ๆ แค่ปกมันสวย เช่นเดียวกัน คนหน้าตาดี อาจจะไม่ใช่คนดีเสมอไป




3. เค้าว่ากันว่า . . . คนที่ไม่ชอบอ่านหนังสือเลย ก็ใช่ว่าจะมีหนังสือเล่มแรกในชีวิตที่ชอบไม่ได้ เช่นเดียวกัน คนที่เราไม่คิดจะอยากรู้จักอาจจะเป็นคนที่ดีที่สุดในชีวิตเราก็ได้


4. เค้าว่ากันว่า . . . การชอบหนังสือสักเล่ม ไม่ได้หมายความว่า หนังสือเล่มนั้น เนื้อหาดีทุกหน้า เช่นเดียวกัน การรู้สึกดีกับใครสักคน ไม่จำเป็นว่าเขาต้องไม่มีข้อเสียอะไรเลย


5. เค้าว่ากันว่า . . . อย่ารู้สึกเสียดายเวลา กับการอ่านหนังสือบางเล่มจนจบ แล้วพบว่าเป็นหนังสือที่ไม่ชอบ เช่นเดียวกัน จงรู้สึกดี กับการใช้เวลากับใครสักคนหนึ่งอย่างเต็มที่ แม้ว่าวันหนึ่งจะรู้ว่า เขาคนนั้นไม่ใช่เลยสักนิด เพราะอย่างน้อย ต่อจากนี้ไป เราจะได้เลือกทางที่ถูกและคนที่ใช่ซะที

แจ้งเตือน การหลอกลวง สารพัน แชร์ลูกโซ่

เรื่อง ขอแจ้งเตือนผู้อาจตกเป็นเหยื่อในการหลอกลวงธุรกิจ สารพัดแชร์ ลูกโซ่ แชร์ข้าวสาร แชร์ก๋วยเตี๋ยว แชร์เว็บ

เนื่องจากปัจจุบันได้มีการกระทำความผิดของบุคคล หรือกลุ่มบุคคล เกี่ยวกับการฉ้อโกงประชาชนจำนวนมาก โดยการหลอกลวงให้ร่วมลงทุนในธุรกิจต่างๆ ในลักษณะของแชร์ เช่น ธุรกิจแชร์ซื้อขายข้าวสาร ธุรกิจแชร์ซื้อขายแฟนไชร์ก๋วยเตี๋ยว ธุรกิจแชร์ลงทุนในเว็บไซต์ และการชักชวนให้ร่วมลงทุนในหลากรูปแบบมากมาย

กรมสอบสวนคดีพิเศษ DSI กระทรวงยุติธรรม รู้สึกเป็นห่วงต่อความปลอดภัยในทรัพย์สินของพี่น้องประชาชน จึงขอแจ้งเตือน และให้ข้อมูล ข้อพึงระวังที่สามารถสังเกตเอง แก่พี่น้องประชาชน ที่สามารถทำได้ง่ายๆ ดังนี้

1. พิจารณาจากจำนวนสินค้า หรือสิ่งของที่ได้รับจากการร่วมลงทุนในธุรกิจ หากมีการซื้อขายแต่ว่าไม่ได้รับสินค้า หรือสิ่งของใดในการร่วมลงทุน ให้ระวังไว้ว่า ท่านอาจกำลังตกเป็นเหยื่อในการหลอกลวง

2. หากได้รับสินค้าจากการลงทุนทำธุรกิจแชร์ แต่สินค้าที่ได้มาในการลงทุนไม่คุ้มกับจำนวนเงินที่ต้องเสียไป เช่น การฉ้อโกงธุรกิจแชร์น้ำมันเครื่อง หรือธุรกิจแชร์อุปกรณ์ตกแต่งรถยนต์ จะถูกหลอกให้ร่วมลงทุน แล้วต้องหาลูกค้ารายอื่นๆ เข้ามาร่วมลงทุนต่อๆกันไป โดยแต่ละรายต้องลงทุนไปจำนวนเงิน 20 000 บาท แต่ได้สินค้าตอบแทนมาเพียง อุปกรณ์ล้างรถ และกระป๋องน้ำยาขัดรถ ราคารวมประมาณ1 500 บาทเมื่อพิจารณาจะเห็นได้ทันทีว่า ไม่คุ้มกับจำนวนเงินที่ชำระไป ซึ่งการกระทำโดยการให้สิ่งตอบแทนที่ไม่คุ้มกับราคานี้ เป็นเพียงการหลีกเลี่ยงกฎหมาย ให้มีลักษณะดูเสมือนว่าเป็นการซื้อขายกันจริงเท่านั้น

3. ในกรณีการชักชวนทำธุรกิจที่ไม่มีสินค้า แต่แอบแฝงมาในรูปแบบของบริการหรือมีลักษณะ ที่ไม่เป็นรูปธรรม จับต้องไม่ได้ เช่น ชักชวนลงทุนทำธุรกิจให้เช่าพื้นที่ในจัดทำเว็บไซต์ โดยจะมีการชักชวนประชาชนว่าเป็นการเข้าไปสมัครเช่า Hosting และทำธุรกิจโดยการให้เช่าพื้นที่ในการจัดทำเว็บไซต์ในลักษณะเช่าต่อๆกันไปหลายร­าย ดูเสมือนว่า มีการซื้อขายของกันจริง แต่ผู้ที่มีความรู้ความชำนาญในด้านคอมพิวเตอร์โดยทั่วไป จะทราบดีว่าการเปิดเว็บไซต์ในแต่ละเว็บไซต์จะมีค่าใช้จ่ายน้อยมาก ฟรีเว็บไซต์เลยก็มี และเว็บไซต์แต่ละเว็บไซต์ที่ทำการเปิดแทบที่จะมีค่าน้อยหรือไม่มีค่าใดๆเลย และที่สำคัญคนที่ต้องการจะจัดทำเว็บไซต์ จริงๆแล้ว ไม่จำเป็นจะต้องมาขอเช่าพื้นที่จากกลุ่มธุรกิจดังกล่าวแต่อย่างใด

4. พิจารณาจากรายได้ผลตอบแทน จากการประกอบการของธุรกิจที่มีการชักชวนให้ร่วมลงทุน หากผลประกอบการมีลักษณะที่สูงเกินกว่าปกติ ที่สามัญชนในการประกอบการค้าประเภทนั้นๆ พึงได้ ให้สันนิษฐานได้ว่าน่าจะเข้าข่ายลักษณะของการฉ้อโกงประชาชนให้ร่วมลงทุนทำธุรกิ­จแชร์ ที่ผิดกฎหมาย และอาจถูกหลอกลวงได้

5. การทำธุรกิจโดยการชักชวนประชาชนร่วมลงทุนในลักษณะเครือข่าย หรือลักษณะแชร์ลูกโซ่ หากถูกต้องตามกฎหมาย ธุรกิจเหล่านี้จะต้องทำการจดทะเบียนต่อสำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค โดยต้องทำการชี้แจงแผนการทำตลาดให้ สำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค ทราบในรายละเอียดของการประกอบธุรกิจที่ชัดเจนทุกขั้นตอน

6. พิจารณาจากที่ทำการที่ตั้งอันเป็นหลักแหล่ง ของผู้ประกอบการรวมทั้งการติดต่อของผู้ชักชวนให้ประกอบธุรกิจร่วมว่า มีที่ตั้งของสำนักงานในการประกอบธุรกิจที่แน่นอนหรือไม่ และสามารถที่จะติดต่อได้ตลอดเวลาทำการหรือไม่ หากมีการย้ายที่ประกอบการไปมาบ่อยครั้ง ปิดเว็บไซต์ หรือไม่สามารถที่จะติดต่อได้ น่าจะเป็นการประกอบธุรกิจเพื่อประสงค์ฉ้อโกงประชาชน

หากพี่น้อง ประชาชน พบธุรกิจที่เข้าข่ายข้อสังเกต ข้างต้นหรือประสบการโดนหลอกลวงด้วยตนเอง หรือแนะนำให้ผู้ที่ถูกหลอกลวง สามารถแจ้งเรื่องราว ได้ที่ ศูนย์รับเรื่องร้องทุกข์ กรมสอบสวนคดีพิเศษ เลขที่ 499 อาคารสุขประพฤติ ถนนประชาชื่น แขวง/เขต บางซื่อ จังหวัดกรุงเทพฯ (ช่วงระหว่าง สามแยกเตาปูนกับทางรถไฟ อยู่ช่วงซอยประชาชื่น 13-14 )

อนึ่ง หากท่านมีญาติ พี่น้อง หรือบุคคลที่รู้จักถูกหลอกลวงตามลักษณะที่กล่าวมาแล้ว หรือพบเห็นการหลอกลวงดังกล่าว โดยเฉพาะบนเว็บไซต์ ขอได้โปรดช่วยกัน ทำการรวบรวมข้อมูล จัดเก็บพยานหลักฐานในเบื้องต้น Save หน้าจอ เว็บเพจ ข้อมูล hosting ที่เช่า Server ฯลฯ และมาแจ้งต่อ กรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้ที่ dsi @ dsi.go.th เพราะภายหลังที่ทำการแจ้งความแล้ว เว็บไซต์ดังกล่าวมักจะมีการปิดตัวของธุรกิจเหล่านี้ลง หลักฐานต่างๆ อาจถูกทำลาย
หากเป็นไปได้ ขอความกรุณาช่วยกัน เผยแพร่คำเตือนนี้ ไปในวงกว้าง จักเป็น อนิสงค์ที่แรงกล้า และขอขอบพระคุณยิ่ง
แต่อย่างไรก็ดี ผมหวังไว้ว่า ไม่ขอให้มีผู้ใดถูกหลอกลวง จากกลุ่มมิจฉาชีพ เหล่านี้เลยจะดีกว่า
ด้วยความปรารถดี

พ.ต.อ.ญาณพล ยั่งยืน ผู้บัญชาการสำนักคดีเทคโนโลยีและสารสนเทศ กรมสอบสวนคดีพิเศษ DSI กระทรวงยุติธรรม

ภัยบัตรเครดิต

พอดีได้รับเมล์มา เลยนำมาให้อ่านกันครับเผื่อมีประโยชน์บ้างนะครับ

ใครมีบัตรเครดิตในครอบครอง ระวัง!!!!!!!!!!!!ให้ดี เรื่องนี้เกิด กับ ตัวผมเอง นะคับ วันที่ 22 พฤศจิกายน 2550 ประมาณ บ่ายโมง มีระบบตอบรับอัตโนมัติ โทรมาที่เบอร์ผม "ขณะนี้ ท่านเลยกำหนดชำระกับ ธนาคาร Standard Charter กรุณานำไปชำระด่วน... ถ้าต้องการทราบรายละเอียดเพิ่มเติม กรุณากด 9 เพื่อติดต่อ เจ้าหน้าที่" ด้วยความ งก ของผม เลยกด 9 ตามทันที.... แล้วก้ มี .ญ. ตอบกลับมา

.ญ...."สวัสดี ค่ะ Standard Charter Call center มีอะไรให้ บริการ ค่ะ"
.ผม...."ผมได้รับ แจ้งว่ามียอด ค้างชำระ คับ ... แต่ผมไม่เคยใช้ บัตร นี้เลยนะคับ"
.ญ....."เลขหน้าบัตร อะไรค๊ะ"
.ผม...."xxxx xxxx xxxx xxxx"
.ญ....."สะดวก บอก รหัสโทรศัพย์ ป่าวค่ะ"
.ผม....."ผมจำไม่ได้ คับ ขอเป็นประวัติส่วนตัวนะคับ"
.ญ....."ค่ะ ว/ด/ป เกิด ค่ะ"
.ผม.....**/**/**
.ญ.....โทร ที่ติดต่อ ได้
.ผม.....08*-***-****
.ญ......ค่ะ .. ต้องการสอบถามอะไร ค่ะ
.ผม.....ผมได้รับ โทร มาบอกว่า ผมค้างชำระ ทางแบงค์ น่ะคับ อยากทราบรายละเอียด
.ญ.....ค่ะ คุณมียอด ค้างชำรุสองยอด ค่ะ 30,000 บาท กับ 10,000 บาทค่ะ ใช่เมื่อวันที่ 5 ตค. กับ 12 ตค. ค่ะ ผมตกใจมาก คับ

.ผม.....แต่ผมไม่เคย ใช้ บัตรนี้เลย นะคับ!!!!!
.ญ.....งั้นทางเราขอแจ้ง กรณีของคุณ ไปทาง ฝ่ายกฎหมาย แบงค์ชาติ นะค่ะ
.ผม.....ได้คับ
.ญ.....ทางแบงค์ชาติ จะติดต่อกลับ คุณภายใน 10 นาทีนะคับ กรุณาอย่าเพิ่งใช้สายนะ ค่ะ .. ทางเรา ขอ ระงับการใช้บัตร ของคุณก่อนนะค่ะ
.ผม.....คับ แล้ว
.ญ. ก้ว่างโทรไป ประมาณ 5-10 นาที ก้มี โทร โทรเข้าเบอร์ ผม
.ผม.....สวัสดีคับ
.ช.....ผม อดิศร ศิริวัฒนานนต์ ฝ่ายกฎหมาย แบงค์ชาติ คับ ..ผมได้รับแจ้งจาก ธ. Standard Charter ว่ามีการลักลอบใช้จ่ายวงเงิน จากผู้ที่ไม่ใช่ เจ้าของบัตร ของ คุณ ฉันทิชย์ นางาม ใช่หรือเปล่า คับ
.ผม.....ใช่คับผม
.ช.....ช่วยเล่าเหตุการณ์ให้ฟังหน่อยคับ ผม ก้ เล่าเหตุการณ์ ตั้งแต่ รับ โทรตอบรับอัตโนมัติ ให้เขาฟัง
.ช.....กรณีอันตรายมาก ครับ .. ข้อมูลของคุณอาจรั่วไหล หรือมีการทำบัตร ปลอมได้ นะ ... ทางเรา ต้อง ทำสืบสวน ด่วน คับ คุณต้องหารให้ ทาง เรา สืบให้หรือเปล่า ครับ ด้วยความ ไม่มีสติ อย่างแรง

.ผม.....ช่วยสืบให้ผมด้วย คับ
.ช.....งั้น คุณต้องให้ความร่วมมือ กับ ทาง ฝ่ายกฎหมายด้วยนะคับ
.ช.....คุณมี บัตรกี่ ใบ ทำกับ ธ.อะไรบ้าง คับ ทางเราจะต้องทำการ ปกป้องรหัส ของคุณ ผมยังพาซื่อต่อไปอีก
.ผม.....มี * บัตร กะ ธ.*........ ดีนะที่ไม่ บอก เลขหน้าบัตรไป
.ช......แล้ว มีบัตร เอทีเอม ด้วย ป่ะคับ... กับ ธ.อะไรบ้าง คับ ...คือ ทางเราต้อง บล็อก ทางแบงค์ด้วย ยังคับผมยังไม่เลิก บื้อ
.ผม.....ผมมีบัตรเอทีเอม ของ แบงค์ X คับ .งั้น คุณต้อง ไปเช็คยอดเงินผ่าน ตู้ เอทีเอม นะคับ แล้ว ผมจะติดต่อหัวหน้า ให้ติดต่อกับ อีกทีคับ เรื่องนี้ต้องให้ ระดับหัวหน้า ติดต่อ ให้คับ ..ผมจะรีบยื่นเรื่องให้หัวหน้า ด่วนเลย นะคับ .. รอโทรกลับด้วยนะคับ เออ คราวนี้ ผมชัก ตะหงิด ล่ะ..(เริ่มมีสติ)

บัตรเครดิต เกี่ยวไรกะ เอที่เอม ว่ะ!!! ***ผมเลยโทรถาม call center Standard charter เบอร์หลัง บัตร นะคับ ทำตามระบบตอบรับ ของ แบงค์ ขอคุยกับ เจ้าหน้าที่
.ผม.....มีเรื่องรบกวนถามว่า บัตรผม ยกเลิกยังคับ
.เจ้าหน้าที่.....บัตรของคุณไม่มีการเคลื่อนไหว เกิน 2 ปี ... ทางแบงค์ จะยกเลิกบัตร อัตโนมัติ นะค่ะ แป่ววววว แล้ว ตรูมียอดค้างได้ ไง ฟ่ะ ????? ผมเลยแจ้ง เรื่องที่ ได้เจอมากับ เจ้าหน้าที่ ของ แบงค์ ไป
.เจ้าหน้าที่.....คุณโดนแก้ง มิจฉาชีพหลอกแล้วละ ค่ะ ช่วงนี้ มีเยอะมากเลย ค่ะ มีทั้งที่ โดนหลอกโอนเงินให้ โดย ที่ไม่รู้ตัว มีทั้งที่ ให้เลขบัตร และ ข้อมูลส่วนตัว ให้ คนร้ายไปทำบัตร ปลอมได้ง่ายๆ ดีนะคะที่คุณยังไม่ได้บอกรายละเอียด อะไรไปมาก

***ทาง call center Standard charter แนะนำว่า *****
ถ้ามีโทรแบบนี้ มา ให้ กดทิ้ง ไปเลย แล้ว โทรกลับ Call center ของ ทางแบงค์ นั้นๆโดยตรงอย่างเดียว เลย ค่ะ***** งง เต๊ก เลย คับผม.....

----ยังมีต่อนะคับ แล้ว ประมาณ 10 นาที ก้ มี

.ญ2. โทรมา
.ญ2.....สวัสดี คะ ดิฉัน...XXX XXX (ผมจำชื่อไม่ได้ ง่ะ) หัวหน้า ฝ่าย กฎหมาย แบงค์ชาติ ค่ะ เอ้าดูซิ มันจะมาไม้ไหนอีก
.ผม.....คับผม ผมต้องทำยังไง บ้าง คับ
.ญ2.....ใจเย็นๆ นะค่ะ อย่างแรก คุณต้องไปกด บัตร เอที่เอม ที่ตู้นะคะ เป็นตู้ของ ธ.กรุงเทพ นะค่ะ เพราะ ธ.กรุงเทพ link ตรงกับ แบงค์ ชาติค่ะ เอ้า ดูซิมันจะเอาไงกะ ตรู
.ผม.....คับผมผม อยู่หน้าตู้คับผม
.ญ2.....คะกดดูนะค่ะว่า มีเงินเท่าไร ดิฉัน ต้องแจ้ง ทางแบงค์ เพื่อ กันวงเงินส่วนนี้ไว้ก่อนที่ จะทำการระงับ การใช้ นะค่ะ
.ผม..... 99 บาท คับ (บังเอิญ เพิ่งกดเมื่อวาน )
.ญ2.....ค่ะ งั้น ดิฉันจะส่งเอกสาร ไปให้ ภายในสองวัน นะค่ะ (จนชิ...หาย ริอาจทำบัตรเครดิต ) แล้ว ก้ วางไปเลย ผมยังอยากถามต่อ

----จบเรื่องเล่า......เดี่ยวมีสรุป นะ อ่านอีกหน่อย-------
เหตุการณ์ ที่ผมเจอ ทาง Standard บอกว่า มันทำกันเป็น ขบวนการใหญ่ มาก มีคนทุกวงการร่วม ขบวนการ สรุปเหตุการณ์ นะ

1.โทรอัตโนมัติ โทรมา ( **ไม่โชว์เบอร์นะ**) บอกว่า มียอดค้าง ให้กด 9
2.มี พนักงาน โทรมา (**ไม่โชว์เบอร์อีก**) บอกว่ามียอดค้างจริง แต่ถาม ข้อมูลเราไป พอสมควร (อันนี้ ผมยังปอดๆ เลย ว่าที่ได้ไป จะเอาไปทำไรได้ อีกป่าว)
3.มี พนักงานบอกว่า จะมี ฝ่ายกฎหมาย โทรกลับ
4.มี ฝ่ายกฎหมาย โทรกลับมา(**เบอร์ประหลาด 9657**) ถามรายละเอียด และ หลอกถาม ข้อมูลอื่นๆ เพิ่มเติม บอกจะมีหัวหน้าโทรมา ทำเรื่องต่อ
5.มี ระดับหัวหน้า โทรมา(**ก้ยังไม่โชว์เบอร์**) บอกว่า ให้กด เอทีเอม เช็คยอดเงิน *** ขั้นตอนนี้ล่ะ ที่ ทาง Standard charter บอกว่า ที่เคยมี case นะ เหยื่อ จะทำตาม ด้วยความ งง หรือ ไม่มีสติ หรือ ตกใจ อะไรก้ ตาม ....... แล้ว โอนเงิน ให้ คนร้าย ไปเอง ............
(โชคดี ที่ มีเงิน แค่ 99 บาท ..555)

**หากเกิดเหตุ คล้ายๆผม ให้กดทิ้ง โทรไปถาม Call center ของแบงค์นั้นๆ เบอร์ ที่ หลังบัตร นะคับ**
case ของผม มีการกระทำไม่สมจริง ของ คนร้าย อยู่หลายอย่าง ..แต่ด้วยความ ตกใจของผม + ความไม่มีสติของผม เลยไม่ทัน คิดตาม.... หากเกิดเหตุการณ์ ร้ายๆ "สติ" เท่านั้นครับ ช่วยเราได้ หยุดคิด ซัก นิด เรียก "สติ" กลับมาก่อนค่อย ทำอะไรต่อ นะ ขอบคุณทาง Standard charter ที่กรุณาให้รายละเอียด มากมาย ฉันทิชย์ นางาม

12 ธ.ค. 2550

บันได 5 ขั้น สู่ชีวิตใหม่ ที่มีค่าและเป็นสุข

บันไดขั้นที่ 1 มองตัวเองว่าดีและมีค่าทุกวัน

ในแต่ละวันให้นึกถึงความดี และความโชคดีของตนเอง เริ่ม
ต้นด้วยการตื่นนอนตอนเช้า ให้ยิ้มกับตัวเอง และนึกว่าโชคดีที่ได้ตื่นขึ้นมาแล้ว ให้นึกถึงความดีของตนเอง
ที่เคยทำมาแล้วในอดีต (ที่สามารถนึกได้ง่ายๆ) เช่น เคยทำบุญ เคยช่วยคนที่อ่อนแอกว่า เคย
สงเคราะห์สัตว์ ฯลฯ คิดว่าตัวเองดี และมีคุณค่าที่ได้เคยทำสิ่งดีๆ และให้นึกซ้ำๆ จะได้เกิดความเชื่อ
ตามที่นึกนั้น คุณก็จะเกิดความอิ่มเอิบใจ และเชื่อว่าตัวเองมีความดี ความเก่ง ตามความเป็นจริงในขณะ
นั้นด้วย คุณจะเกิดความอยากมีชีวิตอยู่ และสร้างสิ่งที่ดีๆ ให้กับชีวิตต่อไป และต้องอวยพรตัวเองเสมอๆ
อย่าแช่ง หรือตำหนิตัวเอง และอย่ารอให้คนอื่นมาชื่นชมคุณ ซึ่งมักจะไม่ได้ดั่งใจ หรือได้มาก็ไม่สมใจ

บันไดขั้นที่ 2 มองคนอื่นดี มองโลกในแง่ดี

ขั้นนี้คุณจะต้องมองว่า ทุกๆ คน มีขีดจำกัดของความสามารถ ความดี ความเก่งกันทุกคน ตามความเป็น
จริงของเขา ซึ่งไม่เท่ากัน และไม่เหมือนกันเลย ส่วนความไม่ดี หรือไม่เก่งของเขา (ซึ่งมีกันทุกคน)
ปล่อยให้เป็นเรื่องของเขาไป ให้มองเฉพาะส่วนที่ดีของเขาเท่านั้น ถ้าคุณทำได้เช่นนี้ คุณก็จะเป็นคนที่
มองอนาคต และชีวิตดี มีความหวังที่ดีในชีวิตตลอดเวลา สองสิ่งนี้ ถ้าคุณทำเป็นนิสัย คุณจะพบว่า โลกนี้มี
สิ่งที่ดีๆ และไม่ยอมแพ้ต่ออุปสรรคต่างๆ และท้ายที่สุดก็จะกลายเป็นสุขนิยมทั้งชีวิต

บันไดขั้นที่ 3 ทำวันนี้ให้ดีที่สุด

คือการอยู่กับปัจจุบัน ทำกิจกรรมในวันนี้และเวลานี้ให้ดีที่สุด ทำได้แค่ไหนเอาแค่นั้น ไม่ทุกข์ร้อน หรือคาด
หวังกับผลลัพธ์ของมัน ไม่ว่าจะสมใจ หรือไม่สมใจก็ตาม จงชื่นชมในความตั้งใจ ทำเต็มความสามารถ
ของตนเอง และคิดต่อว่า ในอนาคตจะต้องทำให้ดีกว่านี้ นอกจากนั้น คุณต้องเลิกจดจำ หรือนึกถึงเรื่องที่
ไม่ดีที่เกิดกับคุณในอดีต เพราะการจดจำเรื่องราวที่ไม่ดีในอดีต เท่ากับคุณไปสะกิดแผลในใจ และจะทำ
ให้คุณเจ็บปวดมากยิ่งขึ้น จนส่งผลให้ปัจจุบันคุณไม่มีความสุข และกลัวว่าอนาคตจะเกิดสิ่งที่ไม่ดีซ้ำๆ อีก

บันไดขั้นที่ 4 มีความหวังและเชื่อว่าอนาคตจะดีเสมอ

ความหวัง ความเชื่อ เกิดจากความคิดถึงบ่อยๆ หรือได้ยินบ่อยๆ จงนึกและบอกกับตัวเองเสมอว่า
อนาคตจะดีขึ้นอีกเรื่อยๆ จะส่งผลให้เกิดกำลังใจมากขึ้น อยากพบเห็นสิ่งต่างๆ ที่จะเข้ามาในชีวิตโดยไม่
กลัว มีอารมณ์ขัน และไม่จริงจังกับชีวิตมากนัก แต่จะมีความหวังที่ดีๆ ( Good Hope) อยู่เสมอ แต่อย่า
มีความคาดหวัง ( Expectation) กับชีวิต เพราะถ้าคาดหวังกับชีวิต เรามักจะกลัว หรือกังวลว่าจะ
ไม่ได้ผลลัพธ์ดังความคาดหวัง หรือเมื่อได้มาแล้วก็มักไม่พอใจ จึงอาจทำให้เกิดทุกข์ได้

บันได้ขั้นที่ 5 ปรับปรุงตัวเองเสมอ

โดยปรับปรุง 4 ส่วนที่มีความสำคัญต่อชีวิต คือ
1. การงาน ให้มีความขยัน อดทน หมั่นหาความรู้ใส่ตัว และกล้าลงมือปฏิบัติในสิ่งที่ควรทำ จะ
ทำให้มีการลงมือทำสิ่งใหม่ๆ ในชีวิตได้เรื่อยๆ และปรากฏเป็นผลงานที่ชัดเจน

2. ครอบครัว จะต้องยึดหลักที่เป็นมงคลต่อกันคือ ไม่อิจฉา ไม่ระแวง ไม่แข่งขัน ไม่นอกใจ
รู้จักการให้และการอภัย มีน้ำใจ และรู้จักเกรงใจกัน

3. สังคม หมั่นสร้างมิตรเสมอ มีการให้ความสำคัญกัน ให้ความช่วยเหลือซึ่งกันและกัน และพูด
จากันแบบปิยะวาจา

4. ตนเอง ต้องมีการพัฒนาตนเองเสมอ มีความภูมิใจตนเองตามความเป็นจริง สามารถให้
กำลังใจตัวเองได้ และมีกำลังใจที่พร้อมจะเปลี่ยนแปลงตนเองไปในทางที่ดีขึ้น

พื้นฐานการขับรถ 4WD ในสถานการณ์ต่างๆ

เมื่อทราบข้อปฏิบัติแล้ว ม่านก็พร้อมที่จะทำความเข้าใจในการขับขี่รถ 4WD อย่างถูวิธี โดยแรกสุด ขอให้ทำความเข้าใจในธรรมชาติของรถ 4WD เนื่องจากระบบเคลื่อน 4 ล้อ เป็นระบบที่ทุกล้อทำการขับเคลื่อน และระบบของเฟืองท้าย อาจเป็นแบบธรรมดา ไม่ใช่แบบลิมิเต็ด สลปิ (LIMITED SLIP) ซึ่งจำเป็นต้องมีน้ำหนักกดในแต่ละคู่ล้อ จึงจะ ทำให้ล้อหมุนไปได้ ด้วยเหตุผลนี้ เราจำเป็นต้องขับ โดยพยายามให้ล้อแตะพื้นอย่างน้อย 3 จุด รถจึงจะสามารถเคลื่อนไปได้

วิธีการขับที่ง่ายที่สุด นั่นคือ การใช้ WALKING SPEED ในทุกอุปสรรค ขอให้ท่านผู้อ่านทดลอง เพื่อท่านจะได้ทราบถึงสมรรถนะของรถ 4WD ท่านจะรู้สึกถึงแรงดึงและดัน ของอัตราทดเกียร์ สโลว์ (4L ที่ตำแหน่งเกียร์ 1) โดยให้สังเกตถึงแรงดึงในขณะที่ขับลงเนินและแรงดันในขณะที่ขับขึ้นเนิน หากท่านมีความเข้าใจใน WALKING SPEED ดีแล้ว ท่านสามารถขับรถโดยไม่ต้องใช่เบรคเลย จนในที่สุดท่านจะทราบถึงขีดความสามารถของ WALKING SPEED และสามารถนำประโยชน์ไปใช้ได้จริงในบางลักษณะ ของเส้นทาง หรือบางกรณีก็จำเป็นต้องเปลี่ยนเกียร์และรอบเครื่อง เพื่อให้ผ่านอุปสรรคนั้นไปได้

1. การขับผ่านอุปสรรคทอ่นไม้ขวางเป็นลูกระนาด ควรเลือกใช้เกียร์ 4L ที่ตำแหน่งเกียร์ 1 เนื่องจากเราไม่ควรทำความเร็วมาก เพราะอาจทำให้ ช่วงล่างเสียหายได้ ให้ใช้รอบเครื่องอยู่ที่ประมาณ 2,000 รอบ เมื่อรถคร่อมท่อนไม้ ล้อหน้าและ หลังจะถูกล๊อคโดยท่อนไม้ ในจังหวะนี้ให้ปี๊มคันเร่ง เพื่อให้รถสามารถข้ามท่อนไม้ไปข้างหน้าได้

ข้อควรระวัง : ห้ามกดคันเร่งแช่ ให้ขับในลักษณะกด-ปล่อยๆ ตามจังหวะของรถ และไม่ควรเลี้ยง คลัทช์ เพราะคลัทช์อาจไหม้ได้

2. การขับขึ้นและลงทางลาดชัน

ในการขับขั้นทางชั้น เราต้องปรับเบาะให้ตั้งขึ้นกว่าปกติ เพื่อแก้ทัศนวิสัยให้ดีขึ้น โดยไม่ลืมที่จะคาดเข็มขัดนิรภัยพร้อมกับกระจกข้างล่าง
การขับขึ้นและลงทางชัน ให้ทดลองใช้ WALKING SPEED โดยไม่ต้องเปลี่ยนเกียร์ ทั้งขึ้นและลง ถ้าหากทางขึ้นมีองศาชันมาก จนเกียร์ 1 ไม่สามารถขึ้นได้ ให้เลือก ใช้เกียร์ 4L ที่ตำแหน่งเกียร์ 2 เพราะถ้าหากเราใช้เกียร์ 1 รอบเครื่องจะจัดเกิน ไป ทำให้รอบหมดเร็ว โดยที่ไม่สามารถไต่ขึ้นทางชันมากๆ ได้ และทำให้คลัทช์ สึกหรอมาก การที่เราเปลี่ยนไปใช้เกียร์ 2 ก็เพื่อทำให้ล้อหมุนจัดขึ้นในรอบเครื่อง เดิม ในขณะที่แรงบิดก็มีพอเพียงที่จะทำให้สามารถทำให้รถเคลื่อนที่ขึ้นไปได้

เราไม่ควรใช้เกียร์ 3 ในการขึ้นและลงเนิน เนื่องจากแรงบิดเกียร์ 3 ไม่พอ จะทำ ให้เครื่องยนต์ดับกลางเนิน ถ้าหากเราเปลี่ยนเกียร์ที่ต่ำลงไม่ทัน โดยเฉพาะ อย่างยิ่งการขับขึ้นทางชันที่มีผิวเปียกลื่นในขณะฝนตก เราจะต้องเลือกเกียร์ที่ถูก ต้องตั้งแต่ก่อนขึ้น เพราะหากใช้เกียร์ผิด รถจะไม่สามารถขึ้นได้และอาจะเป็น อันตรายถ้าหากเปลี่ยนเกียร์กลางเนิน

กรณีรถดับกลางเนิน ให้ดึงเบรคมือพร้อมกับเหยียบเบรค เพื่อให้รถหยุดอยู่กับที่ และเมื่อแน่ใจว่ารถหยุดอยู่กับที่แล้ว จึงค่อยสตาร์ทเครื่องยนต์ พร้อมกับเข้าเกียร์ ถอยหลังและปลดเบรคมือ จากนั้นปล่อยให้รถถอยลงด้วยเกียร์ถอยหลัง โดยไม่ ต้องเหยียบคลัทช์, เบรค, คันเร่ง ถอยลงจนสุดเนิน แล้วจึงตั้งหลักใหม่ หากถอยลง มาไม่สุดแล้วเร่งสู้ ไม่มีทางที่จะทำให้รถขึ้นไปได้เลย ในทางตรงกันข้ามรถอาจจะ ไหลกลับกลังอย่างควบคุมไม่ได้ การขับรถลงเนินให้ลงด้วยเกียร์ 2 โดยไม่ต้องใช้ เบรค เนื่องจากเกียร์จะดึงรถ ในกรณีที่ชันจัดจริงๆ ให้ใช้เกียร์ 1 ได้ (เกียร์ 1 จะ ดึงรถให้เคลื่อนที่ช้ากว่าเกียร์ 2 จึงเหมาะที่จะใช้กับพื้นผิวที่ไม่สามารถใช้ความ เร็วได้ เช่น ลักษณะทางที่เป็นโขดหิน หากขับลงเร็วช่วงล่างอาจเสียหายได้)

ข้อควรระวัง : ห้ามปล่อยรถไหลลงเนินเกียร์ โดยใช้เกียร์ว่างเด็ดขาด เพราะเบรค จะไม่สามารถทำให้รถหยุดได้ ซึ่งจะเป็นอันตราย

3. การขับรถพื้นเอียง

การขัขขนานไปกับเพื้นเอียง ตำแหน่งและทิศทางของล้อหน้ามีความสำคัญมาก ผู้ขับจะต้องคาด เข็มขัดนิรภัย และลดกระจกข้างลง เพื่อชะโงกมองล้อได้
เมื่อรถท่านอยู่บนระนาบ ซึ่งมีความเอียงมาก ให้ใช้วิธีการเดินรถช้าๆ (WALKING SPEED) โดย รักษารอบเครื่องให้คงที่พร้อมกับระมัดระวังทิศทางของพวงมาลัยหน้า อย่าหักพวงมาลัยไปใน ทิศทางขึ้นเป็นอันขาด เนื่องจากรถอาจจะม้วนคว่ำลง ให้ปรับทิศทางพวงมาลัยไปในทิศทางลง เพื่อให้ล้อหน้ายันไม่ให้รถพลิกคว่ำได้

ข้อควรระวัง : ห้ามยื่นส่วนหนึ่งส่วนใดของร่ายกางออกนอกรถ

4. การขับข้ามน้ำ

มีข้อปฏิบัติที่แตกต่างจากกรณีอื่น นั้นคือ ห้ามใส่เข็มขัดนิรภัย พร้อมกันนั้นให้ไขกระจกข้างลง, ปลอดล็อกประตู และปิดอุปกรณ์ไฟฟ้าทั้งหมด เพื่อเป็นการป้องกันการลัดวงจรไฟฟ้า ในกรณีที่เป็น รถที่มีระบบล็อคไฟฟ้า ในกรณีฉุกเฉินให้มุดออกทาง หน้าต่าง
เมื่อเราเจอน้ำขวางเส้นทาง สิ่งแรกที่ควรปฏิบัติ คือ เดินลงสำรวจร่องน้ำเพื่อหาเส้นทางที่ง่ายที่สุดในการ ข้ามน้ำ ระดับน้ำที่ลึกที่สุดที่รถสามารถลุยผ่านได้ก็คือ ระดับมิดยางพอดี เนื่องจากไส้กรองอากาศอยู่ในระดับ เดียวกับไฟหน้า เราจึงควรหลีกเลี่ยงระดับน้ำที่ลึก กว่านี้ หากน้ำมีกระแสแรง การขับข้ามอาจต้องแน่ใจ ว่าระดับน้ำไม่สูงกว่าขอบยาง มิฉะนั้น จะถูกน้ำพัดไป เนื่องจากรถจะลอยและล้อจะไม่แตะพื้น จากนั้นให้ สัเงกตทิศทางและความแรงของกระแสน้ำ ว่าควรตัดกระแสน้ำมากน้อยเพียงใด หากมีกระแสน้ำ แรงมากก็ควรหลีกเลี่ยง

การขับน้ำให้ขับด้วยความนิ่มนวล โดยใช้เกียร์ 4L (เกียร์ 1 ) ทั้งนี้เพราะเกียร์ 1 เป็นเกียร์ที่รถจะดับยาก ที่สุด และรถก็จะมีความเร็วต่ำ ซึ่งจะทำให้ช่วงล่าง ปลอดภัย ถ้าหากเราขับเร็วแล้วกระทบกับหินใต้น้ำ ช่วงล่างอาจเสียหายได้

ถ้าหากรถดับในน้ำ ห้ามสตาร์ทซ้ำเด็ดขาด เพราะน้ำ ได้เข้าไปในเครื่องยนต์แล้ว ให้ดึงรถขึ้นมาบนฝั่ง ทำการไล่น้ำออกจากระบบน้ำมันให้หมด แล้วจึงเช็ค ระบบไฟฟ้า จนแน่ใจว่าทุกอย่างเรียบร้อยจึงค่อย สตาร์ท

หลังจากทำการลุยน้ำ ให้ตรวจเช็คน้ำมันเกียร์, น้ำมัน เกียร์สโลว์, น้ำมันเฟืองหน้าและเฟืองท้าย ว่าน้ำเข้า ไปผสมในน้ำมันหรือไม่ หากมีน้ำผสมในน้ำมัน น้ำมันจะเปลี่ยนเป็นสีขุ่นคล้ายสีกาแฟ หากน้ำเข้าเฟืองท้ายมาก ให้ทำการเปลี่ยนถ่ายทันที

ข้อควรระวัง : ถ้าหากกระแสน้ำแรงมากจนแน่ใจไม่ สามารถขับผ่านกระแสน้ำได้ ให้เร่งเครื่องแล้วดับ กุญแจรถทันที เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำไหลย้อนเข้าไป ในเครื่อง ระวังอย่าให้รถน็อคดับเอง หากแช่น้ำเป็น เวลานาน ให้นำรถขึ้นมาแล้วทำการไล่น้ำออกจาก ระบบเครื่องยนต์ หากกระแสน้ำแรงมากและจำเป็น ต้องผ่านจริงๆ ให้รถคันที่อยู่ข้างหลังโดยสายสลิงกับ ท้ายรถคันหน้า เพื่อความปลอดภัยในกรณีที่ไม่ สามารถสุ้ความแรงของกระแสน้ำได้

5. การขับรถบนทราย

การขับบนทรายให้ใช้ WALKING SPEED ประกอบ กับลดแรงดันลมยางลงเหลือประมาณ 15-18 ปอนด์/ตร.นิ้ว หากมีอุปกรณ์พิเศษ (TIRE LOCK) ก็สามารถลดแรงดันลงเหลือเพียง 8 ปอน์ด/ตร.นิ้ว ได้ โดยที่ยางไม่หลุดขอบ

การลดแรงดันลมยางก็เพือ่เพิ่มพื้นที่หน้าสัมผัสของ หน้ายางกับทรายให้มากขึ้น โดยเราจะต้องบรักษา รอบเครื่องให้คงที่ที่สุด ถ้าหากกดคันเร่งแรงเกิน ล้อจะขุดทรายฝังตัวเอง จะเห็นได้ว่าดอกยาง MUD-TERRAIN จะขุดทรายทำให้รถจมได้ง่ายกว่า ดอกยางแบบ ALL-TERRAIN
หากเป็นทรายชายทะเล ซึ่งมีความร่วนซุยมาก เมื่อ เราตั้งหลักได้ ก็ให้ไล่เกียร์ได้ตามปกติ หากมีการ สะดุดในการขับรถอาจจะจมทรายได้ การขับบนทราย ที่ร่วนซุยมาก ให้หลีกเลี่ยงการเลี้ยวแคบๆ เนื่องจาก แก้มยางหน้าจะต้านทราย ทำให้จังหวะของรถเสียหาย

ข้อควรระวัง : ถ้าหากรถจมทรายละเอียด ควรใช้รอก ไฟฟ้า (WINCH) ดึงรถขึ้น โดยไม่ต้องเร่งเครื่องยนต์ ห้ามเร่งสู้ เพราะนอกจากจะไม่ขึ้นแล้ว ทรายละเอียด ก็จะเข้าไปกัดตามซีลต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสักหลาด กะโหลกล้อ, ซีลเฟืองท้าย, ซีลดุมล้อ รวมทั้งลูกรอกของ สายพาน ราวลิ้น ฯลฯ ทำให้เกิดความเสียหาย

6. การขับรถเนินสลับ

ลักษณะของเนินสลับ คือลักษณะที่มีเนินซ้าย-ขวา สลับกัน เราสามารถใช้ 4L ที่ตำแหน่งเกียร์ 1 หรือ 2 ก็ได้ ให้จับพวงมาลัยหลวมๆ เพื่อที่เราจะได้ไม่ฝืน ไลน์ จะเห็นได้ว่า เมื่อผ่านเนินลูกแรกถึงเนินลูกที่ 2 หากเกิดอาหารงัดของรถ ทำให้รถมีลักษณะเป็นไม้ กระดกไม่สามารถขับต่อไปได้ เป็นเพราะเราฝืนพวง มาลัย ให้แก้โดยหักพวงมาลัยลงเนิน อย่าพยายาม ฝืนขึ้นเนิน เพราะรถจะไปไม่ได้ หากเราใช้กำลังพุ่ง ด้วยความแรง รถอาจจะดีดพลิกคว่ำได้

สรุปก็คือ เราจะขับอย่างไรก็ได้ให้ล้อแตะพื้น 3 จุด เป็นอย่างน้อย เราต้องชะโงกล้อหน้าว่าหักอยู่ในทิศ ทางใด หากรถกระดกไม่สามารถไปได้ให้หักพวงม ลัยกลับในทิศทางตรงกันข้าม แล้วรถจะไปได้เอง ให้ใช้ความนุ่มนวล ประกอบกับจังหวะเครื่องยนต์ และการแก้ทิศทางพวงมาลัยจึงจะเป็นวิธีที่ถูกต้อง ที่สุด

ข้อควรระวัง : อย่างไรก็ตามต้องรัดเข็มขัดนิรภัยและ ลดกระจกข้างลง เพราะเนินสลับ อาจทำให้รถพลิกคว่ำ ได้ง่าย หากใช้ความรุนแรง

7. การขับรถในโคลน

ถ้าหากสามารถลดแรงดันลมยางได้ โดยอยู่ที่ประมาณ 15-18 ปอนด์/ตร.นิ้ว ได้ จะทำให้การขับในโคลนง่าย ขึ้นมาก ดอกยางที่ต้องใช้ในโคลน ก็คือ ดอกยางแบบ MUD-TERRAIN

การขับรถในโคลน ให้เลือกใช้ 4L ที่ตำแหน่งเกียร์ 2 เท่านั้น (ยกเว้นเครื่องยนต์เบนซินที่มีซีซีต่ำ ให้ใช้ 4L ทีตำแหน่งเกียร์ 1)
ลักษณะของโคลนที่มีพื้นล่างแข็งยางหน้าแคบจะให้ ผลในการจิกที่ดีกว่ายางหน้ากว้าง วิธีการขับก็ให้ขับ ตามร่องรถคันหน้า ไม่ตำเป็นต้องเปิดไลน์ใหม่ ในการขับในเส้นทางธรามชาติจริง ถ้าหากด้านข้างมี เหว ต้องยึดร่องเดิมเป็นหลัก ห้ามคร่อมหรือฝืนร่อง เด็ดขาด เพราะรถจะเสียหลักขวางลำ ซึ่งจะอันตราย มาก การขับคร่อมร่องนอกจากจะอันตรายแล้ว จะทำ ให้คันชัก คันส่ง และต่อมลูกหมากหักได้

หากเป็นลักษณะโคลนเละ ห้ามขับกระโจนลงบ่อโคลน เพราะโคลนจะกระเด็นขึ้นมาจับที่รังผึ้งหม้อน้ำ และห้องเครื่องทั้หงมด ผลก็คือ ความร้อนของเครื่อง ยนต์จะสูงมาก เนื่องจากดินอุดตันรังผึ้งหม้อน้ำ และไดชาร์จจะไม่ชาร์จไฟ เนื่อจากแปลงถ่านไม่ดีด ออก จะทำให้มีปัญหาเรื่องระบบไฟฟ้า เหตุผลอีก ประการหึ่งก็คือ หากเรากระโจนลงในบ่อโคลน เราจะไม่รู้ได้เลยว่าข้างใต้โคลนนั้นมีอะไรอยู่ หาก เผอิญเป็นก้อนหินใหญ่ ก็จะทำให้ช่วงล่างพัง

การดิ้นรนในกรณีจมโคลน (ในรถเครื่องยนต์ดีเซล ให้ใช้ 4L ที่ตำแหน่งเกียร์ 2 ห้ามใช้เกียร์ 1 เพราะ รอบเครื่องจัดเกินไป ไม่สามารถขึ้นได้ ส่วนในรถ เครื่องยนต์เบนซินที่มีซีซีต่ำ แรงบิดจะน้อยกว่า เครื่องยนต์ดีเซลให้ใช้เกียร์ 1) สามารถใช้รอบเครื่อง สูงได้ แต่ต้องแน่ใจก่อนว่าล้อได้หมุนแล้วเล็กน้อย จึงเร่งรอบเครื่องสูงได้เลย ห้ามออกรถแบบกระชาก เพราะจะทำให้ฟันเฟืองท้ายเสียหาย หรือเฟืองเพลา ขับอาจจะรูดได้ ในขณะที่เร่งรอบสูงอยู่นั้นให้ส่ายพวง มาลัยซ้ายสลับขวาเพื่อหาพื้นผิวใหม่ในการดึงรถขึ้น จากหล่มโคลน

ข้อควรระวัง : ในขณะที่ขับโคลนล้อจะเลื่อไถล บางครั้ง เมื่อเราหักเลี้ยวพวงมาลัยรถอาจจะไม่ไปในทิศทางที่ เราต้องการ จึงควรเพิ่มความระมัดระวัง ในการขับขี่ ให้มากขึ้น ควรทำการล้างอัดฉีดหลังจากการขับลุย โคลน เนื่องจากโคลนจะเข้าไปในเบรค ทำให้ผ้า เบรคหมดได้ และการระบายความร้อนเครื่องยนต์ก็ จะดีขึ้น
ปัญหาที่พบอีกประการหนึ่ง คือ โคลนจะเข้าไปกัดซีล เฟืองท้าย ทำให้น้ำเข้าเฟืองท้ายโดยไม่รู้ตัว จึงจำเป็น ต้องเช็คซีลเฟืองท้ายทุกครั้งหลังจากลุยโคลนว่ามีรอย รั่วซึมหรือไม่

หากท่านอยู่ในป่า ต้องการล้างดินออกจารังผึ้งหม้อน้ำ ให้ใช้น้ำในลำธารสาดที่หม้อน้ำ พร้อมกับสตาร์ท เครื่องยนต์และเร่งรอบเครื่องประมาณ 3-4 พันรอบ เพื่อให้พัดลมหม้อน้ำดึงเอาน้ำที่มีดินละลายอยู่ผ่าน ทะลุรังผึ้งหม้อน้ำออกมา หากไม่เร่งเครื่องช่วยก็จะไม่ เป็นผล

8. การขับรถข้ามสะพานซุง

ต้องใช้ความระมัดระวัง ถ้าเป็นไปได้ควรมีผู้บอกไลน์ โดยใช้สัญญาณมือไม่ควรใช้ความเร็ว และ ควรรักษารอบเครื่องให้คงที่ เพราะหากท่อนซุงลื่นประกอบกับเลอะโคลน การเปลี่ยนระดับความ เร็วอาจทำให้ล้อรถลื่นและตกสะพานได้ หากเป็นเวลากลางคืนให้เปิดไฟหรี่ เพื่อไม่ให้ไฟแยงตา ผู้บอกไลน์ และผู้บอกไลน์ควรถือไฟฉายส่องล้อทั้งสี่ให้แน่ใจว่าล้อทั้งสี่อยู่บนสะพานแล้วจ­ึง ส่งสัญญาณให้มาได้

เราควรใช้ 4L ที่ตำแหน่งเกียร์ 1 โดยเดินรอบเครื่องอย่างสม่ำเสมอ อาจใช้ WALKING SPEED โดยไม่ต้องแตะคันเร่ง และควรเตรียมพร้อมในการเหยีบเบรค หากผู้ดูไลน์สั่งให้หยุด

จะเห็นว่า วิธีการรถขับเคลื่อนสี่ล้ออย่างถูก ไม่ใช่การขับด้วยความรุนแรงเพราะความรุนแรง จะทำให้รถมีปัญหา และไม่สามารถควบคุมได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ เราจึงควรฝึกทักษะจนเกิดความ ชำนาญสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้จริง

ตัวอย่างอุปสรรคที่ยกมานี้ เป็นลักษณะอุปสรรคที่จะพบจริงในเส้นทางธรรมชาติแบบออฟโรด หากท่านขับได้อย่างถูกต้องก็จะช่วยป้องกันไม่ให้รถเกิดความเสียหาย และเพื่อเพิ่มความปลอด ภัยของตัวท่าน จากนี้ไปสิ่งที่ท่านต้องหาประสบการณ์ด้วยตัวท่านเอง ก็เหลือเพียงการอ่านไลน์ เท่านั้น....

30 พ.ย. 2550

20 วิธีสำหรับการประจบเจ้านาย

ไม่ว่าจะทำเพื่อหวังเลื่อนตำแหน่ง หรือเพียงเพื่อจะสร้างความประทับใจ คุณก็ต้องทำในแบบสร้างสรรค์และไม่กระโตกกระตากจนเกินไป เพราะไม่อย่างนั้นแล้ว คุณอาจจะโดนเพื่อร่วมงานหมั่นไส้แบบไม่รู้ตัว และนี่คือคำบอกกล่าวจากผู้บริหารหลายคนถึงสิ่งที่อยากได้จากลูกน้อง
1. รู้ว่าเป้าหมายของบริษัทคืออะไร และสนับสนุนอย่างเต็มที่
2. รู้ KPI ของคุณเป็นอย่างดี และใช้ทักษะที่คุณมีเพื่อให้ผลงานที่ออกมาดีที่สุด
3. รู้จักทำงานคนเดียว จะให้ดีกว่านั้นก็ทำให้ผลงานของคุณดีเกินที่คาดหมายเมื่อคุณต้องทำมันคนเดียว
4. จงอย่าวิจารณ์การทำงานของเจ้านาย หรือทิศทางการดำเนินงานของบริษัท จะดีกว่าไหมถ้ามีแต่เพื่อนร่วมงานอยากอยู่ใกล้ๆ คุณเพราะคุณคอยผลักดันพวกเขา
5. ทำให้เจ้านายคุณดูดี ทำได้ง่ายๆ โดยคุณทำงานเสร็จตรงเวลาและมีความเป็นมืออาชีพ อาสานำไอเดียของเจ้านายคุณมาปฏิบัติ
6. รับผิดชอบในความผิดพลาดของคุณ และเรียนรู้มัน
7. รู้จักวางแผน เริ่มง่ายๆ โดยวางแผนว่าวันต่อไปคุณจะต้องทำอะไรก่อนกลับบ้าน
8. ตรงเวลา ไม่ว่าจะเป็นการส่งงานหรือการประชุม เพื่อแสดงให้เจ้านายคุณเห็นว่าคุณมีความกระตือรือร้น และน่าเชื่อถือ
9. ถ้าคุณจะต้องรายงานเจ้านายถึงปัญหาที่กำลังเกิดขึ้น คุณก็ควรจะหาทางออกสำหรับปัญหานั้นเพื่อเสนอด้วย
10. ถ้าหากว่าบริษัทคุณมีนโยบายในการส่งพนักงานไปคอร์สสัมมนาต่างๆ ก็จงคว้าโอกาสนั้นไว้ เพราะมันจะช่วยเพิ่มความรู้ความสามารถของคุณ
11. รอบรู้และติดตามข่าวสารในแวดวงธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับกิจการของบริษัท
12. คอยอัพเดตตัวเองเรื่องเทคโนโลยี ข้อกฎหมาย และความรู้ใหม่ๆ
13. ให้เกียรติและความนับถือต่อเจ้านายของคุณ
14. อย่ายึดติด ปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ต่างๆ ได้ง่าย
15. ดูแลสุขภาพของตัวเองให้ดี เมื่อคุณป่วยแล้วผลงานของคุณก็จะแย่ตามไปด้วย
16. ชีวิตส่วนตัวเก็บไว้นอกเวลางาน เพื่อนร่วมงานของคุณไม่ใช่นักบำบัดนะคะ
17. ตอบรับงานที่นำความท้าทายใหม่ๆ มาให้ อย่าพูดว่า "นั่นไม่ใช่งานของฉัน"
18. ทำงานเป็นทีม และรู้จักช่วยเหลือเพื่อนร่วมงานเมื่อพวกเขาถามหรือต้องการ
19. หาเวลาพักบ้าง เมื่อคุณรู้สึกว่าล้ากับการทำงาน แต่เป็น "ลาพักร้อน" นะคะ ไม่ใช่ลาออก
20. แสดงให้ทุกคนเห็นว่ามีศักยภาพเพียงพอที่จะรับผิดชอบงานในตำแหน่งที่สูงขึ้น ไม่ใช่แค่ทำงานเพราะ "ต้องทำ"
เพียงเท่านี้ การเลื่อนตำแหน่งก็ไม่ใช่เรื่องไกลเกินเอื้อมค่ะ

เบอร์โทร ร้านเหล้า

*RCA*

New route66 east & west ...(01) 440-9666......หรือที่เบอร์ 06-3000-817
Slim .... 02-203-0226-3............พี่ไวน์ 01-645-1177..
3 Some ...0-2203-1240-7
Club Astra .... 09-497-8422
Prop Bar ... 02-203-0669
REFEEL ...02-664-6459
ทองหล่อสโมสร ...02-203-0516
ONE DOLLAR ...คุณโจ ผู้จัดการ... 09-767-3482

*ทองหล่อ/ เอกมัย *

booze ... 02-715-0763
Room 25 - ทองหล่อ ซ.25 ....02-712-6448-9
Santika ...เบอร์ 02-711-5887 และ 02-711-5830 หรีอ 01-351-8683
นั่งเล่น - เอกมัย ....จองโต๊ะได้ที่.. คุณเอ้ ....0-1734-5102 ...เวลา 10.00 - 17.00 น. ยกเว้นวันอาทิตย์ (ร้านปิดวันอาทิตย์)
barburee ..เอกมัย .. 02-392-4976-8
ลิเบอตี้
Bombay bar ... 02-819-3768 หรือ 02-714-9459
ASHLEY'S RUMOUR ... 02-714-7861
แจ่มบาร์ .. 01-832-0675

*สุขุมวิท *

Bed supperclub ..สุขุมวิท 11.. 02-651-3537
Bar24 ..sukhumvit 24(soi emporiam) .. 02-6611062 , 09-000-2424
Narcissus ...สุขุมวิท 23 .... 02-258-4805
Zanzibar ...สุขุมวิท 11 ... 02-651-2700

*รัชดา ซ.4 *

บางรัก .. 09-095-0990
Snop .. 02-819-3659
Gig club .. 01-834-5490
MonKey .. 01-828-9371
China bar .. 02-247-8823
Blue Bar .. 01-820-2000 , 06-389-0011

*หลังสวน(ลุม) *

70's Bar ... 02-253-4433

*สีลม *

Speed ...สีลม ซ. 4 ... 01-818-5064
Tapas ...สีลม ซ. 4 ... 02-632-7982

*ข้าวสาร *

Silk Bar ... 02-281-9981
The Club ..ข้าวสาร .. 02-629-1100
Cinnamon ...ซ.รามบุตรี .. 02-629-4075

*เรียบทางด่วน.. รามอินทรา *

Yes Indeed ... ถนน เกษตร- นวมินทร์ ..02-907-7844-7
The Immortal ..ถนน เกษตร- นวมินทร์ ..02-570-9999
The pool pub .. ถนน เกษตร- นวมินทร์ .. 02-578-3122-3
The Glasshome Bar ..เรียบด่วนรามอินทรา-เหม่งจ๋าย 02-934-7222-4
Camp of Havana ...ถนน เกษตร- นวมินทร์ ..02-905-1133
กระฉูดผับ ...02-943-9531-4

*อื่นๆ * CAFE DE MOC

..ผับบนถนนราชดำเนิน.. หยุดทุกวันจันทร์ ... 02-662-2571
Pump up .. 02-642-2222
แซกโซโฟน - อนุสาวรีย์ .... 02-246-5472
Wild west ..ถ.ทาวน์ อิน ทาวน์ .. 02-394-5161
RETRO LIFE CAFE .. ศุนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ .. 02-229-3398-9
River Bar ..เชิงสะพานกรุงธน.. 02-879-1747-8
Bale bar .. ลาดพร้าว 35 .. 02-938-1518-9

คลิป 15 รุม 1


ถ่ายรูป 2 ล้านพิกเซล หาดูได้ยากมากๆ

.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.





ข้อคิดเห็นและประสบการณ์เกี่ยวก­ับการซื้อเครื่อง Notebook มาไว้ใช้งาน

ข้อคิดเห็นและประสบการณ์เกี่ยวกับการซื้อเครื่อง Notebook มาไว้ใช้งาน เพื่อให้พิจารณาก่อนการตัดสินใจซื้อนะครับ ไม่ว่าท่านจะซื้อเอง หรือใช้เงินหลวงซื้อก็เถอะ น่าจะพิจารณาไว้เป็นหลักเกณฑ์ครับ ...เพื่อความคุ้มค่าและความสบายใจในภายหลัง

1. แบรนด์ดัง ย่อมแพง แต่ก็ตอบแทนด้วยคุณภาพดี และระยะยาวปัญหาจุกจิกกวนใจน้อย แต่ทุนจำกัดก็จำเป็นต้องเลือกแบรนด์กลางๆ ให้ดูที่ Warranty เป็นหลัก เอาแบบ 3 ปีได้ดีที่สุด แต่ส่วนใหญ่ก็จะเป็น 1 ปี

2. ก่อนจ่ายตังค์ ถามย้ำให้มั่น มีใบ VAT และเอกสารรับประกันที่เรียบร้อย เพราะส่วนใหญ่เกือบ 100% ร้านจะบอกว่า ไม่ต้องใช้หรอกใบเสร็จ ศูนย์จะตรวจจากวอยบนสินค้า ซึ่งโกหก ตอแหล

3. ก่อนซื้อต้องได้เปิดเป็น 1 ชั่วโมงอย่างต่ำ ดูความร้อนบริเวณวางมือพักตอนพิมพ์ และปัญหาไฟรั่ว ถ้าร้อนและคุณยังทนได้ (ถ้าไม่กลัวมือด้าน) ก็ถือว่า OK

4. ตรวจ Dead / Hot Pixels ง่ายๆ ก็คือทำให้เดสก์ทอปเป็นสีพื้น สำคัญนะ ทำทุกสี อย่าเชื่อผู้ขายว่า ทำสีดำก็พอ ตอแหลอีกครับ สำหรับผมจะมีโปรแกรมทดสอบ Dead Pixels หากใครต้องการก็ติดต่อมานะครับ

5. อันนี้ตรวจยากมาก การชาร์จแบต เพราะกว่าจะเต็ม กว่าจะคายหมด ก็ล่อไปเกินครึ่งวันแล้ว ให้ตรวจภายใน 7 วัน และย้ำกับทางร้านว่า ถ้าสินค้ามีปัญหาเปลี่ยนตัวใหม่ใน 7 วัน เป็นลายลักษณ์อักษรนะครับ ไม่เช่นนั้นจะถูกหักหลังได้

6. ram ครับ ไม่น่าเชื่อ เขาถอดแรมของจริงไปขายกันครับ แล้วใส่แรมปลอมให้ ต้องให้คนรู้เก่งสักหน่อยนะ เรื่องนี้ ไปเป็นเพื่อน ไม่รู้จะอธิบายยังไงดี

7. ไม่น่าเชื่ออีกนั้นแหละ สาย AC ของ adapter ชอร์ตจนขาดข้างในได้ครับ ไม่อยากเอ่ยยี่ห้อ แต่เป็นมากกว่า 1 ยี่ห้อ

8. ตรวจสภาพตัวถัง คีย์ รูเสียบให้ดี มีบิดเบี้ยว ถลอก หรือรอยขูดงัดใดๆ หรือไม่

9. OS ที่มากับเครื่องตรงไหม ลองใช้แผ่น Recovery CD ด้วยใน 7 วันนั้น

10. รีบลงทะเบียนกับศูนย์ หรือโทรไปขอข้อมูล (โดยเฉพาะก่อนซื้อ) บางเรื่องรู้หลังซื้อแล้วก็ต้องร้องไห้อย่างเดียว

11. เช็ครายการสินค้าที่มีมาให้ครบ ยอมเสียเวลาหน่อย พวกสาย พวก manual พวก CD/DVD

12. ลองให้หมดทุกอย่างที่มีบนเครื่อง ใน 7 วันที่ยังเปลี่ยนเครื่องได้ ใช้ทุกพอร์ต ทุกรู ลงซอฟต์แวร์ที่ต้องใช้งาน และลอง burn-in ถ้าแรมไม่ดี ฮาร์ดดิสก์แย่ๆ ก็จะป๊อกหยุดแฮงก์ไปเลย รีบเอาไปเปลี่ยนเครื่องใหม่

13. นึกได้เท่านี้ แต่เขียนจากประสบการณ์และความคับแค้นใจ นึกว่าเกิดในลุ่มแม่น้ำแกมบีโบลองโก ซื้อ Notebook เมืองไทย ทำไมมันปวดหัวยังงี้ก็ไม่รู้ ตอนอ้อนออดดึงลูกค้าเข้าร้านไปซื้อเหมือนเราเป็นพระเจ้า พอเงินย้ายกระเป๋าออกไปแล้ว โอว เราไปขอฟรีเขามาหรือนี้ สอบถามอะไรหน่อย ยังกับยักษ์จะมากัดเรา ดังนั้นขอให้ใจเย็นๆ ครับ ของเกือบแสนบาท ให้เวลากับการซื้อมันหน่อย เดินๆ และก็เดินๆ เข้า-ออกหลายๆ ร้าน สอบถามข้อมูลทางโทรศัพท์กับศูนย์เยอะๆ เข้าไว้

และนี่อีกอย่างหนึ่งที่ควรรู้

1. ยี่ห้อที่บริการดีขั้นยอดเยี่ยม ยี่ห้อ Fujitsu และยี่ห้อ IBM
2. ถ้าซื้อแบบมี vat คือจ่ายภาษี เรื่องบิลก็สำคัญครับ ควร check ชื่อ วันที่ซื้อ และราคาให้ตรงกับความเป็นจริงครับ แนะนำให้ต่อราคาก่อน vat เยอะๆ
3. ตรวจดูการทำงานของลำโพง keyboard ทุกปุ่ม ลองเปิด word ดูแล้วลองพิมพ์ดูว่าขึ้นทุกปุ่มมั้ย การยุบ-เด้งเป็นปกติหรือเปล่า เปิด programs หลายๆ โปรแกรม เช่น photoshop + ACDSee + Winamp + Word ลองเล่นสลับไปมาดูว่า hang หรือเปล่า
4. ตรวจ dead pixel คือจุดเสียที่หน้าจอ โดย set wallpaper ให้เป็นสีตามต้องการ อาจจะดูแม่สีให้ครบก็พอใช้ได้ แดง/เหลือง/น้ำเงิน/ขาว/ดำ ดูว่ามีจุดสีแบบไหนโผล่มาแปลกๆ หรือเปล่า
5. แบตเตอรี่ ให้ลองใส่ดูและลองเสียบสายชาร์จดูครับว่าไฟเข้าหรือเปล่า ลองเล่นไปสักพักแล้วลองดึงสายไฟออกขณะเปิดเครื่องอยู่ ถ้ายังใช้งานได้ตามปกติก็ ok ภายใน 7 วันรีบลองใช้งานให้ครบทุกแบบ อย่าลืมขอสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษรว่ายอมให้เปลี่ยนเครื่องได้ถ้ามีปัญหาภายใน 7 วันไม่ว่ากรณีใดๆ ทั้งสิ้น
6. ให้ช่างลองเปิดแรมดู สังเกต void ที่ติดบนแรมว่าเป็นที่เดียวกับเครื่องหรือเปล่า ถ้าใช่ก็ ok ครับ
7. สาย AC คือสายชาร์ท ที่ pack อยู่ในกล่องมีการเก็บที่เรียบร้อยหรือเปล่า ลองเอามาเสียบใช้งานดู ลองขยับบริเวณตรงก้อนๆ สีเหลี่ยมและบริเวณหัวเสียบทั้งค้านหัวและด้านท้าย สังเกตดูว่าการชาร์จไฟยังปกติหรือเปล่า ถ้าปกติก็ใช้ได้ครับ ยี่ห้อที่มีปัญหาผมก็พอรู้ครับ ถ้าใครอยากรู้ mail มาถามได้ครับ
8. ลองดูบริเวณขั้วเสียบแบตเตอรี่และบริเวณปุ่มยางรองใต้เครื่องว่ามีร่องรอยมากหร­ือเปล่า ลองพลิกดูรอบๆ เครื่องๆ ด้วยครับ
9. ถ้าเป็นแบบมี licence windows คือโปรแกรมวินโดว์ส XP มาด้วยอย่าลืมขอแผ่น cd มาด้วยนะครับ ลอง check ดูว่าที่ลงในเครื่องเป็นตัวของเราจริงๆ และต้องมี sticker licence มาด้วยนะครับ 10. ก่อนซื้อโทรไปศูนย์ check ข้อมูลเครื่องที่จะซื้อ ดู serial number ได้ที่ใต้เครื่องนะครับ 11. ในคู่มือที่แถมมาในกล่องจะบอกว่าแถมอะไรมาบ้าง ลองตรวจดูให้ครบครับ หรือ check ได้จาก web ของแต่ละยี่ห้อก็ได้ครับ 12. ลองเปิดเครื่อง เปิดเครื่องทิ้ง ไว้ซัก 1-2 วันดูนะครับ อาจจะทำการ defrag ไปพร้อมๆ กับเล่น winamp ก็ได้ ส่วนใหญ่ถ้ามีปัญหาจะพบในช่วงนี้ครับ

และต่อด้วย 3 ขั้นตอน ก่อนการจะซื้อครับ ..... แบ่งออกเป็น 3 ส่วน
1. ช่วงตัดสินใจ
2. ช่วงได้รับเครื่อง
3. ช่วงนำเครื่องมาถึงที่บ้าน 1. ช่วงตัดสินใจ จดรายการคำถามเป็นข้อๆ ที่เราสงสัย และต้องใช้ประกอบการตัดสินใจ เช่นถามว่า 1. รุ่น ? มีปุ่มเล่น cd โดยไม่บูต win มั๊ย 2. รุ่น มีอินฟราเรดมั๊ย 3. ลองฟังเสียงจากลำโพงแต่ละรุ่นดูสิ
4. แถมอะไรบ้าง แถมแรมเปล่า แฟลชไดรฟ หรือแถม optical mouse
5. แรมที่เทินหมดประกันไปเลย หรือยังรับประกันศูนย์ด้วยมั๊ย
6. แรมที่ต้องการ เพิ่มจะอยู่ในส่วนรับประกันแรมด้วยหรือไม่
7. HD จะเพิ่มได้มั๊ย ขอทราบราคาถ้าเพิ่มเป็น 60 หรือ 80 ยี่ห้อ เหมือนเดิมมั๊ย
8. HD ที่เทิน หมดประกันไปเลย หรือยังรับประกันศูนย์ด้วยมั๊ย
9. มีปัญหาภายใน 7 วัน จะเปลี่ยนเครื่องใหม่ให้เลยมั๊ย
10. มี dead pixel คือจุดเสียที่หน้าจอ จะเปลี่ยนให้มั๊ย
11. ครบ 3 ปีแล้ว จะต่อประกันได้มั๊ยครับ ถ้าได้ปีละกี่บาท
12. adaptor + battery อยู่ในเงื่อนไขรับประกัน 3 ปีด้วยมั๊ย 13. อะไรบ้างที่ไม่รับประกัน
14. มีใบ VAT คือใบกำกับภาษีตอนซื้อมั๊ย
15. สรุปราคาจากจากร้านอื่นๆ หรือจากเว็บไซต์ แล้ว print ไปด้วยตอนซื้อเปรียบเทียบราคาดูหลายๆ ร้าน แล้วลองต่อรองราคากับเจ้าของร้าน แล้วอ้างว่า เพื่อนๆ เขา ซื้อมาราคาเท่านี้รุ่นเดียวกันเลย สเปคเหมือนกันทุกอย่าง หรือบอกว่าร้านโน้นขายราคานี้นะ ถามของแถม + ราคาที่รวมภาษีแล้วเท่าไหร่ 2. ช่วงได้รับเครื่อง

======================

1. ใบรับประกัน สอบถามการส่งและลงทะเบียน เงื่อนไขการรับประกัน เช็คให้ละเอียด
2. ใบ VAT check ชื่อร้าน วันที่ซื้อ คนขายต้องเซ็นชื่อด้วย และราคาให้ตรงกับความเป็นจริง ให้เซลล์เย็บนามบัตรติดกับใบเสร็จไว้
3. ตรวจสอบรายการของที่ให้มาจาก list กล่อง พวกสาย พวก manual พวก CD/DVD ในคู่มือที่แถมมาในกล่องจะบอกว่าแถมอะไรมาบ้าง
4. ทดสอบเสียบสาย AC ของ adapter ขยับบริเวณตรงก้อนสีเหลี่ยมและบริเวณหัวเสียบทั้งด้านหัวและด้านท้าย สังเกตดูว่าการชาร์จไฟยัง ปกติหรือเปล่า ถ้าปกติก็ใช้ได้
5. บานพับสวิงต้องแน่น ไม่หลวมแต่อาการแน่นต้องไม่มีเสียงดังแบบติดๆขัดๆอะไร รอยน็อต บานพับ แข็งแรงดีไหมเวลาพับปิด หรืออ้าเพื่อเปิดจอ
6. ตรวจสภาพตัวถัง คีย์ รูเสียบให้ดี มีบิดเบี้ยว ถลอก หรือรอยขูดงัดใดๆ หรือไม่ ดูบริเวณขั้วเสียบแบตและบริเวณปุ่มยางรองใต้เครื่องว่ามีรอยมากหรือเปล่า ลองพลิกดูรอบๆ เครื่องๆ ด้วยครับ
7. เปิดแรมดู สังเกต void ที่ติดบนแรมว่าเป็นที่เดียวกับเครื่องหรือเปล่า ถ้าใช่ก็ ok ครับ
8. ถ้าเป็นแบบมี licence windows มาด้วยอย่าลืมขอแผ่น cd มาด้วยนะครับ ลอง check ดูว่าที่ลงในเครื่องเป็นตัวของเราจริงๆ และต้องมี sticker licence มาด้วยนะครับ
9. ก่อนซื้อต้องได้เปิดเป็น 30 นาที ดูความร้อนบริเวณวางมือพักตอนพิมพ์ และปัญหาไฟรั่ว ถ้าร้อนและคุณยังทนได้ก็ถือว่า OK
10. ตรวจ Dead/Hot Pixels ทำให้เดสก์ทอปเป็นสีพื้น ทำทุกสี แดง/เหลือง/น้ำเงิน/ขาว/ดำ/เทา ทำในห้องมืด ดูว่ามีจุดสีแบบไหนโผล่มาแปลกๆ หรือเปล่า
11. ตรวจ ความเร็วของ CPU, RAM จำนวนเท่าที่เราสั่งไปหรือเปล่า
12. ตรวจดูการทำงานของลำโพง keyboard ทุกปุ่ม ลองเปิด word ดูแล้วลองพิมพ์ดูว่าขึ้นทุกปุ่มมั้ย การยุบ-เด้งเป็นปกติหรือเปล่า
13. เปิด programs หลายๆ โปรแกรม เช่น photoshop + ACDSee + Winamp + Word ลองเล่นสลับไปมาดูว่า hang หรือเปล่า
14. ย้ำกับทางร้านว่า ถ้าสินค้ามีปัญหาเปลี่ยนตัวใหม่ใน 7 วัน ขอให้เขียนเป็นเป็นลายลักษณ์อักษรว่ายอมให้เปลี่ยนเครื่องได้ถ้ามีปัญหาภายใน 7 วันไม่ว่ากรณีใดๆ ทั้งสิ้น

3. ช่วงนำเครื่องมาถึงที่บ้าน 1. การชาร์จแบตเตอรี่ เพราะกว่าจะเต็ม กว่าจะคายหมด ก็กินเวลาไปเกินครึ่งวันแล้ว ให้ตรวจสอบภายใน 7 วัน แบตเตอรี่ให้ลองใส่ดูและลองเสียบสายชาร์จดูครับว่าไฟเข้าหรือเปล่า ลองเล่นไปสักพักแล้วลองดึงสายไฟออกขณะเปิดเครื่องอยู่ ถ้ายังใช้งานได้ตามปกติก็ ok ภายใน 7 วันรีบลองใช้งานให้ครบทุก 2. การชาร์จในตอนแรกที่ได้รับแบตเตอรี่ มานั้น NiCD , NI-HM นั้นใช้ชาร์จ นาน12 - 14 ชม. จำนวน 3 ครั้งทุกครั้งใช้แบตเตอรี่ให้หมดแล้วถึงจะชาร์ทใหม่ เพื่อเป้นการกระตุ้นธาตุ Ni ครับ ส่วนแบตเตอรี่แบบ Li-ion (ลิเที่ยมไอออน) และ Li-Poly (ลิเที่ยมโพลิเมอร์)นั้นไม่ต้องครับ แค่ทำให้มันเต็มหรือชัวช์ๆ ก็ 3 ครั้งแรกให้ชาร์จสัก 6 ชม. ก็พอครับ แต่ Li-ion อย่าทำให้แบตหมดเกลี้ยงเป็นอันขาดนะครับ เพราะจะทำให้แบตเตอรี่เสียได้ ส่วน Li-Poly นั้นแก้ไขส่วนนี้มาแล้ว และเป็นแบตที่มีน้ำหนักเบากว่า Li-ion 3. windows ที่มากับเครื่องตรงตามสเปคไหม ลองใช้แผ่น Recovery CD ด้วยใน 7 วันนั้น

4. โทรถามกะทางศูนย์ล่ะครับว่า Serial เครื่องของคุณมีปัญหาอะไรมั้ย รีบลงทะเบียนกับศูนย์ หรือโทรไปขอข้อมูล (โดยเฉพาะก่อนซื้อ) บางเรื่องรู้หลังซื้อแล้วก็ต้องร้องไห้อย่างเดียว ก่อนซื้อโทรไปศูนย์ check ข้อมูลเครื่องที่จะซื้อ ดู serial number ได้ที่ใต้เครื่อง

5. ดูเครื่อง ร้อน (กรณีที่ผิดปกติ) ให้ ลอง เอา หยด น้ำ 1 หยด หยดไป ตรง ด้าน ขวาล่าง ของ Touch pad ประมาณ 2.5 ซม. ถ้าเครื่อง ที่ไม่มีปัญหา และ ถ้าเป็น centrino ด้วย น้ำจะต้องไม่แห้งก่อน 3 นาที หลังจากหยดไปแล้ว ถ้า แห้งก่อน 3 นาที ให้ เปลี่ยนเครื่องเลยครับ ระบบ ระบายความร้อน หรือ ไม่ก้อ cpu มีปัญหา ครับ เพราะ โดน ทั่วไปแล้ว น้ำจะแห้ง ประมาณ 5- 6 นาทีหลังจากที่ หยดไปแล้วครับ ผมว่าซ้ายหรือขวา ขึ้นอยู่กับเครื่องนั้นๆ มากกว่า ว่า Harddisk อยู่ตรงไหน ปกติแล้วตำแหน่งใกล้ๆ touchpad เป็นช่องใส่ harddisk ของ notebook ถ้าใส่ด้านไหนก็ร้อนด้านนั้น อีกด้านเป็น Battery

6. ลองใช้ให้หมดทุกอย่างที่มีบนเครื่อง ใน 7 วันที่ยังเปลี่ยนเครื่องได้ ใช้ทุกพอร์ต ทุกรู ลงซอฟต์แวร์ที่ต้องใช้งาน และลอง burn แผ่นซีดีดู ถ้าแรมไม่ดี ฮาร์ดดิสก์แย่ๆ ก็จะป๊อกหยุดแฮงก์ไปเลย รีบเอาไปเปลี่ยนเครื่องใหม่ copy CD จากแผ่นลง NB ลองเปิดเครื่อง burn-in ไว้ซัก 1-2 วันดูนะครับ อาจจะทำการ defrag ไปพร้อมๆ กับเล่น winamp ก็ได้ ส่วนใหญ่ถ้ามีปัญหาจะพบในช่วงนี้ครับ

ความขี้สงสัยของหญิงไทย..ที่ไม่­กล้า ถามผู้ชาย?

*1* ที่บอกว่ารับได้เรื่องที่*ผู้หญิงเคยมีอะไรกับผู้ชายมาแล้ว*ตกลงรับได้จริงเปล่­า หรือยังคิดแบบคนโบราณที่เชื่อว่าผู้หญิงดีๆ ต้องเวอร์จิ้น
- จริงๆก็รับได้ เพราะยุคนี้คงหาจิ้นยาก(ถ้าไม่อยากติดคุก) แต่ได้จิ้นก็ดีนะเพราะเป็นความใฝ่ฝันของผู้ชายเลยทีเดียว

*2* ผู้ชายเนี่ยจริงๆ สามารถ*มีอะไร ๆ ได้วันละ 5-6 ครั้ง* เนี่ย เรื่องจริงหรือเค้าไว้คุยกันในกลุ่มโชว์พราวข่มกันเฉย ๆ สงสัยคะ
- แรกๆคบกันอาจจะไหวนะ นานๆไปคงยากกก

*3* *แฟนเก่า*ที่เค้าเลิกกันไปหน่ะ ถ้าเค้าเจอกันแล้วผู้ชายยังกล้ามีอะไรกับเค้าอีกไหม?
- กล้าซิ ถามได้

* 4* เมื่อต้องตัดสินใจว่าจะใช้ชีวิตกับผู้หญิงสักคน อะไรคือบรรทัดฐาน ที่จะเลือกใครคนนั้นเป็นคู่ครอง
-* *สวย* *เซ็กส์ และรับฟังเราเสมอ(มาด่าๆบ่นๆทั้งวันก็ไม่เอาอ่ะ) ****

* 5* บ้างทีผู้หญิงก็ไม่ได้เป็นแม่บ้านตลอด 24 ช.ม. แล้วผู้ชายยังอยากจะช่วยทำงานบ้าน เหมือนที่เคยพูดไว้ได้หรือเปล่า
- แล้วแต่อารมณ์นะ **

*6* เวลารวบกลุ่มกันเมาท์ผู้หญิงสวยๆ แต่งตัวเอ็กซ์ ๆ เนี่ย คิดอะไรเหรอ ถึงได้เมาท์กันสนุกปาก
- ก็คิดถึงเรื่องบนเตียวนะแหละ

* 7* ที่บอกว่า รัก รัก รัก แบบนี้ *หวังจะแต่งงานกันไหม* (ผู้หญิงคิดนะ) หรือว่า*แค่อยากหลอกฟัน* ถ้าเลิกกันก็แค่นั้น
- ผู้ชายส่วนใหญ่ที่บอกรัก เพราะคิดอย่างนั้นจริงๆ(ช่วงแรกๆ) แต่พอคบไปนานๆ(หรือหลังจากได้ฟัน)ทำไมมันไม่รู้สึกรักแล้ว ก็ไม่รู้ เค้าไม่ได้หลอกหรอก เพียงแต่ช่วงเวลามันเปลี่ยน **

* 8* คิดไหมว่าที่*อยู่กันก่อนแต่ง*แล้ว..จะปล่อยเลยตามเลย หรือยังไงก็ต้องไปขอให้เป็นเรื่องเป็นราว
- คิดซิ ถ้าไม่เบื่อกันก่อนนะ

* 9* เห็นมีกิ๊ก กั๊ก กับคนโน้น คนนี้ พอถามว่ามีแฟนรึยัง บอกว่า เปล่า นี่มันยังไง อธิบายหน่อย
- เพราะอยากได้ทุกคนไง ไม่อยากมีแค่คนเดียวอ่ะ

* 10* เวลาถามเรื่องแต่งงาน ให้มันชัดเจนเป็นมั่นเป็นเหมาะ ทำไมจะต้องบ่ายเบี่ยง หรือชวนทะเลาะกันทุกที
- กลับไปอ่านข้อ 9 ดิ

* 11* อย่าหาว่า ลามก *เวลาดูหนังโป๊* หรือ หนังที่มีฉาก อีโรติก ดูเสร็จแล้ว ทำไรต่อเหรอ นอนเลยรึเปล่า
- ถ้าอยู่คนเดียว ใครไปจะไปนอนฟร่ะ ก็ทำอย่างที่รู้กันนั้นแหละ แต่ถ้าอยู่กันหลายคนก็คงไม่

* 12* ทำไมผู้ชายหล่อๆ เดี่ยวนี้กำลังเล็งๆ ต๊ายยยยยยยยย....เป็น เกย์ เป็น ตุ๊ด ซะงั้น เสียดาย
- ไม่รู้ว่าทำไมผู้ชายหล่อๆถึงต้องเป็นเกย์ รู้แต่ว่าคนหล่อๆเป็นเกย์อ่ะดีแล้ว ตัดคู่แข่ง

* 13* *รู้สึกผิดบ้างไหมที่ไปมีภรรยาน้อย หรือ กิ๊ก* ทั้งๆ ที่มีลูก มีเมียอยู่แล้วที่บ้าน
- รู้สึกซิ

* 14* ทำไมรู้สึกว่าผู้ชายสมัยนี้มีความรับผิดชอบน้อยลงหรือไม่มีเลย (ไม่ทุกคนนะคะ แต่เจอบ่อย ในข่าวก็เยอะ ท้องแล้วทิ้ง หมั้นแล้วเลิก)
- ก็ยังไม่เป็นผู้ใหญ่พอมั้ง หรืออาจจะไม่รู้จักพอมั้ง **

* 15* ทำไมยังดื่มเหล้า สูบบุหรี่ ทั้งๆ ที่รู้ว่ามีโทษกับร่าง*กาย*และผู้หญิงก็ไม่ชอบ
- โกวเล้ง ปราชญ์แห่งการสุรา กล่าวไว้ว่า "ข้ามิได้พึงใจในรสชาดสุรา แต่ข้าพึงใจในบรรยากาศของการร่ำสุรา" **

* 16* คิดถึงใครคนแรกเวลามีปัญหาชีวิต คิดจะปรึกษาผู้หญิงไหม
- แฟน และไม่คิดจะปรึกษา

*17* *ชอบส่วนไหนของผู้หญิงที่สุด*
- แล้วแต่คนนะ แต่ผมชอบ นม **

* 18* ขอถามตรงๆ ว่า *หลังเสร็จกิจบนเตียงแล้ว ทำไมผู้ชายต้องนอนหงายผึ่ง*และหลับไปเลย เป็นท่บังคับเหรอ?
- มันง่วงเองอ่ะ ไม่รู้ทามมาย ไม่เป็นผู้ชายไม่รู้หรอก **

* 19* นอกจากหนวดเคราแล้ว ผู้ชายเค้าอยากโกนขนตรงอื่นเหมือนผู้หญิงบ้างไหม
- ไม่คิดเลย ถ้าคิดก็ไม่ใช่ผู้ชายแล้วว

* 20* จริงเหรอเนี่ย!!! ที่ผู้ชาย*ชอบใส่กางเกงในซ้ำ ๆ กัน หลายวัน* อี๋.........
- จริง ขี้เกียจซักอ่ะ*

21* เวลาไม่ได้อยู่กับเราโทรไปแล้วบอกว่าอยู่ที่โน้นที่นั่น แต่มีคนเห็นว่าอยู่ที่อื่น แค่เนี่ย*จะโกหกกันทำไมคะ*
- ไม่รู้นะ ไม่เคยทำ นอกจากว่าแอบไปกับกิ๊ก จะให้บอกได้ไง เดี๋ยวเจอกันอ่ะยุ่งเลย

* 22* ถ้าผู้หญิงขอเป็นผู้นำครอบครัวจะรับได้ป่ะ
- ไม่ได้นะ เพราะผู้หญิงน่าจะใช้อารมณ์มากกว่าเหตุผล **

* 23 *ถ้าผู้หญิงมีไอเดียเจ๋งกว่า ทำไมผู้ชายไม่ค่อยพอใจอ่ะ (เคยเจอนะ เหมือนทำท่าไม่ค่อยพอใจ งง!!!)
- ผู้ชายไม่ชอบผู้หญิงเก่งกว่าหรอ เราต้องเป็นผู้นำซิ

* 24* *เวลาเมาแล้วจะเซ็กซ์จัด อยากมีเซ็กซ์ทันทีเลยจริงเหรอ* เห็นในละคร เวลานางร้ายมอมพระเอก หรือไม่ก็พระเอกเมาแล้วก็ นางเอกเสร็จพระเอกตอนเมา ร้องไห้กระซิก ๆ
- จริง เวลาเมาเห็นใครก็สวย อารมณ์มันพลุ่งพล่านสุดๆ

* 25* ส่วนไหนที่ผู้ชายอยากให้ผู้หญิงจุ๊บๆ มากที่สุด
- แล้วแต่คนอ่ะ บางคนชอบให้จุ๊บที่ไหล่(ต่อหน้าคนอื่น)ก็เคยเห็น

* 26* ผู้ชายจะกลัวไหม *ผู้หญิงปากจัด แต่มีใจรัก *แอบอิจฉา กาละแมร์ กับ พีเค
- แล้วแต่คนอีกแล้ว ผมไม่เอาด้วยอ่ะ กลัวตอนแก่จะขี้บ่น

* 27* พออายุมากขึ้นทำไมผมบางลงๆ จนล้านอ่ะ ไม่กล้าถามพ่อ กลัวโดนด่า
- เวง เหมือนกับถามว่า "ทำไมตอนเย็นดวงอาทิตย์ต้องตกด้วยละ" มันร่วงของมันเองโว้ย ไม่ได้อยากหัวล้านซะหน่อย

* 28* สงสัยว่า*น้องชายขนาดไหนที่ว่าใหญ่นักหนา !!!*
- 7 นิ้วอัพ เป็นที่ยอมรับกันในหมู่ชายว่าใหญ่ยาวจริง

อาชีพที่สงวนไว้ให้คนไทยเท่านั้­น

1. งานกรรมกร
2. งานกสิกรรม งานเลี้ยงสัตว์ งานป่าไม้ หรืองานประมง ยกเว้น งานที่ใช้ความชำนาญ งานเฉพาะสาขา หรืองานควบคุมดูแลฟาร์ม
3. งานก่ออิฐ งานช่างไม้ หรืองานก่อสร้างอื่น
4. งานแกะสลักไม้
5. งานขับขี่ยานยนต์ หรืองานขับขี่ยานพาหนะที่ไม่ใช้เครื่องจักรหรือเครื่องกล ยกเว้น งานขับขี่เครื่องบินระหว่างประเทศ
6. งานขายของหน้าร้าน
7. งานขายทอดตลาด
8. งานควบคุม ตรวจสอบหรือให้บริการทางบัญชี ยกเว้น งานตรวจสอบภายในเป็นครั้งคราว
9. งานเจียรไน หรือขัดเพชรพลอย
10. งานตัดผม งานดัดผม หรืองานเสริมสวย

11. งานทอผ้าด้วยมือ
12. งานทำกระดาษสาด้วยมือ
13. งานทำเครื่องเขิน
14. งานทอเสื่อ หรืองานทำครื่องใช้ด้วยกก หวาย ปอ ฟาง หรือเยื่อไม้ไผ่
15. งานทำเครื่องดนตรีไทย
16. งานทำเครื่องถม
17. งานทำเครื่องทอง เครื่องเงิน หรือเครื่องนาก
18. งานทำเครื่องลงหิน
19. งานทำตุ๊กตาไทย
20. งานที่นอนหรือผ้าห่มนวม

21. งานทำบาตร
22. งานทำผลิตภัณฑจากผ้าไหมด้วยมือ
23. งานทำพระพุทธรูป
24. งานทำมีด
25. งานทำร่มกระดาษหรือผ้า
26. งานทำรองเท้า
27. งานนายหน้าหรือตัวแทน ยกเว้น งานนายหน้าหรือตัวแทนในธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ
28. งานทำหมวก
29. งานในวิชาชีพวิศวกรรม สาขาวิศวกรรมโยธาที่เกี่ยวกับงานออกแบบและคำนวน จัดระบบวิจัย วางโครงการ ทดสอบ ควบคุมการก่อสร้าง หรือให้คำแนะนำ ทั้งนี้ไม่รวมงานที่ต้องใช้ความชำนาญพิเศษ
30. งานในวิชาชีพสถาปัตยกรรมที่เกี่ยวกับการออกแบบ เขียนแบบ ประมาณราคา อำนวยการก่อสร้าง หรือให้คำแนะนำ

31. งานประดิษฐเครื่องแต่งกาย
32. งานปั้นหรือทำเครื่องดินเผา
33. งานม้วนบุหรี่ด้วยมือ
34. งานมัคคุเทศก์ หรือจัดนำเที่ยว
35. งานเร่ขายสินค้า
36. งานเรียงตัวพิมพ์อักษรไทยด้วยมือ
37. งานสาวและบิดเกลียวไหมด้วยมือ
38. งานเสมียนพนักงานหรืองานเลขานุการ
39. งานให้บริการทางกฏหมายหรืออรรถคดี

29 พ.ย. 2550

ประโยคเสี่ยวๆๆ SMS ที่โดนใจ

-เธอไม่ต้องใช้กบเหลาดินสอหรอกนะ เพราะคำพูดและหน้าตาของเธอแหลม พอที่จะแทงให้ ใจฉันอ่อนยวบแล้ว
-เฮ้อออ เรามีแต่พาสเวิดเข้าสู่อินเตอร์เนต แต่ไม่มีเอคเซสเข้าสู่หัวใจเธอเลย
-ใช่สิ ฉันมันคนไร้หัวใจ ก็เธอเอาหัวใจฉันไปหมดแล้วนี่
- ถ้าเธอเป็นโคลน ฉันจะเป็นค ว า ย..............จะได้จมปลักรักเธอตลอดไป...
-เดินดีๆ นะน้อง.......ระวังจะสะดุดรักพี่ละ
-ช่วงนี้กำลังเบลอๆนะ...........เบลอว่ารักแถบ--แบบว่ารักเทอ
-พบเธอทีไรก็เจอทุกทีเลย..............เจอละไม--ใจละเมอ
-ฉันเป็นโรคไตระยะสุดท้าย...........ไตหาหัวจาม--ตามหาหัวใจ

-ใช่ฉันมันคนหลายใจ..................แต่รู้ไหมทุกใจมีแต่เธอคนเดียว
-โอ๊ย เจ็บคออ่ะ....................ก็ความรักมันค้ำคอ
-โอ๊ย เราเดินตกหลุมอ่ะ...........ตกหลุมรัก
- ไกลเกินไปหา จะโทร ก็ไม่กล้า ใจไม่ถึง เลยmsgมา บอกซึ้งๆ คิดถึงนะ
- รักษาศีล ได้ครบ5ข้อ แต่รักษาใจไว้ ไม่ได้เพราะ ให้เธอไปหมดทั้งใจ
- ฟ้าเปลี่ยนสี นทีเปลี่ยนสาย วันเวลา เปลี่ยนไป แต่ใจ ไม่เปลี่ยนแปลง
- มีรักมาให้ มีใจมาฝาก แต่หอบมา ลำบาก เพราะมัน มากเหลือเกิน
- ใครบอก.. คิดถึงเธอ แค่อยากเจอหน้า นิดนึงก้ยังดีเท่านั้น
- โอมเพี้ยง ใครอ่าน ขอให้น่ารัก เฮ้ย ทำไม ไม่ศักดิ์สิทธิ์
- แหม... ดังนิดดังหน่อย .. ทำเป็นยก ขึ้นมากดดู เลยนะ

- ขอกอด ก็ไม่ยอม ขอหอม ก็ไม่ให้ ขอแค่คิดถึง ได้มั้ยตอบที
- ถึง MSG จะ ถูกลบใน3นาที แต่ความ คิดถึงนี้ จะคงอยู่ ตลอดไป
- เกลียดก็ไม่ใช่ ชอบก็ไม่เชิง สรุปแบบเขินๆ "รักนะ"
- หลงทาง ยังหาเจอ แต่หลงเธอ มีแต่เสียคน
- คิดถึงทั้งวัน วันละ3หน คิดถึง คนหลายคน ไม่ได้คิดถึง เธอคนเดียว
- ไปเที่ยวที่บ้านพี่ใหม่จ๊ะ บ้านพี่มีฟาร์มด้วยนะเออ ก้อฟาร์มรักที่พร้อมจะมอบ ให้กับตัวเองไง
-ขอมือหน่อย เพื่อคอยประคองดวงใจพี่
- อากาศข้างนอกจะร้อนแค่ไหน คงไม่เท่าร้อนรุ่มในหัวใจ ทุกครั้งที่ใกล้เธอ...
- เป็นยาแดง ถ้าเธอล้ม เป็นพารา ถ้ามีไข้ เป็นชวนป๋วย ถ้าเธอไอ ไอเลิฟ ยู ( I Love You )
-เมื่อเช้าไปดื่มน้ำอัดลมมา อยากจะมาเรอให้ฟัง เรอทักรักเธอ

-wereiixxx]kl;p อ่านออกไหม๊นี่คิอ ภาษา *ใจ* ต้องใช้ใจอ่านค่ะ
-ไม่ใช่เด็กหงส์ เด็กผีหรือเด็กโจ๋ เป็นแค่เด็กโง่ ๆที่รักเธอ
-จ๊ะเอ๋ นี่แหน่จับตัวได้แว้วคนขโมยหัวใจเค้าไป
-รูปไม่หล่อ พ่อไม่รวย สวยไม่แล แต่ที่แน่ๆแพ้หัวใจเธอ เพ้อทุกวัน ฝันถึงเธอ ละเมอทุกคืน
-ผมเห็นคุณโหนรถเมล์มานานไม่ได้นั่งซะที มานั่งในหัวใจผมดิฮะ ยังว่าง
-เธอเปรียบเหมือนกาแฟเบอร์ดี้ไม่ใช่ที่สีผิวหรอกนะ แต่เธอคือ 1 ในใจ
-มองดีๆน่ะน้อง ระวังใจพี่จะไปวิ่งในใจเธอ
- อุ๊ย! น๊อตหลุด......แต่ฉันจะไม่หยุดรักเธอ

-จะไปตลาดซื้อขนม แต่ต้องไปซื้อยาดม เพราะเป็นลม..คิดถึงเธอออออออออ
-ถ้าเธอรู้สึกว่าช่วงนี้น้ำหนักขึ้นก็ไม่ต้องตกใจนะ...เพราะว่าชั้นเอาใจไปฝาก ไว้ที่เธอเองแหละ
-ช่วยหันอีกข้างได้ไหมครับ ผมไม่อยากรักคุณข้างเดียวนะครับ
-กินข้าวรึยัง ระวังเป็นโรคกระเพาะนะ ตอนนี้เราก็เป็นอยู่ กะ-เพาะ(ก็เพราะ) เรา รักเธอไง
-รู้สึกหน้าอกเริ่มเล็กไป เพราะแอบปันใจให้เธอ!!

เคล็ดลับ/เทคนิคการหลอกกอดสาวแบ­บเนียนๆ

*1. ดูหนังผีมีลุ้น
มุขนี้ถือว่าเป็นหนึ่งในบรรดาสุดยอดเคล็ดวิชาที่จัดขึ้นหิ้งมุขคลาสสิคได้เลย ถึงแม้เหล่าคุณเธอส่วนใหญ่จะรู้ทันกับมุขควายๆ ง่ายๆ แบบนี้ แต่ที่ไหนมีผีจำไว้ให้ดีว่าที่นั่นมีลุ้น หลักการง่ายนิดเดียว ท่องไว้ว่า "ผีโผล่เธอโผกอด" อ้าาาา เหมือนจะง่ายใช่มั้ย แต่อย่าเพิ่งด่วนสรุปอย่างนั้น เพราะยังมีผู้หญิงจำนวนไม่น้อยที่ไม่กลัวผีในจอ พวกเธอเหล่านี้จิตแข็งพอที่จะแยกแยะออกว่ามันก็แค่คน ทาขอบตาดำๆ ทำตัวแข็งๆ ก็เท่านั้น ในกรณีนี้แนะนำให้ข้ามไป level 2 คือ พาเที่ยวบ้านผีจริงๆซะเลย แล้วถ้าผีจริงยังเอาไม่อยู่ ให้คุณลองพิจารณาดูใหม่ว่าเธอหรือผีกันแน่ที่น่ากลัว กว่ากัน

2. Hero กำมะลอ *
*อันนี้เป็นอุบายตื้นๆ ที่เห็นในหนังไทยทั่วไป วิธีการคือไหว้วานเพื่อนคุณสักคนสองคนที่ไว้ใจได้ และมีวิญญาณนักแสดงนิดหน่อย เข้ามาลวนลามทางวาจากับเธอ เมื่อนางเองกำลังตกอยู่ในที่นั่งลำบากก็ถึงคิวพระเอก อย่างคุณที่จะต้องขี่ม้าขาวมาช่วยเธอ อย่ารีรอ รีบเข้าไปโอบกอดเธอเสมือนคุณนั้นเป็นเจ้าข้าวเจ้าของ แล้วพูดว่า "เฮ้ย ยุ่งอะไรกับแฟนxxxวะ" เมื่อเหล่าร้ายเตลิดไปแล้ว ให้รีบเปลี่ยนบทกลับมาสู่ชีวิตจริงทันที "เออ ขอโทษที เมื่อกี๊ไม่ได้ตั้งใจ จริงๆ แล้วผมก็กลัวมากเลยนะ" เธอจะยิ้มหน้าแดงพร้อมกับตบไหล่คุณแก้เขิน แล้วพูดว่า "ไม่เป็นไรหรอก ก็เธออุตส่าห์ช่วยเรานิ่" โป๊ะเช๊ะ ! ตามสูตรทุกประการ

3. ซ้อนท้ายสบายแฮ *
*หาวันดีๆชวนเธอไปขี่จักรยานหรือมอเตอร์ไซค์เล่นกัน แต่ต้องระลึกไว้เสมอว่าคุณคือคนเมา เมาไม่ขับซ้อนได้อย่างเดียว ยิ่งเธอขี่ไม่แข็งเท่าไหร่ยิ่งดี ทำตัวเป็นสุภาพบุรุษเอื้อมมือไปช่วยบังคับแฮนด์ซะแล้ วแตะเบรคหน้าถี่ๆ ทีนี้ละพ่อ! นอกจากกอดแล้วยังได้ดมขี้หูขี้หัวถูไถกันให้ชื่นใจไป อีก แต่ก็ดูให้ดีหน่อยอุบายแบบนี้เหมาะกับการขี่ที่ความเ ร็วต่ำและถนนโล่งเรียบ ไม่งั้นอาจได้กอดกันยิ้มแฉ่งเป็นคางคกแบนทั้งคู่

4. สิ่งประหลาดล้านชนิด *
*สืบมาให้ได้ว่าเธอกลัวสิ่งประหลาดประเภทไหน จิ้งจก หนู แมลงสาบ แมงมุม ตุ๊กแก งู ฯลฯ หาสิ่งเหล่านี้มาไม่ว่าจะเป็นแบบจำลองหรือตัวเป็นๆ เลือกใช้ในสถานการณ์ที่อยู่กันคนน้อยๆ ปล่อยมันออกมาแล้วรีบคว้าจังหวะที่เธอปี๊ดป๊าดกระตู้ วู้เข้าไปโอบกอดให้ปลอดภัย แต่ในกรณีที่เธอกลัวสิ่งประหลาดที่มีอันตรายมากๆ อย่างเช่น งูจงอาง ไม่ขอแนะนำให้ปล่อยมันอออกมาเด็ดขาดเพราะคุณอาจได้นอนกอดมุ้งสายบัวแทนตัวเธอก็­เป็นได้

5. ปลาตอดหนุ่บหนับ *
*หาวันหยุดดีๆ ชวนเธอไปทะเลสวยๆ น้ำใสๆ แล้วลงไปเล่นน้ำกัน พยามว่ายไปในจุดที่ระดับน้ำสูงประมาณอก ดำน้ำลงไปแล้วใส่วิญญาณปลาหมึกว่ายเข้าปล่อยหนวดหนุบหนับตามแข้งขา แต่จำไว้ว่าอย่าตระกละ ตอดทีละนิดเพื่อให้เธอเห็นว่าเราขี้เล่นเป็นตัวไม่มี พิษภัย จากนั้นค่อยไปที่ level สูงๆ ไต่ขึ้นไปทีละหน่อย ตอดหนุ่บหนับๆบ่อยๆไปเรื่อย แต่ระวังไว้อย่าง ถ้าทะเลแถวนั้นหนาแน่นไปด้วยผู้คนต้องหาพิกัดจุดยืนของเธอให้แน่นอน ไม่งั้นไปกอดขาเมียชาวบ้านเดี๋ยวได้อาหารว่างเป็นแข้งผัวชุบน้ำเกลือ

6. mascot กอดเพลิน *
*ความน่ารักของเจ้าตัว mascot มีแรงดูดสาวๆและเด็กเสมอ ยิ่งเป็นชุดสวมด้วยแล้วยิ่งมีเสน่ห์เข้าไปใหญ่ สิ่งที่คุณต้องทำคือหาชุด mascot น่ารักๆสักตัวมาสวมในโอกาสพิเศษที่เกี่ยวข้องกับเธอไ ม่ว่าจะเป็นวันเกิด วันรับปริญญา วันฉลองได้รับตำแหน่งใหม่แต่งานศพว่าที่พ่อตาแม่ยายหรือญาติโกโหติกาของเธออย่า­ทะลึ่งใส่ไปล่ะ อัตราโดนถีบมีเยอะกว่ากอด และที่สำคัญต้องระวัง mascot บางอย่างที่ให้ความหมายส่อเจตนามืด เช่น mascot ถุงยางอนามัย

7. ขาเพลงสำแดงผล *
*ถ้าคุณเคยมีอาการขาแพลงมาก่อนคงแหลได้ไม่ยาก เริ่มจากนึกถึงความเจ็บปวดในช่วงนั้นแล้วดึงมันออกมา ให้ได้ ใส่ความอ่อนแองอแงเข้าไปเยอะๆ แต่อย่าลืมว่าสถานการณ์เป็นสิ่งสำคัญไม่น้อย หาจังหวะดีๆตอนทำกิจกรรมอยู่ใกล้ๆเธอแล้วค่อยออกอากา ร อาทิ เดิน วิ่ง เล่นกีฬา อย่าไปทะลึ่งขาแพลงตอนนั่งกินหมี่เกี๊ยวล่ะ น่าสงสัย เมื่อออกอาการแล้วให้นั่งทุรนทุรายนานๆหน่อยอย่ารีบลุกรอจนกว่าเธอจะมาประคองแล­้วค่อยพยุงตัวขึ้น จะกอดเอวกอดคอก็ตามสบายเลยพ่อคุณ

8. เสื้อกันฝนสุภาพบุรุษ *
*ถ้าฤดูฝนย่างเท้าเข้ามาจำไว้ว่าอย่าพกร่ม ให้พกเสื้อกันฝนอย่างเดียว ข้อดีของเสื้อกันฝนก็คือเราสามารถกางมันออกมาคลุมให้ คนที่เราหมายปองได้ และจังหวะที่คลุมหัวนั้นคุณสามารถหาเศษหาเลยไปกับอาการเก้ๆกังๆ กำลังดึงชายเสื้อได้อย่างแนบเนียน หมั่นดึงชายเสื้อบ่อยๆ ได้กอดอังๆหน่อยก็ยังดี

9. สะดุดลม
ไม่ว่าจะอยู่ในงานรื่นเริงไหนๆก็สามารถใช้ท่านี้ได้เ สมอ แค่ทำขาอ่อนไหวไวต่อความรู้สึกเจออะไรก็สะดุดจึ๊กๆไว ้ก่อน โอเวอร์แอ็คชั่นมากๆยิ่งดีใหญ่ ไถลตัวเข้าไปอยากกอดเธอตรงไหนก็เลือกเอา แต่ขอให้ถือความหน้าด้านเป็นที่ตั้ง

10. เหินฟ้าท้ากอด *
*กอดคนอื่นเป็นเรื่องง่าย แต่ทำให้เขากอดเรานี่สิยาก แนะนำให้เอาวิธีนี้ไปใช้กันครับ เพียงแค่คุณหาที่สูงและหวาดเสียวสักแห่ง ขึ้นไปยืนบนนั้นแล้วประกาศออกมา "ผมอยากตาย" รอเวลาอีกนิดหน่อยให้ตำรวจเดินทางมาถึงแล้วยื่นข้อเสนอต่อรอง บอกเขาไปว่าอยากเจอหน้าคนรักหรือคนที่กำลังแอบรัก แต่ต้องเตรียมเบอร์โทรของเธอ เลือกสถานที่ให้ใกล้ย่านที่เธอพักอาศัยและตรวจตราวันเวลาให้รอบคอบว่าเธอไม่ไปไ­หนไกลแน่นอน เท่านี้ก็เตรียมวงแขนอุ่นๆของคุณไว้กอดได้เลย แต่ถ้าพลาดตกลงมาตาย***ก่อนก็ซวยไป *

* เขียนความต้องการสุดท้ายใส่กระเป๋ากางเกงไว้ก็ดีเผื่อเธอจะได้มากอดส่งวิญาณ*
--

รายชื่อข่าวหลอกลวง (hoax) ที่พบบ่อยในประเทศไทย ซึ่งท่านไม่ควร forward ต่อ

Hoax (ข่าวไวรัสหลอกลวง)

เป็นรูปแบบหนึ่งของการก่อกวนที่มีผลต่อผู้ใช้คอมพิวเตอร์จำนวนมาก โดยไวรัสหลอกลวงพวกนี้จะมาในรูปของจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ การส่งข้อความต่อๆกันไปผ่านทางโปรแกรมรับส่งข้อความ หรือห้องสนทนาต่างๆ ซึ่งสามารถสร้างความวุ่นวายให้เกิดขึ้นได้มากหรือน้อยเพียงใด ก็ขึ้นกับเทคนิค และการใช้จิตวิทยาของผู้สร้างข่าวขึ้นมา โดยส่วนใหญ่จดหมายประเภทนี้จะมีหัวข้อที่ชวนเชื่อ อ้างแหล่งข้อมูล และบริษัทใหญ่ๆเป็นการสร้างความเชื่อมั่น และเมื่อผู้รับส่งต่อไปยังเพื่อนสนิท และคนคุ้นเคย ก็ยิ่งสร้างความเชื่อมั่นมากขึ้น จากนั้นผู้รับก็จะทำตัวเป็นผู้ส่งต่อๆ ไปอีกหลายๆทอด ซึ่งเป็นลักษณะเด่นของไวรัสหลอก ลวง หากได้รับจดหมายประเภทนี้ก็ไม่ควรที่จะส่งไปต่อๆ หรือควรเช็คจากแหล่งข้อมูลที่ถูกต้องก่อนทำการส่งต่อไป

ทำไม Hoax จึงถูกจัดว่าเข้าข่ายไวรัสคอมพิวเตอร์? คำตอบก็คือ การเอาจุดเด่นในด้าน พฤติกรรมของผู้ใช้จดหมายอิเล็กทรอนิกส์ที่สามารถส่งจดหมายหรือข้อความที่เข้าถึงคนหมู่มากได้ในเวลาอันรวดเร็ว มาเป็นเครื่องมือในการสร้างความปั่นป่วน และค่อนข้างได้ผลตรงกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งลักษณะเหล่านี้เปรียบได้กับ ไวรัสในธรรมชาติที่มีการระบากและกระจายตัวไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งบุคคลที่ส่งจดหมายเวียนดังกล่าวออกไป ก็เสมือนพาหะของโรคร้าย และจะกระจายเป็นวงกว้างมากขึ้นเรี่อย ๆ เราอาจสังเกตได้ว่าจดหมายหรือข้อความเตือนเหล่านั้น จะวนกลับมาหาเราบ่อยครั้ง

วิธีการป้องกัน หากท่านพบเห็นจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ที่มีข้อความในทำนองที่กล่าวข้างต้น ชื่อเรื่อง หรือเนื้อหาที่มีในรายการดังต่อไปนี้ ควรลบทิ้งทันทีและไม่ควรส่งต่อให้ผู้อื่น เนื่องจากเป็นข่าวที่ไม่เป็นความจริงแล้วจะเป็นการเพิ่มภาระให้กับระบบเน็ตเวิร์คของท่าน

รายชื่อไวรัสหลอกลวงที่พบ(ในประเทศไทย)
Old Lady with a box Hoax
Toilet Spider
WTC Survivor
Let's Watch TV หรือ KALI เป็นข่าวไวรัสหลอกลวงว่าจะติดไวรัสจากการเยี่ยมชมบางเว็บไซต์
Life is Beautiful
Jdbgmgr.EXE
!000 เป็นข่าวไวรัสหลอกลวงที่แพร่หลายในประเทศไทยเป็นอย่างมาก
SULFNBK.EXE Warning เป็นข่าวไวรัสหลอกลวงที่ก่อให้เกิดความเสียหายได้
Win a Holiday
CELCOM
SadMan
Mobile Phone เป็นข่าวไวรัสหลอกลวงเกี่ยวกับโทรศัพท์มือถือ
Virtual Card for You
Budweiser
Economic Slow Down in US
FAMILY PICTURES

คำถามสมัครงาน ^_^

>1.ทำไมคุณจึงอยากทำงานที่นี่
>......กูตกงานอยู่ มึงเรียกกูก็มาสัมภาษณ์นี้แหละ

>2.ทำไมคุณถึงออกจากงานที่เคยทำอยู่
>.....ต่อยกับหัวหน้า มันลำเอียงเลยสั่งสอนมันนิดหน่อย

>3.ลองเล่าประวัติของคุณแบบย่อ ๆ
>.....ผมเกิดจากผลงานอันสุดยอดของมนุษย์2คน ซึ่งภายหลังผมเรียกท่านว่า พ่อ-แม่

>4.คุณคิดจะทำอะไรให้กับบริษัทมากที่สุด
>.....กะว่าจะยึดบริษัทนี้เป็นของผมให้เร็วที่สุดแล้วขึ้นไปนั้งเป็นผู้บริหาร(­แล้วผมก็จะไล่คุณออก)

>5.จะมีปัญหาอะไรไหมหากต้องทำงานล่วงเวลา
>.....ทำได้ทั้งนั้นแหล่ะถ้าได้ตังค์อ่ะ

>6.คุณมีข้อดี ข้อเสียอะไรบ้าง
>.......ผมเป็นคนที่นิสัยดีมากๆจนสาวในที่ทำงานเดิมติดกันเป็นแถว
>บางคนนะขนาดมีลูกมีผัวแล้วยังยอมเป็นกิ๊กกับผมเลย
>(เขาบอกว่าผมเก่งกว่าผัวที่บ้าน)

>7.ความใฝ่ฝันและโครงการในอนาคต
>....ก็อย่างที่บอกงัย ผมจะเป็น CEO ของที่นี้...............................

>8. คุณมีงานอดิเรกอะไรไหม
>.......เป็นกิ๊กกับเมียชาวบ้าน

>9. คุณต้องการเงินเดือนเท่าไหร่
>......ผมขอสัก 200,000 คุณจะให้ผมไหม สาดดดดถามทำไมวะ

>10. คุณมีข้อสงสัยอะไรอีกไหม
>.........มีครับ...ผมไม่ชอบขี้หน้าคุณ เมื่อไหร่คุณจะลาออกซะทีวะ

>======================

>1.ทำไมคุณจึงอยากทำงานที่นี่
>Q : อ่อ สาวๆ เยอะดีครับ เมื่อตะกี้ก่อนขึ้นมาสัมภาษณ์เจออยู่ 2 คน >สวยสุดยอด >และอีกคนหนึ่งเมื่อกี้เป็นเลขาส่วนตัวพี่หรือปล่าวครับที่นั่งอยู่หน้าห้อง >สวยใช้ได้เลย ฝากบอกด้วยนะครับว่า >สวยสวยแบบนี้อย่ามาเดินแถวบ้านเชียวจะ......................ยิ้ม............­..........ให้

>----------------------------

>2.ทำไมคุณถึงออกจากงานที่เคยทำอยู่
>Q : ผมแค่แอบหลับกลางวัน เพื่อตื่นมาทำงานบ่ายๆ งานจะได้ไหลลื่น >ผมเป็นคนเห็นคุณค่าของการทำงานแต่ไม่ค่อยมีใครเข้าใจ
>----------------------------

>3.ลองเล่าประวัติของคุณแบบย่อ ๆ
>Q : ผมเกิดจากท้องแม่ เรียนไปวันวัน มีชีวิตอยู่อย่างพอเพียง ไม่โลภ >ไม่อยากได้อะไรมากมาย >แต่ที่อยากได้ในตอนนี้คือได้ทำงานที่บริษัทของพี่นี่ล่ะครับ
>--------------------------

>4.คุณคิดจะทำอะไรให้กับบริษัทมากที่สุด
>Q : เออ อย่างแรกก็จีบเลขาหน้าห้องให้ติด แล้วต่อด้วยเลขาท่านประธาน >ตามด้วยลูกสาวกรรมการบริษัทและผมจะค่อยๆไต่เต้าขึ้นไปนั่งเก้าอี้ผู้บริหารเป็­นเส้นทางที่ท้าทายใช่ไหมครับ
>-------------------------

>5.จะมีปัญหาอะไรไหมหากต้องทำงานล่วงเวลา
>Q : ไม่มีปัญหาครับ เพราะถ้าทำแล้วได้เงินก็มีเรี่ยวมีแรงเกินมนุษย์ทั่วไป
>-------------------------

>6.คุณมีข้อดี ข้อเสียอะไรบ้าง
>Q : เอาข้อดีก่อนแล้วกันผมขยันทำงาน ทำงานอย่างไม่รู้จากเหน็ดเหนื่อย >เข้ากับคนอื่นได้ดี ส่วนข้อเสียผมไม่ชอบให้ใครมาสั่งให้ทำโน้นทำนี่ >เมื่อมีอารมณ์อยากทำงานก็จะทำไม่ยอมให้ใครมาชี้นิ้วสั่ง >ชอบดื่มเหล้าเพราะเหล้าทำให ้ผมเข้ากับเพื่อนฝูงได้ดีที่สุด (555)
>------------------------

>7.ความใฝ่ฝันและโครงการในอนาคต
>Q : เหมือนข้อ 4 แต่เมื่อผมเป็นผู้บริหารแล้วผมจะซื้อหุ้นชิน >คืนมาแล้วจะไปซื้อฟุตบอลสโมสรแมนซิตตี้ด้วย
>-----------------------

>8. คุณมีงานอดิเรกอะไรไหม
>Q : ชอบนินทาหัวหน้า นอน กิน เล่นเกมส์ เดินห้าง
>-----------------------

>9. คุณต้องการเงินเดือนเท่าไหร่
>Q : ขอสัก 20,000 บาทแล้วกัน ช่วงนี้เศรษฐกิจไม่ค่อยดี น้ำมันแพง >กับข้าวขึ้นราคา มิกเซอร์ เบียร์ เหล้า น้ำแข็ง ขยับราคาต้องเข้าใจผมนะครับ >เอิ๊กกกก
>-----------------------

>10. คุณมีข้อสงสัยอะไรอีกไหม
>Q : จะรับผมไหมครับเนี่ยะ ไม่รับก็บอกกันเลยไม่ต้องมา "พูดไม่ค่อยเก่ง(AB >nomal)" >เดี๋ยวก็ "ตอบติดเน็ท (จิ้งหรีดขาว วงศ์เทวัญ)"

ทำนายโหงวเฮ้ง จากหน้าผาก

* หน้าผากสี่เหลี่ยมกว้าง *
แสดงว่าเป็นคนทำงานเก่ง เหมาะจะประกอบงานธุรกิจต่างๆ ใจคอกว้างขวางมั่นคง มีเหตุผล รู้จักไตร่ตรองและมีความรอบคอบ

* หน้าผากมีรอยหยัก *
เป็นรูปตัว M อย่างเห็นได้ชัดเจนมีหน้าผากแบบนี้จะเข้ากับคนได้ง่าย มีความรับผิดชอบ และซื่อสัตว์ไว้ใจได้

* หน้าผากหยักเล็กน้อย *
เป็นรูปคล้าย ตัว M แสดงให้เห็นว่าเป็นคนที่มีความคิดสร้างสรรค์ แต่ควบคุมตัวเองไม่ค่อยได้ และมักไม่ชอบสุงสิงกับใครนัก

* หน้าผากเถิก *
เป็นคนมีความสามารถ ฉลาดหลักแหลม และมีเหตุผล

* หน้าผากกลมมน *
เป็นคนเจ้าความคิด ชอบที่จะทำงานแข่งขันกับใครๆเปิดเผย และแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้เก่ง เป็นที่พึงแก่คนที่กำลังประสบปัญหาได้อย่างยิ่ง

* หน้าผากเป็นสัน *
เป็นคนไม่ยอมเข้าใจในเรื่องที่กล่าวขึ้นมาลอยๆต้องให้รู้แจ้งเห็นจริงกับตาตัวเ­องจึงจะยอมเชื่อ และเป็นคนตั้งใจมั่น ไม่โอนเอียงง่ายๆ

* หน้าผากต่ำและแคบ *
แสดงว่าเป็นคนไม่ฉลาด ขาดความคิดสร้างสรรค์ ได้แต่คอยทำตามคำสั่งคนอื่น

หน้าที่ของอวัยวะที่ไม่เคยรู้มาก่อน - เรื่องดีๆที่ไม่ควรพลาด

หน้าผาก............อวัยวะที่ใช้ประกอบกับเท้าเวลามีทุกข์ เช่น...นอนเอาเท้าก่ายหน้าผาก

ตา.....................อวัยวะที่ใช้ในการมอง จะมีอุณหภูมิสูงมากเมื่อเห็นใครได้ดี

หู......................อวัยวะที่ใช้ในการฟัง ส่วนมากจะมีน้ำหนักเบา จึงก่อให้เกิดเรื่องขึ้นบ่อยๆ

ปาก...................อวัยวะที่ใช้พูด ส่วนมากจะอยู่ไม่ตรงกับใจ

ไหล่...................อวัยวะที่คู่กับบ่า เช่นเคียงบ่าเคียงไหล่ มีไว้ให้คนเหงาใจหรือเศร้าใจซบโดยเฉพาะ

บ่า.....................อวัยวะที่คู่กับไหล่ เช่นเคียงบ่าเคียงไหล่ ....อาชีพจับกังมีไว้แบกข้าวสาร ........(ส่วนถนนข้าวสาร จับกังไม่เกี่ยว)

หัวใจ.................อวัยวะสูบฉีดเลือดและฟอกเลือดให้กับร่างกาย มีไว้ให้แสดงความรักและเก็บรักไว้... แต่บังเอิญว่ามันมีถึง 4 ห้อง

หน้าอก...............อวัยวะที่รองรับเรื่องหนัก อาทิเรื่องหนักอก... ซึ่งผู้หญิงจะหนักกว่าผู้ชาย ( รึเปล่า!!!)

นม.....................อวัยวะที่บ่งบอกภาระการรับน้ำหนักของอก ผู้หญิงมีไว้...!!! บริการนมให้บุตร

ศอก...................ข้อต่อระหว่างแขนและข้อมือ มีไว้เป็นอาวุธประจำกาย และใช้รองน้ำ...

มือ......................เป็นอวัยวะปลายสุดของแขน มีนิ้วเป็นส่วนประกอบ ...(no comment)

ตัว......................เป็นชิ้นส่วนใหญ่ของร่างกายให้อวัยวะอื่นได้พักพิง.....จะลืมกันมากเวลาได้ดี

สะดือ..................เป็นอวัยวะที่ใช้เชื่อมต่อกับแม่ยามอยู่ในครรภ์ เมื่อโตขึ้นใช้วัดระดับความสุภาพ .........ถ้าต่ำกว่านี้ทะลึ่ง!!

ขาอ่อน................เป็นอวัยวะเชื่อมต่อจากสะโพกลงมา นิยมใช้ในการประกวด ..........เพราะเห็นได้เด่นชัดกว่าสมอง!!!

หัวเข่า................ข้อต่อระหว่างขาและหน้าแข้ง เป็นอาวุธประจำกาย ผู้หญิงใช้โจมตีจุดอ่อนผู้ชาย และบางคนใช้ซับน้ำตาเวลาเศร้า ... นิยมมากสำหรับคนหลงรักชาวบ้าน

ขนหน้าแข้ง.........อวัยวะที่วัดระดับของฐานะ ยิ่งรวยมากขนหน้าแข้งจะร่วงน้อย

เท้า......................เป็นอวัยวะที่ใช้ยืน บางครั้งใช้ก่ายหน้าผาก ...หรือเป็นอวัยวะที่ใช้ผลัก ...ซึ่งเรียกกันโดยทั่วไปว่า " ถีบ "

มุขไว้จีบสาว

1. ผมอยากเป็นซูปเปอร์แมน... จะได้มองทะลุเข้าไปในใจคุณ ( ป๊าด.....มองทะลุขนาดนั้น คนถูกมองก็ตายสิ)

2. ผมผิดเองแหละ ที่ไม่ยอมหลบสายตาคุณในวันนั้น... ทำให้ผมต้องตามตื๊อคุณอยู่จนทุกวันนี้ (เหอ ๆ ๆ สายตามองหาเรื่อง ผัวเขามาด้วยทั้งคน)

3. ผมอยากไปเผาตำราภาษาศาสตร์ทิ้งไปให้หมดทั้งโลก... เพราะกะอีแค่หานิยามความรู้สึกของผมในตอนนี้ แค่นี้ยังไม่เห็นจะทำให้มันบรรยายออกมาเป็นภาษาได้เลย (เหอ ๆ คนมานไม่มีความคิด อย่าไปสนเลย)

4. ถ้าพรุ่งนี้ผมตายไปก็คงไม่แปลก... เพราะชีวิตผมที่เกิดมา มีหน้าที่เพียงแค่มาพบคุณในวันนี้เท่านั้นเองแหละ (ป๊าด....น่าจะมีคนแบบนี้เยอะ โลกจะได้สูงขึ้น)

5. ถ้าการทำลาย The Matrix ทำให้คุณหายไป... ต่อให้มี The one กี่คน ผมก็คงจะตามฆ่ามันจนได้ (ตูจะแจ้งตำรวจ ข้อหาพยายามฆ่า)

6. ยังตัดสินใจไม่ได้ใช่ไหม เอางี้ครับ โยนหัวก้อยกัน ... ถ้าออกหัว คุณมาเป็นแฟนผม... ถ้าออกก้อย ผมจะยอมเป็นแฟนคุณ ( ป๊าด....มานเอาแต่ได้อย่างดี่ยว )

7. ผมรู้สึกโง่มากเหลือเกิน ที่วันนี้ได้คุยกับคุณ... โง่ที่ไปทำอะไรอยู่ตั้งนาน ที่ไม่เคยได้คุยกับคุณเลย (ลูกร้องหิวนมแล้ว มาอ้อนอยู่ได้ เดี๊ยะ....ปั๊ด........)

8. ผมรู้แล้วว่าทำไมความรักทำให้คนตาบอด... ก็คุณเล่นเอาดาวทั้งจักรวาลมาใส่ไว้ในตาคุณนี่นา (ตอแหล........ชะมัดเลย ถึงว่าแหล่ะ มานมืด ๆ ไงก็ไม่รู้อ่ะ)

9. (กรณีจีบคนอายุน้อยกว่า) รู้ไหม ว่าชีวิตผมจริงๆ แล้วเริ่มต้นเมื่อตอน อายุ 5 ขวบ... ก็เมื่อตอนที่ชีวิตอีกครึ่งที่เหลือของผมมาเกิดนั่นแหละครับ (อ้ายแก่.....อยากกินหญ้าอ่อน)

10. (กรณีจีบคนอายุมากกว่า) พระเจ้าท่านสร้างคุณมาก่อน... แล้วจึงสร้างผมขึ้นมาให้ใช้สำหรับคุณโดยเฉพาะ (.....เหอ ๆ ๆ งั้นรีบไปล้างส้วมเลย )

11. ผมจะไปแจ้งความให้ตำรวจไปจับนางงามจักรวาล... ก็เธอขโมยมงกุฎไปจากคุณไม่ใช่เหรอ ( น๊าน........ดูมาน..........)

12. ดูก็รู้ คุณเป็นลูกครึ่งแน่ๆ... ครึ่งมนุษย์ครึ่งนางฟ้า (ส่วนคุณครึ่งมนุษย์ ครึ่งสัตว์ประหลาด)

13. อยากส่องกระจกเหรอครับ... มองตาผมสิ ในนั้นมีแต่ภาพคุณ ... (ป๊าด ขี้ตาเต็มเลยอ่ะ)

14. ช่วยโยนเชือกให้หน่อยครับ... ผมตกลงไปในหลุมรักคุณ แล้วปีนขึ้นมาเองไม่ได้ (เหอ ๆ ๆ คิดไม่ออกเว๊ยยยยยยย )

15. (มุขนี้เอาไว้ใช้กับตำรวจ ทนาย หรือ สาวในวงการยุติธรรม) ขอปรึกษาปัญหากฎหมายหน่อยได้ไหมครับ... ข้อหาลักลอบแอบชอบผู้อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต ผิดกฎหมายมาตราไหนครับ (เหอ มาตราสังข์จ้า............)

16. (สำหรับพวกแอบปิ๊งเพื่อนของเพื่อน) เขาเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของผมครับ... เขาทำให้ผมได้พบสิ่งที่มีค่าที่สุดในชีวิต

17. (สำหรับคนที่จีบหมอ) จะฟังตรวจเสียงหัวใจผมเหรอครับ... เอ๊ะ เอาให้หมอไปแล้วตั้งแต่เจอกันไม่ใช่เหรอ .(...อ้าวเหรอ หมอโยนให้หมากินแล้วอ่ะ)เหอ ๆ ๆ ..............

100 keyboard shortcuts

CTRL+C (Copy)
CTRL+X (Cut)
CTRL+V (Paste)
CTRL+Z (Undo)
DELETE (Delete)

SHIFT+DELETE (Delete the selected item permanently without placing the item in the Recycle Bin)

CTRL while dragging an item (Copy the selected item)
CTRL+SHIFT while dragging an item (Create a shortcut to the selected item)
F2 key (Rename the selected item)
CTRL+RIGHT ARROW (Move the insertion point to the beginning of the next word)
CTRL+LEFT ARROW (Move the insertion point to the beginning of the previous word)
CTRL+DOWN ARROW (Move the insertion point to the beginning of the next paragraph)
CTRL+UP ARROW (Move the insertion point to the beginning of the previous paragraph)
CTRL+SHIFT with any of the arrow keys (Highlight a block of text)

SHIFT with any of the arrow keys (Select more than one item in a window or on the desktop, or select text in a do***ent)

CTRL+A (Select all)
F3 key (Search for a file or a folder)
ALT+ENTER (View the properties for the selected item)
ALT+F4 (Close the active item, or quit the active program)
ALT+ENTER (Display the properties of the selected object)
ALT+SPACEBAR (Open the shortcut menu for the active window)

CTRL+F4 (Close the active do***ent in programs that enable you to have multiple do***ents open simultaneously)

ALT+TAB (Switch between the open items)
ALT+ESC (Cycle through items in the order that they had been opened)
F6 key (Cycle through the screen elements in a window or on the desktop)
F4 key (Display the Address bar list in My Computer or Windows Explorer)
SHIFT+F10 (Display the shortcut menu for the selected item)
ALT+SPACEBAR (Display the System menu for the active window)
CTRL+ESC (Display the Start menu)

ALT+Underlined letter in a menu name (Display the corresponding menu)
Underlined letter in a command name on an open menu (Perform the corresponding command)

F10 key (Activate the menu bar in the active program)
RIGHT ARROW (Open the next menu to the right, or open a submenu)
LEFT ARROW (Open the next menu to the left, or close a submenu)
F5 key (Update the active window)
BACKSPACE (View the folder one level up in My Computer or Windows Explorer)
ESC (Cancel the current task)

SHIFT when you insert a CD-ROM into the CD-ROM drive (Prevent the CD-ROM from automatically playing)

Dialog Box Keyboard Shortcuts

CTRL+TAB (Move forward through the tabs)
CTRL+SHIFT+TAB (Move backward through the tabs)
TAB (Move forward through the options)
SHIFT+TAB (Move backward through the options)

ALT+Underlined letter (Perform the corresponding command or select the corresponding option)

ENTER (Perform the command for the active option or button)
SPACEBAR (Select or clear the check box if the active option is a check box)
Arrow keys (Select a button if the active option is a group of option buttons)
F1 key (Display Help)
F4 key (Display the items in the active list)
BACKSPACE (Open a folder one level up if a folder is selected in the Save As or Open dialog box)
Microsoft Natural Keyboard Shortcuts

Windows Logo (Display or hide the Start menu)
Windows Logo+BREAK (Display the System Properties dialog box)
Windows Logo+D (Display the desktop)
Windows Logo+M (Minimize all of the windows)
Windows Logo+SHIFT+M (Restore the minimized windows)
Windows Logo+E (Open My Computer)
Windows Logo+F (Search for a file or a folder)
CTRL+Windows Logo+F (Search for computers)
Windows Logo+F1 (Display Windows Help)
Windows Logo+ L (Lock the keyboard)
Windows Logo+R (Open the Run dialog box)
Windows Logo+U (Open Utility Manager)

Accessibility Keyboard Shortcuts

Right SHIFT for eight seconds (Switch FilterKeys either on or off)
Left ALT+left SHIFT+PRINT SCREEN (Switch High Contrast either on or off)
Left ALT+left SHIFT+NUM LOCK (Switch the MouseKeys either on or off)
SHIFT five times (Switch the StickyKeys either on or off)
NUM LOCK for five seconds (Switch the ToggleKeys either on or off)
Windows Logo +U (Open Utility Manager)

Windows Explorer Keyboard Shortcuts

END (Display the bottom of the active window)
HOME (Display the top of the active window)
NUM LOCK+Asterisk sign (*) (Display all of the subfolders that are under the selected folder)
NUM LOCK+Plus sign (+) (Display the contents of the selected folder)
NUM LOCK+Minus sign (-) (Collapse the selected folder)
LEFT ARROW (Collapse the current selection if it is expanded, or select the parent folder)
RIGHT ARROW (Display the current selection if it is collapsed, or select the first subfolder)

Shortcut Keys for Character Map

After you double-click a character on the grid of characters, you can move through the grid by using the keyboard shortcuts:

RIGHT ARROW (Move to the right or to the beginning of the next line)
LEFT ARROW (Move to the left or to the end of the previous line)
UP ARROW (Move up one row)
DOWN ARROW (Move down one row)
PAGE UP (Move up one screen at a time)
PAGE DOWN (Move down one screen at a time)
HOME (Move to the beginning of the line)
END (Move to the end of the line)
CTRL+HOME (Move to the first character)
CTRL+END (Move to the last character)

SPACEBAR (Switch between Enlarged and Normal mode when a character is selected)
Microsoft Management Console (MMC) Main Window Keyboard Shortcuts

CTRL+O (Open a saved console)
CTRL+N (Open a new console)
CTRL+S (Save the open console)
CTRL+M (Add or remove a console item)
CTRL+W (Open a new window)

F5 key (Update the content of all console windows)
ALT+SPACEBAR (Display the MMC window menu)
ALT+F4 (Close the console)
ALT+A (Display the Action menu)
ALT+V (Display the View menu)
ALT+F (Display the File menu)
ALT+O (Display the Favorites menu)
MMC Console Window Keyboard Shortcuts
CTRL+P (Print the current page or active pane)

ALT+Minus sign (-) (Display the window menu for the active console window)
SHIFT+F10 (Display the Action shortcut menu for the selected item)
F1 key (Open the Help topic, if any, for the selected item)
F5 key (Update the content of all console windows)
CTRL+F10 (Maximize the active console window)
CTRL+F5 (Restore the active console window)

ALT+ENTER (Display the Properties dialog box, if any, for the selected item)
F2 key (Rename the selected item)

CTRL+F4 (Close the active console window. When a console has only one console window, this shortcut closes the console)

Remote Desktop Connection Navigation

CTRL+ALT+END (Open the Microsoft Windows NT Security dialog box)
ALT+PAGE UP (Switch between programs from left to right)
ALT+PAGE DOWN (Switch between programs from right to left)
ALT+INSERT (Cycle through the programs in most recently used order)
ALT+HOME (Display the Start menu)

CTRL+ALT+BREAK (Switch the client computer between a window and a full screen)

ALT+DELETE (Display the Windows menu)

CTRL+ALT+Minus sign (-) (Place a snapshot of the active window in the client on the Terminal server ***board and provide the same functionality as pressing PRINT SCREEN on a local computer.)

CTRL+ALT+Plus sign (+) (Place a snapshot of the entire client window area on the Terminal server ***board and provide the same functionality as pressing ALT+PRINT SCREEN on a local computer.)

Microsoft Internet Explorer Navigation

CTRL+B (Open the Organize Favorites dialog box)
CTRL+E (Open the Search bar)
CTRL+F (Start the Find utility)
CTRL+H (Open the History bar)
CTRL+I (Open the Favorites bar)
CTRL+L (Open the Open dialog box)
CTRL+N (Start another instance of the browser with the same Web address)
CTRL+O (Open the Open dialog box, the same as CTRL+L)
CTRL+P (Open the Print dialog box)
CTRL+R (Update the current Web page)
CTRL+W (Close the current window)

ความจริง 15 ประการเมื่อไปจีบสาวเที่ยวกลางคืน

1. เธอยอมคุยด้วยไม่ได้หมายความว่าเธอชอบ
2. เธอแจกเบอร์ก็ไม่ได้หมายความว่าเธออยากรับโทรเรา
3. เธอยอมไปกับเราหลังผับเลิกไม่ได้หมายความว่าเธออยากอยู่กับเรา
4. เธอยอมให้เราไปส่งที่ห้องไม่ได้หมายความว่าเธออยากให้เราไปหา
5. เธอขอไปนอนที่ห้องไม่ได้หมายความว่าเธออยากได้เราเป็นแฟน
6. เธอถามว่ามีxxxกันมั้ยควรจะรีบมีทันทีเพราะโอกาสหน้าอาจไม่มีอีกแล้ว
7. เธอให้เบอร์ที่ห้อง ไม่ได้หมายความว่าอยากให้เราโทรไป
8. เธอคุยกับเราเป็นชั่วโมงอาจเป็นเพราะเธอกำลังเบื่อ
9. เธอ Miss Call หาเราเพราะเธอเบื่อแต่ไม่อยากเสียตังค์
10. เธอไปดูหนังกับเราเพราะเป็นของฟรี
11. เธอไปทานข้าวกับเราเพราะอยากทาน...แต่ไม่อยากเสียตังค์
12. เธอบอกว่าอยากไปดูหนังแต่ไม่ได้หมายความว่าอยากไปดูกับเรา
13. เธอบอกไว้ว่างๆจะมาเล่นที่ห้อง แต่ไม่รู้ว่าเธอจะว่างเมื่อไหร
14. ในคืนนั้นเธอบอกว่าเราเป็นแฟน แต่วันรุ่งขึ้นไม่ได้หมายความว่าจะเหมือนเดิม
15. เธอบอกให้โทรไป ไม่ได้หมายความว่าเธอจะรับโทรศัพท์

แนะนำสถานที่กางเต้นท์และแคมป์ปิ้ง หน้าหนาว

ดอยอ่างขาง

ทุ่งบัวตอง ~ แม่ฮ่องสอน


ภูชี้ฟ้า
ภูทับเบิก
ห้วยน้ำดัง

อุทยานตากสินมหาราช
เขาค้อ

เขาใหญ่
แก่งกระจาน

108 วิธีประหยัดพลังงานอีกหนทางช่วย­ชาติ

วิธีประหยัดน้ำมัน

1. ตรวจตราลมยางเป็นประจำ เพราะยางที่อ่อนเกินไปนั้น ทำให้ สิ้นเปลืองน้ำมันมากกว่ายางที่มีปริมาณลมยางตามที่มาตรฐาน กำหนด

2. สับเปลี่ยนยาง ตรวจตั้งศูนย์ล้อตามกำหนด จะช่วยประหยัด น้ำมันเพิ่มขึ้นอีกมาก

3. ดับเครื่องยนต์ทุกครั้งเมื่อต้องจอดรถนานๆ แค่จอดรถติดเครื่อง ทิ้งไว้ 10 นาที ก็เสียน้ำมันฟรีๆ 200 ซีซี

4. ไม่ควรติดเครื่องทิ้งไว้เมื่อจอดรถ ให้ดับเครื่องยนต์ทุกครั้งที่ ขึ้นของ ลงของ หรือคอยคน เพราะการติดเครื่องทิ้งไว้ เปลืองน้ำมัน และสร้างมลพิษอีกด้วย

5. ไม่ออกรถกระชากดังเอี๊ยด การออกรถกระชาก 10 ครั้ง สูญเสีย น้ำมันไปเปล่าๆ ถึง 100 ซีซี น้ำมันจำนวนนี้รถสามารถวิ่งได้ไกล 700 เมตร

6. ไม่เร่งเครื่องยนต์ตอนเกียร์ว่างอย่างที่เราเรียกกันติดปากว่า เบิ้ลเครื่องยนต์ การกระทำดังกล่าว 10 ครั้ง สูญเสียน้ำมันถึง 50 ซีซี ปริมาณน้ำมันขนาดนี้รถวิ่ง
ไปได้ตั้ง 350 เมตร

7. ตรวจตั้งเครื่องยนต์ตามกำหนด ควรตรวจเช็คเครื่องยนต์ สม่ำเสมอ เช่น ทำความสะอาดระบบไฟจุดระเบิด เปลี่ยนหัว คอนเดนเซอร์ ตั้งไฟแก่อ่อนให้พอดี จะช่วยประหยัดน้ำมันได้ถึง 10%

8. ไม่ต้องอุ่นเครื่อง หากออกรถและขับช้าๆ สัก 1-2 กม. แรก เครื่องยนต์จะอุ่นเอง ไม่ต้องเปลืองน้ำมันไปกับการอุ่นเครื่อง

9. ไม่ควรบรรทุกน้ำหนักเกินพิกัด เพราะเครื่องยนต์จะทำงาน ตามน้ำหนักที่เพิ่มขึ้น หากบรรทุกหนักมาก จะทำให้เปลืองน้ำมัน และสึกหรอสูง

10. ใช้ระบบการใช้รถร่วมกัน หรือคาร์พูล (Car pool) ไปไหน มาไหน ที่หมายเดียวกัน ทางผ่านหรือใกล้เคียงกัน ควรใช้รถคัน เดียวกัน

11. เดินทางเท่าที่จำเป็นจริงๆ เพื่อประหยัดน้ำมัน บางครั้ง เรื่องบางเรื่องอาจจะติดต่อกันทางโทรศัพท์ก็ได้ ประหยัดน้ำมัน ประหยัดเวลา

12. ไปซื้อของหรือไปธุระใกล้บ้านหรือใกล้ๆ ที่ทำงาน อาจจะเดิน หรือใช้จักรยานบ้าง ไม่จำเป็นต้องใช้รถยนต์ทุกครั้ง เป็นการ ออกกำลังกายและประหยัดน้ำมันด้วย

13. ก่อนไปพบใคร ควรโทรศัพท์ไปถามก่อนว่าเขาอยู่หรือไม่ จะได้ ไม่เสียเที่ยว ไม่เสียเวลา ไม่เสียน้ำมันไปโดยเปล่าประโยชน์

14. สอบถามเส้นทางที่จะไปให้แน่ชัด หรือศึกษาแผนที่ให้ดี จะได้ไม่หลง ไม่เสียเวลา ไม่เปลืองน้ำมันในการวนหา

15. ควรใช้โทรศัพท์ โทรสาร ไปรษณีย์ อินเตอร์เน็ท หรือใช้ บริการส่งเอกสาร แทนการเดินทางด้วยตัวเอง เพื่อประหยัดน้ำมัน

16. ไม่ควรเดินทางโดยไม่ได้วางแผนการเดินทาง ควรกำหนด เส้นทาง และช่วงเวลาการเดินทางที่เหมาะสมเพื่อประหยัดน้ำมัน

17. หมั่นศึกษาเส้นทางลัดเข้าไว้ ช่วยให้ไม่ต้องเดินทางยาวนาน ไม่ต้องเผชิญปัญหาจราจร ช่วยประหยัดทั้งเวลาและประหยัดน้ำมัน

18. ควรบับรถด้วยความเร็วคงที่ เลือกขับที่ความเร็ว 70-80 กิโลเมตรต่อชั่วโมงที่ 2,000-2,500 รอบเครื่องยนต์ ความเร็วระดับ นี้ ประหยัดน้ำมันได้มากกว่า

19. ไม่ควรขับรถลากเกียร์ เพราการลากเกียร์ต่ำนานๆ จะทำให้ เครื่องยนต์หมุนรอบสูงกินน้ำมันมาก และเครื่องยนต์ร้อนจัด สึกหรอง่าย

20. ไม่ติดตั้งอุปกรณ์ตกแต่งที่จะทำให้เครื่องยนต์ทำงานหนักขึ้น เช่น การทำให้เกิดการต้านลมขณะวิ่ง หรือทำให้เครื่องยนต์ ไม่ สามารถถ่ายเทความร้อนได้ดี

21. ไม่ควรใช้น้ำมันเบนซินที่ออกเทนสูงเกินความจำเป็นของ เครื่องยนต์ เพราะเป็นการสิ้นเปลืองพลังงานโดยเปล่าประโยชน์

22. หมั่นเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง ไส้กรองน้ำมันเครื่อง ไส้กรองอากาศ ตามระยะเวลาที่เหมาะสม เพื่อประหยัดน้ำมัน

23. สำหรับเครื่องยนต์แบบเบนซิน ควรเลือกเติมน้ำมันเบนซิน ให้ถูกชนิด ถูกประเภท โดยเลือกตามค่าออกเทนที่เหมาะสมกับ รถแต่ละยี่ห้อ (สังเกตจากฝาปิดถังน้ำมันด้านใน หรือรับคู่มือที่ปั้ม น้ำมันใกล้บ้าน

24. ไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องปรับอากาศตลอดเวลา ยามเช้าๆ เปิดกระจกรับความเย็นจากลมธรรมชาติบ้างก็สดชื่นดี ประหยัด น้ำมันได้ด้วย

25. ไม่ควรเร่งเครื่องปรับอากาศในรถอย่างเต็มที่จนเกินความจำเป็น ไม่เปิดแอร์แรงๆ จนรู้สึกหนาวเกินไป เพราะสิ้นเปลืองพลังงาน

วิธีประหยัดไฟฟ้า

26. ปิดสวิตช์ไฟ และเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกชนิดเมื่อเลิกใช้งาน สร้าง ให้เป็นนิสัยในการดับไฟทุกครั้งที่ออกจากห้อง

27. เลือกซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ได้มาตรฐาน ดูฉลากแสดงประสิทธิภาพ ให้แน่ใจทุกครั้งก่อนตัดสินใจซื้อ หากมีอุปกรณ์ไฟฟ้าเบอร์ 5 ต้อง เลือกใช้เบอร์ 5

28. ปิดเครื่องปรับอากาศทุกครั้งที่จะไม่อยู่ในห้องเกิน 1 ชั่วโมง สำหรับเครื่องปรับอากาศทั่วไป และ 30 นาที สำหรับเครื่องปรับ อากาศเบอร์ 5

29. หมั่นทำความสะอาดแผ่นกรองอากาศของเครื่องปรับอากาศ บ่อยๆ เพื่อลดการเปลืองไฟในการทำงานของเครื่องปรับอากาศ

30. ตั้งอุณหภูมิเครื่องปรับอากาศที่ 25 องศาเซลเซียส ซึ่งเป็น อุณหภูมิที่กำลังสบาย อุณหภูมิที่เพิ่มขึ้น 1 องศา ต้องใช้พลังงาน เพิ่มขึ้นร้อยละ 5-10

31. ไม่ควรปล่อยให้มีความเย็นรั่วไหลจากห้องที่ติดตั้งเครื่องปรับ อากาศ ตรวจสอบและอุดรอยรั่วตามผนัง ฝ้าเพดาน ประตู ช่องแสง และปิดประตูห้องทุกครั้งที่เปิดเครื่องปรับอากาศ

32. ลดและหลีกเลี่ยงการเก็บเอกสาร หรือวัสดุอื่นใดที่ไม่จำเป็น ต้องใช้งานในห้องที่มีเครื่องปรับอากาศ เพื่อลดการสูญเสีย และ ใช้พลังงานในการปรับอากาศภายในอาคาร

33. ติดตั้งฉนวนกันความร้อนโดยรอบห้องที่มีการปรับอากาศ เพื่อลดการสูญเสียพลังงานจากการถ่ายเทความร้อนเข้าภายใน อาคาร

34. ใช้มูลี่กันสาดป้องกันแสงแดดส่องกระทบตัวอาคาร และ บุฉนวนกันความร้อนตามหลังคาและฝาผนังเพื่อไม่ให้เครื่องปรับ อากาศทำงานหนักเกินไป

35. หลีกเลี่ยงการสูญเสียพลังงานจากการถ่ายเทความร้อนเข้าสู่ ห้องปรับอากาศ ติดตั้งและใช้อุปกรณ์ควบคุมการเปิด-ปิดประตู ในห้องที่มีเครื่องปรับอากาศ

36. ควรปลูกต้นไม้รอบๆ อาคาร เพราะต้นไม้ขนาดใหญ่ 1 ต้น ให้ความเย็นเท่ากับเครื่องปรับอากาศ 1 ตัน หรือให้ความเย็น ประมาณ 12,000 บีทียู

37. ควรปลูกต้นไม้เพื่อช่วยบังแดดข้างบ้านหรือเหนือหลังคา เพื่อ เครื่องปรับอากาศจะไม่ต้องทำงานหนักเกินไป

38. ปลูกพืชคลุมดิน เพื่อช่วยลดความร้อนและเพิ่มความชื้นให้กับ ดิน จะทำให้บ้านเย็น ไม่จำเป็นต้องเปิดเครื่องปรับอากาศเย็น จนเกินไป

39. ในสำนักงาน ให้ปิดไฟ ปิดเครื่องปรับอากาศ และอุปกรณ์ ไฟฟ้าที่ไม่จำเป็น ในช่วงเวลา 12.00-13.00 น. จะสามารถประหยัด ค่าไฟฟ้าได้

40. ไม่จำเป็นต้องเปิดเครื่องปรับอากาศก่อนเวลาเริ่มงาน และควร ปิดเครื่องปรับอากาศก่อนเวลาเลิกใช้งานเล็กน้อย เพื่อประหยัดไฟ

41. เลือกซื้อพัดลมที่มีเครื่องหมายมาตรฐานรับรอง เพราะพัดลม ที่ไม่ได้คุณภาพ มักเสียง่าย ทำให้สิ้นเปลือง

42. หากอากาศไม่ร้อนเกินไป ควรเปิดพัดลมแทนเครื่องปรับ อากาศ จะช่วยประหยัดไฟ ประหยัดเงินได้มากทีเดียว

43. ใช้หลอดไฟประหยัดพลังงาน ใช้หลอดผอมจอมประหยัด แทนหลอดอ้วน ใช้หลอดตะเกียบแทนหลอดไส้ หรือใช้หลอด คอมแพคท์ฟลูออเรสเซนต์

44. ควรใช้บัลลาสต์ประหยัดไฟ หรือบัลลาสต์อิเล็กโทรนิกคู่กับ หลอดผอมจอมประหยัด จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการประหยัด ไฟได้อีกมาก

45. ควรใช้โคมไฟแบบมีแผ่นสะท้อนแสงในห้องต่างๆ เพื่อช่วยให้ แสงสว่างจากหลอดไฟ กระจายได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ทำให้ ไม่จำเป็นต้องใช้หลอดไฟฟ้าวัตต์สูง ช่วยประหยัดพลังงาน

46. หมั่นทำความสะอาดหลอดไฟที่บ้าน เพราะจะช่วยเพิ่มแสงสว่าง โดยไม่ต้องใช้พลังงานมากขึ้น ควรทำอย่างน้อย 4 ครั้งต่อปี

47. ใช้หลอดไฟที่มีวัตต์ต่ำ สำหรับบริเวณที่จำเป็นต้องเปิดทิ้งไว้ ทั้งคืน ไม่ว่าจะเป็นในบ้านหรือข้างนอก เพื่อประหยัดค่าไฟฟ้า

48. ควรตั้งโคมไฟที่โต๊ะทำงาน หรือติดตั้งไฟเฉพาะจุด แทนการ เปิดไฟทั้งห้องเพื่อทำงาน จะประหยัดไฟลงไปได้มาก

49. ควรใช้สีอ่อนตกแต่งอาคาร ทาผนังนอกอาคารเพื่อการสะท้อน แสงที่ดี และทาภายในอาคารเพื่อทำให้ห้องสว่างได้มากกว่า

50. ใช้แสงสว่างจากธรรมชาติให้มากที่สุด เช่น ติดตั้งกระจก หรือติดฟิล์มที่มีคุณสมบัติป้องกันความร้อน แต่ยอมให้แสงผ่าน เข้าได้เพื่อลดการใช้พลังงานเพื่อแสงสว่างภายในอาคาร

51. ถอดหลอดไฟออกครึ่งหนึ่งในบริเวณที่มีความต้องการใช้ แสงสว่างน้อย หรือบริเวณที่มีแสงสว่างพอเพียงแล้ว

52. ปิดตู้เย็นให้สนิท ทำความสะอาดภายในตู้เย็น และแผ่นระบาย ความร้อนหลังตู้เย็นสม่ำเสมอ เพื่อให้ตู้เย็นไม่ต้องทำงานหนักและ เปลืองไฟ

53. อย่าเปิดตู้เย็นบ่อย อย่านำของร้อนเข้าแช่ในตู้เย็น เพราะจะ ทำให้ตู้เย็นทำงานเพิ่มขึ้น กินไฟมากขึ้น

54. ตรวจสอบขอบยางประตูของตู้เย็นไม่ให้เสื่อมสภาพ เพราะจะ ทำให้ความเย็นรั่วออกมาได้ ทำให้สิ้นเปลืองไฟมากกว่าที่จำเป็น

55. เลือกขนาดตู้เย็นให้เหมาะสมกับขนาดครอบครัว อย่าใช้ตู้เย็น ใหญ่เกินความจำเป็นเพราะกินไฟมากเกินไป และควรตั้งตู้เย็นไว้ ห่างจากผนังบ้าน 15 ซม.

56. ควรละลายน้ำแข็งในตู้เย็นสม่ำเสมอ การปล่อยให้น้ำแข็งจับ หนาเกินไป จะทำให้เครื่องต้องทำงานหนัก ทำให้กินไฟมาก

57. เลือกซื้อตู้เย็นประตูเดียว เนื่องจากตู้เย็น 2 ประตู จะกินไฟ มากกว่าตู้เย็นประตูเดียวที่มีขนาดเท่ากัน เพราะต้องใช้ท่อน้ำยา ทำความเย็นที่ยาวกว่า และใช้คอมเพรสเซอร์ขนาดใหญ่กว่า

58. ควรตั้งสวิตช์ควบคุมอุณหภูมิของตู้เย็นให้เหมาะสม การตั้ง ที่ตัวเลขต่ำเกินไป อุณหภูมิจะเย็นน้อย ถ้าตั้งที่ตัวเลขสูงเกินไปจะเย็นมาก เพื่อให้ประหยัดพลังงานควรตั้งที่เลขต่ำที่มีอุณหภูมิพอเหมาะ

59. ไม่ควรพรมน้ำจนแฉะเวลารีดผ้า เพราะต้องใช้ความร้อนใน การรีดมากขึ้น เสียพลังงานมากขึ้น เสียค่าไฟเพิ่มขึ้น

60. ดึงปลั๊กออกก่อนการรีดเสื้อผ้าเสร็จ เพราะความร้อนที่เหลือ ในเตารีด ยังสามารถรีดต่อได้จนกระทั่งเสร็จ ช่วยประหยัดไฟฟ้า

61. เสียบปลั๊กครั้งเดียว ต้องรีดเสื้อให้เสร็จ ไม่ควรเสียบและ ถอดปลั๊กเตารีดบ่อยๆ เพราะการทำให้เตารีดร้อนแต่ละครั้ง กินไฟมาก

62. ลด ละ เลี่ยง การใส่เสื้อสูท เพราะไม่เหมาะสมกับสภาพอากาศ เมืองร้อน สิ้นเปลืองการตัด ซัก รีด และความจำเป็นในการเปิด เครื่องปรับอากาศ

63. ซักผ้าด้วยเครื่อง ควรใส่ผ้าให้เต็มกำลังของเครื่อง เพราะซัก 1 ตัวกับซัก 20 ตัว ก็ต้องใช้น้ำในปริมาณเท่าๆ กัน

64. ไม่ควรอบผ้าด้วยเครื่อง เมื่อใช้เครื่องซักผ้า เพราะเปลืองไฟ มาก ควรตากเสื้อผ้ากับแสงแดดหรือแสงธรรมชาติจะดีกว่า ทั้งยัง ช่วยประหยัดไฟได้มากกว่า

65. ปิดโทรทัศน์ทันทีเมื่อไม่มีคนดู เพราะการเปิดทิ้งไว้โดยไม่มี คนดู เป็นการสิ้นเปลืองไฟฟ้าโดยใช่เหตุ แถมยังต้องซ่อมเร็วอีกด้วย

66. ไม่ควรปรับจอโทรทัศน์ให้สว่างเกินไป และอย่าเปิดโทรทัศน์ให้ เสียงดังเกินความจำเป็น เพราเปลืองไฟ ทำให้อายุเครื่องสั้นลงด้วย

67. อยู่บ้านเดียวกัน ดูโทรทัศน์รายการเดียวกัน ก็ควรจะดู เครื่องเดียวกัน ไม่ใช่ดูคนละเครื่อง คนละห้อง เพราะจะทำให้ สิ้นเปลืองพลังงาน

68. เช็ดผมให้แห้งก่อนเป่าผมทุกครั้ง ใช้เครื่องเป่าผมสำหรับ แต่งทรงผม ไม่ควรใช้ทำให้ผมแห้ง เพราะต้องเป่านาน เปลืองไฟฟ้า

69. ใช้เตาแก๊สหุงต้มอาหาร ประหยัดกว่าใช้เตาไฟฟ้า เตาอบไฟฟ้า และควรติดตั้งวาล์วนิรภัย (Safety Value) เพื่อความปลอดภัยด้วย

70. เวลาหุงต้มอาหารด้วยเตาไฟฟ้า ควรจะปิดเตาก่อนอาหารสุก 5 นาที เพราะความร้อนที่เตาจะร้อนต่ออีกอย่างน้อย 5 นาที เพียงพอที่จะทำให้อาหารสุกได้

71. อย่าเสียบปลั๊กหม้อหุงข้าวไว้ เพราะระบบอุ่นจะทำงาน ตลอดเวลา ทำให้สิ้นเปลืองไฟเกินความจำเป็น

72. กาต้มน้ำไฟฟ้า ต้องดึงปลั๊กออกทันทีเมื่อน้ำเดือด อย่าเสียบไฟ ไว้เมื่อไม่มีคนอยู่ เพราะนอกจากจะไม่ประหยัดพลังงานแล้ว ยังอาจทำให้เกิดไฟไหม้ได้

73. แยกสวิตช์ไฟออกจากกัน ให้สามารถเปิดปิดได้เฉพาะจุด ไม่ ใช้ปุ่มเดียวเปิดปิดทั้งชั้น ทำให้เกิดการสิ้นเปลืองและสูญเปล่า

74. หลีกเลี่ยงการติดตั้งอุปกรณ์ไฟฟ้า ที่ต้องมีการปล่อยความร้อน เช่น กาต้มน้ำ หม้อหุงต้ม ไว้ในห้องที่มีเครื่องปรับอากาศ

75. ซ่อมบำรุงอุปกรณ์ไฟฟ้าให้อยู่ในสภาพที่ใช้งานได้ และหมั่นทำ ความสะอาดเครื่องใช้ไฟฟ้าอยู่เสมอ จะทำให้ลดการสิ้นเปลืองไฟได้

76. อย่าเปิดคอมพิวเตอร์ทิ้งไว้ถ้าไม่ใช้งาน ติดตั้งระบบลดกระแส ไฟฟ้าเข้าเครื่องเมื่อพักการทำงาน จะประหยัดไฟได้ร้อยละ 35-40 และถ้าหากปิดหน้าจอทันทีเมื่อไม่ใช้งาน จะประหยัดไฟได้ร้อยละ 60

77. ดูสัญลักษณ์ Energy Star ก่อนเลือกซื้ออุปกรณ์สำนักงาน (เช่น เครื่องคอมพิวเตอร์ เครื่องโทรสาร เครื่องพิมพ์ดีดไฟฟ้า เครื่องถ่ายเอกสาร ฯลฯ) ซึ่งจะช่วยประหยัดพลังงาน ลดการใช้ กำลังไฟฟ้า เพราะจะมีระบบประหยัดไฟฟ้าอัตโนมัติ

วิธีประหยัดน้ำ

78. ใช้น้ำอย่างประหยัด หมั่นตรวจสอบการรั่วไหลของน้ำ เพื่อลด การสูญเสียน้ำอย่างเปล่าประโยชน์

79. ไม่ควรปล่อยให้น้ำไหลตลอดเวลาตอนล้างหน้า แปรงฟัน โกน หนวด และถูสบู่ตอนอาบน้ำ เพราะจะสูญน้ำไปโดยเปล่า ประโยชน์ นาทีละหลายๆ ลิตร

80. ใช้สบู่เหลวแทนสบู่ก้อนเวลาล้างมือ เพราะการใช้สบู่ก้อน ล้างมือจะใช้เวลามากกว่าการใช้สบู่เหลว และการใช้สบู่เหลว ที่ไม่เข้มข้น จะใช้น้ำน้อยกว่าการล้างมือด้วยสบู่เหลวเข้มข้น

81. ซักผ้าด้วยมือ ควรรองน้ำใส่กาละมังแค่พอใช้ อย่าเปิดน้ำไหล ทิ้งไว้ตลอดเวลาซัก เพราะสิ้นเปลืองกว่าการซักโดยวิธีการขัง น้ำไว้ในกาละมัง

82. ใช้ Sprinkler หรือฝักบัวรดน้ำต้นไม้แทนการฉีดน้ำด้วย สายยาง จะประหยัดน้ำได้มากกว่า

83. ไม่ควรใช้สายยางและเปิดน้ำไหลตลอดเวลาในขณะที่ล้างรถ เพราะจะใช้น้ำมากถึง 400 ลิตร แต่ถ้าล้างด้วยน้ำและฟองน้ำใน กระป๋องหรือภาชนะบรรจุน้ำ จะลดการใช้น้ำได้มากถึง 300 ลิตร ต่อการล้างหนึ่งครั้ง

84. ไม่ควรล้างรถบ่อยครั้งจนเกินไป เพราะนอกจากจะมีความ สิ้นเปลืองน้ำแล้ว ยังทำให้เกิดสนิมที่ตัวถังได้ด้วย

85. ตรวจสอบท่อน้ำรั่วภายในบ้าน ด้วยการปิดก๊อกน้ำทุกตัว ภายในบ้าน หลังจากทีทุกคนเข้านอน (หรือเวลาที่แน่ใจว่า ไม่มี ใครใช้น้ำระยะหนึ่ง จดหมายเลขวัดน้ำไว้ ถ้าตอนเช้ามาตรเคลื่อนที่ โดยที่ยังไม่มีใครเปิดน้ำใช้ ก็เรียกช่างมาตรวจซ่อมได้เลย)

86. ควรล้างพืชผักและผลไม้ในอ่างหรือภาชนะที่มีการกักเก็บน้ำ ไว้เพียงพอ เพราะการล้างด้วยน้ำที่ไหลจากก๊อกน้ำโดยตรง จะใช้ น้ำมากกว่า การล้างด้วยน้ำที่บรรจุไว้ในภาชนะถึงร้อยละ 50

87. ตรวจสอบชักโครกว่ามีจุดรั่วซึมหรือไม่ ให้ลองหยดสีผสมอาหาร ลงในถังพักน้ำ แล้วสังเกตดูที่คอห่าน หากมีน้ำสีลงมาโดยที่ไม่ได้กด ชักโครก ให้รีบจัดการซ่อมได้เลย

88. ไม่ใช้ชักโครกเป็นที่ทิ้งเศษอาหาร กระดาษ สารเคมีทุกชนิด เพราะจะทำให้สูญเสียน้ำจากการชักโครก เพื่อไล่สิ่งของลงท่อ

89. ใช้อุปกรณ์ประหยัดน้ำ เช่น ชักโครกประหยัดน้ำ ฝักบัว ประหยัดน้ำ ก๊อกประหยัดน้ำ หัวฉีดประหยัดน้ำ เป็นต้น

90. ติด Areator หรือ อุปกรณ์เติมอากาศที่หัวก๊อก เพื่อช่วย เพิ่มอากาศให้แก่น้ำที่ไหลออกจากหัวก๊อก ลดปริมาณการไหลของ น้ำ ช่วยประหยัดน้ำ

91. ไม่ควรรดน้ำต้นไม้ตอนแดดจัด เพราะน้ำจะระเหยหมดไป เปล่าๆ ให้รดตอนเช้าที่อากาศยังเย็นอยู่ การระเหยจะต่ำกว่า ช่วยให้ประหยัดน้ำ

92. อย่าทิ้งน้ำดื่มที่เหลือในแก้วโดยไม่เกิดประโยชน์อันใด ใช้รดน้ำ ต้นไม้ ใช้ชำระพื้นผิว ใช้ชำระความสะอาดสิ่งต่างๆ ได้อีกมาก

93. ควรใช้เหยือกน้ำกับแก้วเปล่าในการบริการน้ำดื่ม และให้ ผู้ที่ต้องการดื่มรินน้ำดื่มเอง และควรดื่มให้หมดทุกครั้ง

94. ล้างจานในภาชนะที่ขังน้ำไว้ จะประหยัดน้ำได้มากกว่าการ ล้างจานด้วยวิธีที่ปล่อยให้น้ำไหลจากก๊อกน้ำตลอดเวลา

95. ติดตั้งระบบน้ำให้สามารถใช้ประโยชน์จากการเก็บและจ่ายน้ำ ตามแรงโน้มถ่วงของโลก เพื่อหลีกเลี่ยงการใช้พลังงานไปสูบและ จ่ายน้ำภายในอาคาร

วิธีประหยัดพลังงานอื่นๆ

96. อย่าใช้กระดาษหน้าเดียวทิ้ง ให้ใช้กระดาษอย่างคุ้มค่า ใช้ทั้งสองหน้า ให้นึกเสมอว่า กระดาษแต่ละแผ่น ย่อมหมายถึงต้นไม้หนึ่งต้นที่ต้องเสียไป

97. ในสำนักงานให้ใช้การส่งเอกสารต่อๆ กัน แทนการสำเนาเอกสารหลายๆ ชุด เพื่อประหยัดกระดาษ ประหยัดพลังงาน

98. ลดการสูญเสียกระดาษเพิ่มมากขึ้น ด้วยการหลีกเลี่ยง การใช้กระดาษปะหน้าโทรสาร ชนิดเต็มแผ่น และหันมาใช้ กระดาษขนาดเล็ก ที่สามารถตัดพับบนโทรสารได้ง่าย

99. ใช้การส่งผ่านข้อมูลข่าวสารต่างๆ ผ่านระบบคอมพิวเตอร์ โดยโมเด็ม หรือแผ่นดิสก์ แทนการส่งข่าวสารข้อมูลโดยเอกสาร ช่วยลดขั้นตอนการทำงาน ลดการใช้พลังงานได้มาก

100. หลีกเลี่ยงการใช้จานกระดาษ แก้วน้ำกระดาษ เวลาจัดงานสังสรรค์ต่างๆ เพราะสิ้นเปลืองพลังงานในการผลิต

101. รู้จักแยกแยะประเภทขยะ เพื่อช่วยลดขั้นตอน และลดพลังงานในการทำลายขยะ และทำให้ขยะทั้งหลาย ง่ายต่อการกำจัด

102. หนังสือพิมพ์อ่านเสร็จแล้วอย่าทิ้ง ให้เก็บไว้ขาย หรือพับถุง เก็บไว้ทำอะไรอย่างอื่น ใช้ซ้ำทุกครั้งถ้าทำได้ ช่วยลดการใช้พลังงานในการผลิต

103. ขึ้นลงชั้นเดียวหรือสองชั้น ไม่จำเป็นต้องใช้ลิฟท์ จำไว้เสมอว่าการกดลิฟท์แต่ละครั้ง สูญเสียพลังงานถึง 7 บาท

104. งด เลิก บริโภคผลิตภัณฑ์ที่ใช้แล้วทิ้งเลย เพราะเป็น การสิ้นเปลืองพลังงานในการผลิต ใช้ทรัพยากรธรรมชาติสิ้นเปลือง เพิ่มปริมาณขยะ เปลืองพลังงานในการกำจัดขยะ

105. ลดการใช้ผลิตภัณฑ์ ที่มีบรรจุภัณฑ์ที่ยากต่อการทำลาย เช่น โฟม หรือพลาสติก ควรเลือกใช้บรรจุภัณฑ์ที่นำกลับมาใช้ใหม่ได้ (Reuse) หรือนำไปผ่านกระบวนการผลิตมาใช้ใหม่ได้ (Recycle)

106. สนับสนุนสินค้าที่มีบรรจุภัณฑ์ เป็นวัสดุที่สามารถนำมาผ่าน กระบวนการนำมาใช้ใหม่ (Recycle) เช่น แก้ว กระดาษ โลหะ พลาสติกบางประเภท โดยจัดให้มีการแยกขยะในครัวเรือน และในสำนักงาน

107. ให้ความร่วมมือ สนับสนุน หรือเข้าร่วมกิจกรรมกับหน่วยงาน ต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน ที่รณรงค์ส่งเสริมให้มีการอนุรักษ์พลังงาน

108. กระตุ้นเตือนให้ผู้อื่นช่วยกันประหยัดพลังงาน โดยการติดสัญลักษณ์ หรือเครื่องหมายให้ช่วยประหยัดไฟ ตรงบริเวณใกล้สวิทช์ไฟ เพื่อเตือนให้ปิดเมื่อเลิกใช้แล้ว

พิษอันตรายของผงชูรส

ผงชูรสเป็นสิ่งที่ช่วยเสริมรสชาติของอาหารอย่างมีประสิทธิภาพมานานเกือบ ศตวรรษ องค์ประกอบหลักของผงชูรส คือ กรดอะมิโน ที่มีชื่อว่า "กรดกลูตามิก" หรือ "กลูตาเมต" ซึ่งเป็นส่วนประกอบตามธรรมชาติที่พบได้ในอาหารแทบทุกชนิด เราจะมาทำความรู้จักกับผงชูรสให้มากขึ้นอย่างถูกต้อง รวมไปถึงวิธีใช้ผงชูรสในการปรุงอาหารอย่างเหมาะสมอีกด้วย

ผงชูรสผลิตจากอะไร ผงชูรสผลิตจากกระบวนการหมักเช่น เดียวกับเบียร์ น้ำส้มสายชู หรือโยเกิร์ต โดยกระบวนการผลิตจะเริ่มต้นจากการหมักกากน้ำตาลจากอ้อย หรือน้ำตาลจากแป้งมันสำปะหลัง ซึ่งเป็นวัตถุดิบธรรมชาติโดยผลิตภัณฑ์สุดท้ายที่ได้จะเป็นผลึกขาวบริสุทธิ์ ละลายน้ำได้ง่าย และเข้ากับอาหารได้ทุกชนิด

เคยรับประทานอาหารนอกบ้าน แล้วมีอาการชาตามมือ และร้อนวูบวาบที่ปาก ลิ้น ใบหน้า และรู้สึกแน่นหน้าอก หายใจไม่สะดวก บางครั้งอาจมีผื่นแดงขึ้นตามตัวบ้างหรือไม่ อาการเหล่านี้เป็นที่รู้จักกันดีในนาม โรคภัตตาคารจีน (Chinese Restaurant Syndrome) หรือโรคแพ้ผงชูรส

นอกจากจะมีอาการข้างต้นแล้ว หากคุณรับประทานอาหารที่มีปริมาณผงชูรสมากๆ เป็นประจำย่อมเกิดอันตรายต่อสุขภาพของตัวคุณได้ ดังนี้
ทำลายระบบประสาทตา สายตาเสียหรือเกิดตาบอดได้

ทำลายกระดูกและไขกระดูก ซึ่งผลิตเม็ดเลือดแดงในร่างกาย อาจทำให้เกิดโรคโลหิตจางได้ ทำให้วิตามินในร่างกายลดลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งวิตามินบี6 ทำให้เป็นโรคผิวหนังได้ง่าย

ทำลายสมองส่วนหน้าหรือไฮโปทาลามัส ทำให้การเจริญเติบโตช้า ปัญญาอ่อน และเป็นหมัน

ทำลายระบบประสาทส่วนกลาง ทำให้เป็นโรคประสาทได้ง่ายขึ้น

สำหรับผู้ที่ตั้งครรภ์ ถ้ากินผงชูรสมากๆ จะมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงโครโมโซมของทารกในครรภ์ ทำให้ร่างกายของเด็กเกิดความผิดปกติ ปากแหว่ง แขนขาพิการได้