1. หากอยากให้ผิวพรรณผุดผ่องล่ะก็ ก่อนลงเล่นน้ำทะเลควรจะชโลมเบบี้ออยล์ให้ทั่วตัวก่อน แล้วค่อยใช้ทรายที่ชายทะเลขัดผิว ก่อนที่จะไปล้างตัวด้วยการเล่นน้ำทะเล แต่อย่าลืมทาครีมหรือโลชั่นกันแดดที่มี SPF 15 ด้วย ไม่งั้นผิวสวยๆจะไหม้เกรียมซะก่อนนะจ๊ะ
2. ส่วนสาวที่มีผิวบอบบาง ควรป้องกันผิวจากรังสียู่วีในแสงอาทิตย์ได้ด้วยการชโลมน้ำมันอัลมอนด์ลงบนผิวกายทุกครั้งหลังอาบน้ำ หรือจะใช้น้ำมันที่สกัดจากมะพร้าว ก็ช่วยปกป้องผิวจากแสงแดดและลมหนาวได้เหมือนกัน
3. มอยส์เจอไรเซอร์ สำหรับสาวที่มีผิวไวและเกิดการระคายเคืองง่าย ควรเลือกชนิดที่ไม่มีส่วนผสมของกรดหรือน้ำหอม สังเกตได้บนฉลากของผลิตภัณฑ์จะเขียนคำว่า " Comedogenic " หมายถึงผลิตภัณฑ์นั้นจะไม่ทำให้รูขุมขนอุดตันนั่นเอง
4. สาวที่มีผิวธรรมดา แต่มักตกสะเก็ดและคันในช่วงหน้าหนาว ขอแนะนำให้ใช้โลขั่นที่มีความชุ่มชื้น ที่ออกแบบมาสำหรับคงความชุ่มชื้นไว้ในผิวได้ตลอด 24 ชั่วโมง
5. สาวที่อยากมีผิวขาวเนียนสว่างกระจ่างตา ทำได้โดยนำมะขามเปียกมาขัดถูผิวเวลาอาบน้ำ จะช่วยให้ผิวเนียนนุ่มไม่แห้งแตก ยิ่งในช่วงหน้าหนาวอย่างนี้ด้วยยิ่งดีใหญ่ เพราะจะช่วยบำรุงผิวให้นุ่มเนียนน่าสัมผัสมากยิ่งขึ้น
*ใส่ใจใบหน้าให้ใสปิ๊ง*
6. ดื่มน้ำแร่อย่างน้อย 1.5 ลิตรทุกวัน จะช่วยให้ผิวพรรณและใบหน้าสดใส
7. ใช้น้ำแร่เย็นเฉียบล้างหน้าเป็นประจำเช้า-เย็น จะช่วยลดรอยขรุขระบนใบหน้าได้ น้ำเย็นยังช่วยให้ผิวหน้าปรับสภาพและคืนสมดุลได้อย่างเป็นธรรมชาติอีกด้วย
8. สาวๆหลายคนอาจยังไม่รู้ว่า ผิวหน้าก็หิวน้ำได้เหมือนกัน เพราะฉะนั้นหมั่นฉีดสเปรย์น้ำแร่ให้ใบหน้าคงความชุ่มชื้นได้ตลอดวัน
9. นำน้ำผึ้งมาอุ่นให้ได้อุณหภูมิพอเหมาะ แล้วพอกทาทั่วใบหน้าและลำคอ วิธีนี้จะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น และเป็นการให้สารอาหารบำรุงกับผิวหน้าด้วย
10. ลองใช้น้ำผึ้งมาผสมน้ำนมอาบเหมือนพระนางคลีโอพัตราบ้างก็ได้ วิธีนี้จะช่วยบำรุงผิวให้นุ่มนวลดูอ่อนเยาว์อยู่เสมอ
11. ใช้เมล็ดอัลมอนด์บดผสมกับโยเกิร์ต พอกทิ้งไว้ 18-20 นาที ใช้น้ำล้างหน้าแล้วใช้ผ้าสะอาดเช็ด จากนั้นล้างหน้าอีกครั้ง แล้วคุณจะรู้สึกได้ถึงผิวหน้าที่นุ่มนวลเนียนใส
*ถนอมผิวรอบดวงตา*
12. ทำความสะอาดรอบดวงตาอย่างละมุนละไม โดยเฉพาะสาวไหนที่รักการแต่งหน้าเป็นชีวิตจิตใจ ควรเลือกใช้โลชั่นเช็ดเครื่องสำอางที่ผลิตมาเป็นพิเศษสำหรับล้างเครื่องสำอางอย่างอายแชโดว์และมาสคาร่า
13. ก่อนเลือกซื้อครีมบำรุงรอบดวงตา ให้พิจารณาด้วยว่ามีส่วนผสมอะไรในครีมบ้าง เช่น ถ้าผสมชาเขียวซึ่งมีสารแอนตี้ออกซิแดนท์ ก็จะช่วยฟื้นฟูผิวของคุณให้สดใสขึ้น หรือถ้ามีส่วนผสมของคาโมมายล์ ก็จะช่วยในการผ่อนคลาย และปลอบประโลมผิวจากอาการระคายเคืองได้ดี
14. สำหรับสาวที่อยากชะลอริ้วรอยก่อนวัย ควรเลือกครีมบำรุงดวงตาที่มีส่วนผสมของวิตามินเอ จะช่วยเสริมสร้างความยืดหยุ่น ขณะที่วิตามินบีจะช่วยซ่อมแซมผิว และวิตามินช่วยปกป้องผิวจากริ้วรอย
15. ก่อนนอน ควรดูแลผิวรอบดวงตาด้วยการใช้นิ้วมือแตะครีมบำรุงรอบดวงตา แล้วถูเนื้อครีมให้เข้ากัน วิธีนี้จะช่วยให้เนื้อครีมผสมผสานทำงานได้ดีขึ้น แล้วแตะเบาๆบนผิวรอบดวงตา ปล่อยให้เนื้อครีมซึมซาบเข้าสู่ผิวจะช่วยบำรุงและชะลอริ้วรอยเพื่อผิวหน้าสดใส
16. ส่วนครีมบำรุงรอบดวงตาตอนเช้า เลือกชนิดเจลที่มีส่วนผสมของวิตามินที่ช่วยลดริ้วรอยและปกป้องแสงแดด ทั้งนี้ไม่ควรใช้ครีมสำหรับใบหน้าทาบริเวณรอบดวงตา เพราะบางชนิดเนื้อครีมจะมีความเข้มข้นสูง และมีส่วนผสมของน้ำหอม และสี ซึ่งอาจทำให้ดวงตาเกิดการระคายเคืองได้
17. สาวไหนนอนดึก สามารถแก้ขอบตาดำคล้ำได้ด้วยการฝานมันฝรั่งบางๆ แล้ววางลงบนเปลือกตาทั้งสองข้าง ทิ้งไว้ 10 นาที น้ำและความชุ่มชื้นจากมันฝรั่งจะซึมซาบเข้าสู่ผิว ช่วยให้รอยคล้ำใต้ตาจางลงได้
19 ก.ค. 2551
สมองกับตูดอะไรสำคัญกว่า.. (ขำขำ)
***เด็กชายวัยรุ่นสองคนถูกจับในข้อหากระทำความผิดจากการเสพยาเสพติด และตัดสินให้รับโทษ
*แต่ศาลให้ความปราณีโดยเข้าสถานบำบัดและออกมาทำกิจกรรมบำเพ็ญ
ประโยชน์โดยชักจูงให้คนเลิกยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดให้มากที่สุด
โดยศาลให้เวลาเด็กชายคนละ 7 วันในการชักจูง
หลังจาก 7 วันผ่านไปเด็กชายทั้งสองก็มารายงานต่อหน้าท่านผู้พิพากษา
*เด็กชายคนที่ 1*: ' ผมชักจูงให้คนเลิกยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดได้ 50 คนฮับ'
*ท่านผู้พิพากษา* : 'เก่งมาก เธอทำได้ยังไง ?'
*เด็กชายคนที่ 1*: ' ผมวาดวงกลมวงใหญ่หนึ่งวงและอธิบายว่า นี้คือขนาดสมองก่อนที่เสพยา
และวาดวงกลมวงเล็กแล้วอธิบายว่า นี้คือขนาดสมองหลังเสพยา '
*ท่านผู้พิพากษา* : 'เธอฉลาดมาก แล้วเธอล่ะ '
*ท่านผู้พิพากษาหันไปถามเด็กชายคนที่ 2*
*เด็กชายคนที่ 2* : ' ผมชักจูงให้คนเลิกยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดได้ 500 คนฮับ '
*ท่านผู้พิพากษา* : ' เธอทำได้ยังไง' ท่านผู้พิพากษาแทบไม่เชื่อหูตัวเอง
*เด็กชายคนที่ 2* : ' ผมทำคล้ายๆเพื่อนผมน่ะครับ'
*เด็กชายคนที่ 2* : ' แต่ผมวาดวงกลมวงเล็กก่อนแล้วอธิบายว่า นี่คือรูตูดของคุณก่อนที่คุณจะถูกจับข้อหาเกี่ยวกับยาเสพติด
จากนั้นผมก็วาดวงกลมวงใหญ่แล้วอธิบายว่า นี้คือรูตูดของคุณหลังจากที่คุณออกจากคุก '
*นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า*
*' รูตูดสำคัญกว่าสมอง ชายใดโดนชาย ตอบสนอง จะสยองจนวันตาย'
*แต่ศาลให้ความปราณีโดยเข้าสถานบำบัดและออกมาทำกิจกรรมบำเพ็ญ
ประโยชน์โดยชักจูงให้คนเลิกยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดให้มากที่สุด
โดยศาลให้เวลาเด็กชายคนละ 7 วันในการชักจูง
หลังจาก 7 วันผ่านไปเด็กชายทั้งสองก็มารายงานต่อหน้าท่านผู้พิพากษา
*เด็กชายคนที่ 1*: ' ผมชักจูงให้คนเลิกยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดได้ 50 คนฮับ'
*ท่านผู้พิพากษา* : 'เก่งมาก เธอทำได้ยังไง ?'
*เด็กชายคนที่ 1*: ' ผมวาดวงกลมวงใหญ่หนึ่งวงและอธิบายว่า นี้คือขนาดสมองก่อนที่เสพยา
และวาดวงกลมวงเล็กแล้วอธิบายว่า นี้คือขนาดสมองหลังเสพยา '
*ท่านผู้พิพากษา* : 'เธอฉลาดมาก แล้วเธอล่ะ '
*ท่านผู้พิพากษาหันไปถามเด็กชายคนที่ 2*
*เด็กชายคนที่ 2* : ' ผมชักจูงให้คนเลิกยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดได้ 500 คนฮับ '
*ท่านผู้พิพากษา* : ' เธอทำได้ยังไง' ท่านผู้พิพากษาแทบไม่เชื่อหูตัวเอง
*เด็กชายคนที่ 2* : ' ผมทำคล้ายๆเพื่อนผมน่ะครับ'
*เด็กชายคนที่ 2* : ' แต่ผมวาดวงกลมวงเล็กก่อนแล้วอธิบายว่า นี่คือรูตูดของคุณก่อนที่คุณจะถูกจับข้อหาเกี่ยวกับยาเสพติด
จากนั้นผมก็วาดวงกลมวงใหญ่แล้วอธิบายว่า นี้คือรูตูดของคุณหลังจากที่คุณออกจากคุก '
*นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า*
*' รูตูดสำคัญกว่าสมอง ชายใดโดนชาย ตอบสนอง จะสยองจนวันตาย'
อย่าเลี้ยงความไม่สบายใจ
คำว่า "ไม่สบายใจ" อย่าใช้ และอย่าให้มีขึ้นในใจต่อไป "Let it go and get it out !" ก่อนมันจะเกิด ต้อง "Let it go" ปล่อยให้มันผ่านไป อย่ารับเอาความไม่สบายใจไว้ ถ้าเผลอไปมันแอบเข้ามาอยู่ในใจได้ พอมีสติรู้สึกตัวว่า ความไม่สบายใจเข้ามาแอบอยู่ในใจ ต้อง Get it out ! ขับมันออกไปทันที อย่าเลี้ยงเอาความไม่สบายใจไว้ในใจ มันจะเคยตัว ทีหลังจะเป็นคนอ่อนแอออดแอด อะไรผิดพลาดนิดๆ หน่อยๆ ก็ไม่สบายใจ เคยตัว เพราะความไม่สบายใจนี้แหละ เป็นศัตรู เป็นมาร ทำให้ใจไม่สงบ ประสาทสมองไม่ปกติ เป็นเหตุให้ร่างกายผิดปกติ พลอยไม่สงบไม่สบายไปด้วย ทำให้สมองทึบไม่ปลอดโปร่งแจ่มใสเป็น habit ความเคยชินที่ไม่ดี เป็นอุปสรรคกีดกั้นขัดขวางสติปัญญาไม่ให้ปลอดโปร่งแจ่มใส ต้องฝึกหัดแก้ไขปรับปรุงจิตใจเสียใหม่ ทั้งก่อนที่จะทำอะไรหรือกำลังกระทำอยู่ และเมื่อเวลากระทำเสร็จแล้ว ต้องหัดให้จิตใจแช่มชื่นรื่นเริง เกิดปีติปราโมทย์ เป็นสุขสบายอยู่เสมอ เป็นเหตุให้เกิดกำลังกาย กำลังใจ "Enjoy living" มีชีวิตอยู่ด้วยความเบิกบาน จะศึกษาเล่าเรียนก็เข้าใจง่าย เหมือนดอกไม้ที่แย้มบานต้องรับหยาดน้ำค้าง และอากาศอันบริสุทธิ์ฉะนั้น
เข็มนาฬิกากับหน้าที่
ณ ห้องนั่งเล่นของบ้านหรูสไตล์ตะวันตกหลังหนึ่ง มีนาฬิกาเรือนงามเรือนหนึ่งประดับเด่นอยู่บนผนังของห้องนั่งเล่นนั้น เข็มนาฬิกาทั้งสามบนหน้าปัดนาฬิกาเรือนงามนี้ต่างภูมิใจในหน้าที่ของพวกตน ที่ได้บอกเวลาอย่างเที่ยงตรงแก่เจ้าของบ้านและผู้มาเยือนมาโดยตลอด
วันหนึ่งเจ้าเข็มวินาทีสีแดงสดรูปร่างเพรียวบางรู้สึกเหนื่อยหน่ายกับภาระหน้าที่ของตัวเอง ที่ต้องตรากตรำเดินอยู่บนหน้าปัดตลอดเวลาอย่างเหน็ดเหนื่อย ในขณะที่ในวันหนึ่ง ๆ เจ้าเข็มสั้นและเจ้าเข็มยาวไม่ค่อยได้เดินสักเท่าไรเลย เจ้าเข็มวินาทีจึงรู้สึกว่าตนถูกเอารัดเอาเปรียบอย่างมาก จึงโวยวายออกไปว่า "ข้าทนไม่ไหวแล้วนะ พอทีเถอะ ข้าเหนื่อยเหลือเกินกับการทำหน้าที่ของข้า พวกเจ้าเอาเปรียบข้า ข้าไม่เคยได้พักอย่างพวกเจ้าบ้างเลย ข้าไม่อยากเดินอีกต่อไปแล้ว พอกันที"
เมื่อได้ฟังดังนั้น เจ้าเข็มสั้นจึงบอกกับเจ้าเข็มวินาทีไปด้วยเสียงอันแหลมเล็กว่า "โอ๊ะ.........โอ!! โถๆๆๆ เจ้าเข็มวินาทีเอ๋ย เจ้าหาว่าพวกข้าเอาเปรียบงั้นรึ? เจ้าจงมองดูรูปร่างของข้าสิอ้วนอุ้ยอ้ายและยังตัวสั้นเตี้ย แถมข้ายังมีหัวที่โตมากอีกต่างหากข้าต้องแบกหัวหนัก ๆ นี้ไว้ตลอดเวลาเลย กว่าข้าจะเดินได้แต่ก้าวนี่ช่างยากลำบากกว่าเจ้าเป็นไหน ๆ แล้วอย่างนี้เจ้าจะมาหาว่าข้าเอาเปรียบเจ้าได้อย่างไรกัน"
เจ้าเข็มยาวก็กล่าวเสริมว่า "เจ้าเข็มวินาทีเอ๋ยเจ้าคงไม่รู้หรอกนะว่า ข้าแอบอิจฉาเจ้าที่เจ้ามีรูปร่างเพรียวบางสามารถเดินได้อย่างคล่องแคล่ว และมีสีแดงสดใสสะดุดตาเช่นเจ้านี้ ผิดกับข้านักที่ตัวดำและหนาเทอะทะ"
"ไม่จริง พวกเจ้าโกหกไม่ต้องมาหลอกข้าซะให้ยาก บอกว่าข้าดีอย่างนั้นอย่างนี้ ทำไมไม่มาเป็นข้าดูบ้างล่ะ ข้าจะได้พักผ่อนเสียที" เจ้าเข็มวินาทีกระแทกเสียง
เจ้าเข็มนาฬิกาทั้งสามจึงสลับหน้าที่กัน โดยที่เจ้าเข็มสั้นทำหน้าที่แทนเจ้าเข็มยาว ขณะที่เจ้าเข็มยาวทำหน้าที่แทนเจ้าเข็มวินาที ส่วนเจ้าเข็มวินาทีได้แต่นอนดูเพื่อน ๆ เดินตามหน้าที่ใหม่ มันดีใจมากที่ไม่ค่อยได้เดินสักเท่าไรเพราะมันทำหน้าที่แทนเจ้าเข็มสั้น
ทันใดนั้นเจ้าของบ้านที่กำลังนั่งอยู่ในห้องนั่งเล่นก็เกิดความประหลาดใจมาก ที่เห็นนาฬิกาเรือนงามบนผนังเดินผิดปกติ กึก...กึก..........กึก........ เจ้าเข็มวินาทีสะดุ้งเฮือกเมื่อรับรู้ถึงการสั่นสะเทือนของนาฬิกา "โอ๊ย......... เกิดอะไรขึ้นเนี่ย ?" เจ้าเข็มวินาทีถามขึ้น "แย่แล้ว..... พวกเราไม่มีประโยชน์อีกต่อไปแล้วหรือนี่ ทำไมเขาถึงยกนาฬิกาที่เราอยู่ลงจากผนังเสีย ? เราจะทำอย่างไรดีล่ะทีนี้"
เจ้าเข็มสั้นพูดด้วยเสียงอันสั่นเครือ "เมื่อพวกเราต่างไม่ได้ทำตามหน้าที่ของตน นาฬิกาเรือนนี้ก็ไม่สามารถบอกเวลาได้อย่างแม่นยำเหมือนเดิมได้อีกแล้ว เจ้าของบ้านเขาคงเห็นว่าเราคงหมดประโยชน์แล้วล่ะ แต่ข้าว่ามันคงไม่สายเกินไปนะ ที่พวกเราจะทำให้นาฬิกาเรือนที่เราอยู่นี้มีคุณค่าขึ้นอีกครั้ง โดยที่เราต้องทำตามหน้าที่ของแต่คนตามเดิม" เจ้าเข็มยาวบอก
"ข้าผิดไปแล้ว เพราะข้าคนเดียวทำให้พวกเราหมดคุณค่าไป " เจ้าเข็มวินาทีพูดด้วยความสำนึกผิด แล้วเจ้าเข็มนาฬิกาทั้งสามก็กลับมาทำหน้าที่ของพวกตนตามเดิม เมื่อเจ้าของบ้านเห็นว่านาฬิกาเรือนงามของเขาสามารถบอกเวลาได้ตามปกติแล้ว เขาจึงนำนาฬิกาเรือนนั้นไปแขวนที่ผนังห้องนั่งเล่นตามเดิม เจ้าเข็มนาฬิกาทั้งสามก็เดินบนหน้าปัดนาฬิกาเรือนงามตามหน้าที่ของพวกตนอย่างมีความสุข
วันหนึ่งเจ้าเข็มวินาทีสีแดงสดรูปร่างเพรียวบางรู้สึกเหนื่อยหน่ายกับภาระหน้าที่ของตัวเอง ที่ต้องตรากตรำเดินอยู่บนหน้าปัดตลอดเวลาอย่างเหน็ดเหนื่อย ในขณะที่ในวันหนึ่ง ๆ เจ้าเข็มสั้นและเจ้าเข็มยาวไม่ค่อยได้เดินสักเท่าไรเลย เจ้าเข็มวินาทีจึงรู้สึกว่าตนถูกเอารัดเอาเปรียบอย่างมาก จึงโวยวายออกไปว่า "ข้าทนไม่ไหวแล้วนะ พอทีเถอะ ข้าเหนื่อยเหลือเกินกับการทำหน้าที่ของข้า พวกเจ้าเอาเปรียบข้า ข้าไม่เคยได้พักอย่างพวกเจ้าบ้างเลย ข้าไม่อยากเดินอีกต่อไปแล้ว พอกันที"
เมื่อได้ฟังดังนั้น เจ้าเข็มสั้นจึงบอกกับเจ้าเข็มวินาทีไปด้วยเสียงอันแหลมเล็กว่า "โอ๊ะ.........โอ!! โถๆๆๆ เจ้าเข็มวินาทีเอ๋ย เจ้าหาว่าพวกข้าเอาเปรียบงั้นรึ? เจ้าจงมองดูรูปร่างของข้าสิอ้วนอุ้ยอ้ายและยังตัวสั้นเตี้ย แถมข้ายังมีหัวที่โตมากอีกต่างหากข้าต้องแบกหัวหนัก ๆ นี้ไว้ตลอดเวลาเลย กว่าข้าจะเดินได้แต่ก้าวนี่ช่างยากลำบากกว่าเจ้าเป็นไหน ๆ แล้วอย่างนี้เจ้าจะมาหาว่าข้าเอาเปรียบเจ้าได้อย่างไรกัน"
เจ้าเข็มยาวก็กล่าวเสริมว่า "เจ้าเข็มวินาทีเอ๋ยเจ้าคงไม่รู้หรอกนะว่า ข้าแอบอิจฉาเจ้าที่เจ้ามีรูปร่างเพรียวบางสามารถเดินได้อย่างคล่องแคล่ว และมีสีแดงสดใสสะดุดตาเช่นเจ้านี้ ผิดกับข้านักที่ตัวดำและหนาเทอะทะ"
"ไม่จริง พวกเจ้าโกหกไม่ต้องมาหลอกข้าซะให้ยาก บอกว่าข้าดีอย่างนั้นอย่างนี้ ทำไมไม่มาเป็นข้าดูบ้างล่ะ ข้าจะได้พักผ่อนเสียที" เจ้าเข็มวินาทีกระแทกเสียง
เจ้าเข็มนาฬิกาทั้งสามจึงสลับหน้าที่กัน โดยที่เจ้าเข็มสั้นทำหน้าที่แทนเจ้าเข็มยาว ขณะที่เจ้าเข็มยาวทำหน้าที่แทนเจ้าเข็มวินาที ส่วนเจ้าเข็มวินาทีได้แต่นอนดูเพื่อน ๆ เดินตามหน้าที่ใหม่ มันดีใจมากที่ไม่ค่อยได้เดินสักเท่าไรเพราะมันทำหน้าที่แทนเจ้าเข็มสั้น
ทันใดนั้นเจ้าของบ้านที่กำลังนั่งอยู่ในห้องนั่งเล่นก็เกิดความประหลาดใจมาก ที่เห็นนาฬิกาเรือนงามบนผนังเดินผิดปกติ กึก...กึก..........กึก........ เจ้าเข็มวินาทีสะดุ้งเฮือกเมื่อรับรู้ถึงการสั่นสะเทือนของนาฬิกา "โอ๊ย......... เกิดอะไรขึ้นเนี่ย ?" เจ้าเข็มวินาทีถามขึ้น "แย่แล้ว..... พวกเราไม่มีประโยชน์อีกต่อไปแล้วหรือนี่ ทำไมเขาถึงยกนาฬิกาที่เราอยู่ลงจากผนังเสีย ? เราจะทำอย่างไรดีล่ะทีนี้"
เจ้าเข็มสั้นพูดด้วยเสียงอันสั่นเครือ "เมื่อพวกเราต่างไม่ได้ทำตามหน้าที่ของตน นาฬิกาเรือนนี้ก็ไม่สามารถบอกเวลาได้อย่างแม่นยำเหมือนเดิมได้อีกแล้ว เจ้าของบ้านเขาคงเห็นว่าเราคงหมดประโยชน์แล้วล่ะ แต่ข้าว่ามันคงไม่สายเกินไปนะ ที่พวกเราจะทำให้นาฬิกาเรือนที่เราอยู่นี้มีคุณค่าขึ้นอีกครั้ง โดยที่เราต้องทำตามหน้าที่ของแต่คนตามเดิม" เจ้าเข็มยาวบอก
"ข้าผิดไปแล้ว เพราะข้าคนเดียวทำให้พวกเราหมดคุณค่าไป " เจ้าเข็มวินาทีพูดด้วยความสำนึกผิด แล้วเจ้าเข็มนาฬิกาทั้งสามก็กลับมาทำหน้าที่ของพวกตนตามเดิม เมื่อเจ้าของบ้านเห็นว่านาฬิกาเรือนงามของเขาสามารถบอกเวลาได้ตามปกติแล้ว เขาจึงนำนาฬิกาเรือนนั้นไปแขวนที่ผนังห้องนั่งเล่นตามเดิม เจ้าเข็มนาฬิกาทั้งสามก็เดินบนหน้าปัดนาฬิกาเรือนงามตามหน้าที่ของพวกตนอย่างมีความสุข
แนะนำทำบุญ 9 วัด เพื่อเป็นสิริมงคล
*๑. วัดพระแก้ว เพื่อสักการะบูชาพระแก้วมรกต*
เพื่อ จุดธูปเทียนบูชา ว่านะโม ตั้งจิดอธิษฐานขอพรจาก ให้เข้าไปในพระอุโบสถ เพื่อกราบ ให้ท่านร่ำรวย มีแก้วแหวานเงินทอง ๓ จบ จากนั้นท่อง "วาละ ท่านให้ร่ำรวยมีแก้วแหวน นมัสการพระแก้วมรกตและขอพรจากมากมาย เป็นทุนรอนในการดำเนินกิจ ลุกัง สังวาตังวา" ๓ จบ เงินทองมากมายเพื่อไว้ พระแก้วมรกตอันศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่เบื้อง การเพื่อความมั่นคงมั่งคั่ง แล้วอธิษฐานขอพร ทำทุนและเลี้ยงตน หน้าของท่าน เสร็จแล้วออกมาพรม น้ำมนต์ที่ตั้งอยู่ระเบียงหน้าพระอุโบสถ เพื่อความเป็นสิริมงคล
*๒. ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง*
เพื่อจะได้มีหลักมั่นคงมีหลักชัยในการ จุดธูปอย่างเดียวไม่ต้องจุดเทียน ขณะบูชาให้อธิษฐานให้ตนเอง หลังจากสักการะพระหลักเมืองแล้ว ดำเนินชีวิต ตลอดจนมีหลักการที่ดีใน จากนั้นเอาผ้าแพร ๓ ผืนไปผูก มีหลักฐานมั่นคง มีหลักชัยใน ควรไปสักการะเทพารักษ์สำคัญสำหรับ การทำมาหาเลี้ยงชีพ มีหลักยึดเหนี่ยว ที่เสาหลักเมืองจำลองและปิดทอง การดำเนินชีวิตมีหลักยึดเหนี่ยว พระนคร ทั้ง ๕ องค์ และบูชาพระประจำ เพื่อจักได้ไม่ซวดเซ ในการประกอบสัมมาชีพ วันเกิด (ดูรายละเอียดในภาคผนวก)
*๓. วัดโพธิ์*
เพื่อให้ร่มเย็น ขอความเป็นร่มโพธิ์ บูชาพระพุทธเทวปฏิมากร น้อมจิตรำลึกถึงพระพุทธจริยาแห่ง พระพุทธเทวปฏิมากร เป็นพระพุทธ ร่มไทร ซึ่งเป็นพระประธานประจำ พระพุทธองค์ ซึ่งทรงพระคุณอย่าง ปางสมาธิเป็นพระประจำวันเกิดของผู้ พระอุโบสถ ยอดเยี่ยม ๓ ประการ คือ พระปัญญา ที่เกิดวันพฤหัสบดี คุณ ๑ พระบริสุทธิคุณ ๑ พระมหา ผู้บูชาพระปางนี้แสดงถึงความมั่นคง กรุณาธิคุณ ๑ แล้วสร้างกระแสแห่ง แห่งจิตใจ มีสติสัมปชัญญะทุกคน ตนให้มั่นคงเพื่อความสุขสวัสดิ์แห่งชีวิต
*๔. ศาลเจ้าพ่อเสือ*
สร้างสมบุญกุศลให้ตนเองและ เตรียมซื้อส้ม ๓-๔ ใบหรือ ๑ กิโล อธิษฐานให้อยู่เย็นเป็นสุข ทำมาค้าขึ้น - เติมน้ำมันตะเกียงซ้ายขวาเพื่อเพิ่มบุญ ครอบครัวเพื่อให้บังเกิดโชคลาภและเครื่องเซ่นไหว้ (หมูสามชั้น, มีเงินมีทอง พร้อมขอให้เจ้าพ่อเสือปกป้อง กุศล ชีวิตจะได้สว่างไสว ไม่มืดแปดด้าน และมีความสุข ข้าวสุก,ไข่ไก่) พร้อมเทียนแดง ๒ คุ้มครองให้อยู่รอดปลอดภัย -เช่าฮู้มาติดไว้ที่บ้าน,สำนักงาน หรือติด เล่ม ธูป ๓๐ ดอก (๑ ห่อ) และ ตัวเพื่อความเป็นสิริมงคลอยู่รอดปลอด กระดาษเงิน กระดาษทอง ภัยตลอดปี (รายละเอียดเพิ่มเติมในภาคผนวก) -พิธีกรรมต่าง ๆ สะเดาะเคราะห์, บริจาค ทรัพย์, ซื้อข้าวสาร ฯลฯ สิริมงคลสถาน จุดประสงค์ ข้อแนะนำในการไหว้พระ การตั้งจิดอธิษฐานและการขอพร รายละเอียดปลีกย่อย
*๕. วัดสุทัศน์ฯ * เพื่อขอให้มีสติปัญญาดีมีทรรศนะ ของที่ต้องเตรียมมี พวงมาลัย เดินเข้าไปในพระวิหารกราบองค์จริง รัชกาลที่ ๒ ทรงสลักบานประตูพระวิหาร ที่ถูกต้องดีงาม เมื่อจะคิดอ่านกระทำ ๒ พวง ธูปเทียน ๑ ชุด และทองคำและขอพรจากท่านให้ช่วยชี้แนะทรรศนะ พระศรีศากยมุนีซึ่งถือเป็นศิลปกรรมการ การใด ๆ ก็สามารถคิดได้ ขอให้มี เปลวปิดทองพระ (หลวงพ่อพระ ที่ถูกต้องในการดำรงชีวิตและการ แกะสลักไม้ชิ้นเอกของโลก ความสำคัญ วิชั่นที่ดี ศรีศากยมุนีองค์จำลองหน้า ดำเนินงาน ของพระศรีศากยมุนีอีกประการก็คือเป็น พระวิหารหลวง) พระพุทธรูปประจำ ร. ๘ ขณะเดียวกัน วัดสุทัศน์ฯ ก็เป็นวัดประจำพระองค์ด้วย
*๖. วัดบวรนิเวศวิหาร*
เพื่อขอให้ชีวิตปราศจากภัยอันตราย ไหว้พระด้านนอกพระอุโบสถ * ขอพรให้อยู่เย็นเป็นสุข มีแต่ความสุข พรมน้ำพระพุทธมนต์ที่ตั้งอยู่ติดด้านหน้า ทั้งปวง ถ้ามีเคราะห์กรรมใด ๆ ก็ขอ แล้วเข้ามากราบพระพุทธชินสีห์ กายสบายใจ เดินทางไปแห่งหนตำบล พระพุทธชินสีห์เพื่อความเป็นสิริมงคล ผ่อนหนักเป็นเบา ในพระอุโบสถ ใดให้มีความปลอดภัย
*๗. วัดชนะสงคราม*
ไหว้หลวงพ่อในพระอุโบสถเพื่อให้ กราบบูชาพระพุทธนรสีห์ ขอพรให้ชนะอุปสรรคทั้งปวง เข้าไปกราบพระพุทธนรสีห์องค์จริงที่อยู่ ท่านประสบความสำเร็จมี "ชัยชนะ" (หลวงพ่อปู่) องค์จำลองเป็นพระ ด้านในสุดของพระอุโบสถ พร้อมกับ อุปสรรคต่าง ๆ เพื่อความเจริญรุ่งเรือง ประธาน พร้อมกับพระพุทธรูป อธิษฐานขอพรจากท่านให้ชนะอุปสรรค ในชีวิตและการงาน ประจำวันเกิด ทั้งปวงเช่นกัน
*๘. วัดระฆังโฆสิตาราม * กราบสักการะสมเด็จพุฒาจารย์ ท่องคาถาชินบัญชร ปักธูปที่กระถาง เข้าไปที่พระอุโบสถวัดระฆังเพื่อกราบ ซื้อหอยขม ๑ กิโล ปล่อยลงแม่น้ำ (โต พรหมรังสี) เพื่อขอพรโดยการ ปิดทองที่รูปปั้นสมเด็จโตและพรม นมัสการพระประธานขอพรท่านให้ เพื่อชีวิตจะหายจากความขมขื่น สวดคาถาชินบัญชร น้ำมนต์ เดินทางโดยสวัสดิภาพ โชคดีมีชัยตลอดปี ทั้งสิ้นทั้งปวง
*๙. ภูเขาทองวัดสระเกศ*
บูชาพระมหาเจดืย์ เป็นเคล็ดเพื่อ ถึงยอดภูเขาทองให้จุดธูปเทียน แผ่นกระดาษที่หุ้มทองให้เขียนชื่อ เดินขึ้นไปที่องค์พระเจดีย์ บนยอดภูเขาทองทำพิธี ให้ชีวิตมีดวงชะตาสูง ไม่ตกต่ำ บูชาพระจากนั้นเดินขึ้นไปปิดทอง นามสกุลใส่ในบาตรใหญ่ที่ทางวัด นมัสการพระบรมธาตุด้วยการพนมมือไหว้ แล้วเดิน หมายถึงความสำเร็จนั่นเองพระสถูปศิลาซึ่งเป็นที่บรรจุพระบรม เตรียมไว้เพื่อเป็นการสะเดาะเคราะห์ ๓ รอบและต้องเวียนขวา เสร็จแล้วให้ไหว้พระเจดีย์ สารีริกธาตุ โดยพนมมือยกสูงให้นิ้วอยู่เหนือศีรษะ ปลายนิ้วมือ มุ่งตรงไปยังยอดพระเจดีย์ค้อมศีรษะลงเพื่อรับพลัง กุศลธรรมและวิมุตติธรรมจากองค์พระบรมธาตุได้ เต็มที่ และทำให้มีสมาธิในการสักการะ พร้อมกับตั้ง อธิษฐานจิตสูงขึ้นด้วย
เพื่อ จุดธูปเทียนบูชา ว่านะโม ตั้งจิดอธิษฐานขอพรจาก ให้เข้าไปในพระอุโบสถ เพื่อกราบ ให้ท่านร่ำรวย มีแก้วแหวานเงินทอง ๓ จบ จากนั้นท่อง "วาละ ท่านให้ร่ำรวยมีแก้วแหวน นมัสการพระแก้วมรกตและขอพรจากมากมาย เป็นทุนรอนในการดำเนินกิจ ลุกัง สังวาตังวา" ๓ จบ เงินทองมากมายเพื่อไว้ พระแก้วมรกตอันศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่เบื้อง การเพื่อความมั่นคงมั่งคั่ง แล้วอธิษฐานขอพร ทำทุนและเลี้ยงตน หน้าของท่าน เสร็จแล้วออกมาพรม น้ำมนต์ที่ตั้งอยู่ระเบียงหน้าพระอุโบสถ เพื่อความเป็นสิริมงคล
*๒. ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง*
เพื่อจะได้มีหลักมั่นคงมีหลักชัยในการ จุดธูปอย่างเดียวไม่ต้องจุดเทียน ขณะบูชาให้อธิษฐานให้ตนเอง หลังจากสักการะพระหลักเมืองแล้ว ดำเนินชีวิต ตลอดจนมีหลักการที่ดีใน จากนั้นเอาผ้าแพร ๓ ผืนไปผูก มีหลักฐานมั่นคง มีหลักชัยใน ควรไปสักการะเทพารักษ์สำคัญสำหรับ การทำมาหาเลี้ยงชีพ มีหลักยึดเหนี่ยว ที่เสาหลักเมืองจำลองและปิดทอง การดำเนินชีวิตมีหลักยึดเหนี่ยว พระนคร ทั้ง ๕ องค์ และบูชาพระประจำ เพื่อจักได้ไม่ซวดเซ ในการประกอบสัมมาชีพ วันเกิด (ดูรายละเอียดในภาคผนวก)
*๓. วัดโพธิ์*
เพื่อให้ร่มเย็น ขอความเป็นร่มโพธิ์ บูชาพระพุทธเทวปฏิมากร น้อมจิตรำลึกถึงพระพุทธจริยาแห่ง พระพุทธเทวปฏิมากร เป็นพระพุทธ ร่มไทร ซึ่งเป็นพระประธานประจำ พระพุทธองค์ ซึ่งทรงพระคุณอย่าง ปางสมาธิเป็นพระประจำวันเกิดของผู้ พระอุโบสถ ยอดเยี่ยม ๓ ประการ คือ พระปัญญา ที่เกิดวันพฤหัสบดี คุณ ๑ พระบริสุทธิคุณ ๑ พระมหา ผู้บูชาพระปางนี้แสดงถึงความมั่นคง กรุณาธิคุณ ๑ แล้วสร้างกระแสแห่ง แห่งจิตใจ มีสติสัมปชัญญะทุกคน ตนให้มั่นคงเพื่อความสุขสวัสดิ์แห่งชีวิต
*๔. ศาลเจ้าพ่อเสือ*
สร้างสมบุญกุศลให้ตนเองและ เตรียมซื้อส้ม ๓-๔ ใบหรือ ๑ กิโล อธิษฐานให้อยู่เย็นเป็นสุข ทำมาค้าขึ้น - เติมน้ำมันตะเกียงซ้ายขวาเพื่อเพิ่มบุญ ครอบครัวเพื่อให้บังเกิดโชคลาภและเครื่องเซ่นไหว้ (หมูสามชั้น, มีเงินมีทอง พร้อมขอให้เจ้าพ่อเสือปกป้อง กุศล ชีวิตจะได้สว่างไสว ไม่มืดแปดด้าน และมีความสุข ข้าวสุก,ไข่ไก่) พร้อมเทียนแดง ๒ คุ้มครองให้อยู่รอดปลอดภัย -เช่าฮู้มาติดไว้ที่บ้าน,สำนักงาน หรือติด เล่ม ธูป ๓๐ ดอก (๑ ห่อ) และ ตัวเพื่อความเป็นสิริมงคลอยู่รอดปลอด กระดาษเงิน กระดาษทอง ภัยตลอดปี (รายละเอียดเพิ่มเติมในภาคผนวก) -พิธีกรรมต่าง ๆ สะเดาะเคราะห์, บริจาค ทรัพย์, ซื้อข้าวสาร ฯลฯ สิริมงคลสถาน จุดประสงค์ ข้อแนะนำในการไหว้พระ การตั้งจิดอธิษฐานและการขอพร รายละเอียดปลีกย่อย
*๕. วัดสุทัศน์ฯ * เพื่อขอให้มีสติปัญญาดีมีทรรศนะ ของที่ต้องเตรียมมี พวงมาลัย เดินเข้าไปในพระวิหารกราบองค์จริง รัชกาลที่ ๒ ทรงสลักบานประตูพระวิหาร ที่ถูกต้องดีงาม เมื่อจะคิดอ่านกระทำ ๒ พวง ธูปเทียน ๑ ชุด และทองคำและขอพรจากท่านให้ช่วยชี้แนะทรรศนะ พระศรีศากยมุนีซึ่งถือเป็นศิลปกรรมการ การใด ๆ ก็สามารถคิดได้ ขอให้มี เปลวปิดทองพระ (หลวงพ่อพระ ที่ถูกต้องในการดำรงชีวิตและการ แกะสลักไม้ชิ้นเอกของโลก ความสำคัญ วิชั่นที่ดี ศรีศากยมุนีองค์จำลองหน้า ดำเนินงาน ของพระศรีศากยมุนีอีกประการก็คือเป็น พระวิหารหลวง) พระพุทธรูปประจำ ร. ๘ ขณะเดียวกัน วัดสุทัศน์ฯ ก็เป็นวัดประจำพระองค์ด้วย
*๖. วัดบวรนิเวศวิหาร*
เพื่อขอให้ชีวิตปราศจากภัยอันตราย ไหว้พระด้านนอกพระอุโบสถ * ขอพรให้อยู่เย็นเป็นสุข มีแต่ความสุข พรมน้ำพระพุทธมนต์ที่ตั้งอยู่ติดด้านหน้า ทั้งปวง ถ้ามีเคราะห์กรรมใด ๆ ก็ขอ แล้วเข้ามากราบพระพุทธชินสีห์ กายสบายใจ เดินทางไปแห่งหนตำบล พระพุทธชินสีห์เพื่อความเป็นสิริมงคล ผ่อนหนักเป็นเบา ในพระอุโบสถ ใดให้มีความปลอดภัย
*๗. วัดชนะสงคราม*
ไหว้หลวงพ่อในพระอุโบสถเพื่อให้ กราบบูชาพระพุทธนรสีห์ ขอพรให้ชนะอุปสรรคทั้งปวง เข้าไปกราบพระพุทธนรสีห์องค์จริงที่อยู่ ท่านประสบความสำเร็จมี "ชัยชนะ" (หลวงพ่อปู่) องค์จำลองเป็นพระ ด้านในสุดของพระอุโบสถ พร้อมกับ อุปสรรคต่าง ๆ เพื่อความเจริญรุ่งเรือง ประธาน พร้อมกับพระพุทธรูป อธิษฐานขอพรจากท่านให้ชนะอุปสรรค ในชีวิตและการงาน ประจำวันเกิด ทั้งปวงเช่นกัน
*๘. วัดระฆังโฆสิตาราม * กราบสักการะสมเด็จพุฒาจารย์ ท่องคาถาชินบัญชร ปักธูปที่กระถาง เข้าไปที่พระอุโบสถวัดระฆังเพื่อกราบ ซื้อหอยขม ๑ กิโล ปล่อยลงแม่น้ำ (โต พรหมรังสี) เพื่อขอพรโดยการ ปิดทองที่รูปปั้นสมเด็จโตและพรม นมัสการพระประธานขอพรท่านให้ เพื่อชีวิตจะหายจากความขมขื่น สวดคาถาชินบัญชร น้ำมนต์ เดินทางโดยสวัสดิภาพ โชคดีมีชัยตลอดปี ทั้งสิ้นทั้งปวง
*๙. ภูเขาทองวัดสระเกศ*
บูชาพระมหาเจดืย์ เป็นเคล็ดเพื่อ ถึงยอดภูเขาทองให้จุดธูปเทียน แผ่นกระดาษที่หุ้มทองให้เขียนชื่อ เดินขึ้นไปที่องค์พระเจดีย์ บนยอดภูเขาทองทำพิธี ให้ชีวิตมีดวงชะตาสูง ไม่ตกต่ำ บูชาพระจากนั้นเดินขึ้นไปปิดทอง นามสกุลใส่ในบาตรใหญ่ที่ทางวัด นมัสการพระบรมธาตุด้วยการพนมมือไหว้ แล้วเดิน หมายถึงความสำเร็จนั่นเองพระสถูปศิลาซึ่งเป็นที่บรรจุพระบรม เตรียมไว้เพื่อเป็นการสะเดาะเคราะห์ ๓ รอบและต้องเวียนขวา เสร็จแล้วให้ไหว้พระเจดีย์ สารีริกธาตุ โดยพนมมือยกสูงให้นิ้วอยู่เหนือศีรษะ ปลายนิ้วมือ มุ่งตรงไปยังยอดพระเจดีย์ค้อมศีรษะลงเพื่อรับพลัง กุศลธรรมและวิมุตติธรรมจากองค์พระบรมธาตุได้ เต็มที่ และทำให้มีสมาธิในการสักการะ พร้อมกับตั้ง อธิษฐานจิตสูงขึ้นด้วย
เอาไว้สอนลูกหลานนะ .... คำถามเกี่ยวกับเพศสัมพันธ์
***เอาไว้สอนลูกหลานนะ .... คำถามเกี่ยวกับเพศสัมพันธ์(555)*
*พ่อลูกคู่ นึงยืนสนทนากันอยู่ลูกกำลังย่างเข้าสู่วัยรุ่นจึงมีคำถามเกี่ยวกันเรื่องเพศ สัมพันธ์มาถามพ่อ
* *ลูก : พ่อครับทำไม การมีเพศสัมพันธ์ทำให้ มีความรู้สึกยังไงครับ
* พ่อ : ก็มันเหมือนกับการที่เอ็งเอานิ้ว เอ็งไปแคะขี้มูกในจมูกของเอ็งแหละ
*ลูก : แล้วทำไมเวลามีเพศสัมพันธ์ ผู้หญิง ถึงร้องครวญครางเหมือนมีความรู้สึกดีกว่าผู้ชายครับ*
พ่อ : อ้าว.. แล้วเวลาเอ็งแคะขี้มูก เอ็ง รู้สึกว่า นิ้วของเอ็งดีขึ้นหรือว่ารูจมูกของ เอ็งดีขึ้น
*ลูก : ในเมื่อผู้หญิงรู้สึกดีขึ้นแล้วทำไมผู้หญิงถึงเกลียดการข่มขืน ล่ะ*
พ่อ : ม ันไม่เหมือนกันแล้วถ้าเอ็งเดินอยู่บนถนนแล้วมีคนวิ่งมาเอานิ้วมาทิ่มจมูกเอ็งนะ เอ็งจะชกเขามั้ย
*ลูก : แล้วทำไมผู้หญิงถึงไม่ชอบมีเพศ สัมพันธ์กันในระหว่างมีประจำเดือน
* พ่อ : แล้วถ้าจมูกของเอ็งเลือดไหลอยู่ เอ็งจะแคะขี้มูกมั้ย..
*ลูก : ทำไมผู้ชายถึงไม่ชอบใส่ถุงยางอนามัย ขณะมีเพศสัมพันธ์*
พ่อ : แล้วถ้าพ่อบังคับเอ็งใส่ถุงมือแคะ ขี้มูกเอ็งจะรู้สึกยังไง
*ลูก : มีอีกคำถามครับพ่อ ผู้หญิงทำไมชอบ บรรยากาศเงียบ ๆ สลัวๆขณะที่เธอมีความต้อง การ
* พ่อ : อ้าว..แล้ว พ่อใช้ให้เอ็งแคะขี้มูกหน้าชั้นเรียนเอ็งจะทำได้มั้ย..โธ่ลูกพ่อ เอ๊ย.....
*ลูก : ' พ่อครับ พ่อเก่งจังเลย '*
*พ่อลูกคู่ นึงยืนสนทนากันอยู่ลูกกำลังย่างเข้าสู่วัยรุ่นจึงมีคำถามเกี่ยวกันเรื่องเพศ สัมพันธ์มาถามพ่อ
* *ลูก : พ่อครับทำไม การมีเพศสัมพันธ์ทำให้ มีความรู้สึกยังไงครับ
* พ่อ : ก็มันเหมือนกับการที่เอ็งเอานิ้ว เอ็งไปแคะขี้มูกในจมูกของเอ็งแหละ
*ลูก : แล้วทำไมเวลามีเพศสัมพันธ์ ผู้หญิง ถึงร้องครวญครางเหมือนมีความรู้สึกดีกว่าผู้ชายครับ*
พ่อ : อ้าว.. แล้วเวลาเอ็งแคะขี้มูก เอ็ง รู้สึกว่า นิ้วของเอ็งดีขึ้นหรือว่ารูจมูกของ เอ็งดีขึ้น
*ลูก : ในเมื่อผู้หญิงรู้สึกดีขึ้นแล้วทำไมผู้หญิงถึงเกลียดการข่มขืน ล่ะ*
พ่อ : ม ันไม่เหมือนกันแล้วถ้าเอ็งเดินอยู่บนถนนแล้วมีคนวิ่งมาเอานิ้วมาทิ่มจมูกเอ็งนะ เอ็งจะชกเขามั้ย
*ลูก : แล้วทำไมผู้หญิงถึงไม่ชอบมีเพศ สัมพันธ์กันในระหว่างมีประจำเดือน
* พ่อ : แล้วถ้าจมูกของเอ็งเลือดไหลอยู่ เอ็งจะแคะขี้มูกมั้ย..
*ลูก : ทำไมผู้ชายถึงไม่ชอบใส่ถุงยางอนามัย ขณะมีเพศสัมพันธ์*
พ่อ : แล้วถ้าพ่อบังคับเอ็งใส่ถุงมือแคะ ขี้มูกเอ็งจะรู้สึกยังไง
*ลูก : มีอีกคำถามครับพ่อ ผู้หญิงทำไมชอบ บรรยากาศเงียบ ๆ สลัวๆขณะที่เธอมีความต้อง การ
* พ่อ : อ้าว..แล้ว พ่อใช้ให้เอ็งแคะขี้มูกหน้าชั้นเรียนเอ็งจะทำได้มั้ย..โธ่ลูกพ่อ เอ๊ย.....
*ลูก : ' พ่อครับ พ่อเก่งจังเลย '*
5 ก.ค. 2551
แฮ็ก ATM ระบาดกดเงินเดือนเกลี้ยง พบมีเหยื่อกว่า20ราย
รองผกก.ตม.กดเงินเดือนทางเอทีเอ็ม ช็อกหายเกลี้ยงบัญชี รุดแจ้งความ เชื่อคนร้ายแฮ็กข้อมูลเอทีเอ็ม เผยพื้นที่เชียงใหม่มีเหยื่อถูกลอบกดเงินจากตู้เอทีเอ็มไม่ต่ำกว่า 20 ราย *ขณะที่ดีเอสไอทลายแก๊งปลอมบัตรเครดิต รวบ 3 ผู้ต้องหา ตะลึง 15 วันเสียหายกว่า 30 ล้านบาท*มั่นใจมีเจ้าหน้าที่ธนาคารร่วมขบวนการด้วย เตรียมล่าตัวผู้ร่วมแก๊งอีก 9 ราย
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 2 กรกฎาคม พ.ต.ท.ปรีชา สุวรรณศร รองผู้กำกับด่านตรวจคนเข้าเมืองเชียงใหม่เข้าแจ้งความต่อ พ.ต.ท.ธนดล น้อยสุวรรณ พนักงานสอบสวน สภ.ภูพิงคราชนิเวศน์ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ภายหลังถูกคนร้ายแอบถอนเงินไปจากธนาคารกรุงไทยจำนวน 3 หมื่นบาท พ.ต.ท.ปรีชา กล่าวว่า เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน ที่ผ่านมา ได้นำบัตรเอทีเอ็มไปกดเงินเดือนประมาณ 3 หมื่นบาท จากตู้เอทีเอ็มธนาคารกรุงไทย ปรากฏว่า ยอดเงินดังกล่าวหายไป ทั้งที่ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน ที่ผ่านมา ได้ตรวจสอบบัญชีธนาคารพบว่าเงินเดือนจำนวนดังกล่าวเข้ามาในบัญชีแล้ว
* "น่าแปลกใจคือ เงินจากบัญชีของผมหายไปทั้งที่บัตรเอทีเอ็มอยู่กับตัวผม เรื่องนี้เชื่อว่า น่าจะเป็นฝีมือของขบวนการลอบขโมยข้อมูลจากบัตรเอทีเอ็มแล้วนำไปทำบัตรปลอมไปกดเงินจากตู้เอทีเอ็ม * วันนี้จึงนำเรื่องเข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน และหลังเข้าแจ้งความได้ตรวจสอบไปทั้ง 4 สถานีตำรวจภูธร ในเขต อ.เมืองเชียงใหม่ ทราบว่าช่วงที่ผ่านมามีเหยื่อถูกลักลอบกดเงินออกจากตู้เอทีเอ็มไม่ต่ำกว่า 20 ราย ซึ่งจนถึงขณะนี้ตำรวจยังไม่สามารถจับกุมคนร้ายได้" พ.ต.ท.ปรีชากล่าว
วันเดียวกัน พ.ต.อ.สุชาติ วงศ์อนันต์ชัย ผู้บัญชาการสำนักกิจการต่างประเทศและคดีอาชญากรรมระหว่างประเทศ แถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหาในคดีร่วมกันทุจริตบัตรเครดิตว่า ดีเอสไอสืบสวนและรวบรวมหลักฐานในคดีดังกล่าวมาตั้งแต่ปี 2549 พบว่า ผู้ต้องหา 12 ราย ร่วมกันกระทำความผิดเป็นขบวนการ แต่ละคนจะแบ่งหน้าที่กันขโมยข้อมูลบัตรเครดิตของบุคคลจากต่างประเทศ ได้แก่ อเมริกา เกาหลี ไต้หวัน และอังกฤษ ด้วยวิธีการสแกมเมอร์ และไวด์แทปปิ้ง แล้วนำข้อมูลไปใช้ทำบัตรเครดิตปลอม จากนั้นคนร้ายจะไปติดต่อเซ้งกิจการร้านค้าที่มีเครื่องอีดีซี หรือเครื่องบริการชำระเงินผ่านบัตรเครดิต โดยพุ่งเป้าไปที่เครื่องชำระเงินผ่านบัตรเครดิตของธนาคารไทยพาณิชย์ ซึ่งดีเอสไอได้รับแจ้งจากผู้แทนบริษัทวีซ่า อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย ว่า การกระทำของผู้ต้องหาคดีนี้สร้างความเสียหายสูงสุดติดอันดับ 1 ใน 5 ของประเทศไทย
* พ.ต.อ.สุชาติกล่าวต่อว่า*
ส่วนพฤติกรรมของกลุ่มผู้ต้องหาในการกระทำผิดคือ กลุ่มผู้ต้องหาจะเข้าไปเซ้งกิจการต่อจากเจ้าของร้านเป้าหมาย จากนั้นกลุ่มคนร้ายจะขอให้เจ้าของร้านเปิดบัญชีของร้านเดิมต่อไประยะหนึ่ง และขอใช้เครื่องชำระเงินผ่านบัตรเครดิตเดิมต่อไป รวมทั้งจะให้เจ้าของร้านเดิมลงลายมือชื่อสั่งจ่ายเงินบนเช็คโดยไม่กรอกจำนวนเงินและวันที่ไว้ให้กลุ่มคนร้าย เมื่อกลุ่มคนร้ายเข้าไปดำเนินกิจการจะนำบัตรเครดิตปลอมมาใช้ชำระเงินผ่านเครื่องรูดบัตรเครดิตของธนาคารไทยพาณิชย์ วันละไม่เกิน 2 ครั้ง จำนวนเงินบัตรละไม่เกิน 3 แสนบาท โดยกลุ่มคนร้ายจะใช้เวลาในการทำธุรกรรมปลอม ไม่เกิน 15 วัน และเมื่อได้รับเงินจากธนาคารเกือบ 30 ล้านบาท คนร้ายก็จะปิดกิจการแล้วนำเงินหลบหนี
"คดีนี้ คนร้ายไปเซ้งกิจการร้านเชิดมั่นแอร์ ย่านมีนบุรี และยังใช้บัตรเครดิตปลอม รูดซื้ออัญมณี จากร้านค้าย่านคลองตัน เขตวัฒนา โดยพฤติการณ์การใช้บัตรเครดิต มีความผิดปกติ เช่น ใช้บัตรลูกค้าในประเทศสหรัฐ ซื้อแอร์ในเวลา 20.00 น. วงเงิน 3.9 หมื่นบาท ต่อมาอีก 7 นาที ใช้บัตรเดิมรูดซื้อแอร์อีก 3.5 หมื่นบาท และยังมีการใช้บัตรเครดิตของชาวอังกฤษรูดซื้อสินค้าในราคา 9.6 หมื่นบาท ต่อมาอีกไม่กี่นาทีใช้บัตรเดิมรูดซื้อสินค้าอีก 9.5 หมื่นบาท *ซึ่งตามปกติธนาคารจะไม่อนุมัติการใช้บัตรในลักษณะต้องสงสัยดังกล่าว ดีเอสไอจึงสอบสวนขยายผลพบว่า มีเจ้าหน้าที่ธนาคารเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด โดยมีเงินสดโอนเข้าบัญชี 1 แสนบาท ดีเอสไอจึงออกหมายจับเจ้าหน้าที่ธนาคารด้วย"*พ.ต.อ.สุชาติกล่าว
พ.ต.อ.สุชาติกล่าวอีกว่า หลังจากนำกำลังเข้าตรวจค้น ดีเอสไอจับกุมผู้ต้องหาได้ 3 คน ได้แก่ นายสุรพล ป้องกา อายุ 44 ปี หรือ เสธ.แดงเล็ก เป็นนายทหารนอกประจำการ น.ส.จินตนา แซ่โง้ว อายุ 46 ปี และนายวีระสิทธิ์ มุงอินทร์ อายุ 38 ปี ส่วนผู้ต้องหาอีก 9 คน ยังหลบหนี เบื้องต้นพนักงานสอบสวนและพนักงานอัยการร่วมกันแจ้งข้อหา ใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ปลอม มีโทษจำคุก 1-7 ปี ปรับ 2 หมื่น-1.4 แสนบาท แต่คดีนี้เป็นการนำบัตรไปใช้ชำระค่าสินค้าแทนเงินสด ผู้ต้องหาจึงต้องรับโทษเพิ่มขึ้นอีกกึ่งหนึ่ง
พ.ต.อ.สุชาติกล่าวเตือนประชาชนผู้ใช้บัตรเอทีเอ็มและบัตรเครดิตให้ระวังอาจตกเป็นเหยื่อ โดยทุกครั้งที่ใช้บัตรเครดิตชำระค่าสินค้าหรือบริการให้ตรวจสอบอย่างละเอียด หากจำเป็นต้องนำบัตรไปกดเงินสดผ่านตู้เอทีเอ็ม ขอให้ระมัดระวังกลุ่มคนร้ายใช้เครื่องสแกมเมอร์มาครอบที่แป้นกด หรือช่องเสียบบัตรของตู้เอทีเอ็ม โดยขอให้เลือกใช้บริการตู้เอทีเอ็มที่มีกล้องวงจรปิดเท่านั้น
*ที่มา คม ชัด ลึก*
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 2 กรกฎาคม พ.ต.ท.ปรีชา สุวรรณศร รองผู้กำกับด่านตรวจคนเข้าเมืองเชียงใหม่เข้าแจ้งความต่อ พ.ต.ท.ธนดล น้อยสุวรรณ พนักงานสอบสวน สภ.ภูพิงคราชนิเวศน์ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ภายหลังถูกคนร้ายแอบถอนเงินไปจากธนาคารกรุงไทยจำนวน 3 หมื่นบาท พ.ต.ท.ปรีชา กล่าวว่า เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน ที่ผ่านมา ได้นำบัตรเอทีเอ็มไปกดเงินเดือนประมาณ 3 หมื่นบาท จากตู้เอทีเอ็มธนาคารกรุงไทย ปรากฏว่า ยอดเงินดังกล่าวหายไป ทั้งที่ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน ที่ผ่านมา ได้ตรวจสอบบัญชีธนาคารพบว่าเงินเดือนจำนวนดังกล่าวเข้ามาในบัญชีแล้ว
* "น่าแปลกใจคือ เงินจากบัญชีของผมหายไปทั้งที่บัตรเอทีเอ็มอยู่กับตัวผม เรื่องนี้เชื่อว่า น่าจะเป็นฝีมือของขบวนการลอบขโมยข้อมูลจากบัตรเอทีเอ็มแล้วนำไปทำบัตรปลอมไปกดเงินจากตู้เอทีเอ็ม * วันนี้จึงนำเรื่องเข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน และหลังเข้าแจ้งความได้ตรวจสอบไปทั้ง 4 สถานีตำรวจภูธร ในเขต อ.เมืองเชียงใหม่ ทราบว่าช่วงที่ผ่านมามีเหยื่อถูกลักลอบกดเงินออกจากตู้เอทีเอ็มไม่ต่ำกว่า 20 ราย ซึ่งจนถึงขณะนี้ตำรวจยังไม่สามารถจับกุมคนร้ายได้" พ.ต.ท.ปรีชากล่าว
วันเดียวกัน พ.ต.อ.สุชาติ วงศ์อนันต์ชัย ผู้บัญชาการสำนักกิจการต่างประเทศและคดีอาชญากรรมระหว่างประเทศ แถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหาในคดีร่วมกันทุจริตบัตรเครดิตว่า ดีเอสไอสืบสวนและรวบรวมหลักฐานในคดีดังกล่าวมาตั้งแต่ปี 2549 พบว่า ผู้ต้องหา 12 ราย ร่วมกันกระทำความผิดเป็นขบวนการ แต่ละคนจะแบ่งหน้าที่กันขโมยข้อมูลบัตรเครดิตของบุคคลจากต่างประเทศ ได้แก่ อเมริกา เกาหลี ไต้หวัน และอังกฤษ ด้วยวิธีการสแกมเมอร์ และไวด์แทปปิ้ง แล้วนำข้อมูลไปใช้ทำบัตรเครดิตปลอม จากนั้นคนร้ายจะไปติดต่อเซ้งกิจการร้านค้าที่มีเครื่องอีดีซี หรือเครื่องบริการชำระเงินผ่านบัตรเครดิต โดยพุ่งเป้าไปที่เครื่องชำระเงินผ่านบัตรเครดิตของธนาคารไทยพาณิชย์ ซึ่งดีเอสไอได้รับแจ้งจากผู้แทนบริษัทวีซ่า อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย ว่า การกระทำของผู้ต้องหาคดีนี้สร้างความเสียหายสูงสุดติดอันดับ 1 ใน 5 ของประเทศไทย
* พ.ต.อ.สุชาติกล่าวต่อว่า*
ส่วนพฤติกรรมของกลุ่มผู้ต้องหาในการกระทำผิดคือ กลุ่มผู้ต้องหาจะเข้าไปเซ้งกิจการต่อจากเจ้าของร้านเป้าหมาย จากนั้นกลุ่มคนร้ายจะขอให้เจ้าของร้านเปิดบัญชีของร้านเดิมต่อไประยะหนึ่ง และขอใช้เครื่องชำระเงินผ่านบัตรเครดิตเดิมต่อไป รวมทั้งจะให้เจ้าของร้านเดิมลงลายมือชื่อสั่งจ่ายเงินบนเช็คโดยไม่กรอกจำนวนเงินและวันที่ไว้ให้กลุ่มคนร้าย เมื่อกลุ่มคนร้ายเข้าไปดำเนินกิจการจะนำบัตรเครดิตปลอมมาใช้ชำระเงินผ่านเครื่องรูดบัตรเครดิตของธนาคารไทยพาณิชย์ วันละไม่เกิน 2 ครั้ง จำนวนเงินบัตรละไม่เกิน 3 แสนบาท โดยกลุ่มคนร้ายจะใช้เวลาในการทำธุรกรรมปลอม ไม่เกิน 15 วัน และเมื่อได้รับเงินจากธนาคารเกือบ 30 ล้านบาท คนร้ายก็จะปิดกิจการแล้วนำเงินหลบหนี
"คดีนี้ คนร้ายไปเซ้งกิจการร้านเชิดมั่นแอร์ ย่านมีนบุรี และยังใช้บัตรเครดิตปลอม รูดซื้ออัญมณี จากร้านค้าย่านคลองตัน เขตวัฒนา โดยพฤติการณ์การใช้บัตรเครดิต มีความผิดปกติ เช่น ใช้บัตรลูกค้าในประเทศสหรัฐ ซื้อแอร์ในเวลา 20.00 น. วงเงิน 3.9 หมื่นบาท ต่อมาอีก 7 นาที ใช้บัตรเดิมรูดซื้อแอร์อีก 3.5 หมื่นบาท และยังมีการใช้บัตรเครดิตของชาวอังกฤษรูดซื้อสินค้าในราคา 9.6 หมื่นบาท ต่อมาอีกไม่กี่นาทีใช้บัตรเดิมรูดซื้อสินค้าอีก 9.5 หมื่นบาท *ซึ่งตามปกติธนาคารจะไม่อนุมัติการใช้บัตรในลักษณะต้องสงสัยดังกล่าว ดีเอสไอจึงสอบสวนขยายผลพบว่า มีเจ้าหน้าที่ธนาคารเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด โดยมีเงินสดโอนเข้าบัญชี 1 แสนบาท ดีเอสไอจึงออกหมายจับเจ้าหน้าที่ธนาคารด้วย"*พ.ต.อ.สุชาติกล่าว
พ.ต.อ.สุชาติกล่าวอีกว่า หลังจากนำกำลังเข้าตรวจค้น ดีเอสไอจับกุมผู้ต้องหาได้ 3 คน ได้แก่ นายสุรพล ป้องกา อายุ 44 ปี หรือ เสธ.แดงเล็ก เป็นนายทหารนอกประจำการ น.ส.จินตนา แซ่โง้ว อายุ 46 ปี และนายวีระสิทธิ์ มุงอินทร์ อายุ 38 ปี ส่วนผู้ต้องหาอีก 9 คน ยังหลบหนี เบื้องต้นพนักงานสอบสวนและพนักงานอัยการร่วมกันแจ้งข้อหา ใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ปลอม มีโทษจำคุก 1-7 ปี ปรับ 2 หมื่น-1.4 แสนบาท แต่คดีนี้เป็นการนำบัตรไปใช้ชำระค่าสินค้าแทนเงินสด ผู้ต้องหาจึงต้องรับโทษเพิ่มขึ้นอีกกึ่งหนึ่ง
พ.ต.อ.สุชาติกล่าวเตือนประชาชนผู้ใช้บัตรเอทีเอ็มและบัตรเครดิตให้ระวังอาจตกเป็นเหยื่อ โดยทุกครั้งที่ใช้บัตรเครดิตชำระค่าสินค้าหรือบริการให้ตรวจสอบอย่างละเอียด หากจำเป็นต้องนำบัตรไปกดเงินสดผ่านตู้เอทีเอ็ม ขอให้ระมัดระวังกลุ่มคนร้ายใช้เครื่องสแกมเมอร์มาครอบที่แป้นกด หรือช่องเสียบบัตรของตู้เอทีเอ็ม โดยขอให้เลือกใช้บริการตู้เอทีเอ็มที่มีกล้องวงจรปิดเท่านั้น
*ที่มา คม ชัด ลึก*
การท่องจำ ก-ฮ เวอร์ชั่นใหม่
*การท่องจำ ก-ฮ เวอร์ชั่นใหม่ *
** ก.กิ๊ก หาไม่ยาก ไม่ลำบากแค่ม่อไว้ ข.ไข่ ไขหัวใจ ไช้คารมนิยมกัน
ฃ.ขวด ชวนดวดเหล้า เมื่อกิ๊กเราสนิทกัน ค.ควาย ใช้เรียกกัน เมื่อแฟนท่านเป็นกิ๊กเรา
ฅ.ฅน ค้นหาไป ค้นหาใคร ถูกใจเขา ฆ.ระฆัง ดังปลุกเร้า ให้ใจเราเส่ากระสั่น
ง.งู อยู่บนหัว มีกันทั่ว ตัวเราท่าน จ.จูบ จูบเธอนั่น สุดระส่ำ สำราญใจ
ฉ.ฉิ่ง หญิงกิ๊กคู่ เพลินเพลินอยู่ มิสนไข่ ช.ช้าง ช่างประไร เรื่องหัวใจ ไม่เกี่ยวกัน
ซ.โซ่ อย่าเซ่อซ่า แฟนเดินมา พากิ๊กหลบพลัน
ฌ.เฌอ บอกเธอนั่น แค่เพื่อนกัน มิมีไร
ญ.หญิง นั่นโปรดรู้ ผู้ชายเจ้าชู้ พิสูจน์ดูได้ ฎ.ชฎา พาสวมใส่ ต่อหน้าแฟนไซร้ จำต้องใส่ชฎา
ฏ.ปฏัก รักแอบซ่อน สาววัยละอ่อน ร่อนหัวใจมา ฐ.ฐาน มิพานช้า รากฐานแน่นหนา พาแฟนเชื่อใจ ฒ.เฒ่า เธอไม่โง่ อุตส่าห์โม้ หลายนาที
ณ.ณรงค์ จงต่อสู้ บอกให้รู้ ให้ชัดเจน ด.เด็ก ที่เธอเห็น เป็นเพียงเพื่อนโปรดเชื่อที
ต.เต่า เธอไม่โง่ อุตส่าห์โม้ หลายนาที ธ.ธำรงค์ อันวงนี้ พี่ให้น้องแต่ผู้เดียว
ท.ทูน หัวของผัวจ๋า เชื่อเถิดหนา เธอมะเกี่ยว ถ.โธ่ถัง ม่อตัวเดียว ทำเราเสียว เกือบเลิกกะแฟน
น.น้องหนู ต้องระวัง เจอครั้งหน้าอย่าเกาะแขน บ.บอก บอกกับแฟน ที่เกาะแขน แค่น้องกัน
ป.ปลา ปลอดเรื่องแล้ว หัวใจแป้ว แป่วนะนั่น ผ.ผึ้ง ผู้กิ๊กกัน ความสำคัญ ต้องรองแฟน
ฝ.ฝ่อ เธอจับได้ เราให้ใครไปควงแขน พ.พอ พอแล้วแฟน จะหวงแขนมิแบ่งใคร
ภ.สำเภา เราเขารู้ พินิจดู พอรู้ได้ ม.ม่อ กันต่อไป ตราบหัวใจยังกิ๊กกัน
ย.หยุด พอแฟนรู้ เธอไม่อยู่กิ๊กต่อพลัน ร.เรา เรากิ๊กกัน แสนสุขสันต์ สำราญใจ
ล.ล่อ หลังป้อกิ๊ก ระรี้ริก กิ๊กชอบใจ ว.ว๊า พาหน่ายใจ กิ๊กบอกไม่ เมนเธอมา
ศ.เศร้า เฉาเลยนี่ โถได้ที่ หนีแฟนมา ษ.ษอ อะไรหว่า ตูจะบ้า ขอผ่านไป
ส.เสือ หิวโซเซ โอ้ละเห่ แสนเสียใจ ห.หา ลาก่อนนู๋ เดี๋ยวแฟนตรู เค้ารู้ทัน
อ.อ่วม แน่เลยฉัน ถ้าแฟนนั้น เค้ารู้ที ฮ.นกฮูก ตัวสุดท้าย ก่อนจากไปในวันนี้ ท่องไว้ นะเด็กดี หากคิดมี(กิ๊ก)ไว้แก้
** ก.กิ๊ก หาไม่ยาก ไม่ลำบากแค่ม่อไว้ ข.ไข่ ไขหัวใจ ไช้คารมนิยมกัน
ฃ.ขวด ชวนดวดเหล้า เมื่อกิ๊กเราสนิทกัน ค.ควาย ใช้เรียกกัน เมื่อแฟนท่านเป็นกิ๊กเรา
ฅ.ฅน ค้นหาไป ค้นหาใคร ถูกใจเขา ฆ.ระฆัง ดังปลุกเร้า ให้ใจเราเส่ากระสั่น
ง.งู อยู่บนหัว มีกันทั่ว ตัวเราท่าน จ.จูบ จูบเธอนั่น สุดระส่ำ สำราญใจ
ฉ.ฉิ่ง หญิงกิ๊กคู่ เพลินเพลินอยู่ มิสนไข่ ช.ช้าง ช่างประไร เรื่องหัวใจ ไม่เกี่ยวกัน
ซ.โซ่ อย่าเซ่อซ่า แฟนเดินมา พากิ๊กหลบพลัน
ฌ.เฌอ บอกเธอนั่น แค่เพื่อนกัน มิมีไร
ญ.หญิง นั่นโปรดรู้ ผู้ชายเจ้าชู้ พิสูจน์ดูได้ ฎ.ชฎา พาสวมใส่ ต่อหน้าแฟนไซร้ จำต้องใส่ชฎา
ฏ.ปฏัก รักแอบซ่อน สาววัยละอ่อน ร่อนหัวใจมา ฐ.ฐาน มิพานช้า รากฐานแน่นหนา พาแฟนเชื่อใจ ฒ.เฒ่า เธอไม่โง่ อุตส่าห์โม้ หลายนาที
ณ.ณรงค์ จงต่อสู้ บอกให้รู้ ให้ชัดเจน ด.เด็ก ที่เธอเห็น เป็นเพียงเพื่อนโปรดเชื่อที
ต.เต่า เธอไม่โง่ อุตส่าห์โม้ หลายนาที ธ.ธำรงค์ อันวงนี้ พี่ให้น้องแต่ผู้เดียว
ท.ทูน หัวของผัวจ๋า เชื่อเถิดหนา เธอมะเกี่ยว ถ.โธ่ถัง ม่อตัวเดียว ทำเราเสียว เกือบเลิกกะแฟน
น.น้องหนู ต้องระวัง เจอครั้งหน้าอย่าเกาะแขน บ.บอก บอกกับแฟน ที่เกาะแขน แค่น้องกัน
ป.ปลา ปลอดเรื่องแล้ว หัวใจแป้ว แป่วนะนั่น ผ.ผึ้ง ผู้กิ๊กกัน ความสำคัญ ต้องรองแฟน
ฝ.ฝ่อ เธอจับได้ เราให้ใครไปควงแขน พ.พอ พอแล้วแฟน จะหวงแขนมิแบ่งใคร
ภ.สำเภา เราเขารู้ พินิจดู พอรู้ได้ ม.ม่อ กันต่อไป ตราบหัวใจยังกิ๊กกัน
ย.หยุด พอแฟนรู้ เธอไม่อยู่กิ๊กต่อพลัน ร.เรา เรากิ๊กกัน แสนสุขสันต์ สำราญใจ
ล.ล่อ หลังป้อกิ๊ก ระรี้ริก กิ๊กชอบใจ ว.ว๊า พาหน่ายใจ กิ๊กบอกไม่ เมนเธอมา
ศ.เศร้า เฉาเลยนี่ โถได้ที่ หนีแฟนมา ษ.ษอ อะไรหว่า ตูจะบ้า ขอผ่านไป
ส.เสือ หิวโซเซ โอ้ละเห่ แสนเสียใจ ห.หา ลาก่อนนู๋ เดี๋ยวแฟนตรู เค้ารู้ทัน
อ.อ่วม แน่เลยฉัน ถ้าแฟนนั้น เค้ารู้ที ฮ.นกฮูก ตัวสุดท้าย ก่อนจากไปในวันนี้ ท่องไว้ นะเด็กดี หากคิดมี(กิ๊ก)ไว้แก้
เคล็ดลับดูแลร่างกาย... เมื่อเลข 50 มาเยือน
เคล็ดลับดูแลร่างกาย... เมื่อเลข 5(0) มาเยือน
มนุษย์เราหลีกหนี เกิด แก่ เจ็บ ตาย ไปไม่พ้น เมื่อย่างเข้าสู่วัยเลข 5 เมื่อนั้นความเปลี่ยนแปลงทางกายภาพอันไม่พึงปรารถนาก็ปรากฏชัดขึ้นเรื่อยๆ เมื่อกายแก่ จิตก็แก่ขึ้นตามไปด้วย แต่เป็น "แก่-กล้า" มิใช่ "แก่ชรา" เหมือนสังขาร บางคนอายุ 70 แต่หัวใจหยุดไว้ที่ 50 ดูกระชุ่มกระชวยรุ่มรวยอารมณ์ขัน สุขภาพจึงแข็งแรงพอที่จะหาความสำราญให้ชีวิตได้อยู่ ตรงกันข้ามบางคนเลขอายุยิ่งมาก ใจยิ่งห่อเหี่ยวขึ้นทุกวัน อย่างนี้เห็นทีจะอยู่ไม่ยึด อันนี้ไม่ได้แช่งแต่อยากแนะนำว่า มาใช้ชีวิตบั้นปลายให้มีความสุขจนหยดสุดท้ายกันดีกว่า
*กายภาพเปลี่ยนไปตามวัย*
*อายุ 40*
ความเปลี่ยนแปลงเริ่มมาเยือนเป็นการชิมลาง โดยเฉพาะลายเส้นบนใบหน้าเพิ่มมากขึ้นและดูจะถาวรเพราะเริ่มลึกลบออกยาก ผิวแห้ง ผมเริ่มมีสีเทาแซมและเส้นเล็กลง บางลงด้วย
*อายุ 50*
ผิวหนังเริ่มลดความยืดหยุ่นดึ๋งดั๋งลง กลายเป็นว่ายืดแล้วไม่ค่อยคืนรูป บางคนจะมีจุดด่างสีน้ำตาลปละปลายบนผิวหนังทั่วไป เป็นสัญลักษณ์ที่หลอกตัวเองยากว่าขณะนี้เรานั้นเข้าสู่วัยตกกระหรือวัยทองอย่างแท้จริง กล้ามเนื้อยืดหยุ่นน้อยลงเช่นกัน กระดูกเริ่มบางลง เรียกได้เต็มปากว่าเข้าสู่วัยเมโนพอส สำหรับผู้หญิง และแอนโดรพอสสำหรับผู้ชาย
*อายุ 70*
ระบบประสาทสัมผัสการรับรู้ส่วนต่างๆ เริ่มเชื่องช้า ทั้งสายตา การรับฟัง การคิด การเคลื่อนไหว ตลอดจนการรับรสของลิ้นก็ไม่ดีเหมือนเดิม จนอาจทำให้ไม่เจริญอาหาร การย่อยอาหารก็ช้าลง เส้นเลือดแข็งขึ้น คนช่วงวัยนี้ประสิทธิภาพการทำงานของหัวใจก็เริ่มไม่ดีเหมือนเดิมด้วย
*อายุ 80*
การทำงานของระบบปัสสาวะจะควบคุมได้ลำบากขึ้น ความจำต่างๆ ไม่ดีเหมือนเดิม อย่างไรก็ตามไม่มีใครฝืนธรรมชาติได้ แต่ไม่ว่าอายุจะผ่านไปเท่าใดคนเราก็ควรจะดูแลตัวเอง หรือญาติผู้ใหญ่อย่างดีเพื่อให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีและมีสุขที่สุดตามวัย เรามีวิธีดูแลตัวเองง่ายๆ ที่คุณอาจลืมนึกถึง มาฝากกัน...
*ผิวพรรณ*
- ทามอยซ์เจอร์ไรเซอร์หลังอาบน้ำเสมอ เพื่อช่วยให้ผิวแห้งชุ่มชื่นขึ้น ปกป้องผิวจากปัญหาต่างๆ ได้ในระดับหนึ่ง เช่น ผิวแห้งอักเสบ ตกสะเก็ด คัน แล้วเผลอเกาเป็นแผล
- หลีกเลี่ยงแสงแดดช่วงกลางวัน
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับสารเคมีต่างๆ เช่น ผงซักฟอก ถ้าจำเป็นให้ใส่ถุงมือยางเสมอ
*ผม*
- ใช้แชมพูอ่อนๆ สระผมทุก 3-4 วัน ใช้ครีมนวดผมเท่าที่จำเป็น
- ใช้น้ำเย็นหรือน้ำอุ่นสระผมเท่านั้น เพราะน้ำร้อนหรือน้ำอุ่นเกินไปจะทำให้รากผมหลุดร่วง
- ถ้าไม่ชอบผมขาว การย้อมสีผมอาจช่วยให้สุขภาพจิตดีขึ้นได้บ้าง
*ตา*
- เมื่อรู้สึกว่าตามีปัญหาควรรีบไปตรวจเช็คสายตากับจักษุแพทย์ รวมทั้งอย่าลืมตรวจวัดสายตาเป็นระยะ ควรเปลี่ยนแว่นสายตาให้พอดีเสมอ
- พบจักษุแพทย์ทุก 2-3 ปี เพื่อตรวจเช็คกระจกตาและความดันโลหิตในตา
- จัดแสงในบ้านให้สว่างพอเพียง
*หู*
- หลีกเลี่ยงเสียงดัง
- พบแพทย์เมื่อหูหรือการรับฟังมีปัญหา และควรยอมรับการใช้อุปกรณ์ช่วยฟังหากจำเป็น
*เซ็กซ์*
- มนุษย์เราสามารถมีเพศสัมพันธ์ได้ตลอดอายุขัยไม่ว่าจะอายุเท่าไรตราบที่ยังมีความปรารถนา แต่ต้องระวังหากมีโรคประจำตัว เช่นโรคหัวใจ โรคติดเชื้อ หอบหืด เป็นต้น
- สำหรับฝ่ายหญิงหลังวัยเมโนพอสอาจใช้สารหล่อลื่นช่วยได้
*ระบบขับถ่าย*
- ควรพบแพทย์เมื่อคุณมีปัญหาการขับปัสสาวะ เพราะปัญหาบางอย่างจำเป็นต้องได้รับการรักษา
- การใช้ผ้าอ้อมผู้ใหญ่ อาจมีความจำเป็นในบางรายที่ไม่สามารถควบคุมระบบขับถ่ายได้ ซึ่งน่าจะทำให้สะดวกสบาย ไปไหนมาไหนได้อย่างไม่ต้องกังวล
*กล้ามเนื้อและหัวใจ*
- ปรึกษาแพทย์ประจำตัวก่อนออกกำลังกาย ว่ามีข้อควรระวังอย่างไรบ้าง
- เลือกบริหารกล้ามเนื้อเฉพาะส่วนที่เหมาะสมกับวัยสูงอายุ เช่น บริหารแขน ขา ด้วยการแกว่งไปมา หรือยกขึ้นลง
- เลือกการออกกำลังกายที่ไม่หนักเกินไป เพื่อให้กล้ามเนื้อได้เคลื่อนไหว ปอด และหัวใจ ทำงานได้มีประสิทธิภาพขึ้น
- การเดิน ว่ายน้ำ รำมวยจีน เป็นการออกกำลังกายที่เหมาะสมกับผู้สูงอายุ
- เมื่อเริ่มต้นออกกำลังกาย ให้เริ่มต้นเบาๆ อย่าหักโหม แล้วค่อยๆ เพิ่มขึ้นทีละนิดในวันต่อไป ควรออกกำลังกาย 3-5 วันต่อสัปดาห์ วันละ 15-60 นาที ต่อครั้ง
- หากมีความผิดปกติเกิดขึ้นเมื่อออกกำลังกาย เช่น หน้ามืด เป็นลม แน่นหน้าอก หายใจไม่ออก มีไข้ ปวดกล้ามเนื้อ ปวดข้อ ฯลฯ ควรพบแพทย์
*ข้อต่อต่างๆ*
- รักษาข้อต่อต่างๆ ด้วยการบริหารสม่ำเสมอ หมุนคอ ข้อไหล่ ข้อมือ ข้อเข่า ข้อเท้า เอว
- ยืดข้อศอก และเข่า
- บิดหมุนลำตัวไปมา
- ถ้ายัง sit ups ได้ก็ควรทำ
- แกว่งขาหน้า-หลัง
- บริหารนิ้วบ่อยๆ อาจจะด้วย การเล่นดนตรี พิมพ์คอมพิวเตอร์ หรือทำงานอดิเรกอื่นๆ ที่ใช้นิ้วมากๆ
- เล่นโยคะ ไทชี่ จะทำให้ข้อต่อต่างๆ มีความยืดหยุ่นดีขึ้น และทำให้การหายใจ และเลือดลมในร่างกายหมุนเวียนดี มีความสมดุลมากขึ้น
- รักษามือและเท้าด้วยการใส่ support หรือถุงเท้า ถุงมือในยามนอนตอนกลางคืน เพื่อป้องกันความเย็นทำให้กล้ามเนื้อยึดเกร็งจนเป็นตะคริวได้
*กระดูก*
- ในผู้หญิงมักจะพบปัญหากระดูกบางลงในคนที่อายุ 60 ปีไปแล้ว ดังนั้นควรรับประทานอาหารที่มีแคลเซียมสูงและเสริมด้วยผลิตภัณฑ์แคลเซียมอื่นๆ
- ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านวัยทองเมื่อเข้าสู่วัยเมโนพอส เพราะอาจจำเป็นต้องได้รับการบำบัดด้วยฮอร์โมนทดแทน
*ฟัน*
- แปรงฟันให้สะอาดทั้งเช้าและก่อนนอน เลือกยาสีฟันที่มีฟลูออไรด์ ใช้ไหมขัดฟันวันละครั้ง
- ในผู้สูงอายุมักจะมีปัญหาเรื่องเหงือกและฟัน คนที่ฟันเหลือน้อยควรใส่ฟันปลอมเพื่อช่วยในการเคี้ยว และควรพบทันตแพทย์ปรับเปลี่ยนฟันปลอมเมื่อรู้สึกว่ามีปัญหา เช่นไม่แน่นพอดี หรือใส่แล้วเจ็บ เป็นต้น - พบทันตแพทย์ทุก 6 เดือนเพื่อตรวจสุขภาพเหงือกและฟัน
*ข้อปฏิบัติง่ายๆ เหล่านี้ จริงๆ แล้วล้วนเป็นกิจวัตร ของเราๆ ที่พึงใส่ใจอยู่เสมอโดยเฉพาะอย่างยิ่งวัยผู้ใหญ่สูงอายุ แต่อาจจะลืมนึกถึงไปบ้างด้วยความเคยชิน จากนี้ไปอย่าลืมเติมความใส่ใจตัวเองมากขึ้นอีกนิดนะคะ*
มนุษย์เราหลีกหนี เกิด แก่ เจ็บ ตาย ไปไม่พ้น เมื่อย่างเข้าสู่วัยเลข 5 เมื่อนั้นความเปลี่ยนแปลงทางกายภาพอันไม่พึงปรารถนาก็ปรากฏชัดขึ้นเรื่อยๆ เมื่อกายแก่ จิตก็แก่ขึ้นตามไปด้วย แต่เป็น "แก่-กล้า" มิใช่ "แก่ชรา" เหมือนสังขาร บางคนอายุ 70 แต่หัวใจหยุดไว้ที่ 50 ดูกระชุ่มกระชวยรุ่มรวยอารมณ์ขัน สุขภาพจึงแข็งแรงพอที่จะหาความสำราญให้ชีวิตได้อยู่ ตรงกันข้ามบางคนเลขอายุยิ่งมาก ใจยิ่งห่อเหี่ยวขึ้นทุกวัน อย่างนี้เห็นทีจะอยู่ไม่ยึด อันนี้ไม่ได้แช่งแต่อยากแนะนำว่า มาใช้ชีวิตบั้นปลายให้มีความสุขจนหยดสุดท้ายกันดีกว่า
*กายภาพเปลี่ยนไปตามวัย*
*อายุ 40*
ความเปลี่ยนแปลงเริ่มมาเยือนเป็นการชิมลาง โดยเฉพาะลายเส้นบนใบหน้าเพิ่มมากขึ้นและดูจะถาวรเพราะเริ่มลึกลบออกยาก ผิวแห้ง ผมเริ่มมีสีเทาแซมและเส้นเล็กลง บางลงด้วย
*อายุ 50*
ผิวหนังเริ่มลดความยืดหยุ่นดึ๋งดั๋งลง กลายเป็นว่ายืดแล้วไม่ค่อยคืนรูป บางคนจะมีจุดด่างสีน้ำตาลปละปลายบนผิวหนังทั่วไป เป็นสัญลักษณ์ที่หลอกตัวเองยากว่าขณะนี้เรานั้นเข้าสู่วัยตกกระหรือวัยทองอย่างแท้จริง กล้ามเนื้อยืดหยุ่นน้อยลงเช่นกัน กระดูกเริ่มบางลง เรียกได้เต็มปากว่าเข้าสู่วัยเมโนพอส สำหรับผู้หญิง และแอนโดรพอสสำหรับผู้ชาย
*อายุ 70*
ระบบประสาทสัมผัสการรับรู้ส่วนต่างๆ เริ่มเชื่องช้า ทั้งสายตา การรับฟัง การคิด การเคลื่อนไหว ตลอดจนการรับรสของลิ้นก็ไม่ดีเหมือนเดิม จนอาจทำให้ไม่เจริญอาหาร การย่อยอาหารก็ช้าลง เส้นเลือดแข็งขึ้น คนช่วงวัยนี้ประสิทธิภาพการทำงานของหัวใจก็เริ่มไม่ดีเหมือนเดิมด้วย
*อายุ 80*
การทำงานของระบบปัสสาวะจะควบคุมได้ลำบากขึ้น ความจำต่างๆ ไม่ดีเหมือนเดิม อย่างไรก็ตามไม่มีใครฝืนธรรมชาติได้ แต่ไม่ว่าอายุจะผ่านไปเท่าใดคนเราก็ควรจะดูแลตัวเอง หรือญาติผู้ใหญ่อย่างดีเพื่อให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีและมีสุขที่สุดตามวัย เรามีวิธีดูแลตัวเองง่ายๆ ที่คุณอาจลืมนึกถึง มาฝากกัน...
*ผิวพรรณ*
- ทามอยซ์เจอร์ไรเซอร์หลังอาบน้ำเสมอ เพื่อช่วยให้ผิวแห้งชุ่มชื่นขึ้น ปกป้องผิวจากปัญหาต่างๆ ได้ในระดับหนึ่ง เช่น ผิวแห้งอักเสบ ตกสะเก็ด คัน แล้วเผลอเกาเป็นแผล
- หลีกเลี่ยงแสงแดดช่วงกลางวัน
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับสารเคมีต่างๆ เช่น ผงซักฟอก ถ้าจำเป็นให้ใส่ถุงมือยางเสมอ
*ผม*
- ใช้แชมพูอ่อนๆ สระผมทุก 3-4 วัน ใช้ครีมนวดผมเท่าที่จำเป็น
- ใช้น้ำเย็นหรือน้ำอุ่นสระผมเท่านั้น เพราะน้ำร้อนหรือน้ำอุ่นเกินไปจะทำให้รากผมหลุดร่วง
- ถ้าไม่ชอบผมขาว การย้อมสีผมอาจช่วยให้สุขภาพจิตดีขึ้นได้บ้าง
*ตา*
- เมื่อรู้สึกว่าตามีปัญหาควรรีบไปตรวจเช็คสายตากับจักษุแพทย์ รวมทั้งอย่าลืมตรวจวัดสายตาเป็นระยะ ควรเปลี่ยนแว่นสายตาให้พอดีเสมอ
- พบจักษุแพทย์ทุก 2-3 ปี เพื่อตรวจเช็คกระจกตาและความดันโลหิตในตา
- จัดแสงในบ้านให้สว่างพอเพียง
*หู*
- หลีกเลี่ยงเสียงดัง
- พบแพทย์เมื่อหูหรือการรับฟังมีปัญหา และควรยอมรับการใช้อุปกรณ์ช่วยฟังหากจำเป็น
*เซ็กซ์*
- มนุษย์เราสามารถมีเพศสัมพันธ์ได้ตลอดอายุขัยไม่ว่าจะอายุเท่าไรตราบที่ยังมีความปรารถนา แต่ต้องระวังหากมีโรคประจำตัว เช่นโรคหัวใจ โรคติดเชื้อ หอบหืด เป็นต้น
- สำหรับฝ่ายหญิงหลังวัยเมโนพอสอาจใช้สารหล่อลื่นช่วยได้
*ระบบขับถ่าย*
- ควรพบแพทย์เมื่อคุณมีปัญหาการขับปัสสาวะ เพราะปัญหาบางอย่างจำเป็นต้องได้รับการรักษา
- การใช้ผ้าอ้อมผู้ใหญ่ อาจมีความจำเป็นในบางรายที่ไม่สามารถควบคุมระบบขับถ่ายได้ ซึ่งน่าจะทำให้สะดวกสบาย ไปไหนมาไหนได้อย่างไม่ต้องกังวล
*กล้ามเนื้อและหัวใจ*
- ปรึกษาแพทย์ประจำตัวก่อนออกกำลังกาย ว่ามีข้อควรระวังอย่างไรบ้าง
- เลือกบริหารกล้ามเนื้อเฉพาะส่วนที่เหมาะสมกับวัยสูงอายุ เช่น บริหารแขน ขา ด้วยการแกว่งไปมา หรือยกขึ้นลง
- เลือกการออกกำลังกายที่ไม่หนักเกินไป เพื่อให้กล้ามเนื้อได้เคลื่อนไหว ปอด และหัวใจ ทำงานได้มีประสิทธิภาพขึ้น
- การเดิน ว่ายน้ำ รำมวยจีน เป็นการออกกำลังกายที่เหมาะสมกับผู้สูงอายุ
- เมื่อเริ่มต้นออกกำลังกาย ให้เริ่มต้นเบาๆ อย่าหักโหม แล้วค่อยๆ เพิ่มขึ้นทีละนิดในวันต่อไป ควรออกกำลังกาย 3-5 วันต่อสัปดาห์ วันละ 15-60 นาที ต่อครั้ง
- หากมีความผิดปกติเกิดขึ้นเมื่อออกกำลังกาย เช่น หน้ามืด เป็นลม แน่นหน้าอก หายใจไม่ออก มีไข้ ปวดกล้ามเนื้อ ปวดข้อ ฯลฯ ควรพบแพทย์
*ข้อต่อต่างๆ*
- รักษาข้อต่อต่างๆ ด้วยการบริหารสม่ำเสมอ หมุนคอ ข้อไหล่ ข้อมือ ข้อเข่า ข้อเท้า เอว
- ยืดข้อศอก และเข่า
- บิดหมุนลำตัวไปมา
- ถ้ายัง sit ups ได้ก็ควรทำ
- แกว่งขาหน้า-หลัง
- บริหารนิ้วบ่อยๆ อาจจะด้วย การเล่นดนตรี พิมพ์คอมพิวเตอร์ หรือทำงานอดิเรกอื่นๆ ที่ใช้นิ้วมากๆ
- เล่นโยคะ ไทชี่ จะทำให้ข้อต่อต่างๆ มีความยืดหยุ่นดีขึ้น และทำให้การหายใจ และเลือดลมในร่างกายหมุนเวียนดี มีความสมดุลมากขึ้น
- รักษามือและเท้าด้วยการใส่ support หรือถุงเท้า ถุงมือในยามนอนตอนกลางคืน เพื่อป้องกันความเย็นทำให้กล้ามเนื้อยึดเกร็งจนเป็นตะคริวได้
*กระดูก*
- ในผู้หญิงมักจะพบปัญหากระดูกบางลงในคนที่อายุ 60 ปีไปแล้ว ดังนั้นควรรับประทานอาหารที่มีแคลเซียมสูงและเสริมด้วยผลิตภัณฑ์แคลเซียมอื่นๆ
- ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านวัยทองเมื่อเข้าสู่วัยเมโนพอส เพราะอาจจำเป็นต้องได้รับการบำบัดด้วยฮอร์โมนทดแทน
*ฟัน*
- แปรงฟันให้สะอาดทั้งเช้าและก่อนนอน เลือกยาสีฟันที่มีฟลูออไรด์ ใช้ไหมขัดฟันวันละครั้ง
- ในผู้สูงอายุมักจะมีปัญหาเรื่องเหงือกและฟัน คนที่ฟันเหลือน้อยควรใส่ฟันปลอมเพื่อช่วยในการเคี้ยว และควรพบทันตแพทย์ปรับเปลี่ยนฟันปลอมเมื่อรู้สึกว่ามีปัญหา เช่นไม่แน่นพอดี หรือใส่แล้วเจ็บ เป็นต้น - พบทันตแพทย์ทุก 6 เดือนเพื่อตรวจสุขภาพเหงือกและฟัน
*ข้อปฏิบัติง่ายๆ เหล่านี้ จริงๆ แล้วล้วนเป็นกิจวัตร ของเราๆ ที่พึงใส่ใจอยู่เสมอโดยเฉพาะอย่างยิ่งวัยผู้ใหญ่สูงอายุ แต่อาจจะลืมนึกถึงไปบ้างด้วยความเคยชิน จากนี้ไปอย่าลืมเติมความใส่ใจตัวเองมากขึ้นอีกนิดนะคะ*
ฮวงจุ้ยที่นอน...พิจารณา ฮวงจุ้ยของตำแหน่งเตียงนอน
1.เตียงนอนใต้ไฟ ศีรษะมีไฟส่อง กระสับ กระส่ายไม่สบายตัว
2.เตียงนอนอยู่ใต้คาน ทำให้ต้องรับภาระหนัก มี เรื่องให้แก้ปัญหาอยู่เสมอ
3.เตียงนอนมีเสาบังอยู่ทั้ง 2 ข้าง เหมือนถูกบีบจากเสา และมีแต่เรื่องเครียดอยู่ตลอดเวลา
4.เตียงนอนตรงประตูทางเข้า ออก ป่วยออดๆ แอดๆ เสมอ
5.เตียงนอนตรงประตูห้องน้ำ ป่วยด้วยโรค ช่องท้อง เช่น มดลูก ท่อปัสสาวะ ต่อมลูกหมาก อัมพาต
6.เตียงนอนวางลอยๆ กลางห้อง เหมือนเมรุเผาศพ คนเดินผ่านได้รอบข้างเป็นการจัดวาง ที่ได้รับอันตรายได้รอบทิศทางถือว่าไม่เป็นมงคล
7.กระจกแผ่นใหญ่ส่องเตียงนอน จะป่วยง่าย ทำให้ตกใจง่าย เหมือนถูกผีหลอกทั้งๆ ที่เป็นตัวเอง การป่วยจะเป็นการป่วยเรื้อรัง
8.วางเตียงนอนไว้ใต้บันได ถือว่ารับแต่ของสกปรก หรืออัปมงคลไว้ตลอดเวลา เป็นลักษณะการกดทับแก้ปัญหายาก
9.เตียงนอนหัวเตียงอยู่ใต้แอร์ ส่วน ศีรษะจะถูกกดทับอยู่ตลอดเวลา
10.มีแฟน นอนบนเตียง มักจะนอน ไม่ค่อยหลับสนิท แถมโคลงเคลงไปมา จะปวดตามบั่นเอว และแน่นหน้าอก จะปวดหน้าขา
แต่ในขณะเดียวกันก็มีการเกร็งช่องท้องเหมือนจะตกจากที่สูง แต่ก็จะรู้สึก สนุกและเสียวไปในตัว ขณะเดียวกันก็จะรู้สึกมึนหัวคล้ายๆกับว่าจะต้องก้ม หรือโก้งโค้งอะไรประมาณนั้น บางครั้งถ้าเฮี้ยนมากๆก็จะละเมอร้องครวญครางออกมาไม่ เป็นภาษาคน... แต่จะมีความสุข แต่ในบางรายที่องค์ลงตัว และจิตอ่อนก็อาจจะมี อาการท้องบวม เหมือนมีสิ่งแปลกปลอมอยู่ข้างใน และท้องจะโตขึ้นเรื่อยๆ จนถึงเดือนที่ 9 จะมีกุมารหรือกุมารีน้อยมาคอยปกป้องรักษาจิตใจเราให้ดีขึ้น …
2.เตียงนอนอยู่ใต้คาน ทำให้ต้องรับภาระหนัก มี เรื่องให้แก้ปัญหาอยู่เสมอ
3.เตียงนอนมีเสาบังอยู่ทั้ง 2 ข้าง เหมือนถูกบีบจากเสา และมีแต่เรื่องเครียดอยู่ตลอดเวลา
4.เตียงนอนตรงประตูทางเข้า ออก ป่วยออดๆ แอดๆ เสมอ
5.เตียงนอนตรงประตูห้องน้ำ ป่วยด้วยโรค ช่องท้อง เช่น มดลูก ท่อปัสสาวะ ต่อมลูกหมาก อัมพาต
6.เตียงนอนวางลอยๆ กลางห้อง เหมือนเมรุเผาศพ คนเดินผ่านได้รอบข้างเป็นการจัดวาง ที่ได้รับอันตรายได้รอบทิศทางถือว่าไม่เป็นมงคล
7.กระจกแผ่นใหญ่ส่องเตียงนอน จะป่วยง่าย ทำให้ตกใจง่าย เหมือนถูกผีหลอกทั้งๆ ที่เป็นตัวเอง การป่วยจะเป็นการป่วยเรื้อรัง
8.วางเตียงนอนไว้ใต้บันได ถือว่ารับแต่ของสกปรก หรืออัปมงคลไว้ตลอดเวลา เป็นลักษณะการกดทับแก้ปัญหายาก
9.เตียงนอนหัวเตียงอยู่ใต้แอร์ ส่วน ศีรษะจะถูกกดทับอยู่ตลอดเวลา
10.มีแฟน นอนบนเตียง มักจะนอน ไม่ค่อยหลับสนิท แถมโคลงเคลงไปมา จะปวดตามบั่นเอว และแน่นหน้าอก จะปวดหน้าขา
แต่ในขณะเดียวกันก็มีการเกร็งช่องท้องเหมือนจะตกจากที่สูง แต่ก็จะรู้สึก สนุกและเสียวไปในตัว ขณะเดียวกันก็จะรู้สึกมึนหัวคล้ายๆกับว่าจะต้องก้ม หรือโก้งโค้งอะไรประมาณนั้น บางครั้งถ้าเฮี้ยนมากๆก็จะละเมอร้องครวญครางออกมาไม่ เป็นภาษาคน... แต่จะมีความสุข แต่ในบางรายที่องค์ลงตัว และจิตอ่อนก็อาจจะมี อาการท้องบวม เหมือนมีสิ่งแปลกปลอมอยู่ข้างใน และท้องจะโตขึ้นเรื่อยๆ จนถึงเดือนที่ 9 จะมีกุมารหรือกุมารีน้อยมาคอยปกป้องรักษาจิตใจเราให้ดีขึ้น …
ความหมายของ..สามี...และ...ภรรยา
*สามี *ความหมายของคำว่า ผัว (HUSBAND)
H Has มี
U Unceasingly ไม่มีหยุดหย่อน
S Shame ละอาย
B But แต่
A Annoyance ความน่ารำคาญใจ
N No ไม่
D Dispute โต้เถียง ทะเลาะ
รวมความก็คือ Hate Dispute But Seek Unceasingly Annoyance; No Shames
แปลเป็นไทยก็คือ
เกลียดการทะเละแต่ชอบหาเรื่องรำคาญใจมาให้ไม่หยุดหย่อนและไม่มีความละอายใจ
ส่วน
ความหมายของคำว่า เมีย (WIFE)
W = without = ปราศจาก
I = Information = แจ้งให้ทราบ
F = Fighting = ต่อสู้ (ทะเลาะ)
E = Every Day = ทุก ๆ วัน
รวมความก็คือ
Without Information Fighting Every day
แปลเป็นไทยก็คือ
หาเรื่อง ทะเลาะได้ ทุก ๆ วัน โดย ปราศจาก การ แจ้งให้ทราบล่วงหน้า
H Has มี
U Unceasingly ไม่มีหยุดหย่อน
S Shame ละอาย
B But แต่
A Annoyance ความน่ารำคาญใจ
N No ไม่
D Dispute โต้เถียง ทะเลาะ
รวมความก็คือ Hate Dispute But Seek Unceasingly Annoyance; No Shames
แปลเป็นไทยก็คือ
เกลียดการทะเละแต่ชอบหาเรื่องรำคาญใจมาให้ไม่หยุดหย่อนและไม่มีความละอายใจ
ส่วน
ความหมายของคำว่า เมีย (WIFE)
W = without = ปราศจาก
I = Information = แจ้งให้ทราบ
F = Fighting = ต่อสู้ (ทะเลาะ)
E = Every Day = ทุก ๆ วัน
รวมความก็คือ
Without Information Fighting Every day
แปลเป็นไทยก็คือ
หาเรื่อง ทะเลาะได้ ทุก ๆ วัน โดย ปราศจาก การ แจ้งให้ทราบล่วงหน้า
ภัยรายวัน – มิจฉาชีพอุกอาจวางยาเหยื่อถึงในบ้าน
ทุกวันนี้ คนในเมืองนอกจากจะต้องเผชิญกับสภาวะข้าวยากหมากแพง แล้วยังจะต้องหวาดวิตกกับพวก
มิจฉาชีพที่ออกอาละวาดอย่างอุกอาจ ไม่ว่าจะอยู่ในเขตชุมชนที่มีผู้คนมากมาย โดยไม่ต้องรอให้ค่ำมืดก่อน
ค่อยกระทำการเหมือนเมื่อก่อน
เมื่อวาน มีข่าวปล้นธนาคาร 2 แห่งในใจกลางกรุงเทพมหานคร และที่พระนครศรีอยุธยา เราก็ยังรู้สึกว่าไกลตัว
แต่มาวันนี้ เริ่มรู้สึกว่า ภัยร้ายนั้นกำลังคลืบคลานเข้าใกล้เราทุกที
เพราะเมื่อตอนเช้าตอนไปวิ่งออกกำลังกายยังได้พบและทักทายพูดคุยเรื่องสัพเพเหระกับคุณยายที่ซอย 1 เหมือนทุกวัน
ตอนบ่ายกะว่าจะออกไปซื้อก๊วยเตี๋ยวสักหน่อย เห็นตำรวจเต็มไปหมด เลยเดินไปดูว่าเกิดอะไรขึ้น
เลยได้ความว่า "คุณยายและสาวใช้" ถูกวางยา รู้สึกตกใจมาก เขาวางยาได้อย่างไร แล้วตอนนี้
คุญยายเป็นอย่างไรบ้าง (อดเป็นห่วงไม่ได้) ลูกสาวคุณยายก็เล่าให้ฟังว่า วันนี้ เขาตั้งใจจะไปหัวหิน
แต่คิดว่าจะต้องกลับบ้านมาเอาของบางอย่าง พอมาถึงบ้าน ก็พบว่าประตูบ้านเปิดอยู่ คุณยายอยู่ในสภาพ
สะลึม สะลือ พอมีสติบ้าง แต่ยังเดินเซเซ อยู่ ส่วนสาวใช้ หลับใหลไม่ได้สติเลย เขาตกใจเลยขึ้นไปดูข้างบนบ้าน
ก็พบว่า หน้าต่างห้องถูกถอดบานเกร็ดแล้วงัดเข้าไปในห้อง สภาพถูกรื้อค้น และเท่าที่ดูด้วยตาเปล่า คิดว่า
เครื่องเพชรมูลค่าเกือบสามล้านบาทคงถูกขนไปเกลี้ยงแน่ๆ จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจท้องที่ –
ก่อนที่คุณยายจะถูกส่งไปโรงพยาบาล – คุณยายให้ปากคำกับตำรวจว่า มีผู้หญิงสองคน อ้างชื่อลูกสาวคุณยายว่า
มีบ้านจะขาย เลยแวะมา แล้วยังไงก็ไม่รู้คุณขายให้เขานวดให้ (ปกติคุณยายชอบนวด) และให้สาวใช้ไปซื้อก๊วยเตี๋ยว
และหลังจากกินก๊วยเตี๋ยวเสร็จ ก็ไม่รู้สึกตัว จนกระทั่งลูกสาวกลับมา
ลูกเขยคุณยายบอกว่า ชามก๊วยเตี๋ยวและแก้วน้ำถูกล้างเรียบร้อยแล้ว –เลยไม่รู้ว่าเขาใส่ยาอะไรให้คุณยายและ
สาวใช้กิน
เพื่อนบ้านที่อยู่ติดกันไม่ได้ยินเสียงอะไรผิดปกติ
ส่วนเพื่อนที่อยู่ห่างไปหลายห้องได้ยินเสียงมีคนมากดกริ่งที่บ้านคุญยาย ยัง บอกอีกว่า เห็นมีรถคล้ายรถจี๊ป ไม่รู้ยี่ห้อ
วิ่งมาอย่างเร็ว ในรถมีคนอยู่สองสามคน และมีผู้หญิงสองคน คนหนึ่งรู้ร่างท้วมหน่อยหนีบกระเป๋าเข้าไปในรถ
ผู้หญิงอีกคนหนึ่งผอมบางกว่า ดันก้นและเร่งผู้หญิงคนที่เข้าไปในรถคนแรกอย่างรีบร้อน แล้วแทรกตัวเข้าไปรถ
จากนั้นรถคันดังกล่าวก็พุ่งออกไปอย่างเร็ว แม้รู้สึกผิดสังเกต แต่ก็ไม่ได้เอะใจ จนกระทั่งเห็นรถตำรวจเข้ามา
*"**นี่คือวิธีการใหม่ของพวกมิจฉาชีพยุคนี้ ที่อุกอาจเข้ามาวางยาเหยื่อถึงในบ้าน**"** ***
มิจฉาชีพที่ออกอาละวาดอย่างอุกอาจ ไม่ว่าจะอยู่ในเขตชุมชนที่มีผู้คนมากมาย โดยไม่ต้องรอให้ค่ำมืดก่อน
ค่อยกระทำการเหมือนเมื่อก่อน
เมื่อวาน มีข่าวปล้นธนาคาร 2 แห่งในใจกลางกรุงเทพมหานคร และที่พระนครศรีอยุธยา เราก็ยังรู้สึกว่าไกลตัว
แต่มาวันนี้ เริ่มรู้สึกว่า ภัยร้ายนั้นกำลังคลืบคลานเข้าใกล้เราทุกที
เพราะเมื่อตอนเช้าตอนไปวิ่งออกกำลังกายยังได้พบและทักทายพูดคุยเรื่องสัพเพเหระกับคุณยายที่ซอย 1 เหมือนทุกวัน
ตอนบ่ายกะว่าจะออกไปซื้อก๊วยเตี๋ยวสักหน่อย เห็นตำรวจเต็มไปหมด เลยเดินไปดูว่าเกิดอะไรขึ้น
เลยได้ความว่า "คุณยายและสาวใช้" ถูกวางยา รู้สึกตกใจมาก เขาวางยาได้อย่างไร แล้วตอนนี้
คุญยายเป็นอย่างไรบ้าง (อดเป็นห่วงไม่ได้) ลูกสาวคุณยายก็เล่าให้ฟังว่า วันนี้ เขาตั้งใจจะไปหัวหิน
แต่คิดว่าจะต้องกลับบ้านมาเอาของบางอย่าง พอมาถึงบ้าน ก็พบว่าประตูบ้านเปิดอยู่ คุณยายอยู่ในสภาพ
สะลึม สะลือ พอมีสติบ้าง แต่ยังเดินเซเซ อยู่ ส่วนสาวใช้ หลับใหลไม่ได้สติเลย เขาตกใจเลยขึ้นไปดูข้างบนบ้าน
ก็พบว่า หน้าต่างห้องถูกถอดบานเกร็ดแล้วงัดเข้าไปในห้อง สภาพถูกรื้อค้น และเท่าที่ดูด้วยตาเปล่า คิดว่า
เครื่องเพชรมูลค่าเกือบสามล้านบาทคงถูกขนไปเกลี้ยงแน่ๆ จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจท้องที่ –
ก่อนที่คุณยายจะถูกส่งไปโรงพยาบาล – คุณยายให้ปากคำกับตำรวจว่า มีผู้หญิงสองคน อ้างชื่อลูกสาวคุณยายว่า
มีบ้านจะขาย เลยแวะมา แล้วยังไงก็ไม่รู้คุณขายให้เขานวดให้ (ปกติคุณยายชอบนวด) และให้สาวใช้ไปซื้อก๊วยเตี๋ยว
และหลังจากกินก๊วยเตี๋ยวเสร็จ ก็ไม่รู้สึกตัว จนกระทั่งลูกสาวกลับมา
ลูกเขยคุณยายบอกว่า ชามก๊วยเตี๋ยวและแก้วน้ำถูกล้างเรียบร้อยแล้ว –เลยไม่รู้ว่าเขาใส่ยาอะไรให้คุณยายและ
สาวใช้กิน
เพื่อนบ้านที่อยู่ติดกันไม่ได้ยินเสียงอะไรผิดปกติ
ส่วนเพื่อนที่อยู่ห่างไปหลายห้องได้ยินเสียงมีคนมากดกริ่งที่บ้านคุญยาย ยัง บอกอีกว่า เห็นมีรถคล้ายรถจี๊ป ไม่รู้ยี่ห้อ
วิ่งมาอย่างเร็ว ในรถมีคนอยู่สองสามคน และมีผู้หญิงสองคน คนหนึ่งรู้ร่างท้วมหน่อยหนีบกระเป๋าเข้าไปในรถ
ผู้หญิงอีกคนหนึ่งผอมบางกว่า ดันก้นและเร่งผู้หญิงคนที่เข้าไปในรถคนแรกอย่างรีบร้อน แล้วแทรกตัวเข้าไปรถ
จากนั้นรถคันดังกล่าวก็พุ่งออกไปอย่างเร็ว แม้รู้สึกผิดสังเกต แต่ก็ไม่ได้เอะใจ จนกระทั่งเห็นรถตำรวจเข้ามา
*"**นี่คือวิธีการใหม่ของพวกมิจฉาชีพยุคนี้ ที่อุกอาจเข้ามาวางยาเหยื่อถึงในบ้าน**"** ***
เตือนซื้อ พ.ร.บ.ต่อภาษี
*เวลาผ่านไปที่กรมการขนส่งทางบก จะมีพวกหน้าม้าเข้ามาสอบถาม อ้างสรรพคุณสามารถติดต่องานที่กรมได้ทุกอย่าง ไม่ว่าจดทะเบียนรถใหม่ ต่อทะเบียนรถเก่า โอนรถ ขายรถ ซื้อประกันภัย ฯลฯ ถึงแม้ กรมการขนส่งฯจะประกาศเตือน และกวดขันจับกุมเป็นประจำ ก็ยังไม่หมดสักที*
และยังมีคนอีกจำนวนมากที่หลงเชื่อและตกเป็นเหยื่อ เสียเงิน เสียทอง ให้กับพวกหน้าม้าเหล่านี้ เพื่อซื้อความสะดวกสบาย แต่หารู้ไม่ว่าสิ่งได้รับอาจจะไม่คุ้มค่า หรือไม่ได้รับการคุ้มครองตามกฎหมาย นอกจากเสียรู้แล้ว อาจเสียเงินมากหรือเสี่ยงติดคุกโดยใช่เหตุอีกต่างหาก!!!!
วันนี้ ชัยรัตน์ สงวนชื่อ รักษาการอธิบดีกรมการขนส่งทางบก มีคำแนะนำดีๆ มาฝากผู้อ่านอีกแล้ว จะเกี่ยวกับเรื่องอะไรนั้นลองติดตามดู ดังนี้...
ขณะนี้กรมการขนส่งทางบก ได้ร่วมมือกับบริษัทรับประกันภัยเปิดให้บริการจำหน่ายกรมธรรม์ประกันภัย ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ. 2535 พร้อมชำระภาษีรถประจำปีแบบทั่วไป เพิ่มช่องทางอำนวยความสะดวกแก่ประชาชน
*ทั้งนี้ ในการชำระภาษีรถประจำปี กับ กรมการขนส่งทางบก ความคุ้มครองตาม พ.ร.บ.จะต้องยังมีอยู่ ซึ่งหากอายุกรมธรรม์สิ้นสุดลงก่อนวันสิ้นอายุภาษีรถประจำปี เจ้าของรถจะต้องต่ออายุกรมธรรม์ เสียก่อนจึงจะสามารถชำระภาษีได้ โดยในปัจจุบันได้มีผู้นำพ.ร.บ. มาเดินเร่ขาย *
หรือตั้งโต๊ะจำหน่ายตามแหล่งชุมชนต่างๆ ซึ่งผลปรากฏว่าผู้ที่ซื้อ พ.ร.บ. จากจุดให้บริการที่ไม่ได้มาตรฐานดังกล่าว ประสบปัญหาในเรื่องความคุ้มครอง ตาม กรมธรรม์ ดังนั้น กรมการขนส่งทางบก จึงได้ขอความร่วมมือจากบริษัทรับประกันภัย มาตั้งจุดจำหน่าย พ.ร.บ. อย่างถูกต้อง
มีทั้งหมด 2 จุด!!! จุดแรก ภายในบริเวณอาคาร 2 กรมการขนส่งทางบก จตุจักร เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชน ซึ่งผู้ซื้อ พ.ร.บ. จากจุดให้บริการที่กรมการขนส่งทางบกจัดไว้ให้ จะได้รับความคุ้มครองตามกรมธรรม์ ทันที!!!!!
จุดที่ 2 ณ ศูนย์บริการร่วมคมนาคม เชิงสะพานสมเด็จพระเจ้าตากสิน การเปิดให้บริการจำหน่าย พ.ร.บ. จะทำให้ประชาชนได้รับความสะดวกและปลอดภัยในการใช้บริการเพิ่มมากขึ้น!!! ทั้งนี้เจ้าของรถที่ต้องชำระภาษีรถประจำปี พร้อมต่ออายุ พ.ร.บ. อย่างมั่นใจสามารถใช้บริการ ได้ที่จุดให้บริการของกรมการขนส่งทางบก หรือที่ศูนย์ร่วมคมนาคม ทุกวันจันทร์-ศุกร์ ในวันเวลาราชการ
*งานนี้!!!!! ชัยรัตน์ รักษาอธิบดีกรม การขนส่งทางบก ยืนยันรับรองไม่ถูกเบี้ยวอย่างแน่นอน!!!!.*
และยังมีคนอีกจำนวนมากที่หลงเชื่อและตกเป็นเหยื่อ เสียเงิน เสียทอง ให้กับพวกหน้าม้าเหล่านี้ เพื่อซื้อความสะดวกสบาย แต่หารู้ไม่ว่าสิ่งได้รับอาจจะไม่คุ้มค่า หรือไม่ได้รับการคุ้มครองตามกฎหมาย นอกจากเสียรู้แล้ว อาจเสียเงินมากหรือเสี่ยงติดคุกโดยใช่เหตุอีกต่างหาก!!!!
วันนี้ ชัยรัตน์ สงวนชื่อ รักษาการอธิบดีกรมการขนส่งทางบก มีคำแนะนำดีๆ มาฝากผู้อ่านอีกแล้ว จะเกี่ยวกับเรื่องอะไรนั้นลองติดตามดู ดังนี้...
ขณะนี้กรมการขนส่งทางบก ได้ร่วมมือกับบริษัทรับประกันภัยเปิดให้บริการจำหน่ายกรมธรรม์ประกันภัย ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ. 2535 พร้อมชำระภาษีรถประจำปีแบบทั่วไป เพิ่มช่องทางอำนวยความสะดวกแก่ประชาชน
*ทั้งนี้ ในการชำระภาษีรถประจำปี กับ กรมการขนส่งทางบก ความคุ้มครองตาม พ.ร.บ.จะต้องยังมีอยู่ ซึ่งหากอายุกรมธรรม์สิ้นสุดลงก่อนวันสิ้นอายุภาษีรถประจำปี เจ้าของรถจะต้องต่ออายุกรมธรรม์ เสียก่อนจึงจะสามารถชำระภาษีได้ โดยในปัจจุบันได้มีผู้นำพ.ร.บ. มาเดินเร่ขาย *
หรือตั้งโต๊ะจำหน่ายตามแหล่งชุมชนต่างๆ ซึ่งผลปรากฏว่าผู้ที่ซื้อ พ.ร.บ. จากจุดให้บริการที่ไม่ได้มาตรฐานดังกล่าว ประสบปัญหาในเรื่องความคุ้มครอง ตาม กรมธรรม์ ดังนั้น กรมการขนส่งทางบก จึงได้ขอความร่วมมือจากบริษัทรับประกันภัย มาตั้งจุดจำหน่าย พ.ร.บ. อย่างถูกต้อง
มีทั้งหมด 2 จุด!!! จุดแรก ภายในบริเวณอาคาร 2 กรมการขนส่งทางบก จตุจักร เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชน ซึ่งผู้ซื้อ พ.ร.บ. จากจุดให้บริการที่กรมการขนส่งทางบกจัดไว้ให้ จะได้รับความคุ้มครองตามกรมธรรม์ ทันที!!!!!
จุดที่ 2 ณ ศูนย์บริการร่วมคมนาคม เชิงสะพานสมเด็จพระเจ้าตากสิน การเปิดให้บริการจำหน่าย พ.ร.บ. จะทำให้ประชาชนได้รับความสะดวกและปลอดภัยในการใช้บริการเพิ่มมากขึ้น!!! ทั้งนี้เจ้าของรถที่ต้องชำระภาษีรถประจำปี พร้อมต่ออายุ พ.ร.บ. อย่างมั่นใจสามารถใช้บริการ ได้ที่จุดให้บริการของกรมการขนส่งทางบก หรือที่ศูนย์ร่วมคมนาคม ทุกวันจันทร์-ศุกร์ ในวันเวลาราชการ
*งานนี้!!!!! ชัยรัตน์ รักษาอธิบดีกรม การขนส่งทางบก ยืนยันรับรองไม่ถูกเบี้ยวอย่างแน่นอน!!!!.*
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)