25 พ.ค. 2554

4 นิสัยแย่ๆ ของคนไทยที่เหล่าคนใช้รถ ต้องปรับปรุง

1.*เปิดไฟฉุกเฉิน แต่ไม่ได้มีเหตุฉุกเฉิน* ไฟฉุกเฉิน
หรือที่ชาวบ้านทั่วไปเรียกว่า "ไฟผ่าหมาก" นั้น
เป็นไฟที่จะทำให้ไฟเลี้ยวกระพริบ 2 ด้าน ความหมายจริงๆ คือ
ให้รถหลังแซงเราขึ้นไป ผิดกับไฟเลี้ยว ที่จะเป็นการขอทาง
คนไทยไม่น้อยใช้ไฟฉุกเฉิน กรณีที่เราต้องผ่าน 4 แยก
ในยามที่ข้างหน้าเราไม่มีรถนั่น โดยเฉพาะตอนกลางคืน จะต้องเปิดไฟฉุกเฉิน เพื่อ
ให้รถที่รออยู่รู้ว่าเราจะตรงไป เรื่องนี้เป็นสิ่งที่ผิดมหันต์
เนื่องจากไฟฉุกเฉิน ความจริงแล้วคุณจะได้ใช้ใน 2 กรณี คือ


1.1. เมื่อรถเสีย- ขัด ข้องหรือ มีปัญหา ไม่ว่าจะจอดตายกลางถนน หรือข้างทาง
ไฟฉุกเฉิน จะช่วยแสดงตำแหน่งรถที่ตามมารู้ได้


1.2. เมื่อจะเข้าที่จอดรถ การเปิดไฟฉุกเฉินในกรณีนี้ จริงๆไม่ถูกและไม่ผิด
แต่เป็นธรรมเนียมปฏิบัติกันมากกว่า
เพื่อให้รถที่ตามมารู้ว่าเรากำลังรอรถที่กำลังจะออกจากช่องจอดรถ


2.*ใช้ไฟเลี้ยว**ไม่ถูกต้อง* *และไม่เปิดไฟเลี้ยว* กรณีนี้เป็นกรณีใหม่
ที่เริ่มมีหลายคนพูดถึงและเราไม่แน่ใจว่าใครเป็นคนสอนคนพวกนี้ในการขับรถ
พบมากในกลุ่มรถแท็กซี่ และรถรับจ้างอื่นๆ ตามปกติของการใช้ไฟเลี้ยว
คือคุณเปิดในทางที่คุณจะไป ยกตัวอย่างเลี้ยวซ้าย <-- ,เลี้ยวขวา -->
ซึ่งจะทำให้รถที่ตามมาด้านข้าง และด้านหลัง รู้ทิศทางที่คุณจะไป และตามกฎจราจร
คุณต้องเปิดไฟเลี้ยวในระยะ 100 เมตร ก็ถึงจุดเปลี่ยนเส้นทาง
แต่ในสิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้นกับสังคมใช้ถนนบ้านเรา คือ
เปิดไฟเลี้ยวตรงข้ามกับทิศทางที่จะไป
ซึ่งล่าสุดเราเจอเลี้ยวซ้ายเปิดไฟเลี้ยวขวา จนจ๊ะเอ๋เกือบเกิดอุบัติเหตุ
ซึ่งคนขับรถที่ทำพฤติกรรมเช่นนี้ให้เหตุผลว่า รถที่มาทางด้านข้าง (ในกรณี 3
แยก) จะได้เห็นว่าเขาจะออกและทำให้ง่าย ซึ่งความมักง่ายนี่เอง
เกือบทำให้เราลงไปกลิ้งอยู่กับพื้นแล้ว
การใช้ไฟเลี้ยวที่ถูกต้องคุณควรให้สัญญาณทางที่คุณไป
เพื่อไม่ให้รถที่ตามมาทางด้านหลังสับสน ในกรณี 3 แยกก็ทำแบบเดียวกัน
แต่คุณต้องคอยมองกะระยะรถที่ใช้ทาง และออกรถเมื่อเห็นว่าปลอดภัย
ไม่ใช่หวังว่าทุกคันจะยอมให้คุณไปได้เสมอ
อีกกรณีที่เราอยากจะฝากไว้เพิ่มเติมคือ
*ไม่เปิดไฟเลี้ยว*ไม่ว่าจะเลี้ยวเข้าซอย หรือไปยังเส้นทางอื่น
การเปิดไฟเลี้ยว
ล่วงหน้าช่วยให้ผู้ขับคนอื่น
รับทราบเส้นทางของเราและทำให้การจราจรคล่องตัวมากขึ้น
การที่คุณไม่เปิดไฟเลี้ยวกรณีเกิดการชนขึ้น อาจโดนข้อฐานขับขี่โดยประมาท
ซึ่งทำให้ตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบได้ หากเกิดอุบัติเหตุ


3.* **ขับรถช้าแต่ชิดขวา*เรื่องนี้เป็นเรื่องที่แก้ไม่หายสักทีสำหรับคนไทยที่ใช้รถ­ใช้ถนน
โดยเฉพาะ
เขตต่างจังหวัด หรือเส้นทางระหว่างเมือง ทางด่วน หรือ ถนนที่มีหลายช่องทาง
ซึ่งเราจะพบว่า เมื่อรัฐบาลประกาศขับ 90 ช่วยชาติประหยัดน้ำมันนั้น
คนไทยก็พร้อมกันช่วยชาติ แช่เลนขวานับเลขต่อม่อสะพานกันเพลินๆ
กรณีขับช้าชิดขวานั้นถือว่า มีความผิดตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก ใน*
ข้อหากีดขวางการจราจร* ถ้าเจ้าหน้าที่พบเห็นสามารถจับคุณได้ในข้อหาดังกล่าว
ซึ่งมีคนจำนวนมากไม่ทราบและทำกันเป็นประจำ
ซึ่งเป็นต้นเหตุของอุบัติเหตุบ่อยครั้ง การขับช้าชิดขวานั้นเป็นเรื่องที่ผิด
เพราะตามหลักแล้วหากคุณไม่ประสงค์จะใช้ความเร็วมากนักในการเดินทาง
ตามกฎว่าให้ใช้ช่องทางซ้ายมือ ซึ่งแน่นอนว่าจะไปเจอกับรถบรรทุก
ทำให้หลายคนเลี่ยงที่จะมาใช้เลนขวา พฤติกรรมเยี่ยงนี้ควรปรับเปลี่ยน
เพราะถ้าคุณไม่รีบใช้เลนซ้ายเมื่อจำเป็นต้องแซงก็ค่อยออกเลนกลางหรือเลขขวา
ด้วยไฟขอทางมาจะดีกว่า การแช่ขวาทำให้การจราจรเกิดความไม่คล่องตัว
และท้ายที่สุดอาจลงเอยด้วยอุบัติเหตุ หรือตำรวจจับได้


4. *ไฟตัดหมอก**ใช้ให้เป็น* เรื่องนี้เราเคยพูดถึงไปแล้ว
แต่ก็จะมาย้ำเตือนกันอีกรอบ ว่าไฟตัดหมอกควร*
จะเปิดใช้เวลาที่ทัศนวิสัยไม่ดีเท่านั้น* นอกนั้นไม่ควรจะนำมาใช้งาน
เป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากลำแสงไฟนั้นมีลักษณะเป็นสปอร์ตไลท์ เมื่อมันส่อง
แม้จะมีระยะสูงจากพื้นไม่มาก แต่การกระจายแสงที่ดีเลิศ
ทำให้มันอาจจะแยงตาสำหรับใครหลายๆ ซึ่งเราแนะนำว่าไม่ควรเปิดใช้
โดยเฉพาะในเขตเมือง


คิดว่าบทความเหล่านี้มีประโยชน์สำหรับผู้ใช้รถเป็นอย่างมาก
อย่างไรก็ตามนิสัยหรือวัฒนธรรมบางอย่างที่เราปฏิบัติกันมาไม่อาจเปลี่ยนแปลง
ได้ในชั่วระยะเวลาอันสั้น ทางที่ดีผู้ใช้รถทุกๆ คนต้องช่วยกันปรับ เปลี่ยน
พฤติกรรมบางอย่างที่ไม่ดี แล้วท้องถนนบ้านเราก็จะน่าใช้ขึ้นอีกเยอะนะครับ ช่วยๆ
กันครับ

ไม่มีความคิดเห็น: