9 ธ.ค. 2551

ชีวจิตพิชิตเบาหวาน

ทุกวันนี้ อาหารการกินของคนไทยนั้นเปลี่ยนไปมากจริงๆ เห็นได้จากอาหารที่มีหลากหลาย และสีสันก็แปลกตามากขึ้นทุกที แม้กระทั่งอาหารเจก็มีคนประดิษฐ์คิดค้นให้มี หน้าตาและสีสันชวนทาน ส่วนรสชาติก็คงไม่ต้องพูดถึง นะครับเพราะเขาทำได้ใกล้เคียงอาหารที่เราหาทานได้ทั่วไป

แต่อย่าลืมนะครับว่า ที่มีให้เห็นหลากหลายนั้นต้องแลกมาด้วยการได้รับคาร์โบไฮเดรต และไขมันที่สูงเช่นกัน คนที่หม่ำอาหารเหล่านี้เข้าไป จึงมีสิทธิ์ได้โรคอ้วนหรือ อ้วนลงพุงเป็นของแถม หรือถ้าโชคร้ายกว่านั้นโรคเบาหวาน ก็เป็นอีกโรคหนึ่งที่อาจมาอยู่กับเราโดยไม่ทันตั้งตัว

คนที่ทานอาหารชีวจิตก็เช่นกัน แม้จะเน้นทานอาหารที่ไม่มีเนื้อสัตว์ และหันมาทานปลาแทนในบางครั้ง แต่การทานอาหารจำพวกแป้ง เช่น ข้าว เส้นก๋วยเตี๋ยว ซึ่งอุดมไปด้วยคาร์โบไฮเดรต เมื่อทานเข้าไปมากๆ ก็เสี่ยงต่อโรคเบาหวานได้เช่นกัน

ดังนั้นคนที่เป็นเบาหวาน หรือคนที่ยังไม่เป็นก็ไม่ควรชะล่าใจ เพราะเจ้าเบาหวานไม่ได้เกิดจากโรคอ้วนเพียงอย่างเดียว แต่ยังรวมถึงกรรมพันธุ์ และปัจจัยอื่นๆ คนที่ทานอาหารชีวจิตโดยเฉพาะคนที่เป็นเบาหวาน จึงต้องอ่าน เพราะการควบคุมระดับน้ำตาลเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้กายและใจของเราเป็นปกติ

ก่อนจะทานอะไรจึงควรเลือกให้ดี โดยเฉพาะ ต้องเลือกชนิดของอาหารที่จะช่วยควบคุมระดับน้ำตาล ไขมันและความดันโลหิต โดยเฉพาะการควบคุมปริมาณคาร์โบไฮเดรตหรืออาหารหมวดแป้ง เป็นสิ่งสำคัญอันดับต้นๆ ของคนที่เป็นเบาหวาน

ผมจึงอยากแนะนำให้คนที่เป็นโรคนี้ เลือกทานข้าวซ้อมมือแทนข้าวขัดขาว และเลือกทานอาหารที่มีกากใยสูง เช่น พืชผัก ธัญพืช และผลไม้บางชนิดเช่น แตงโม มะละกอ ชมพู่ สาลี่ แอปเปิล เป็นต้น ทั้งนี้ควรทานให้พอเหมาะเพราะ ผลไม้ส่วนใหญ่มักมีน้ำตาลตามธรรมชาติที่แตกต่างกันไป ที่สำคัญไม่ควรทานผลไม้รสหวาน เช่น ส้มเขียวหวาน ทุเรียน มะม่วงสุก สับปะรด ขนุน ละมุด ผักบางประเภทเช่น ยอด กระถิน ยอดชะอม หน่อไม้ ก็ไม่ควรทานเช่นกัน

นอกจากนี้ ตามหลักของแพทย์แผนไทยผักที่มีรสขมทุกชนิด จะช่วยแก้ไขเรื่องโรคเบาหวาน เพราะช่วยให้ร่างกายสามารถใช้ประโยชน์จากน้ำตาลได้ เช่น มะระขี้นก มะระจีน สะเดา ซึ่งสามารถช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดได้ หรือถ้าไม่อยากทานขมๆ ก็อาจเลือกผักตำลึง นำมาทำแกงจืด หรือลวกหรือนึ่งจิ้มน้ำพริกก็เข้าท่าไม่เบา

คนที่เป็นเบาหวาน ควรหลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันสูงและโคเลสเตอรอลสูง ควรทานปลา โดยเฉพาะปลาน้ำจืดไม่ว่าจะเป็น ปลาสวาย ปลาช่อน ปลานิล ฯลฯ นอกจากจะให้โปรตีน แล้วยังช่วยให้ย่อยง่าย และปลายังเป็นแหล่งของโอเมกา-3 ที่จะช่วยลดการอักเสบภายในร่างกาย ช่วยลดการเกิดโรคหัวใจ ไขมันในหลอดเลือด ลดการเต้นของหัวใจที่ผิดปกติ ป้องกันอัลไซเมอร์ ทั้งยังเสริมสร้างพัฒนาเซลล์สมอง การมองเห็นแก่เด็กที่สามารถได้รับตั้งแต่อยู่ในครรภ์ และอีกสารพัด

ควรทานผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลืองให้บ่อยขึ้น จำกัดการทานกะทิและเลี่ยงอาหารทอด รวมทั้งหลีกเลี่ยงอาหาร รสเค็มจัด เนื่องจากมีส่วนประกอบของโซเดียมสูง ทำให้ความดันโลหิตสูง มีผลทำให้ไตเสื่อมเร็วขึ้น ส่วนอาหารที่มีโซเดียมสูงก็ต้องระวังไม่ว่าจะเป็นซอสปรุงรสต่างๆ ผงชูรส อาหารกระป๋อง อาหารหมักดอง อาหารสำเร็จรูป เป็นต้น

ที่ลืมไม่ได้นอกจากอาหารการกินที่มีประโยชน์ โดยทานอาหารให้ครบทั้ง 5 หมู่แล้ว ยังต้องทานอาหารมื้อหลัก 3 มื้อให้เป็นเวลาสม่ำเสมอทุกวัน ห้ามงดอาหารมื้อใดมื้อหนึ่ง เพราะเมื่อหิวจัดจะทำให้ทานเกินอัตราในมื้อถัดไป ระดับน้ำตาลในเลือดจึงยิ่งพุ่งและควบคุมยาก อย่ากินเพลินเพราะความอร่อย เมื่อเริ่มรู้สึกอิ่มควรหยุดทันที

นอกจากนี้ควรออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ฝึกนั่งสมาธิ เพื่อให้รู้จักปล่อยวางความทุกข์ คิดว่าโรคนี้ไม่ใช่ปัญหา เราจึงต้องอยู่กับมันอย่างมีความสุข หันมาสร้างกำลังใจ และมองไปรอบๆ ตัวโดยเฉพาะคนที่เรารักและคนที่รักเรา แล้วเราจะมีกำลังใจต่อสู้กับโรคนี้ได้อย่างเข้มแข็ง (หน้าพิเศษ Hospital Healthcare)

ไม่มีความคิดเห็น: