5 มิ.ย. 2554

ตัน – โน้ต ความลงตัวของคนรวยอยากดัง กับคนดังอยากรวยมาเจอกัน (ตอนที่ 1)

ก่อนเขียนบทความซีรี่ย์วิเคราะห์เรื่องนี้ ผมขอเปิดใจกับผู้อ่านทุกคนก่อนว่า ผมคิดในมุมมองของธุรกิจ การตลาด ความต้องการของมนุษย์ และความจริงใจต่อเพื่อนมนุษย์ คุณตัน และคุณโน้ตเป็นบุคคลสาธารณะ เป็นแรงบันดาลใจให้กับคนหลายๆคน ย่อมจะถูกวิพากษ์วิจารณ์ได้ทุกที่ ไม่ว่าจะเป็นในโต๊ะอาหาร ในบ้าน ในออฟฟิศ เพียงคำพูดเหล่านั้นจะถูกเปิดเผยในที่สาธาณะหรือเปล่าก็แค่นั้นเอง

เมื่อผมเป็นคนวิพากษ์วิจารณ์พวกเขา ก็ต้องรับผิดชอบกับสิ่งที่ตัวเองจะเขียนลงทั้งหมดต่อไปนี้ด้วย ดังนั้นทุกคอมเม้นต์ ทุกความคิดเห็น ไม่ว่าจะเป็นทางบวกหรือลบก็จะไม่มีการลบใดๆทั้งสิ้น แต่อาจจะเข้ามาตอบเพื่อชี้แจงเป็นบางข้อ

ทำไมคนถึงยกย่องคุณตันให้เป็นแรงบันดาลใจในการดำเนินชีวิต และทำธุรกิจ
ถ้าถามถึงมหาเศรษฐีที่สร้างตัวจากศูนย์จนรวยมีเงินสดระดับพันล้าน ในรอบ20ปีที่ผ่านมา ผมคิดว่าคงจะมีแค่คุณตันคนเดียวเท่านั้น เริ่มจากไม่มีอะไร และใช้ความ “ใจสู้” ไม่ยอมแพ้กับวิกฤตในชีวิต และจากประวัติที่เขาเขียนไว้ในหนังสือ และtalk showมาแล้วมากมาย สิ่งที่ทำให้เขามีทุกวันนี้ได้เพราะประสบการณ์ที่ “เคยล้ม” มาก่อน ซึ่งมันตรงใจกับคนสมัยปัจจุบันที่อยากจะรวย หรือประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน เพียงแต่ไม่อาจหาหนทางของตัวเองได้ชัดเจน เพราะต้องปัจจัยรอบตัวมีเต็มไปหมดในการที่ทำให้คนเราไปถึงจุดหมายปลายทาง เช่น ครอบครัว การศึกษา เจ้านาย บริษัทที่ทำงาน สายธุรกิจที่ทำ เพื่อนฝูง ทำเลที่ตั้ง ฯลฯ

คุณตันจึงเป็นเหมือนต้นแบบ เป็นแนวทางไว้ให้คนที่คิดจะเริ่มทำอะไรจากศูนย์ได้เริ่มก้าวเดินไป เป็นกำลังใจให้ในยามท้อแท้ หนทางมืดมน เพราะเส้นทางความสำเร็จของคุณตันในวันนี้ผ่านจากการสะสมประสบการณ์ทำงานตั้งแต่อายุ 17 ปี

ถ้าถามว่าเศรษฐีรุ่นใหม่ รวยเป็นพันล้านก็มีเยอะแยะ ทำไมคุณตันต้องเป็นคนที่โดดเด่นที่สุด
ถ้าเป็นความคิดเห็นส่วนตัว ผมเชื่อว่าเพราะคุณตันสร้างตัวมากจากน้ำพักน้ำแรงของตัวเองอย่างแท้จริง “รูปไม่หล่อ พ่อไม่รวย เรียนไม่เก่ง” คือคำที่คุณตันใช้อธิบายตัวเองในวัยเด็กทุกครั้งที่ได้ออกสื่อ

ไม่น่าแปลกใจที่ประโยคดังกล่าวมันจะโดนใจหลายๆคน ที่เป็นคนธรรมดา บ้านไม่รวย หน้าหน้าก็ไม่ดี เรียนก็เรียนไม่เก่ง แต่คนอย่างคุณตันก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าสามารถประสบความสำเร็จได้ แถมยังมีเมียสวยอีกด้วย

ในยุคหลังวิกฤตปี 2540 อาจจะมีเศรษฐีร้อยล้าน พันล้านเกิดใหม่มากมาย แต่ถ้าย้อนดูประวัติแล้วก็จะพบว่า ต้องมีบางอย่างที่ต้นทุนพิเศษ ที่ต่างกับคุณตัน เช่น เป็นทายาทธุรกิจขนาดใหญ่, มีมรดกเก่าหรือทุนให้เริ่มต้นธุรกิจ , มีญาติเป็นนักการเมือง, พ่อแม่เป็นผู้บริหารบริษัทยักษ์ใหญ, มีการศึกษาในสถาบันชั้นนำมาตั้งแต่เด็ก, เป็นเพื่อนกับลูกเจ้าของธุรกิจใหญ่ๆ หรือที่เขาเรียกว่าไฮโซ หรือมีความสามารถความเชี่ยวชาญเฉพาะทางแบบกูรูฯลฯ

ผมพูดถึงคนที่สร้างตัวเองจากศูนย์ในยุค20ปีที่ผ่านมา ที่มีเงินสดเป็นระดับ “หนึ่งพันล้านบาท”ขึ้นไป มีไม่เยอะนะครับ ส่วนใหญ่จะเป็นความรวยจากมูลค่าของทรัพย์สิน เช่น เป็นเจ้าของที่ดินในทำเลทองที่มีราคาประเมินสูงลิ่ว เป็นมูลค่าของโรงงานและเครื่องจักรอันทันสมัย เป็นเจ้าของตึกออฟฟิศ เป็นธุรกิจที่มียอดขายระดับพันล้านขึ้นไปต่อปี ซึ่งหาใช่เงินสดในมือ บางทีธุรกิจอาจจะใหญ่โต แต่ว่าก็เป็นเงินหมุนเวียนจากการค้าขาย กู้จากธนาคารบ้าง อยู่ในหุ้นที่ได้มาเป็นมรดกบ้าง ซึ่งคนที่มีทรัพย์สินแบบนี้มีอยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งวัดฝีมือในธุรกิจได้ยาก ต่างจากทรัพย์สินที่เป็นเงินสดที่วัดกันได้ชัดเจนกว่า เพราะคนขับโตโยต้าอาจจะมีเงินสดเยอะ คนขับเบนซ์อาจจะเป็นหนี้บานก็ได้ แต่ก็อย่างว่าครับ คนสมัยนี้ชอบมองกันที่เปลือกครับ ลืมคิดไปว่าเงินสดนี่คือของจริงครับ ผมหมายรวมถึงทรัพย์สินอื่นๆที่เปลี่ยนสภาพเป็นเงินสดได้อย่างรวดเร็วอีกด้วย (ที่เรียกว่าสภาพคล่องสูง) เช่นทองคำ หุ้นที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เป็นต้น

ตอนเริ่มต้นคุณตัน ไม่มีอะไรเหนือกว่าคนทั่วไปในสังคมตอนนี้เลย ไม่มีทั้งเงินทุน ไม่มีใบปริญญาบัตร แต่ที่ก้าวมาได้ไกลขนาดนี้เพราะ “ใจ” ล้วนๆ ทั้งใจสู้ ใจถึง และการตัดสินใจที่เฉียบขาด รวดเร็ว และรักษาความสมถะเสมอต้นเสมอปลายมาตลอด

ในเรื่องความร่ำรวยนั้น คุณตันมีเหลือเฟือแล้ว ความมีชื่อเสียงก็ถือว่าพอตัว น่าจะมีคนไทยรู้จักหน้าค่าตาคุณตันมากกว่าดาราบางคนด้วยซ้ำไป แต่อะไรที่ทำให้คุณตันเปลี่ยนไป สร้างตัวเองเป็นแบรนด์อีกแบรนด์หนึ่ง ผสมลงตัวกับโน้ต อุดมได้อย่างลงตัว ต้องค่อยๆติดตามกันไปครับ





ที่มา www.blogger.com โดย assuming

ไม่มีความคิดเห็น: