16 มิ.ย. 2552

สตรีผู้ทรงอิทธิพลปี 2009

จากผลโหวตทางอินเทอร์เน็ตจากประชาชนทั่วโลก นิตยสารไทม์ นิตยสารข่าวรายสัปดาห์ในสหรัฐอเมริกาประกาศผลการจัดอันดับ 100 บุคคลผู้ทรงอิทธิพลของโลกประจำปี 2009 พร้อมเชิญบุคคลที่ ได้รับการโหวตให้ติดโผร่วมเฉลิมฉลองในงานเลี้ยงสุดหรู “ไทม์ 100 กาล่า” ณ ไทม์ วอร์เนอร์ เซ็นเตอร์ ซึ่ง มิเชล โอบามา ภริยา บารัค โอบามา ประธานาธิบดี ผู้อยู่ในสถานะสตรีหมายเลขหนึ่งแห่งสหรัฐอเมริกา เดินทางร่วมงาน ในฐานะผู้ทรงอิทธิพลในลำดับที่ 86 โดยได้รับการโหวตให้ติดอันดับเป็นปีแรก ด้วยผลโหวต 539,363 คะแนน

แม้ มิเชล โอบามา ไม่ใช่ผู้หญิงที่ได้รับคะแนนโหวตสูงสุดในการจัดอันดับประจำปีนี้ ทว่าด้วยความโดดเด่นในทุกบทบาทดำรงสถานภาพในขณะนี้ จึงเป็นที่จับตาเกือบทุกย่างก้าวที่ออกสู่สาธารณชน โดยนิตยสารไทม์คัดเลือกให้ โอปราห์ วินฟรีย์ ได้รับการยกย่องให้เป็นเจ้าแม่สื่อระดับโลก บุคคลหนึ่งเดียวของโลก ที่ได้รับการโหวตติดอันดับ ผู้ทรงอิทธิพลมากที่สุดถึง 7 ครั้ง เป็นตัวแทนถ่ายทอดความรู้สึกที่มีต่อสตรีหมายเลขหนึ่งแห่งสหรัฐอเมริกา

โอปราห์ วินฟรีย์ พิธีกรโทรทัศน์หญิงผิวสี ผู้ทรงอิทธิพลในลำดับที่ 98 ประจำปีนี้ กล่าวถึงภริยาประธานาธิบดีสหรัฐผิวสีว่า นับเป็นเรื่องโชคดีที่สหรัฐอเมริกามีสตรีหมายเลขหนึ่งผู้รวมไว้ซึ่งความมีชีวิตชีวาและความมั่นใจ เป็น ผู้หญิงมหัศจรรย์ อย่างแท้จริง

พิธีกรหญิงผิวสีผู้ทรงอิทธิพล กล่าวว่ามิเชล โอบามาที่ตนมีโอกาสได้พบเมื่อ 5 ปีก่อน เป็นผู้หญิงที่งาม สง่า เอาใจใส่และสนใจในรายละเอียด กระทั่งเมื่อเดือน ก.พ. ที่ผ่านมา เมื่อมีโอกาสได้พบอีกครั้งที่ทำเนียบขาว มิเชล ยังคงเป็นผู้หญิงคนเดิม การแสดงออกของเธอทำให้ผู้คนรู้สึกว่าได้รับการ

“พลังอำนาจในทางการเมืองของเธอยังเป็นรองพลังอำนาจแห่ง หัวใจของมิเชล และฉันก็นับถือในพลังหัวใจของเธอ ฉันไว้ใจมิเชล ฉันรู้ว่า ไม่ว่าเธอจะให้ความสนใจในการทำอะไร สิ่งที่แสดงออกมาจะต้องเป็นความจริงเสมอ มิเชลจะไม่ทำในสิ่งที่ผิด”

ทั้งนี้ โอปราห์ ยกย่องว่า มิเชล โอบามา ไม่ได้เป็นเพียงแค่แรงบันดาลใจสำหรับทุกคนเท่านั้น แต่ยืนยันให้ทุกคนเห็นตัวตนของเธอจากความฉลาดปราดเปรื่อง ความน่าเชื่อถือ ความลุ่มลึก ตลอดจนความเห็นอกเห็นใจ ทุกคนเห็นสิ่งที่ดีที่สุดในตัวเราได้ในตัวเธอ และน่าเหลือเชื่อมากที่ไม่ว่าจะเธอจะทำอะไร มิเชลจะนำพาความเป็นตัวของตัวเองลงไปทำสิ่งนั้นอย่างเต็มเปี่ยม

โอปราห์ มองสตรีหมายเลขหนึ่งของชาวอเมริกันชนในวัย 45 ปี ว่า มิเชลผู้มีความสุขได้ถ่ายทอดความเบิกบานของเธอเข้าสู่บทบาทการเป็นทั้งแม่หมายเลขหนึ่งและสตรีหมายเลขหนึ่ง ซึ่งทำให้ดูร่าเริง เราต่างต้องการความสุขเช่นนั้นในบทบาทต่าง ๆ ที่ได้รับ ไม่ว่าในฐานะของแม่ ภรรยา คนทำงาน ลูกสาวหรือเพื่อน และในระหว่างที่เราชื่นชมแขนทั้งสองข้างที่ดูกระชับของมิเชลพร้อม ๆ กับปรบมือให้เธอในรสนิยมการเลือกเครื่องแต่งกาย

“ทว่า อิทธิพลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของมิเชลคือ เธอทำให้เราอยากจะเป็น ตัวเองให้ดีที่สุด และบางทีก็อยากทำให้เราหันมาออกกำลังด้วยการยกน้ำหนักดูบ้าง

ในการจัดอันดับ 100 บุคคลผู้ทรงอิทธิพลของโลกประจำปี 2009 มีสตรีคนดังจากหลากหลายวงการได้รับการโหวต อาทิ อังเกลา เมอร์เคลนายกรัฐมนตรีหญิงแห่งเยอรมนีวัย 54 ปี ซึ่งมีชื่อติดโผเป็น ครั้งที่ 3 แองเกลา เคยได้รับการโหวตในปี 2006 และ 2007 และใน ปี 2009 เป็นสตรีที่ได้รับการโหวตให้ติดอันดับสูงที่สุด ในอันดับที่ 8 ด้วยคะแนนโหวตท่วมท้นกว่า 1,634,488 คะแนน, อันดับ 47 ออง ซาน ซูจี เจ้าของรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ จากการต่อสู้โดยสันติวิธีในการเรียกร้องประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชนในประเทศพม่า ได้รับการโหวตติดอันดับเป็นครั้งที่ 2, อันดับ 53 แนนซี เพโลซี ประธานสภาหญิงคนแรกของสหรัฐอเมริกา, อันดับ 54 ฮิลลารี คลินตัน รมว.กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งได้รับ การโหวตให้ติดอันดับมากถึง 5 ครั้ง, อันดับ 63 นางโซเนีย คานธี หัวหน้าพรรคคองเกรสในอินเดีย ติดโผโหวตเป็นครั้งที่ 2 และอันดับ 81 ซาราห์ พาลิน ผู้ว่าการรัฐอะแลสกา สหรัฐอเมริกา ฯลฯ

ไม่มีความคิดเห็น: