15 พ.ค. 2551

วิตามิน บี 2

วิตามินบี 2 หรือ Riboflavin เป็นวิตามินที่ละลายในน้ำ ทนต่อกรด อากาศ และความร้อน แต่จะสลายตัวได้เร็วในด่างและแสงแดด

วิตามินบี 2 มีความจำเป็นต่อการหายใจของเซลล์ ช่วยในการเผาผลาญอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรตและไขมันให้เป็นพลังงาน ช่วยให้ร่างกายเจริญเติบโต รักษาสุขภาพของผิวหนังและระบบประสาท บำรุงสายตา และช่วยให้เม็ดเลือดแดงคงสภาพ

แหล่งที่พบ

พบได้ในอาหารจำพวก นม เนย ไข่ ยีสต์ เนื้อสัตว์ ตับ ผักสีเขียว และแหล่งที่พบวิตามินบี 1 โดยนมจะมีปริมาณวิตามินบี 2 มากกว่าวิตามินบี 1 ถึง 4 เท่า

ปริมาณที่แนะนำ

ค่า RDA สำหรับเด็กอายุ 0-6 เดือน ประมาณ 0.3 มิลลิกรัมต่อวัน เด็กอายุ 7-12 เดือน ประมาณ 0.4 มิลลิกรัมต่อวัน เด็กอายุ 1-3 ปี ประมาณ 0.5 มิลลิกรัมต่อวัน เด็กอายุ 4-8 ปี ประมาณ 0.6 มิลลิกรัมต่อวัน เด็กอายุ 9-13 ปี ประมาณ 0.9 มิลลิกรัมต่อวัน

สำหรับวัยรุ่นหญิงอายุ 14-18 ปี ประมาณ 1.0 มิลลิกรัมต่อวัน วัยรุ่นชายอายุ 14-18 ปี ประมาณ 1.3 มิลลิกรัมต่อวัน ผู้ใหญ่เพศหญิงอายุมากกว่า 18 ปี ประมาณ 1.1 มิลลิกรัมต่อวัน ผู้ใหญ่เพศชายอายุมากกว่า 18 ปี ประมาณ 1.3 มิลลิกรัมต่อวัน หญิงตั้งครรภ์ ประมาณ 1.4 มิลลิกรัมต่อวัน และหญิงให้นมบุตร ประมาณ 1.6 มิลลิกรัมต่อวัน

ผลของการขาดวิตามินบี 2

คนกลุ่มที่อาจจะขาดวิตามินบี 2 ได้แก่ ผู้สูงอายุ ผู้ที่เจ็บป่วยเรื้อรัง คนยากจน และผู้ที่ติดสุรา

เมื่อร่างกายขาดวิตามินบี 2 จะมีอาการแสดงทางตา ริมฝีปาก ลิ้น และผิวหนัง เริ่มด้วยริมฝีปากอักเสบ แห้งและแตก มุมปากจะซีด แตก เรียกลักษณะดังกล่าวว่า ปากนกกระจอก ลิ้นจะมีสีแดงปนม่วง เมื่อเป็นมากขึ้นจะมีอาการทางผิวหนัง ผิวหนังจะตกสะเก็ด รวมทั้งผมแห้งและร่วง ต่อมาจะมีอาการอักเสบของตา มีน้ำตามาก ตาสู้แสงไม่ได้ คันตา และแสบตา

ผลของการได้รับมากเกินไป

โดยทั่วไปแล้ว การได้รับวิตามินบี 2 ในปริมาณที่สูงกว่าค่า RDA มักไม่พบความเป็นพิษ อย่างไรก็ตาม อาจมีปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นได้จากการได้รับวิตามินบี 2 ในปริมาณที่สูงมากๆ ได้แก่ โรคหิด หมดสติ รู้สึกแสบร้อน และปัสสาวะมีสีเหลือง

สารหรืออาหารเสริมฤทธิ์ ได้แก่ วิตามินบีรวม วิตามินบี 6 วิตามินบี 5 วิตามินบี 3 วิตามินซี

สารหรืออาหารต้านฤทธิ์ ได้แก่ สุรา ยาปฏิชีวนะ ยาคุมกำเนิดชนิดรับประทาน

ไม่มีความคิดเห็น: