15 ธ.ค. 2554

เมลาโทนิน เพื่อการนอน

หลังจากซัดข้าวเหนียวส้มตำแล้วตบท้ายด้วยข้าวเหนียวมะม่วง เคยมั้ยที่จะรู้สึกง่วง!!


หลังจากซัดข้าวเหนียวส้มตำแล้วตบท้ายด้วยข้าวเหนียวมะม่วง เคยมั้ยที่จะรู้สึกง่วงง่วง ในแบบที่เปลือกตาอยากจะปิดลงให้สนิทแล้วต้องเอนตัวลงนอน


สำหรับอาการข้างต้น ที่หลายคนเป็นกันประจำ ต้องบอกเลยว่า ไม่ใช่เพราะความขี้เกียดในยามบ่ายหรืออย่างไร แต่นั่นอาจเป็นผลข้างเคียงจากกรดอะมิโน ชื่อทริปโตเฟน ที่จะช่วยให้ร่างกายของคุณหลั่งฮอร์โมน œเมลาโทนิน ฮอร์โมนตัวจี๊ดที่เราจะมาพูดถึงกันในฉบับนี้

เมลาโทนิน(Melatonin) หรือที่อาจจะรู้จักในชื่อทางเคมีคือ N-acetyl-5-methoxytryptamine เป็นฮอร์โมนธรรมชาติชนิดหนึ่งที่ถูกสร้างโดยต่อมไพนีลที่สมอง ซึ่งการหลั่งของฮอร์โมนชนิดนี้จะถูกกระตุ้นด้วยความมืดและถูกยับยั้งโดยแสง เมื่อการหลั่งของเมลาโทนินเพิ่มขึ้น คนเราจะมีความรู้สึกตื่นตัวลดลงหรือเฉื่อยชาลง รวมถึงอุณหภูมิของร่างกายก็เริ่มลดต่ำลง ทำให้เหมาะสำหรับการนอน

อย่างไรก็ตาม ระดับเมลาโทนินจะลดลงอย่างรวดเร็วในช่วงเช้ามืดของวันใหม่ โดยระดับของเมลาโทนินก็จะต่ำมากในระหว่างวัน และเพิ่มขึ้นสูงสุดในเวลาประมาณตีสอง ซึ่งเด็กๆ ที่มีสุขภาพดีทั่วไปจะเพิ่มขึ้นสูงสุดเมื่อเวลาราวๆ ตีสามในผู้ที่สูงอายุ และที่สำคัญคุณควรรู้ไว้ว่า ปริมาณการผลิตเมลาโทนินของร่างกายยังสามารถลดลงเมื่ออายุมากขึ้น ซึ่งก็เป็นอีกคำตอบหนึ่งที่นักวิทยาศาสตร์เชื่อกันว่า นี่คืออีกสาเหตุที่ทำให้ผู้สูงอายุต้องเผชิญกับปัญหารนอนไม่หลับมากกว่าหนุ่มสาว

สิ่งดีๆ

- เสริมความแข็งแรงของอวัยวะสืบพันธุ์ โดยเชื่อว่า เมลาโทนินสามารถควบคุมการทำงานของอวัยวะสืบพันธุ์ด้วยการยับยั้งการหลั่งฮอร์โมนเพศ

- ช่วยในเรื่องของการนอนหลับ เช่น เมื่อเดินทางจากไทยไปประเทศสหรัฐฯ ที่เวลาห่างกันประมาณ 12 ชั่วโมง อาจทำให้เวลากลางวันและกลางคืนกลับกัน จนทำให้นอนไม่หลับ อ่อนเพลีย ปวดศีรษะ แต่ถ้าได้รับฮอร์โมนเมลาโทนินจะทำให้ปัญหาเหล่านี้หายไปหรือน้อยลง

- มีผลต่อฮอร์โมนต้านความเครียด เพราะจะทำให้สมองทำงานได้ดี ไม่เครียด ไม่วิตกกังวล

- เป็นตัวชะลอความแก่ โดยเมลาโทนินจะป้องกันไม่ให้เซลล์ในร่างกายถูกทำลายจากสารอนุมูลอิสระ ซึ่งมักทำปฏิกิริยาเป็นลูกโซ่และเข้าไปทำลายเซลล์อื่นๆ จนเกิดโรคเรื้อรัง เช่น มะเร็ง หลอดเลือดหัวใจขาดเลือด ซึ่งถ้ามีอนุมูลอิสระที่เกิดจากกระบวนการเมแทบอลิซึมมากๆ ก็จะทำอันตรายต่อเนื้อเยื่อต่างๆ ต่อเยื่อบุผิวเซลล์ จนทำให้เซลทั้งหลายชราภาพ แต่เจ้าเมลาโทนินนี่แหละที่จะไปจับหรือกำจัดอนุมูลอิสระเหล่านี้ได้ดี แถมยังปกป้องเซลล์จากการทำลายของไขมันในเยื่อหุ้มเซลล์ได้อีกด้วย

หาได้จาก?

เมื่อฟ้าเริ่มสางและเข้าสู่ยามราตรี ร่างกายของคุณจะสั่งการให้ต่อมไพเนียลหลั่งฮอร์โมนเมลาโทนิน ดังนั้น ถ้าอยากจะให้ร่างกายแข็งแรงโดยเมลาโทนินมาแบบเต็มพิกัด การนอนในตอนค่ำคืนและไม่โผล่ไปตระเวนราตรีจะเป็นสิ่งสำคัญที่สุด

แต่ถ้าคุณต้องการรับเมลาโทนินจากการรับประทานอาหารก็ควรรู้ไว้สักหน่อยว่า เมลาโทนินสามารถสังเคราะห์จากกรดอะมิโนชื่อทริปโตเฟน ซึ่งเจ้าทริปโตเฟนจะพบมากใน นม โยเกิร์ต ไข่ งา เมล็ดดอกทานตะวัน เมล็ดฟักทอง สาหร่ายเกลียวทอง ถั่วลิสง เนยถั่วลิสง เต้าหู้ ถั่วเหลือง ไก่งวง เนยแข็ง เนื้อปลาแซลมอน ช็อคโกแลต กล้วย ลูกพรุน และข้าวเหนียว ซึ่งถ้าวันใดรับประทานข้าวเหนียวส้มตำเป็นมื้อใหญ่ ก็อาจทำให้เกิดความง่วงได้ไม่ยาก

นอกจากนี้ เจ้าสารเมลาโทนินยังมีขายกันให้เกลื่อนในสหรัฐฯ เพราะถือเป็นหนึ่งในอาหารเสริม แต่สำหรับบ้านเราสารตัวดังกล่าวยังจัดว่าเป็น ผลิตภัณฑ์ทางยา ซึ่งอาจต้องมีใบสั่งจากแพทย์จึงจะซื้อได้ ดังนั้น การจะเลือกกินเลือกซื้ออาจต้องทำความเข้าใจให้ถ่องแท้ โดยคุณไม่ควรทานเมลาโทนินเป็นประจำทุกวัน และควรทานเฉพาะวันที่มีปัญหาเรื่องการนอนเท่านั้น แต่กรณีที่นอนไม่หลับหรือคนแก่สุขภาพดีที่นอนไม่ค่อยหลับ ขนาดที่แนะนำต่อวันคือ วันละ 1-3 มิลลิกรัม

ส่วนเรื่องของความปลอดภัย ถ้าจำเป็นต้องใช้ในระยะยาว มีการรายงานว่า เมลาโทนินไม่มีฤทธิ์เปลี่ยนแปลงพันธุกรรมก่อให้เกิดมะเร็ง และพิษต่อหนู กระต่าย แมว และสุนัข แม้จะใช้มากถึง 800 มก./กก. ส่วนในคนนั้น ไม่พบอาการข้างเคียงในการใช้เมลาโทนินขนาด 1-300 มก. และไม่พบอาการข้างเคียงที่ร้ายแรงหากใช้สูงถึง 1 กรัมในเวลา 1 เดือน

งานนี้ ได้กระเทาะเปลือกเมลาโทนินกันพอหอมปากหอมคอไปแล้ว ถ้าจะเลือกบริโภคก็ควรศึกษาให้เข้าใจกันเสียก่อน แต่ก็อย่าลืมอีกวิธีหนึ่งที่รับรองเลยว่า ไม่มีผลข้างเคียง แถมไม่ต้องกลัวโอเวอร์โดสจากการใช้ยาก็คือ ทำจิตใจให้แจ่มใส เลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ พร้อมทั้งหมั่นออกกำลังกายอย่างเป็นประจำ เพียงเท่านี้สารอาหารตัวใดก็ไม่ต้องเสนอหน้ามาเยือนบ้านคุณอีกต่อไป



ลิขสิทธิ์บทความของ e-magazine.info



ไม่มีความคิดเห็น: