18 ธ.ค. 2554

ติดเชื้อรา

ปกติเราทุกคนมีเชื้อยีสต์ชื่อแคนดิดา อัลบิแคนส์ (Candida albicans)


ปกติเราทุกคนมีเชื้อยีสต์ชื่อแคนดิดา อัลบิแคนส์ (Candida albicans) อาศัยอยู่เล็กน้อยบนผิวหนังส่วนต่างๆ ที่มีความชื้น โดยไม่ก่อให้เกิดโรค แต่ถ้ามีปัจจัยกระตุ้นให้เชื้อยีสต์เพิ่มจำนวน เช่น ยาปฏิชีวนะ ซึ่งมีฤทธิ์ฆ่าแบคทีเรียเป็นมิตรที่ควบคุมปริมาณยีสต์ในร่างกาย ก็อาจทำให้เกิดโรคจากการติดเชื้อรา ผู้หญิงส่วนใหญ่มักเคยมีอาการติดเชื้อยีสต์ในช่องคลอดสักครั้ง และอาจแพร่เชื้อให้กับคู่นอนของตน ส่วนใหญ่จะทำให้มีอาการคัน มีผื่นแดง ตกขาวเหนียวข้น ถ้าผู้ชายติดเชื้อยีสต์ ปลายอวัยวะเพศและหนังหุ้มจะอักเสบและแดง ควรงดมีเพศสัมพันธ์จนกว่าจะหายจากการติดเชื้อ



รับมือกับเชื้อยีสต์



- หากติดเชื้อยีสต์ที่ช่องคลอด ให้สวนล้างด้วยน้ำส้มสายชู 2 ช้อนโต๊ะผสมกับน้ำสะอาด 1 ลิตร วันละ 2 ครั้งติดต่อกัน 2 วันเนื่องจากเชื้อยีสต์ไม่ชอบความเป็นกรด วิธีนี้ใช้เมื่อมีการติดเชื้อยีสต์เท่านั้นและห้ามใช้เกิน 2 วัน เพราะอาจทำให้แบคทีเรียในช่องคลอดซึ่งทำหน้าที่ป้องกันการติดเชื้อลดจำนวนลง

- การติดเชื้อทั้งในผู้ชายและผู้หญิง รักษาหายได้ง่ายด้วยยาฆ่าเชื้อรา เช่น คาเนสเทน (Canesten) ซึ่งหาซื้อได้ที่ร้านขายยา หรืออาจใช้โยเกิร์ตรสธรรมชาติทาบรรเทาอาการปวดแสบ

รักษาด้วยกระเทียม



กิน กระเทียม 2-3 กลีบทุกวัน กระเทียมเป็นสมุนไพรที่ใช้กันมานานตั้งแต่ยุคโบราณ ใช้รักษาสารพัดโรคตั้งแต่ไข้หวัดจนถึงโรคติดเชื้อในลำไส้ และยังมีฤทธิ์ฆ่าเชื้อราอีกด้วย บดกระเทียมแล้วกินสดๆ เป็นวิธีที่ให้ประสิทธิภาพสูงที่สุด หากไม่คุ้นกับกลิ่นหรือรสชาติให้ลองผสมกับน้ำสลัดหรือคลุกรวมกับซอสราดพาสตา



รักษาด้วยโยเกิร์ต



โยเกิร์ตแบบธรรมชาติรสจืดซึ่งมีแบคทีเรีย แล็กโตบาซิลลัส อะซิโดฟิลัส (Lactobacillus acidophilus) ถ้ากินวันละ 1 ถ้วยทุกวัน พบว่าสามารถป้องกันการติดเชื้อยีสต์ในช่องคลอดและลำไส้ อย่างไรก็ตาม หากคุณไม่ได้ติดเชื้อยีสต์ แต่เป็นการติดเชื้อแบคทีเรีย การกินโยเกิร์ตอาจทำให้มีอาการแย่ลงกว่าเดิม



ป้องกันไว้ก่อนดีกว่า



- งดสวมกางเกงชั้นในนอน เชื้อยีสต์เติบโตได้ดีในที่อุ่นและชื้น การระบายอากาศที่ดีช่วยป้องกันการติดเชื้อ หากเป็นไปได้ควรงดใส่กางเกงชั้นในเป็นบางวัน หรือเลือกกางเกงชั้นในผ้าฝ้ายซึ่งระบายอากาศดีกว่าใยสังเคราะห์

- ไม่ควรสวมกางเกงชนิดรัดแน่น เพราะจะทำให้ระบายอากาศไม่ดี

- หลังว่ายน้ำอย่าสวมชุดว่ายน้ำเปียกค้างไว้ ให้รีบอาบน้ำและเปลี่ยนเป็นเสื้อผ้าแห้ง

- หลังอาบน้ำหรือว่ายน้ำ ควรใช้เครื่องเป่าผมเปิดลมเย็นเป่าบริเวณอวัยวะเพศด้านนอกให้แห้งสนิท

- ห้ามใช้สบู่หรือน้ำอุ่นทำความสะอาดบริเวณอวัยวะเพศ เพราะอาจทำลายแบคทีเรียมีประโยชน์ซึ่งคอยควบคุมปริมาณเชื้อยีสต์

- ไม่ควรใช้ผ้าอนามัยแบบสอดหรือผ้าอนามัยที่ผสมน้ำหอม และไม่ควรใช้น้ำยาดับกลิ่นกายหรือน้ำยาสวนล้างช่องคลอดชนิดมีกลิ่นหอมด้วย

- ไม่ควรใช้แป้งฝุ่นหอม เพราะอาจระคายเคืองผิวหนังและทำให้ติดเชื้อยีสต์ได้ง่าย

- หลังมีเพศสัมพันธ์ควรปัสสาวะทุกครั้ง เยื่อบุช่องคลอดมีสภาพเป็นกรดเล็กน้อย แต่น้ำอสุจิมีสภาพเป็นด่างซึ่งเชื้อยีสต์เติบโตได้ดี การปัสสาวะทำให้บริเวณนี้มีความเป็นกรดเพิ่มขึ้น



ไม่มีความคิดเห็น: