11 ต.ค. 2552

การรักษาโรคผิวหนังอักเสบจากภูมิแพ้

โรคภูมิแพ้ทางผิวหนัง เป็นโรคที่มีผิวหนังอักเสบเรื้อรังเป็น ๆ หาย ๆ ในเด็กทารกมักเป็นผื่นคันที่แก้ม รอบปาก หนังศีรษะ ซอกคอ เด็กที่โตขึ้นจะมีผื่นตามข้อพับ แขนขา หรือบริเวณที่มีการเสียดสีบ่อย ๆ เช่น ข้อศอก เข่า อาการที่สำคัญคือ “คันมาก” ผื่นจะกำเริบมากขึ้นเมื่อผิวแห้ง หรือมีเหงื่อออกมาก ยุงกัด อาการคันทำให้ผู้ป่วยเกา ส่งเสริมให้ผื่นลามกว้างขึ้น และอาจมีการติดเชื้อแทรกซ้อนด้วย

วิธีการรักษา

1. ทำให้ผิวหนังชุ่มชื้น
ไม่ควรอาบน้ำอุ่นจัด หรืออาบน้ำบ่อยเกินไป
ไม่ควรฟอกสบู่บ่อย ๆ โดยเข้าใจผิดคิดว่าอาการคัน เกิดจากความสกปรกของผิวหนัง การถูสบู่มาก ๆ ทำให้ผิวระคาย และแห้ง กลับทำให้เป็นผื่นมากขึ้นอีก สบู่ที่เลือกใช้ไม่ควรเป็นกรดหรือด่างจนเกินไป ไม่มีสี หรือน้ำหอมเจือปน

ใช้สารเคลือบผิว (Emollients) ผสมน้ำแช่อาบ หรือ ทาผิวหนังทันทีหลังอาบน้ำ และใช้ครีม Moisturizer หรือ โลชั่นทาเพิ่มความชุ่มชื้นของผิวหนังบ่อย ๆ

2. ลดอาการคัน เพื่อลดการเกาซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้มีผื่นลุกลามขึ้น
อย่าใช้เสื้อผ้าที่ระคายง่าย อับร้อน ควรใส่เสื้อผ้าหลวม ๆ และควรซักล้างผงซักฟอกและน้ำยาปรับผ้านุ่มออกให้หมด

ควรอยู่ในสภาพแวดล้อมอากาศที่สบาย ไม่ร้อนหรือหนาวจนเกินไป
ไม่ควรใช้น้ำหอม สเปรย์ และหลีกเลี่ยงขนสัตว์ ฝุ่น ควันบุหรี่
อย่าออกกำลังกายมากขณะที่มีผื่นกำเริบ เพราะจะทำให้เหงื่อออกมากและคัน
ลดการเกา โดยตัดเล็บให้สั้น ตะไบเล็บอย่าให้คม ในเด็กเล็ก อาจสวมถุงมือให้เวลานอน เพื่อไม่ให้เกาเวลาหลับ

3. กรณีที่แพทย์วินิจฉัยว่าแพ้สารอะไร ควรพยายามหลีกเลี่ยงสารนั้น และถ้ามีโรคภูมิแพ้อย่างอื่นร่วมด้วย เช่น หืด, โรคภูมิแพ้ทางจมูก ก็จะให้การรักษาไปพร้อม ๆ กัน

4. การใช้ยา แพทย์อาจจะให้ยากินเพื่อลดอาการคัน ยาทาลดอาการอักเสบของผิวหนัง หรือยาปฏิชีวนะเพื่อรักษาโรคติดเชื้อที่แทรกซ้อน เนื่องจากโรคนี้เป็นโรคที่อาจมีอาการเรื้อรังนานเป็นปี แต่สามารถทำให้อาการดีขึ้นได้ ถ้าท่านได้ปฏิบัติตัวตามคำแนะนำนั้น ผู้ป่วยมากกว่าครึ่งจะหายจากโรคนี้ได้เมื่อโตขึ้น หลังอายุ 3 –

5 ปี ผู้ป่วยและพ่อแม่จึงไม่ควรจะท้อถอยหมดกำลังใจ ถ้ามีข้อสงสัยควรปรึกษาแพทย์

ไม่มีความคิดเห็น: