15 พ.ย. 2553

ปลากับโอเมกา-3 ช่วยเหงือกดี

โรคเหงือกอักเสบเรื้อรังที่เป็นมาก และพบบ่อย (advanced gum disease) ได้แก่ ปริทนต์อักเสบ หรือเนื้อเยื่อรอบโคนฟันอักเสบ (periodontitis)
.
เนื้อเยื่อรอบโคนฟันประกอบด้วยเหงือก และเนื้อเยื่อเกี่ยวพันที่รองรับโคนฟัน และยึดโยง (ทำหน้าที่คล้ายสลิงยึดเสาวิทยุ) ทำให้ฟันไม่สั่นคลอนง่าย และไม่หลุดง่าย

.
โรคเนื้อเยื่อรอบโคนฟันอักเสบเรื้อรังจะทำให้เคลือบฟันส่วนนอกสึกกร่อน และเยื่อยึดโยงโคนฟันถูกทำลาย
อ.ดร.เคนเนต เจ. มูคามาล จากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด บอสตัน สหรัฐฯ ทำการศึกษาในกลุ่มตัวอย่างผู้ใหญ่มากกว่า 9,000 ราย
.
ผลการศึกษาพบว่า กลุ่มตัวอย่างที่กินอาหารที่มีโอเมกา-3 หรือน้ำมันชนิดดีพิเศษ พบในปลาที่ไม่ผ่านการทอด ปลาทะเลมีน้ำมันชนิดนี้มากกว่าปลาน้ำจืด
.
กลุ่มตัวอย่างที่ได้รับน้ำมันชนิดดีพิเศษจากปลาทะเล (DHA) มีโรคเหงือกอักเสบลดลง 22%
.
กลไกที่เป็นไปได้ คือ โอเมกา-3 หรือน้ำมันชนิดดีพิเศษที่พบมากในปลาทะเลไปช่วยลดการอักเสบ โดยตรวจเลือดพบสารก่อการอักเสบ (C-reactive protein) ลดลง
คณะวิจัยแนะนำว่า การกินปลาทะเลที่ไม่ผ่านการทอด 2 ครั้ง/สัปดาห์ น่าจะมีส่วนช่วยป้องกันโรคเหงือกอักเสบได้
.
การกินน้ำมันปลายังไม่มีการศึกษาที่สนับสนุนว่า ลดเหงือกอักเสบได้ดีเหมือนกับการกินปลาทะเล
วิธีป้องกันโรคเหงือกอักเสบ-ปริทนต์อักเสบที่สำคัญได้แก่ การแปรงฟันด้วยแปรงขนอ่อน (หรืออ่อนพิเศษ) ให้ถูกวิธี ใช้ยาสีฟันที่มีฟลูออไรด์ อย่างน้อย 2 ครั้ง/วัน หรือแปรงฟันหลังอาหารทุกมื้อ
.
ถ้ากินอาหารที่มีกรด เช่น สลัด (มีน้ำส้มสายชู), ผลไม้-น้ำผลไม้, น้ำอัดลม, เบียร์ เครื่องดื่มกระตุ้นกำลัง ฯลฯ, กินยาน้ำ (ยาน้ำส่วนใหญ่เติมน้ำตาล ส่วนน้อยแต่งรสด้วยกรดที่มีในผลไม้), หรือด่าง เช่น ยาลดกรด ฯลฯ ควรบ้วนปากหลังกินทันที
อาหารที่มีกรดหรือด่างจะทำให้เคลือบฟันของคนเราอ่อนลงประมาณ 30-60 นาที, ช่วงนี้ควรบ้วนปากบ่อยๆ หรือเคี้ยวหมากฝรั่งชนิดไม่มีน้ำตาล, รอ 30 นาทีค่อยบ้วนปาก เนื่องจากถ้าแปรงฟันในช่วงที่เคลือบฟันยังอ่อน จะทำให้ฟันสึกได้ง่าย
.
การใช้ไหมขัดฟันให้ถูกวิธี 1 ครั้ง/วัน ช่วยป้องกันโรคเหงือกอักเสบได้ดีมาก
ถึงตรงนี้... ขอให้ท่านผู้อ่านมีสุขภาพดีไปนานๆ ครับ

ไม่มีความคิดเห็น: