29 ม.ค. 2552

สุดยอดแห่งการรวบรวมความรู้รถยนต์ (5)

401.รถเกียร์อัตโนมัติกับการเบรกเพื่อจอดก็คล้ายกัน เบรกอย่างเดียวไม่ต้องยุ่งกับการลดเกียร์ใดๆ และก็ไม่ควรปลดเป็นเกียร์ว่าง เพราะนอกจากรถจะมีแรงเฉื่อยมากขึ้นแล้ว ยังไม่เป็นผลดีต่อเกียร์ หากรถยังไม่หยุดสนิทแล้วต้องผลักกลับมาที่เกียร์ D-เดินหน้า ชุดคลัตช์ในเกียร์จะทำงานหนักกว่าการออกตัวจากจุดหยุดนิ่ง การเบรกพร้อมกับการเปลี่ยนเลน หรือเปลี่ยนเลนเสร็จแล้วเบรกทันที อันตรายต่อท้ายรถของคุณ

402.การเดินทางขึ้นเขา เลือกใช้เกียร์ที่เหมาะสมกับระดับความเร็วและความชันความโค้งของเขาที่ไต่ขึ้น คอยสังเกตุป้ายระบุให้ใช้เกียร์ต่ำและกำหนดความเร็วที่ปลอดภัยที่ข้างทางอยู่เสมอถ้าไม่รีบร้อนหรือเพื่อให้ปลอดภัยที่สุดควรใช้ความเร็วตามที่ป้ายระบุหรือบวกไม่เกิน 10 ส่วนเกียร์ที่เหมาะสมในการขึ้นเขาคือเกียร์ที่สามารถรักษารวบเครื่องไว้ได้ระหว่าง 2800-3500รอบครับ ถ้ารอบเครื่องต่ำกว่า 2500รอบให้ลดเกียร์ต่ำลงโดยทันทีอย่ารอให้รอบตกมากกว่านั้นเพราะอาจจะทำให้เสียแรงส่งและอาจจะเกิดการลื่นไถลได้ ความเร็วที่เหมาะสมคือความเร็วที่เกียร์นั้นๆสามารถทำให้รถวิ่งได้ที่รอบเครื่อง 2500-3500รอบครับพยามอย่าให้รอบเครื่องสูงเกิน 3500รอบไปโดยการแช่ครับถ้าเกิน 3500รอบไปสามารถที่จะเปลี่ยนเกียร์สูงขึ้นได้ครับ

403. การลงเขา การลงเขาถือว่าอันตรายมากที่สุดเพราะการขึ้นเขานั้นอาศัยแค่กำลังรถเป็นตัวตั้งแต่สำหรับการลงเขาต้องอาศัยความพร้อมและสติของคนขับเป็นตัวตั้งและสมรรถนะของรถเป็นตัวรองลงมา การใช้เกียร์และความเร็ว ตอนลงก็ไม่ควรใช้เกียร์ที่สูงกว่าเกียร์3 หรือเกียร์อีโนมัติตอนขึ้นใช้D2 ตอนลงก็ควรใช้D2เช่นกันครับ แต่ถ้าเอาแบบปลอดภัยมากขึ้นก็ใช้สูตรขึ้นเกียร์ไหนเวลาลงให้ใช้เกียร์ที่ต่ำลงมา 1 เกียร์ครับ ที่ต้องจดจำก็เพราะความเร็วขาลงมันจะสูงขึ้นและรอบเครื่องจะสูงส่วนมากจึงใช้การเข้าเกียร์ที่สูงขึ้นซึ่งการกระทำดังกล่าวยิ่งจะทำให้ความเร็วรถสูงขึ้น ไม่ควรอาศัยการใช้เบรกบ่อยๆแทนจนบางครั้งเกิดความร้อนสูงในระบบเบรกจนลื่นและเบรกไม่อยู่ จำง่ายๆคือความเร็วและเกียร์ที่ปลอดภัยคือเกียร์ที่รอบเครื่องแกว่งหรือนิ่งอยู่ระหว่าง 2500-3500รอบโดยการไม่แตะคันเร่งครับถ้าอยู่ที่เกียร์ไหนเช่นเกียร์3 ก็พยามเลี้ยงรอบมันไว้ถ้าสูงเกินก็แตะเบรคนิ่มๆเพื่อลดรอบให้อยู่ในระดับครับห้ามเหยียบเบรกอย่างรุนแรงครับเพราะอาจจะเกิดเสียการทรงตัวหรือลื่นไถลได้ครับ

404.เมื่อยางรถระเบิดขณะขับ รถยางระเบิดในขณะขับรถ. มือทั้งสองต้องจับอยู่ที่พวงมาลัยอย่างมั่นคงแล้ว ถอนคันเร่งออกเบาๆ ควบคุมสติให้ดีอย่าตกใจมองกระจกหลังเพื่อให้ทราบว่ามีรถใดตามมาบ้าง แตะเบรกอย่างแผ่วเบาและถี่ๆ อย่าแตะแรงเป็นอันขาด เพราะจะทำให้รถหมุน ห้าม เหยียบคลัตช์โดยเด็ดขาดเพราะถ้าเหยียบคลัตช์รถจะไม่เกาะถนนรถจะลอยตัวและจะทำให้บังคับรถได้ยากยิ่งขึ้น อาจเสียหลัก เพราะการเหยียบคลัตช์เป็นการตัดแรงบิดของเครื่องยนต์ให้ขาดจากเพลา ห้ามดึงเบรกมืออย่างเด็ดขาด จะทำให้รถหมุน เมื่อความเร็วรถลดลงพอประมาณแล้วให้ยกเลี้ยวสัญญาณเข้าข้างทางซ้ายมือ เมื่อความเร็วลดลงระดับควบคุมได้ ให้เปลี่ยนเกียร์ต่ำลงและหยุดรถ

405 .เมื่อรถตกน้ำในกรณีที่รถเกิดอุบัติเหตุแล้วตกลงไปในแม่น้ำลำคลองใดๆก็ตาม รถจะไม่ตกลงไปในน้ำแล้วจมทันที เหมือนหิน ตกน้ำแต่จะค่อยๆ จมลงทีละน้อยๆจนกว่าจะถึงพื้นล่างและในนาทีวิกฤตนี้ควรตั้งสติให้ดีและ ปลด SAFETY BELT ออกทุกๆคนรวมทั้งผู้โดยสารด้วย อย่าออกแรงใดๆเพื่อสงวนการใช้อากาศหายใจซึ่งมีอยู่เป็นจำนวนจำกัด ให้ยกส่วนศีรษะให้สูงเหนือระดับน้ำที่ค่อยๆเพิ่มขึ้นในรถ ปลดล็อกประตูรถทุกบาน. หมุนกระจกให้น้ำไหลเข้าในรถเพื่อปรับความดัน!ในรถและนอกรถให้เท่ากันมิฉะนั้นท่านจะเปิดประตูรถไม่ออกเพราะน้ำจากภายนอกตัวรถจะดันประตูไว้.เมื่อความดันใกล้เคียงกันแล้วให้ผลักบานประตูออกให้กว้างสุดแล้วท่านก็ออกจากห้องโดยสารของรถได้ .จากนั้นท่านอาจจะปล่อยตัวให้ลอยขึ้นเหนือน้ำตามธรรมชาติหรือจะว่ายน้ำขึ้นมาก็ได้ กรณีเช่นนี้ควรปล่อยตัวให้ลอยขึ้นตามธรรมชาติหรือลองเป่าปากดูว่าฟองอากาศลอยไปในทิศทางใดให้ว่ายน้ำไปในทิศทางที่ฟองอากาศลอยไปก็จะไม่มีอาการ หลงน้ำ นอกจากนั้น ก่อนออกจากรถหากท่านมีผู้โดยสารที่เป็นเด็กๆ อาจจะหนีบเด็กๆนั้นออกมากับท่านได้อีกหนึ่งคน

406.. การแซงรถ บางครั้งผู้ขับขี่รถตามหลังคันอื่นเป็นระยะทางไกลๆ เพราะว่าอัตราความเร็วที่ใช้อยู่นั้นใกล้เคียงกับรถคันอื่นๆที่อยู่ข้างหน้า บางครั้งมีความจำเป็นต้องแซงหน้าขึ้นไปจึงควรจะแซงให้ถูกวิธีเพื่อความปลอดภัยของตนเองและบุคคลอื่น

407. ตามหลักในการแซงแล้วก่อนจะแซงรถต้องดูให้แน่ใจว่าถนนด้านข้างว่างพอที่จะแซงหรือยังถ้าต้องการความปลอดภัยในการแซงต้องแซงรถทางขวาเสมอและห้ามแซงในที่คับขัน

408..ไม่แซงรถตรงทางแยกเพระารถที่จะถูกแซงนั้น ผู้ขับอาจจะเปลี่ยนใจเลี้ยวขวาอย่างกะทันหันเมื่อไหร่ก็ได้ ถึงแม้ว่าจะมีสัญญานไฟอยู่ด้วยก็ตาม เนื่องจากตรงทางแยกนั้นเราอาจมองเห็นรถคันอื่นไม่ดีเท่าที่ควร เพราะเหตุนี้เมื่อขับรถึงทางแยกควรชะลอความเร็วแล้วดูรถคันอื่นและคนเดินข้ามถนนให้ดีก่อน

409. เมื่อเวลาขับรถขึ้นเนินเขาเพราะอาจมีรถคันอื่นวิ่งสวนลงมาโดยไม่เห็นล่วงหน้าการแซงบนเนินเขามีอันตรายมากเวลาและระยะทางข้างหน้าจะมีน้อยลงเพราะต้องขับขึ้นทางลาดชันและการแซงรถเช่นนี้จะยิ่งมีอันตรายมากขึ้นในตอนกลางคืนเพราะมีหมอกลงจัด

410.ไม่ควรแซงบนทางโค้ง และควรขับในทางของตนเพราะทางโค้งทำให้เรามองเห็นทางข้างหน้าได้น้อยลง และ ไม่ควรแซงบนสะพานหรือระยะอีก 30 เมตรจะถึงสะพาน

411. การขับรถตามหลังรถคันอื่น อุบัติเหตุจำนวนมากเกิดจากการขับรถชนท้ายหรือประสานงาคันอื่น สาเหตุสำคัญประการหนึ่งคือ ผู้ขับรถคันหลังขับรถชิดคันหน้ามากเกินไป ในหลักการขับรถแล้วควรขับรถตามหลังโดยเว้นระยะห่าง 1 ช่วงคันรถ ทุกๆความเร็ว 10 กม./ชม. หรืออาจเว้นเป็น 2 เท่าก็ได้เพื่อความปลอดภัย
412. การขับรถตามกฎจราจร กฎจราจรในบ้านเรามีอยู่มากมายที่บัญญัติขึ้นมาก็เพื่อความปลอดภัยของผู้ขับขี่และสังคมโดยส่วนรวมผู้ขับขี่ส่วนมากจะจำกฎจราจรได้เฉพาะตอนสอบใบขับขี่เท่านั้นหลังจากนั้นก็จะลืมกฎจราจรต่างๆ แทบหมดสิ้นและไม่ให้ความสนใจต่อไปอีกเลยอย่างน้อยการขับรถทางไกล ควรใช้กฎจราจรให้เคร่งครัดตลอดจนการให้สัญญาณต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสัญญาณมือสัญญาณไฟและต้องแน่ใจว่าใช้ถูกต้องและรถคันหลังหรือหน้าสามารถเห็นสัญญาณได้อย่างชัดเจน

413. การเปลี่ยนช่องเดินรถ โดยทั่วไปผู้ขับขี่ควรขับรถอยู่ในช่องเดินรถที่มีเครื่องหมายแบ่งไว้ให้แต่ถ้าไม่มีเส้นแบ่งช่องเดินรถเอาไว้ก็ควรจะขับรถในทางของตนผู้ขับขี่ต้องรู้สภาพการจราจรที่กำลังจะเกิดขึ้นและสังเกตรถคันหลังที่ตามมาด้วยถ้าผู้ขับขี่พร้อมที่จะแซงต้องให้สัญญาณล่วงหน้าก่อนเมื่อรถคันอื่นทราบความประสงค์จึงเปลี่ยนเข้าในช่องเดินรถที่ต้องการ

414. การขับรถที่ป้องกันตัวเองจากอันตราย ผู้ขับขี่รถยนต์นั้นไม่ใช่แต่จะสามารถควบคุมตัวเองได้เท่านั้นแต่ต้องเป็นผู้ที่ตื่นตัวอยู่ตลอดเวลาและมองไปด้านหน้าด้านหลัง(มองกระจกหลัง) และด้านข้างตลอดเวลา

415. คนเดินเท้า ในทางรถวิ่งหรือไฮเวย์บางสายไม่มีทางเข้าฉะนั้นเมื่อเห็นคนเดินเท้าจึงควรใช้แตรและลดความเร็วเพื่อให้คนเดินอยู่ข้างทางให้รู้ตัวโดยมารยาทแล้วนักขับขี่ที่ดีไม่ควรแซงรถตรงจุดที่มีคนเดินเท้าอยู่ใกล้ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตอนกลางคืนและวันที่มีฝนตกหนัก ควรระมัดระวังเป็นพิเศษเพราะผู้ขับขี่อาจมองไม่เห็นคนเดินเท้าได้

416. แผนที่ ถ้าผู้ขับขี่ต้องขับรถทางไกลในทางที่ยังไม่ค้นเคยควรจะได้รับการศึกษาจากแผนที่เพื่อหาทางที่คุ้นเคยควรจะได้รับการศึกษาจากแผนที่เพื่อหาทางที่จะไปได้อย่างมีจุดหมายไม่หลงทางเพราะแผนที่จะช่วยให้ทราบเส้นทางและลักษณะของถนนและระยะทางต้องคำนึงถึงเสมอให้แทน

417.การขับรถกลางคืน ต้องเพิ่มความระมัดระวังและรอบคอบขึ้นเป็นเท่าตัวแสงสว่าง สัญญาณไฟและสายตาเป็นสิ่งสำคัญมาก ผู้ที่สายตาไม่ดี อย่าขับรถกลางคืนโดยไม่จำเป็นระวังอย่าใช้ไฟหน้าสูงและระวังรถที่สวนมาใช้ไฟหน้าสูงทำให้ตาของท่านมองไม่เห็นอย่าใช้ความเร็วสูงตรวจสอบระบบเบรกสัญญาณไฟและแสงสว่างให้สมบูรณ์อยู่เสมอ ควรมีเพื่อนร่วมทางไปด้วย

418.การขับรถในระยะทางไกลๆ ท่านจะเหน็ดเหนื่อย อ่อนเพลีย เครียด และขาดประสิทธิภาพในการควบคุมรถควรหยุดพักผ่อนหรือมีคับรถสำรองผลัดเปลี่ยน ควรหาจุดพักรถและศึกษาเส้นทางอย่างละเอียดเพื่อจะได้ไม่เสียเวลาควรปรับเบาะระยะกระจกและอุปกรณ์อื่นๆให้สมดุลเพื่อความสะดวกปลอดภัยในการขับขี่

419. การขับขี่บนพื้นที่ๆ มีโคลนและทราย เมื่อขับขี่ผ่านเส้นทางที่มีสภาพถนนเช่นนี้ ไม่ควรแตะเบรคหรือ ดึงเบรคมือ อย่างกระทันหัน เพราะจะทำให้รถเสียหลัก ควรใช้เกียร์ต่ำ ในการขับเคลื่อนผ่านเส้นทาง พยายามควบคุมพวงมาลัย หลีกเลี่ยงจุดที่มีโคลนเหลวมากๆ หรือกองทราย เพราะหากล้อชุดที่ขับเคลื่อน วิ่งผ่าน อาจเกิดเหตุการณ์ล้อหมุนฟรี และไม่สามารถเคลื่อนที่ผ่านไปได้

420.การขับขี่บนพื้นที่ๆ ลื่นด้วยน้ำมัน เมื่อถนนบางเส้นทาง เกิดมีน้ำมันเครื่อง หกเกลื่อนถนน จะเป็นสิ่งที่อันตรายมาก ผู้ขับขี่รถด้วยความเร็ว เมื่อแตะเบรคอย่างกระทันหัน ในบริเวณนี้ ก็จะเกิดอาการท้ายปัด รถเสียการทรงตัว และไม่สามารถควบคุมรถ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่ายๆ ผู้ขับขี่ ควรชะลอความเร็ว ด้วยการใช้เกียร์ต่ำ และอย่า แตะเบรคกระทันหัน ค่อยๆ เคลื่อนที่ ผ่านบริเวณดังกล่าวไป และอย่าเพิ่งใช้ความเร็วโดยกระทันหัน เพราะคราบน้ำมัน ที่เกาะอยู่กับผิวล้อ ยังไม่ทันจางหายไป ควรขับผ่านไปสักระยะหนึ่ง เมื่อแน่ใจว่า คราบน้ำมัน ที่เกาะอยู่บนผิวล้อนั้นได้จากหายไป กับพื้นถนนแล้ว ค่อยเริ่มใช้ความเร็วเพิ่มขึ้น

421.การขับขี่บนพื้นที่ๆ มีลูกระนาดขวางถนน พื้นที่เช่นนี้ มักพบในบริเวณ ตามหมู่บ้าน หรือตามซอย ที่ไม่ต้องการ ให้มีการขับขี่ ด้วยความเร็วสูง เพราะจะเป็นอันตราย กับผู้คน หรือสิ่งของละแวกนั้น ส่วนใหญ่ จะเป็นบริเวณชุมชน เมื่อขับรถผ่านลูกระนาดขวางถนน คงจะต้องลด หรือชะลอความเร็วลง จนถึงขนาดใช้เกียร์หนึ่ง ในการเคลื่อนตัวผ่าน เพราะไม่เช่นนั้น แรงกระแทกที่เกิดขึ้น ที่ล้อรถ กับบริเวณลูกระนาด อาจทำความเสียหาย ให้กับระบบช่วงล่างรถยนต์ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

422.การขับขี่บนพื้นที่ๆ เป็นหลุมเป็นบ่อ หมายถึง พื้นที่บริเวณน้ำท่วมขัง ซ่อมทาง ดินทรุด หรือบริเวณพื้นผิว ที่เป็นหลุม เป็นบ่อต่างๆ ผู้ขับขี่ ควรสังเกต บริเวณที่มีขนาดหลุมที่ตื้น และปลอดภัยที่สุด ใช้เกียร์ต่ำ ควบคุมพวงมาลัยให้ดี ค่อยๆ หย่อนล้อลงไป บริเวณขอบหลุม แล้วพยายามประคองพวงมาลัยให้มั่นคง เพราะจะเกิดแรงฝืน ที่มุมล้อต้านกับความสูง-ต่ำของหลุม หลีกเลี่ยง บริเวณที่เป็นโคลน-เลน ใช้คันเร่ง และเยียบเบรค ให้เป็นจังหวะ

423.การขับขี่บนพื้นที่ๆ มีทางรถไฟขวางหน้า ให้หลักของกฎจราจร โดยปกติ เมื่อขับรถผ่านเส้นทาง ที่มีทางรถไฟขวางถนนอยู่ ควรชะลอความเร็ว และควรหยุดรถนิ่ง ในขณะที่รถไฟ กำลังจะแล่นมา ไม่ควรเร่งความเร็วสูง เพื่อจะได้พ้นผ่านจุดดังกล่าวไป ในลักษณะของประมาท บางกรณีเช่น ค่ำคืน ดึกดื่น ยิ่งควรระวังให้มาก เพราะสิ่งที่ผู้ขับขี่มองเห็นนั้น มีเฉพาะ บริเวณด้านหน้ารถ ที่ไฟส่องสว่าง สามารถส่องไปถึงเท่านั้น แต่รถไฟ มักจะแล่นมาทางด้านข้าง ผ่านหน้าผู้ขับขี่ไป ดังนั้น สิ่งที่ดีที่สุดคือ ชะลอความเร็วลง มองซ้าย-ขวา ให้แน่ใจ ก่อนตัดสินใจ ขับผ่านทางรถไฟขวางถนน ซึ่งเราสามารถที่จะสังเกต เห็นป้ายสัญญาณเตือน ที่ทางราชการติดไว้ ก่อนหน้าจะถึงทางข้ามรถไฟ

424.การขับขี่บนพื้นที่ๆ มีความลาดชัน เมื่อขับขี่ขึ้นทางลาดชัน ไม่ควรใช้ความเร็วสูง และห้ามขับแซง ยิ่งเป็นบริเวณที่ลาดชัน ผสมกับเป็นทางโค้ง เช่นบริเวณทางขึ้น-ลง เขา ยิ่งต้องใช้ความระมัดระวัง เป็นพิเศษ สังเกตป้ายเตือน บริเวณริมถนน เพื่อประเมินสถานะการณ์ด้านหน้าให้ดี กรณีรถติดบนทางลาดชัน เช่นรถติดไฟแดงในเมือง ควรเว้นระยะห่าง ระหว่างรถคันหน้า และรถของเรา เผื่อไว้สักระยะหนึ่ง เพราะเมื่อมีการเคลื่อนตัวออกไป รถที่อยู่บนเนิน อาจมีอาการถอยหลัง มาชน หน้ารถของเราได้ ดังนั้น จึงควรระวังตรงจุดนี้ไว้ด้วย หากเราจำเป็นต้องจอดรถบนเนินทางขึ้น ควรดึงเบรคมือไว้ เมื่อออกตัวอีกครั้ง ให้เร่งรอบเครื่องขึ้นหน่อย เข้าเกียร์แล้วออกตัว ปลดเบรคมือลง พยายามให้รถถอยหลังน้อยที่สุด

425.การขับขี่บนขับขี่ขณะฝนตก สิ่งแรกที่ต้องทำคือ ลดความเร็วลงมา พยายามควบคุมรถ ให้แล่นอยู่ในเลน ใช้เกียร์ต่ำในการขับขี่ อยากตกใจ และอย่าเบรคกระทันหัน เพราะจะทำให้รถลื่นไถล เปิดไฟหรี่ แล้วขับไปตามเลน หากเป็นไปได้ ควรขับชิดซ้าย และค่อยๆไป ในยามที่ฝนตกหนัก ควรจอดรถชิดข้างทาง และเปิดไฟกระพริบ หรือให้สัญญาณกับรถคันอื่นทราบว่า รถเราจอดนิ่งอยู่กับที่แล้ว รอสถานะการณ์ฝนซาแล้ว ค่อยเดินทางต่อไป กรณีที่มีฝ้าเกาะตามกระจกรถ เกิดจาก อุณหภูมิด้านนอกรถ เย็นกว่า อุณหภูมิด้านในรถ คงจะต้องเปิดแอร์ หรือลดอุณหภูมิ ในห้องโดยสารลง แล้วหาเศษผ้า เช็ดรอยฝ้าบนกระจกออกไป

426. การขับขี่บนขับขี่ขณะถนนลื่น ถนนลื่น อาจเป็นเพราะช่วงเวลาดังกล่าว เกิดฝนตก พื้นที่บริเวณนั้น มีน้ำขังเฉอะแฉะ หรืออาจมีกรวดทราย บนพื้นถนน ถนนมีดินลื่นปะปน มีน้ำมันเครื่อง หกราดอยู่บนพื้นถนน ฯลฯ เหล่านี้ เป็นเหตุ นำไปสู่อันตรายทั้งสิ้น เมื่อขับขี่ขณะถนนลื่น ควรระมัดระวังในเรื่องการใช้ความเร็ว และการใช้เบรค อย่าพยายามเข้าโค้งด้วยความเร็ว และแตะเบรคกระทันหัน เพราะอาจทำให้ท้ายรถปัด และไม่สามารถควบคุมรถได้ เป็นเหตุนำไปสู่อันตราย กรณีขับรถอยู่บนทางสูงเช่น บนเนินเขา สภาพรถควรจะต้องพร้อม ควรใช้สมาธิในการขับขี่มากกว่าปกติ อย่าประมาทเป็นอันขาด เพราะถ้าพลาดพลั้งเกิดอันตรายขึ้นมา คงมีโอกาสน้อยมากที่จะกลับมาแก้ตัวใหม่ หรืออาจไม่มีโอกาสเลยก็ได้

427.ขับขี่ขณะหมอกลงหนา คงมีโอกาสเกิดขึ้นน้อยมากในประเทศไทย เพราะด้วยเหตุที่ว่าอยู่ในเขตโซนร้อน แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อมีหมอกลงหนา หรือมีควันไฟจากการเผาไหม้ เข้ามาปกคลุมพื้นที่ๆ กำลังขับขี่อยู่ ควรชะลอความเร็วลง และเว้นระยะห่างจากรถคันหน้าให้มากขึ้น เปิดไฟหรี่ หรือไฟใหญ่ ไม่ควรขับรถแซงรถคันหน้า เพราะอาจมีรถสวนทางมา โดยที่เราไม่รู้ตัว ช่วงเวลานี้ หากรถคันใด มีอุปกรณ์ที่เรียกว่า ไฟตัดหมอก หรือ fox lamp ก็สามารถใช้ประโยชน์ได้ดี ขับไปตามเลน และใช้ความเร็วต่ำ

428.การขับขี่บนขับขี่ขณะน้ำท่วม น้ำท่วม เป็นสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงจากการขับขี่ เพราะเราไม่สามารถประเมินสถานะการณ์ สภาพถนนด้านหน้าได้เลย ยิ่ง หากเป็นเส้นทางที่ไม่เคยผ่านมาก่อน ก็ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ ควรใช้ความเร็วต่ำ และสังเกตการเคลื่อนที่ของรถคันหน้า ขับอย่างช้าๆ พยายามควบคุมพวงมาลัยไว้ให้ดี

429. เมื่อขับรถในขณะที่น้ำท่วม มีโอกาส ที่น้ำจะเข้าไปปะปน บริเวณผ้าเบรค ไม่ว่าจะเป็นดิสก์เบรค หรือดรัมพ์เบรค ก็จะเกิดเหตุการณ์ เบรคลื่น-เบรคไม่อยู่ ด้วยเหตุนี้ จึงควรเว้นระยะห่าง การขับขี่จากรถคันหน้าพอสมควร กับการคำนวณในใจว่า เมื่อเกิดเหตุการณ์ อย่างหนึ่งอย่างใดขึ้น และจำเป็นต้องเหยียบเบรค รถของเรา จะต้องหยุด ก่อนที่หน้ารถของเรา จะไปสัมผัสกับท้ายรถคันหน้า เมื่อเบรคไม่ค่อยอยู่ อาจต้องใช้วิธีเหยียบย้ำ แทนวิธีเหยียบแช่ แต่ไม่ถึงกับขนาดต้องกระแทกรุนแรง ข้อสำคัญคือ ขับไปช้าๆ และเว้นระยะห่าง จากคันหน้าพอสมควร

430..การขับขี่บนขับขี่ขณะมีมรสุมลมแรง กรณีที่มีมรสุม พายุเข้า และเรากำลังขับขี่อยู่บนท้องถนน ถึงแม้ว่า สภาพรถจะสมบูรณ์ และสภาพร่างกาย และจิตใจมีสมาธิดี เมื่อลมพายุเคลื่อนที่เข้าปะทะตัวรถ ด้วยความเร็วลมแรง ก็สามารถทำให้รถ เสียงการทรงตัวได้ง่ายๆ โดยเฉพาะ ปะทะเข้าด้านข้างตัวรถอย่างแรง ทำให้รถเกิดการแฉลบ เสียหลัก ผู้ขับขี่ตกใจ และสูญเสียการควบคุมที่ดี ยิ่งถ้าเป็นรถที่มีน้ำหนักเบา ยิ่งควรต้องระวังให้มาก เมื่อประสบกับเหตุการณ์เช่นนี้ ผู้ขับขี่ ควรยึดจับพวงมาลัยให้มั่นคง แล้วชะลอความเร็วลง เมื่อประเมินสถานะการณ์ เส้นทางด้านหน้า ที่กำลังจะไป ว่ามีพายุพัดแรง ควรนำรถเข้าข้างทาง รอดูสถานะการณ์สักพัก เมื่อพายุมีความแรงลดลง จึงค่อยเดินทางต่อไป

431.การขับขี่บนขับขี่ในที่ชุมชน ที่ชุมชน ในที่นี้ หมายถึง บริเวณ ที่มีผู้คนเดินไปมาขวักไขว่ หรือ ในที่ๆ มีถนนไม่กว้างมากนัก เช่นในซอย ตามหมู่บ้าน หรือตามทางผ่านตลาด ผู้ขับขี่ คงต้องใช้เกียร์ต่ำ ขับผ่านด้วยความระมาดระวัง ให้สัญญาณแตรได้ตามโอกาส และสถานะการณ์

432.การขับขี่บนขับขี่เวลาค่ำคืน สิ่งที่ต้องทำแน่นอนคือ เปิดไฟหรี่ ในเวลาที่ท้องฟ้าเริ่มมืดครึ้ม และเปิดไฟหน้า (ไฟใหญ่) ในเวลาที่เริ่มที่จะมองไม่เห็นภาพ หรือค่ำคืนแล้ว สิ่งที่สำคัญต่อไปคือ เรื่องอุปกรณ์ให้สัญญาณไฟต่างๆ คงจะต้องดูและให้เรียบร้อย หากต้องการขับเลี้ยวซ้าย หรือเลี้ยวขวา แต่ไฟเลี้ยวเสีย ก็สามารถเกิดอันตรายได้ การขับขี่เวลาค่ำคืน คงต้องใช้สมาธิ ให้มากขึ้นกว่าเดิม เพราะขาดแสดงสว่างจากแสดงอาทิตย์ ทำให้การประเมินสถานะการณ์ในการขับขี่ ต้องใช้ความระมัดระวังมากขึ้น

433. เมื่อเบรคไม่อยู่ อาจเกิดเพราะผ้าเบรคหมด ผู้ขับขี่อาจควบคุมรถได้ด้วยความไม่มั่นใจเท่าที่ควร เพราะรถไม่สามารถหยุดได้ดั่งใจ ในกรณีผ้าเบรคหมด ขณะที่กำลังเหยียบเบรค เราจะได้ยิงเสียงโลหะเสียดสีกัน และดังมาจากบริเวณดุมล้อ ที่ติดตั้งระบบเบรค คงต้องนำรถเข้าตรวจเช็คระบบเบรคต่อไป แต่ในกรณีที่กำลังขับขี่ โดยใช้ความเร็วอยู่ หากเกิดเบรคไม่อยู่ (เบรคแตก) ผู้ขับขี่ ต้องอย่าตกใจ และควบคุมสติให้อยู่ พยายาม ลดความเร็วลง โดยถอนคันเร่ง ออกจากปลายเท้า แล้วลดเกียร์ลงมาใช้เกียร์ต่ำ เช่น เกียร์ 5,4,3,2,1 ตามลำดับ อย่าพยายามข้ามเกียร์ เช่น จากเกียร์ 4 มาเป็นเกียร์ 1 เพราะจะเกิดอันตรายได้ เมื่อสามารถชะลอความเร็วลงมา จนถึงระดับ เกียร์ 1 ได้ จนถึงจุดที่ รถวิ่งด้วยความเร็วต่ำแล้ว ให้ใช้เบรคมือช่วยเบรค ในระหว่างชะลอความเร็วลงมา ควรควบคุมสติ ให้มั่นคง และให้สัญญาณเสียง เปิดไฟฉุกเฉิน หรือให้สัญญาณ ด้วยวิธีใดๆ เพื่อให้รถคันอื่นรู้ว่า รถเรากำลังเกิดเหตุฉุกเฉิน เมื่อจอดรถเข้าข้างทาง โดยปลอดภัยแล้ว ควรติดต่อช่างมาตรวจสอบระบบเบรคต่อไป

434.เมื่อรถสตาร์ทไม่ติด เมื่อรถสตาร์ทไม่ติด ก็ไม่สามารถไปไหนได้ รถสตาร์ทไม่ติด เกิดได้หลายสาเหตุเช่น น้ำมันเชื้อเพลิงหมด ไส้กรองน้ำมันเชื้อเพลิงอุดตัน ทำให้น้ำมันเชื้อเพลิงไม่สามารถผ่านได้ ระบบจุดระเบิดใช้งานไม่ได้ ไส้กรองอากาศอุดตัน มอเตอร์สตาร์ทเสีย แบตเตอรี่ไฟไม่พอ สายไฟจุดใดจุดหนึ่งขาด ฟิวส์-สวิตช์ ที่เกี่ยวข้องกับระบบสตาร์ท เสีย-เสื่อมสภาพ สวิตช์กุญแจสตาร์ทเสีย เหล่านี้ เป็นต้น ล้วนเป็นสาเหตุ ให้รถสตาร์ทไม่ติด ดังนั้น หากรถสตาร์ทไม่ติด ควรวิเคราะห์อาการเบื้อต้น และแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า เพื่อนำรถไปเข้าตรวจเช็คความผิดปกติ หรือถ้าจำเป็น ต้องขอความช่วยเหลือ จากหน่วยงานอื่นใดหละก็ ลองดูที่นี่ จะมีเบอร์โทรศัพท์ติดต่อ จดไว้ติดตัว เผื่อเหตุฉุกเฉิน

435.เมื่อกระจกบังลมหน้าแตก กระจกบังลมหน้าแตก เกิดได้หลายสาเหตุ เช่น กรณีขับตามรถบรรทุกหิน-กรวด แล้วมีเศษก้อนหิน ลอยจากรถคันดังกล่าวมากระทบกระจกบังลมหน้าแตก หรืออาจเกิดจาก การจดรถในที่โล่ง ที่ๆ มี แดดร้อน เป็นเวลานาน เมื่อกระจกเริ่มแตก จะเกิดร้อยร้าวขึ้นที่บริเวณที่ถูกสิ่งของตกกระทบ หากเป็นกระจกชนิดเทมเพลท จะเกิดรอยร้าว ลุกลาม ระบาด จากจุดตกกระทบของสิ่งของ ค่อยๆ ลามออกไปรอบๆ จนหมดทั้งแผ่น หากผู้ขับขี่ กำลังใช้ความเร็วอยู่ อย่าตกใจ ให้ชะลอความเร็วลง และจอดเข้าข้างทาง ในที่ๆ ปลอดภัย จากนั้น หาผ้า หรือวัสดุ แผ่นกว้าง มารองด้านในห้องโดยสาร จากนั้น ให้ใช้อุปกรณ์ เช่นเครื่องมือติดรถ มาเคาะที่กระจกด้านนอก เพื่อให้กระจก ที่เป็นรอยร้าวอยู่นั้น ตกลงบนแผ่นที่รองไว้ ควรระวัง เศษกระจก กระเด็น ถูกผิวหนัง หรือเข้าตา ต้องระมัดระวังให้มาก เมื่อเคาะเศษกระจกออกหมดแล้ว โดยเฉพาะฝั่งบริเวณผู้ขับขี่ ต้องพยายาม อย่าให้เหลือเศษกระจก เกาะอยู่ตามขอบ นำเศษกระจกที่หลุดร่วมออกมา เป็นชิ้นเล็กๆ เหล่านั้นทิ้งไป แล้วเดินทางต่อไปยัง ศูนย์บริการเปลี่ยนกระจก ระหว่างขับขี่ ควรระวัง เศษกระจก ที่อาจเกาะติดอยู่ บริเวณขอบโครงกระจก จะหลุดร่วม กระเด็นเข้าร่างกาย และหน้าตา ไม่ควรขับขี่ด้วยความเร็วสูงมาก

436.เมื่อรถติดเลน-ตกหล่ม เมื่อเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ ล้อรถ จะหมุนฟรีอยู่กับที่ ยิ่งเร่งเครื่อง ยิ่งจมลงไปเรื่อยๆ อย่าพยายามฝืน ควรหาวัสดุ ที่มีความแข็ง ผิวหยาบ มารองบริเวณล้อที่ขับเคลื่อน เช่นก้อนหิน ก้อนอิฐขนาดพอสมควร หลายก้อน มารองบริเวณหน้ายาง หรืออาจใช้ไม้ที่มีความแข็งแรง มารองหน้ายาง แล้วใช้เกียร์ 1 ในการขับเคลื่อน ให้พ้นออกมา บางกรณีเช่น รถที่สำหรับลุยป่าเขาต้องขับเข้าพื้นที่ๆ มีเลนมาก และรถผ่านไม่สะดวก แต่จำเป็นต้องไป ก็อาจใช้โซ่โลหะ มัดเป็นพวง ร้อยรัดหน้ายาง และขอบยาง สำหรับการขับเคลื่อนผ่านจุดดังกล่าวไป

437.เมื่อความร้อนขึ้นสูง (Over heat) รถที่ความร้อนขึ้นสูง ส่วนใหญ่ จะเกิดจาก ระบบระบายความร้อน หรือหล่อเย็น โดยมีสาเหตุจากน้ำในหม้อน้ำ มีปริมาณน้อย หรือน้ำไม่หมุนเวียน ทำให้การระบายความร้อนจากเครื่องยนต์ ออกไปสู่ภายนอกได้น้อย สาเหตุที่ เป็นปัญหา ในระบบระบายความร้อน อาจเกิดจาก หม้อน้ำรั่ว ท่อยางหม้อน้ำเสื่อม-ชำรุด-เป็นรูรั่วเล็กๆ ปั๊มพ์น้ำไม่ทำงาน วาล์วน้ำเสีย-เสื่อมสภาพ พัดลมระบายความร้อนไม่ทำงาน หรืออาจเกิดจาก ฝาหม้อน้ำ เสื่อม-ชำรุด ไม่สามารถ เก็บแรงดันของน้ำ ในหม้อน้ำไว้ได้ น้ำเดือดจึงทะลักออกไปทางฝาหม้อน้ำ มากมายกว่าที่ควรจะเป็น

438. เมื่อเกิดเหตุการณ์ความร้อนบนเกจวัดอุณหภูมิขึ้นสูง ควรชะลอความเร็ว และจอดรถไว้ข้างทาง ในที่ๆ ปลอดภัย เปิดฝากระโปรงหน้าสักพัก รอจนกว่าเครื่องจะเย็นลง หาเศษผ้าขนาดอุ้งมือ ค่อยๆ เปิดฝาหม้อน้ำ ค่อยๆ ปิดเกลียวฝาหม้อน้ำ เปิดออกอย่างช้าๆ เมื่อแน่ใจว่า ไม่มีน้ำร้อนพุ่งออกมาแล้ว ค่อยเปิดฝาหม้อน้ำออกให้หมด แล้วหาน้ำสะอาด มาเติมให้เต็ม ปิดฝาหม้อน้ำ แล้วเดินทางต่อ พยายามสังเกต เกจวัดอุณหภูมิ หากขึ้นสูง ให้รีบจอดพักข้างทาง แล้วใช้วิธีการเดิม หลังจากนั้น ควรให้ช่างตรวจเช็คความผิดปกติ ของระบบระบายความร้อนต่อไป

439.ขับรถในที่มีน้ำท่วมขังอย่าขับรถลุยเข้าไปในน้ำที่ท่วมขังด้วยความเร็วสูงๆ เป็นอันขาด เพราะรถจะเสียการทรงตัวทันทีที่ถูกบังคับให้พุ่งลงไปในน้ำ และขณะที่ขับก็ควรรักษา ระดับความเร็วให้พอเหมาะ และสม่ำเสมอ การเร่งเครื่องแรงบ้างเบาบ้าง จะทำให้เกิดระลอกคลื่นกระฉอกย้อนกลับมากระแทก กับเครื่องยนต์จนเกิดความเสียหายได้ และยังอาจเป็นการสร้างความเดือดร้อนให้กับ ผู้ร่วมสัญจรอื่นๆ บนถนนอีกด้วย ข้อสำคัญก็คือ พยายามหลีกเลี่ยงการเปลี่ยนเกียร์ ไปมาบ่อยๆ ขณะที่อยู่ในน้ำ และพยายามขับรถตามร่อง ที่คันข้างหน้าขับไป เพื่อหลีกเลี่ยงหลุมที่อาจอยู่บนพื้นถนนที่มองไม่เห็น

440. ระมัดระวังคนเดินถนน และรถจักรยานยนต์ ฝนตกลงมาใหม่ๆ ผู้คนเดินถนน อาจมัวชุลมุนวุ่นวายกับการหนีฝน จนลืมสังเกตรถของท่านที่ขับอยู่ นอกจากนั้น ยังควรระวังรถจักรยานยนต์บางคันที่ขับขี่อยู่ด้านหน้า ที่อาจลื่นไถลจนล้มมาขวางหน้ารถท่านได้เช่นกัน

441. ชะลอความเร็วก่อนเปิดที่ปัดน้ำฝน เวลาเปิดใบปัดน้ำฝนใหม่ๆ กระจกรถด้านหน้าจะเกิดฝ้ามัวขึ้น ขณะหนึ่งก่อนที่จะใส ดังนั้น ก่อนที่จะเปิดใบปัดน้ำฝนให้ทำงาน ผู้ขับควรชะลอความเร็วรถ แล้วจึงกดปุ่มฉีดน้ำล้างกระจก พร้อมกับการเปิดใบปัดน้ำฝน ให้ทำงานในจังหวะที่เร็วที่สุด เมื่อกระจกเริ่มใสดีแล้ว จึงลดความเร็วของการปัดตามความหนักเบาของสายฝน

442.. ตรวจเช็คเบรกและน้ำมันเกียร์ หลังจากขับรถผ่านพื้นที่น้ำท่วมขังมาแล้ว ให้ระมัดระวังให้มาก เพราะประสิทธิภาพการเบรกจะลดน้อยลงไป วิธีแก้ไขก็คือ ให้ดูว่าไม่มีรถตามหลังมาในระยะกระชั้นชิด จากนั้นก็ขับรถด้วยเกียร์ต่ำ ใช้ความเร็วประมาณไม่เกิน 20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เลี้ยงระดับความเร็วเอาไว้ด้วยเท้าขวา จากนั้นก็ใช้เท้าซ้ายเหยียบลงไปบนแป้นเบรกเบาๆ ที่เรียกว่า "ย้ำเบรก" แตะปล่อยๆ สัก 4-5 ครั้งติดๆ กัน จนรู้สึกว่า รถเริ่มชะลอตัวมากขึ้น เมื่อเหยียบเบรก จึงเพียงพอจะแสดงว่า น้ำได้ถูกไล่ออกจากระบบเบรกเรียบร้อยแล้ว

443.ขับเกียร์อัตโนมัติแบบง่ายๆ ในยุคน้ำมันแพง ขับรถเกียร์อัตโนมัติไม่ยาก แต่เหยียบคันเร่งเป็นอย่างเดียวใช้ได้” ซึ่งจริงๆแล้วการขับรถที่ใช้เกียร์อัตโนมัตินั้นไม่ยากอะไรหรอก ก็คล้ายๆกับที่เขาว่าๆกันนั่นแหละ แต่มันมีเทคนิคและวิธีการที่ทำให้การขับรถเกียร์อัตโนมัติได้ประหยัดน้ำมัน ในขณะเดียวกันก็สนุกกับการกดคันเร่งแช่เพียงอย่างเดียว

444. ก่อนสตาร์ทเครื่องยนต์ เกียร์ต้องอยู่ตำแหน่ง P หรือ N เสมอ ทุกครั้งก่อนสตาร์ตเครื่องยนต์ สำหรับรถที่ใช้เกียร์อัตโนมัติเป็นตัวส่งกำลัง เกียร์ต้องอยู่ที่ตำแหน่ง P หรือ N เสมอ และต้องเหยียบแป้นเบรกไว้ด้วย จึงจะสตาร์ทเครื่องยนต์ได้

445. เร่งแซงในที่ขับขัน กดคันเร่งให้สุด หลายคนที่ขับรถเกียร์อัตโนมัติไม่ชำนาญ มักบอกว่าเวลาที่เร่งแซงเกียร์ไม่ยอมเปลี่ยนให้ นั่นแสดงว่า ระบบ Kick Down ยังไม่ทำงาน ถ้าจะเร่งแซงให้กดคันเร่งให้สุดระบบของเกียร์จะสั่งให้ลดอัตราทอของเกียร์ลง เพื่อเพิ่มกำลังในการเร่งแซง เมื่อแซงพ้นเรียบร้อยก็ถอนคันเร่งได้ครับ เกียร์ก็จะเลื่อนตำแหน่งมาอยู่ในอัตราทดที่เหมาะสมกับความเร็วรถขณะนั้น

446. อยากประหยัดน้ำมันให้ “กด” แล้ว “ถอน” และ “กด” ซ้ำอีกครั้ง หากต้องการขับแบบประหยัดน้ำมันมากๆ เกียร์อัตโนมัติก็ทำได้ ง่ายๆทุกครั้งที่เราออกรถ เท้าของท่านก็กดแช่ไว้ที่แป้นคันเร่ง อัตราทดเกียร์ก็เปลี่ยนไปเรื่อยๆ จากเกียร์ 1 ก็จะเปลี่ยนเป็นเกียร์ 2 และเกียร์ 3 ตามลำดับ แต่ถ้าเราต้องการให้ตำแหน่งเกียร์เลื่อนเปลี่ยนไวขึ้นเพื่อการเซฟน้ำมัน แค่ถอนคันเร่งขึ้นเล็กน้อย และกดแป้นคันเร่งซ้ำไปอีกครั้ง เท่านี้ตำแหน่งของเกียร์ก็จะเปลี่ยนไวขึ้นครับ เป็นการขับแบบเซฟน้ำมัน สามารถช่วยได้ในยุคน้ำมันเช่นนี้ครับ

447 ก่อนจะออกรถทุกครั้ง ต้องเหยียบเบรกไว้ก่อน การออกรถทุกครั้งต้องเหยียบเบรกไว้ก่อนเสมอ เนื่องจากเมื่อท่านเลื่อนเกียร์จากตำแหน่ง N มาที่ ตำแหน่ง D กำลังจากจากเครื่องยนต์จะถูกถ่ายทอดไปสู่ชุดเกียร์แบบทันทีทันใด หากท่านไม่เหยียบเบรกไว้ รถก็จะกระตุกและพุ่งตัวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว ถ้าบังเอิญด้านหน้ารถท่านจอดชิดกับท้ายรถคันหน้ามากเกินไป ก็อาจจะเกิดอุบัติเหตุขึ้นได้

448. ไม่ควรออกกระชากแรงๆบ่อยครั้งนัก หลายคนที่ชอบขับรถสไตล์นักซิ่ง ชอบออกรถแบบกระชากให้ล้อได้ร้องเอี๊ยดอ๊าดกันแทบทุกครั้ง แบบนี้ถ้าใช้กับรถเกียร์อัตโนมัติบ่อยๆ จะทำให้ท่านต้องเสียเงินซ่อมเกียร์ไวขึ้น เนื่องจากผ้าคลัตซ์ในชุดเกียร์จะหมดไวกว่าปรกติ 2-3 เท่า รวมถึงจะทำให้ชุดทอร์คคอนเวอร์เตอร์ พังไวกว่าปรกติ

449. ลากรถเกียร์อัตโนมัติใช้ความเร็วเกิน 60 กม./ชม. ในกรณีที่ต้องลากรถที่ใช้เกียร์อัตโนมัติส่งกำลัง และล้อที่ขับเคลื่อนต้องสัมผัสกับพื้นถนนเวลาลาก เช่น รถขับเคลื่อนล้อหน้าถูกชนท้าย ต้องลากรถทางด้านท้าย และให้ล้อคู่หน้าซึ่งเป็นล้อขับเคลื่อนสัมผัสกับพื้นถนนเวลาลากรถไป แบบนี้ต้องให้เกียร์อยู่ในตำแหน่ง N ซะก่อน หลังจากนั้นค่อยลากรถไปด้วยความเร็วไม่เกิน 60 กม./ชม. หากต้องลากรถติดต่อกันเป็นระยะทางไกลๆ ควรหยุดพักอย่างน้อย 1 ชม. ทุกๆระยะทาง 70-80 กม. เพื่อป้องกันไม่ให้เกียร์เสียหาย

450.การตรวจรถยนต์ประจำวัน ตรวจระดับน้ำมันเครื่องและรอยรั่ว ตรวจระดับน้ำในหม้อน้ำ, ถังพักน้ำสำรอง, ถังน้ำล้างกระจก ตรวจระดับน้ำกรดในแบตเตอรรี่, และระบบไฟฟ้า ตรวจระดับน้ำมันเบรก, น้ำมันคลัตช์และเบรกมือ ตรวจระดับน้ำมันเชื้อเพลิงในถังจากมาตรวัด ตรวจความดันลมยาง, สภาพดอกยางรวมทั้งยางอะไหล่ด้วย ตรวจเสียงดังของเครื่องยนต์ และบริเวณตัวถังรถยนต์

451. กฎจราจรมีไว้เพื่อให้ทุกคน สามารถใช้ถนนสาธารณะร่วมกันได้อย่างเป็นระเบียบและปลอดภัย ในแต่ละประเทศมีกฎจราจรพื้นฐานคล้ายกัน แต่ต่างกันที่รายละเอียดและความเข้มงวดในการปฏิบัติ บทความนี้รวบรวมกฎจราจรของไทยหรือลักษณะการขับรถยนต์ที่คนไทยละเลย ไม่ปฏิบัติตามจนกลายเป็นเรื่องปกติ หรือถ้าใครเคร่งครัดก็อาจจะถูกด่าหรือชนได้

452.ขับชิดซ้าย ไม่ได้พบแต่ตามถนนโล่งต่างจังหวัดเท่านั้น บนทางด่วนหรือทางลอยฟ้าในกรุงเทพฯ ก็พบได้บ่อยๆ เพราะคำว่าช้า และมีกฎหมายจำกัดความเร็วสูงสุดไว้จึงทำให้หลายคนคิดว่าเมื่อไรที่รู้สึกด้วยตัวเองว่าเร็วแล้ว หรือขับเกินความเร็วที่กฎหมายจำกัดไว้ ก็จะขับแช่อยู่ในเลนขวาได้ เพราะในเมื่อไม่ได้คิดว่าขับช้าก็ไม่ต้องชิดซ้าย

453. วิธีที่ถูกต้อง คือ แซงแล้วต้องชิดซ้าย เลนขวามีไว้แซงเท่านั้น หรือราชการควรเปลี่ยนประโยคใหม่ เพิ่มคำว่า กว่า เข้าไปจากขับช้าชิดซ้าย เปลี่ยนประโยคเป็นขับช้ากว่าชิดซ้าย คือ ไม่ว่าจะขับด้วยความเร็วเท่าใดในเลนขวา ถ้ามีรถยนต์ที่ตามมาขับเร็วกว่า ก็ต้องหลบซ้ายให้ไม่ต้องทำตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจไปตัดสินผู้อื่นว่า หากตนเองขับเร็วตามกฎหมายแล้วไม่ต้องหลบให้ใคร

454 .ให้สัณญาณไฟ บางคนหลงลืม บางคนไม่เปิดเป็นนิสัย บางคนตั้งใจไม่เปิด เพราะเคยพบกับคนอื่นที่นิสัยไร้น้ำใจ ซึ่งทำให้การเปิดไฟเลี้ยวที่น่าจะเป็น การเตือนให้ทราบหรือขอทาง แต่กลับเป็นการเตือนให้รู้ตัวและก็เร่งความเร็วมาปิดช่องว่าง

455. หลายคนจึงไม่เปิดไฟเลี้ยวด้วยเหตุผลสั้นๆ คือ ไม่อยากให้คนอื่นรู้ตัว ซึ่งในทางปฏิบัตินั้นควรเปิด เพราะจะได้ความปลอดภัยเพิ่มขึ้น และก็คงไม่พบกับคนไร้น้ำใจกันทั้งถนน

456..ป้ายหยุดแต่ไม่หยุด ในไทยใช้คำว่า หยุด ส่วนในหลายประเทศ เป็นป้าย STOP และต้องปฏิบัติตามป้ายอย่างเคร่งครัด เช่น สหรัฐอเมริกา ไม่ว่าจะอยู่บนถนนใหญ่หรือซอยเล็กกลางวันหรือดึก ไม่ว่าจะดูคึกคักหรือเปลี่ยว หากมีป้ายนี้ต้องเบรกรถยนต์ให้ล้อหยุดหมุน จะสักครึ่งหรือ 1 วินาทีก็ยังดี

457. หากดูแล้วทางโล่งก็ค่อยขับต่อไป ไม่มีการปล่อยไหลช้าๆ ล้อต้องหยุดสนิทชั่วคราว ไม่งั้นถ้ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจซุ่มอยู่จะจับกุมได้ทันที แม้ถนนจะโล่ง ดึกและเปลี่ยว รวมถึงไม่มีรถยนต์อื่นในบริเวณแยกนั้นเลยก็ตาม

458. จอดทับลายตารางเหลือง ผู้ขับรถยนต์ส่วนใหญ่ทราบว่าห้ามจอดทับ แต่ในกรณีที่การจราจรติดขัดแบบพอไหลๆได้ หลายคนก็เผลอจอดทับ เพราะไม่ได้ประเมินรถยนต์บนการจราจรข้างหน้า คิดง่ายๆว่าเดี๋ยวคงไหลไปเรื่อยๆ ผ่านลายตารางไปได้ ในความเป็นจริง เมื่อถึงเขตตารางนี้ ถ้าไม่แน่ใจก็ควรรอให้รถยนต์คันนำหน้าเลยปลาย ตารางออกไปจนมีที่ว่างสำหรับรถยนต์ของเรา แล้วค่อยขับตามไป ไม่ใช่เรื่องยากเลย แต่ไม่ยอมทำกันให้ถูกต้อง

459.เลี้ยวซ้าย(ไม่) ผ่านตลอด หลายคนไม่ทราบว่า จะสามารถเลี้ยวซ้ายผ่านตลอดได้ก็ต่อเมื่อมีป้ายบอกไว้ชัดเจนว่าเลี้ยวซ้ายผ่านตลอด หากไม่มีป้ายฯ รวมถึงไม่มีสัญญานไฟแยกออกมา ตามกฎหมายจะถือว่าตรงนั้นเลี้ยวซ้ายไม่ผ่านตลอด ต้องรอให้มีไฟเขียวทางตรงหรือไฟเขียวเลี้ยวซ้ายสว่างขึ้น ถึงจะเลี้ยวซ้ายได้

460.จอดเลยเส้นตรงแยก นับเป็นเรื่องที่พบเห็นได้บ่อยๆ จนต้องมีกฎหมายตัดแต้มกัน น่าตำหนิโดยเฉพาะเมื่อจอดทับทางม้าลาย คนข้ามถนนต้องเดินเลี่ยงโดยไม่จำเป็น คนอยู่ในรถยนต์เย็นฉ่ำกลับจอดบังทางม้าลายให้คนเดินถนนที่ทั้งเจอความร้อนทั้งฝุ่นต้องลำบากมากขึ้น

461.แซงเส้นทึบ ทั้งนอกและในเมืองพบได้เสมอ มีทั้งตั้งใจและไม่ตั้งใจ แต่เดาว่าเกินครึ่งขับอย่างตั้งใจ โดยเห็นเส้นทึบก่อนตัดสินใจฝ่าฝืนขับข้ามหรือแซง

462จอดที่ห้ามจอด แล้วเปิดไฟฉุกเฉิน เสมือนว่าถ้าเปิดไฟฉุกเฉินแล้วจะจอดชั่วคราวได้ ถึงจะมีป้ายห้ามจอดอยู่ชัดเจนก็ตาม โดยไม่สนใจว่าจะเกะกะการจราจรเพียงไร

463. ไม่ต่อคิวจอดแปะ ขอเข้า น่าจะมีน้อยมากที่ปฏิบัติเพราะไม่คุ้นเส้นทาง ส่วนใหญ่จะเป็นเพราะไม่อยากต่อคิวยาว เลยขับมาต้นๆ คิวแล้วจอดแปะริมคิวขอเข้า เกะกะออกไปอีกเลนหนึ่ง แล้วก็คิดไปเองว่า ในเมื่อเปิดไฟเลี้ยวแล้วก็น่าจะมีน้ำใจให้เข้าหน่อย โดยไม่มองว่าตนเองตั้งใจไม่ต่อคิวแล้วมาขอแทรกนั้นไม่ถูกต้อง

464. ติดสินบน ต้นเหตุการกระทำผิด คนที่ติดสินบน มักจะยอมรับว่าตนเองกระทำผิด แล้วยกสารพัดข้ออ้างขึ้นมาหาความถูกต้องว่า เสียค่าปรับแพง เสียเวลาทำมาหากิน หรือโดนตัดแต้ม สู้ติดสินบนแล้วจบเลยตรงนั้นไม่ได้ พอดีว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจหลายคนก็เต็มใจและจับกุมเพื่อต้องการสินบนอยู่แล้ว

465. การติดสินบนผิดทั้งผู้ให้และผู้รับ แต่คนที่ให้กลับมาคิดหรือพูดภายหลังว่าโดนไถ หรือคนรับเลวฝ่ายเดียวไม่ได้คิดเลยว่าตนเองทำผิดกฎหมาย 2 ต่อ คือ ผิดกฎจราจร และติดสินบนเจ้าหน้าที่

466.ขับอย่างไรไม่ให้ชนท้าย แนวทางที่จะลดความเสี่ยงจากการเกิดอุบัติเหตุชนท้ายรถคันข้างหน้าที่ได้ผลมากที่สุด และเป็นที่ยอมรับกันในหมู่นักขับรถอย่างปลอดภัย คือการเว้นระยะห่างจากคันหน้าให้มากๆ และการเว้นระยะห่างให้มากจะช่วยลดโอกาสถูกชนท้ายด้วยเช่นกัน เพราะเรามีพื้นที่ข้างหน้าว่างมาก ซึ่งเพียงพอสำหรับช่วยให้คันหลังเบรกหยุดได้

467.ทำยังไงดี เมื่อลืมกุญแจไว้ในรถ แล้วรถ LOCK!! หากคุณเก็บกุญแจรีโมทสำรองไว้ที่บ้าน...ลองใช้มือถือโทรหาคนที่บ้านให้ไปเอารีโมทสำรองนั้น มาใกล้ๆที่หูโทรศัพท์ระหว่างที่คุณ ก็นำมือถือของคุณ อยู่ในระยะห่างจาก ประตูรถ ประมาณ 1 ฟุต แล้วให้ คนทางบ้าน ลองกดรีโมท เพื่อ Unlock ดู...เหลือเชื่อ...มันทำได้ ประตูรถ Unlock ออกได้เป็น เรื่องจริงที่ยังไม่มีการพิสูจน์ แต่ใช้ได้ผลกับคนบางคนซึ่งก็ไม่ได้ระบุชัดเจนว่า เป็น กุญแจรี โมทประเภทใด ซึ่งเขาได้ทดลองอยู่หลายๆครั้งสามารถใช้การได้ดีระยะทางไม่ใช่ปัญหาเลย เพียงมี มือถือเท่านั้น

468..การแซงขึ้นหน้า การขับแซงขึ้นหน้า เป็นสิ่งที่ต้องใช้ความระมัดระวังเป็นอย่างสูง ผู้ขับขี่ ควรประเมินสถานะการณ์ และเหตุการณ์ ด้านหน้าของรถที่เราตั้งใจจะขับแซง ว่ามีรถกำลังวิ่งสวนทางมา ในเลนตรงข้ามหรือไม่ เส้นทางด้านหน้าของรถ ที่เราตั้งใจจะแซงนั้น มีความยาวเพียงใด สภาพรถที่เราขับอยู่ มีความพร้อมหรือไม่เพียงใด ความเร็วของรถด้านหน้า กับความเร็วที่เราใช้อยู่นั้น สามารถขับแซงไปได้หรือไม่ สังเกตลักษณะการขับขี่ของรถคันหน้า และคันถัดไป

469. การถูกแซงขึ้นหน้า ควรปฏิบัติดังนี้ ชะลอความเร็วลง ขับไปตามทาง ตามเลนของตัวเอง หากเป็นลักษณะถนนที่ว่าง โล่ง และไม่มีรถมากมาย ให้พิจารณาว่า เลนซ้ายมีรถ ขับเทียบเคียงกับเรา หรือห่างกับด้านที่เรากำลังขับอยู่ มากน้อยเพียงใด เมื่อปลอดภัยดี ควรขับเบี่ยงซ้ายนิดหน่อย เปิดโอกาส และแจ้งให้รถที่กำลังจะแซงทราบว่า เราพร้อมที่จะให้แซงแล้ว การขับขี่ตามกฎจราจร จะช่วยได้มากคือ หากขับขี่ช้า ควรอยู่เลนซ้าย ขับขี่เร็ว อยู่เลนขวา ถ้าทุกคนช่วยกันปฏิบัติตามกฎจราจรแล้ว จะช่วยลดอุบัติเหตุได้มาก
470 การถอยหลัง การถอยหลัง เป็นการขับขี่อีกวิธีหนึ่ง ที่จะต้องพิถีพิถัน โดยเฉพาะ การถอยหลังเข้าที่จอดรถ โดยปกติ การถอยหลัง จะทำด้วยความเร็วต่ำ ขับข้าๆ จะทำให้การหมุนพวงมาลัยได้ผลดี เมื่อจะหมุนพวงมาลัย ควรให้รถ มีการเคลื่อนที่นิดหน่อย เพราะจะช่วยลดการเบียดเสียดสี ระหว่าง หน้ายางกับพื้นถนน การถอยหลัง จะใช้หลักว่า ต้องการให้ท้ายของรถยนต์หันไปทางใด ก็ให้หมุนพวงมาลัย ไปทางนั้น เช่น ต้องการให้ท้ายรถเลี้ยวไปด้านซ้าย ก็หมุนพวงมาลัยไปด้านซ้าย ต้องการให้ท้ายรถเลี้ยวไปด้านขวา ก็หมุนพวงมาลัยไปทางด้านขวา ผู้ขับขี่ อาจหันไปมองท้ายรถ เพื่อประมาณระยะการถอย ได้ตามต้องการ

471.การลากรถ การลากรถ ถือเป็นวิธีการสุดท้าย หลังจากไม่สามารถขับเคลื่อนรถต่อไปได้ เมื่อจำเป็นต้องลากรถ ควรหาวัสดุที่ทนทานต่อแรงฉีกขาด เช่นใช้เชือก สำหรับลากรถ ด้านหนึ่ง ผูกเข้ากับ ท้ายรถที่ทำหน้าที่ลาก ไม่ควรผูกเชือก ไว้กับกันชน แต่ควรผูกยึดไว้กับส่วนที่แข็งแรง ของชิ้นส่วนโครงรถ หรือผูกไว้กับโลหะ เฉพาะที่ทำเป็นตะขอยึดเกี่ยวกับเชือกลากรถ ทางด้านรถที่ถูกลาก ควรผูกเชือกไว้กับ เหล็กตะขอ ที่ทำสำหรับไว้ลากรถโดยตรง หรือผูกยึดติดกับส่วนสำคัญของโครงรถเช่นกัน

472.สำหรับรถยนต์เกียร์อัตโนมัติ ควรติดต่อบริษัทลากรถ มาทำการลากรถดีกว่า เนื่องจาก บริษัทลากรถ จะมีอุปกรณ์ยกล้อ ให้ลอยเหนือพื้น และไม่ต้องใช้เชือกลาก สามารถลากรถไปด้วยความเร็ว มากขึ้นได้ เนื่องจากรถที่ใช้ชุดเกียร์อัตโนมัติ จะใช้น้ำมันเกียร์อัตโนมัติ ทำให้เกิดการขับเคลื่อน เมื่อเครื่องยนต์ไม่ทำงาน น้ำมันเกียร์อัตโนมัติ จะไม่หมุนเวียน หากลากรถไป ในระยะทางไกลๆ จะเกิดความเสียหาย กับชุดเกียร์ได้

473. การดูแลรักษาพรมในรถด้วยตัวท่านเอง สามารถทำได้ดังนี้ ควรปัดหรือดูดฝุ่นอย่างน้อยสัปดาห์ละหนึ่งครั้ง ซึ่งถ้าหากเจ้าของรถ ไม่สะดวก ที่จะทำเอง ก็สามารถใช้บริการนี้ได้จากสถานีบริการทั่วๆ ไป ใช้แผ่นยางซึ่งมีขายอยู่ทั่วๆ ไปปูทับบนพื้นพรมบริเวณที่มักจะถูกรองเท้าสัมผัสบ่อยๆ เพื่อเป็นตัวรองรับกรวดทรายหรือขี้ฝุ่น ซึ่งพรมรองเท้า หรือแผ่นยางนี้ จะสามารถ นำออกมาทำความสะอาดได้โดยสะอาด

474. ถ้าพรมเปียกน้ำเพียงเล็กน้อย ให้นำผ้าหรือกระดาษทิชชูมาซับน้ำออกนำรถมาจอดไว้กลางแดด โดยเปิดกระจกทิ้งไว้ ความร้อนจะช่วยทำให้พรมแห้งแต่ในกรณีที่น้ำเปียกพรมมาก ควรถอดเบาะนั่งออกก่อน หลังจากนั้นจึงถอดพรมออกมาซักแล้วผึ่งแดดจัดๆ เหมือนการตากผ้าทั่วไปเพียงแต่อาจต้องใช้เวลานานอย่างน้อย 2 วัน หรือจนกว่าพรมจะแห้งสนิทจึงนำเข้าที่ตามเดิม ซึ่งหากท่านไม่สามารถถอดอุปกรณ์ต่างๆ ได้ด้วยตนเอง วิธีที่ดีที่สุด คือนำรถเข้าศูนย์บริการเพื่อให้ช่างที่ชำนาญถอดพรมออกซัก

475.พรมเปื้อนโคลนหรืออาเจียนการทำความสะอาดที่ถูกวิธี ควรใช้อุปกรณ์ตักเซาะเอาเศษความสกปรกออก หลังจากนั้นใช้ผ้าแห้งที่สะอาด หรือกระดาษซับความเปียกชื้นออกไปจนหมาด ควรเช็ดจากวงนอกเข้าไปกลางจุดที่เปื้อน เพื่อป้องกันความสกปรกขยายวงกว้างออกไป ถ้าความสกปรกยังไม่หมดไปใข้แชมพูซักพรมฉีดบริเวณนั้น หากภายในรถของท่านยังมีกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ติดอยู่ ควรนำรถไปจอดกลางแดดที่ร้อนจัดปิดกระจกทุกบานไว้ประมาณ 2-5 ชั่วโม จึงค่อยเปิดประตูรถให้ลมพัดผ่าน ความร้อนจากแสงแดดจะช่วยทำลายกลิ่นให้จางลงหรือหมดไป หากยังไม่หายสนิทก็ทำซ้ำเช่นนี้อีกจนกว่ากลิ่นจะจางลงไป

476.หมากฝรั่งติดพรม การขูดเซาะออกขณะที่หมากฝรั่งอ่อนตัวทำได้ยาก เนื่องจากหมากฝรั่งจะเหนียวทำให้เกิดความเสียหายกับเนื้อพรมได้ และถ้าไม่ระวังหมากฝรั่งอาจจะเลอะเทอะกระจายเพิ่มขึ้น วิธีที่พึงปฏิบัติคือใช้ก้อนน้ำแข็งมาประคบที่หมากฝรั่งให้เย็นจนแข็งตัว จากนั้นก็ใช้ช้อนขูดออก จะทำให้หมากฝรั่งขูดออกได้ง่ายขึ้น

477.พรมเปื้อนสารเคมี ในกรณีที่พรมเปื้อนสารเคมีที่เกิดจากน้ำยาทาเล็บ น้ำมันเครื่องหรือไขจารบี การซักด้วยน้ำเพียงอย่างเดียว อาจจะไม่สามารถล้างคราบของสารเคมีออกได้หมด เพราะจะมีความมันติดหลงเหลืออยู่ ควรใช้แขมพูสำหรับซักพรม โดยเฉพาะมาทำการล้างออกทันทีก่อนที่สารเคมีเหล่านี้จะจับนานซึ่งอาจจะทำให้ล้างออกยาก

478.เตรียมตัวอย่างไรก่อนซื้อรถ ถามตัวเองก่อน สิ่งแรกที่คุณจะต้องทำในการเตรียมตัวซื้อรถนั่นก็คือการถามตัวเองก่อนว่าคุณมีความจำเป็นในการใช้รถมากน้อยแค่ไหน บ้านคุณอยู่ไกลทำงาน ต้องไปรับลูก หรือแค่เห็นว่ารถรุ่นนี้สวย

479.กำหนดเงินที่มีอยู่ข้อนี้ถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญมากทีเดียวหากคุณคิดจะซื้อรถสักคันเพราะเงินคือสิ่งที่เป็นตัวกำหนดว่าคุณควรจะซื้อรถแบบใด ยี่ห้อใด หากว่าคุณต้องซื้อแบบเงินผ่อนล่ะก็ขอแนะนำว่าคุณต้องดูความสามารถในการผ่อนแต่ละเดือน ไม่ว่าจะเป็นค่าดอกเบี้ย ค่าประกันรถ ค่าซ่อมแซม ลองบวกลบคูณหารแล้วไม่ทำให้คุณเดือดร้อน

480.ยี่ห้อรถและราคาขายต่อ มีรถบางยี่ห้อราคาแพงลิบตอนคุณซื้อ แต่พอคุณคิดจะเปลี่ยนยี่ห้อกลับราคาตกอย่างน่าใจหาย จริงๆแล้วเรื่องราคาขายต่อนั้นก็มีปัจจัยหลายข้อที่ทำให้ราคาตกไม่ได้ขึ้นอยู่ที่สภาพหรือสมรรถนะของรถเท่านั้นแต่เกี่ยวกับเรื่องของกระแสความนิยม ความดังของยี่ห้อ สัญชาติของยี่ห้อ จำนวนศูนย์บริการ ราคาอะไหล่ ความชินตาที่เห็นบนถนน ความจุกจิกในการใช้งาน รูปลักษณ์ จำนวนคนที่รอซื้อต่อ หรือความยากในการขายต่อ ความใหม่ของยี่ห้อรวม ถึงการล้มหายไปของยี่ห้อ ฯลฯ ล้วนมีผลต่อราคาขายต่อทั้งนั้น

481.ควรดูราคาหลายๆแห่งก่อนซื้อ เพราะว่าแต่ละบริษัทอาจจะมีโปรโมชั่นที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นอัตราดอกเบี้ยต่ำ อุปกรณ์เสริม เช่น ล้อแม็กซ์ แอร์ วิทยุ กันสนิม ซ่อมฟรี และฟรีประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 คุณควรจะลองดูหลายๆแห่งอาจจะได้รถดีราคาไม่แพงมากก็ได้

482.เช็คราคาอะไหล่และศูนย์บริการ รถบางยี่ห้อราคาอะไหล่แพงหูฉี่และหายาก มีความลำบากในการซ่อม รวมทั้งค่าซ่อมแพง หรือว่าบางยี่ห้อต้องใช้อะไหล่ของทางบริษัทเท่านั้น รวมถึงเรื่องของศูนย์บริการที่รถบางยี่ห้อมีไม่กี่แห่งอาจจะลำบากในการหาศูนย์บริการหากคุณอยู่ไกล

483. เช็คราคาการประกันรถยนต์ ถ้าคุณจะซื้อรถเก่า ที่มีอายุการใช้งานเกินกว่า 10 ปี บริษัทประกันบางแห่ง จะไม่รับประกันภัยชั้น 1 ให้คุณถ้าเกิดกรณีอุบัติเหตุ จะทำให้คุณต้องเสียเงินมาก

484.หาข้อมูลเพิ่มเติมสื่อในปัจจุบันนั้นมีมากมายให้เลือก ไม่ว่าจะเป็นโทรทัศน์ วิทยุ หนังสือพิมพ์ นิตยสาร หรืออินเตอร์เน็ต คุณสามารถเช็คข้อมูลได้ทุกเรื่องเกี่ยวกับรถที่คุณอยากรู้ แต่ต้องอย่าลืมว่าสื่อเหล่านี้ไม่ได้ถูกต้องไปเสีย100 % คุณอาจจะลองถามเพื่อนที่ใช้รถดูเค้าอาจมีคำแนะนำให้คุณแต่ความคิดส่วนตัวแต่ละคนแตกต่างกัไป

485. ซื้อรถใหม่ป้ายแดงรอบคอบสักนิด จะได้ไม่ต้อง คิดทุบ คิดเผา สิ่งที่หลาย ๆ คนอยากทำเหมือนกันก็คงจะเป็นการถอยรถใหม่ป้ายแดงออกมาเชยชม ให้คุ้มกับการที่เหน็ดเหนื่อยมาทั้งปีแล้วให้รางวัลชีวิตสักหน่อยก็คงไม่มีใครว่าหรอก แต่การจะซื้อรถป้ายแดงสักคัน ซึ่งตอนนี้ก็คงจะต้องคิดกันหน่อย ทั้งราคารถบวกกับราคา น้ำมันก็แพงแสนแพง มิหนำซ้ำซื้อรถป้ายแดงใหม่ ๆ ถอยจากศูนย์ช่วงนี้ก็ดันมีปัญหาพ่วงท้ายมา ให้ต้องกุมขมับ ดังนั้นจึงควรที่จะรอบคอบกันสักนิด

486. มีรถใหม่(มือ2) แล้วทำไง ไม่ใช่เรื่องแปลกที่รถป้ายแดงล้านเราจะมีให้เห็นกันหนาตา ทั้งนี้เพราะโอกาสเป็นเจ้าของรถมันง่ายขึ้น จากเงื่อนไขในการวางดาวน์และการผ่อน ประเภทดาวน์น้อยผ่อนนานดอกเบี้ยต่ำ คราวนี้เมื่อมีรถใหม่หรือรถคันใหม่ที่เป็นรถเก่า เราจะทำอย่างไรให้มันอยู่รับใช้ได้นาน สมกับราคาค่าตัวที่แสนแพง และไม่งอแงให้ยุ่งยากลำบากใจ

487.รถเก่าคันใหม่ สำหรับผู้ที่นิยมของดีราคาถูก ซื้อรถเก่าหรือพวก รถมือสองมาใช้ เพื่อคุณภาพ และความปลอดภัย ควรจะเริ่มต้นในการบำรุงรักษาด้วยการนับหนึ่งใหม่เลยดีกว่า แม้จะเปลืองกะตังค์ไปบ้างก็ดีกว่าเสี่ยงของบางอย่างต้องมีการเปลี่ยนตามระยะทางหรือเวลา

488.เปลี่ยนของเหลว พวกของเหลวควรจะทำการเปลี่ยนถ่ายทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น น้ำหล่อเย็น น้ำมันเครื่อง น้ำมันเพาเวอร์พวงมาลัยน้ำมันเกียร์ น้ำมันเฟืองท้าย และน้ำมันเบรค เปลี่ยนของนุ่มของแข็ง

489.ไส้กรอง เหล่าบรรดาไส้กรองต่าง ๆ สมควรเปลี่ยนใหม่หมด ไม่ว่าจะเป็นไส้กรองอากาศ ไส้กรองน้ำมันเครื่อง (เปลี่ยนอีกตอนถ่ายน้ำมันเครื่อง) และไส้กรองน้ำมันเบ็นซิน ส่วนพวกเครื่องดีเซลที่มีไส้กรองตักน้ำด้วยให้ดูหน้าตามันหน่อย หากดูสกปรกไม่น่าวางใจให้เปลี่ยนใหม่ไปเลย

490.สายพาน สำหรับเครื่องยนต์ที่ใช้สายพานขับเคลื่อนแค็มชาฟท์ หากไม่แน่ใจหรือไม่มั่นใจจริง ๆ แล้วควรจะเปลี่ยนพวกสายพานไทมิ่งขับเคลื่อนแค็มชาฟท์เลยดีกว่า แม้เจ้าของรถจะยืนยันว่าเพิ่งเปลี่ยนก็ตาม และอย่ามองกันที่เลขไมล์เพียงอย่างเดียว ของแบบนี้มันกลับเลขไมล์กันได้ แม้จะเป็นเลขไมล์ระบบดิจิตอบก็ตาม ด้วยสนนราคาค้าแรงไม่กี่ร้อยบาท

491. สำหรับค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนสายพานไทมิ่ง ลำพังค่าสายพานนั้นไม่เท่าไหร่ อยู่ระหว่างไม่ถึงพันกับพันเศษ ๆ โดยไปหนักค่าแรงกันมากกว่า และสิ่งที่ควรพิจารณาเมื่อเปลี่ยนสายพานไทมิ่งมีอยู่ 2 อย่าง อันแรกเป็นตัวลูกรอกสายพาน ซึ่งอันที่จริงก็น่าจะเปลี่ยนไปพร้อมกับสายพานเลย เพื่อความสบายใจและปลอดภัย

492.ผ้าเบรก ควรจะรื้อเบรกออกมาดูหน้าตากันหน่อยทั้งเบรคหน้าและเบรคหลัง ตรวจเช็คพวกท่อสายอ่อนน้ำมันเบรคไม่ควรมีร่องรอยการรั่วซึมชำรุดเสียหายบวม หรือแข็งกระด้างแตกลายงา พวกดิสค์เบรคให้ตรวจสภาพของยางกันฝุ่นหากปล่อยให้แกขาดเดี๋ยวน้ำซึมเข้าไปได้จะเกิดสนิมแล้วทำให้แม่ปั๊มเบรคตายพวกดรัมเบรคก้ตรวจเช็กร่องรอยการรั่วซึมของลูกปั๊ม และหากพบว่าผ้าเบรคเหบือไม่ถึงครึ่ง (ประมาณ 5 มม.) แบบนี้ลงทุนเปลี่ยนผ้าเบรคไปเลยดีกว่า และไม่จำเป็นต้องเจียจานสำหรับดิสค์เบรค ยกเว้นพวกดรัมเบรคที่ต้องเจียเพราะจานอาจไม่กลม

493.ยางหุ้มเพลาหุ้มแร็ค จัดการตรวจเช็คยางหุ้มแร็คพวงมาลัยและยางหุ้มเพลาขับหากพบว่ามีร่องรอยน้ำมันซึมเปรอะเปื้อน ให้ตรวจเช็คและเติมจาระบีเพิ่มเข้าไป หรือพบร่องรอยยางฉีกขาดก็ควรเปลี่ยนใหม่โดยเร็วที่สุด ก่อนที่สิ่งสกปรกจะเล็ดลอดเข้าไปทำให้แร็คพวงมาลัยหรือลูกปืนเพลาขับเสียหาย คราวนี้ไล่เสียแพงแน่

494 ติดตั้งอุปกรณ์เพิ่มเติม สำหรับรถใหม่ เพื่อให้รถอยู่ได้และอยู่นานก็ต้องมีการออกแรงเพิ่มเติมไม่งั้นอาจต้องผ่อน "กุญแจรถ" หรือได้รถสีด้าน ๆ สนิมเขลอะเอาไว้ใช้ ซึ่งหนีไม่พ้น พวกติดกันขโมย เคลือบสี หรือพ่นกันสนิมซึ่งอันที่จริงอีตอนซื้ออาจจะได้แถมมาจากพวกเซลส์ขายรถแล้ว แต่พวกอุปกรณ์ที่ได้เป็นของแจกของแถมจากเซลส์เหล่านี้มักจะไม่ค่อยมีคุณภาพเท่าไหร่ การลงมือพ่นกันสนิมก็แค่สาด ๆ พอให้เห็นผลงานเท่านั้นเองตามราคาที่ได้รับมาจากเซลส์ ดังนั้นทางที่ดีของข้างนอก ถึงแพงกว่าเยอะแต่ผลงานก็คุ้มค้ากว่าแยะ

495. อุปกรณป้องกันขโมย ถึงบริษัทรถยนต์จะพยายามเพิ่มอุปกรณ์ป้องกันการโจรกรรมติดรถมาให้แล้ว แต่ก็ไม่สามารถปกป้องได้ 100 เปอร์เซนต์ อย่างที่ได้ยินข่าวว่ารถยี่ห้อนั้นยี่ห้อนี้หายกี่คัน ในจำนวนนั้นจะมีรถประเภทอุปกรณ์กันขโมยเพียบร่วมอยู่ด้วย รวมทั้งระบบกุญแจ Immobilizer ก็ยังอาจจะเอาตัวไม่รอด ด้วยเหตุนี้เราจึงควรมีอุปกรณ์กันขโมยทั้งประเภทอิเล็กทรอนิคส์และแม็คคานิกส์ เนื่องจากขโมยที่เก่งทั้งสองอย่างจะมีจำนวนน้อยลงไปอีก หรือเอาไว้เพิ่มความยุ่งยากจนขโมยเปลี่ยนใจไปลงมือกับรถอื่นที่เล่นได้ง่ายกว่าแทน

496 การเคลือบสีนับว่าเป็นสิ่งที่น่าสนใจ แม้สีที่พ่นรถมาจะมีประสิทธิภาพสูง แต่ความเลวร้ายของอากาศบ้านเราเหนือกว่า เพื่อให้สีอยู่นาน ควรจะมีการเคลือบสีทับอีกชั้น การเคลือบสีมีอยู่หลายแบบพวกราคาเบา ๆ หรือแบบให้เจ้าของซื้อไปลงมือเองอย่างพวกที่เป็นขี้ผึ้ง (wax) หรือ คานูบา แบบนี้อายุการใช้งานสั้น ต้องลงมือกันบ่อย ๆ และหากเลือกใช้วิธีนี้ก็ควรเลือกแบบที่ขัดแล้วไม่มีสีรถติดผ้าออกมา แต่โดยทั่วไปคุณสมบัติของผลิตภัณฑ์ประเภทนี้ มันจะเน้นในเรื่องของการเพิ่มความเงางามให้กับสีมากกว่าการปกป้อง

497.พ่นกันสนิม ตอนนี้รถส่วนใหญ่จะใช้วิธีชุบสี สามารถป้องกันการเกิดสนิมได้ดีขึ้น แต่ก็มีอีกเยอที่ยังไม่ไว้วางใจต้องนำรถไปพ่นกันสนิมอีกขั้น สำหรับพวกน้ำยากันสนิมที่มีจำหน่ายในบ้านเราส่วนใหญ่จะมีคุณภาพสูง แต่ถ้าจะเลือกพ่นกนสนิมก้ควรดูวิธีการพ่นด้วย อย่างพวกพ่นกันสนิมราคาถูกทีเซลส์บริษัทรถแถมให้พวกนี้แค่สาดพอเปรอะให้เห็นเท่านั้นเอง วิธีพ่นกันสนิมที่ดี ต้องมีความละเอียด รอบคอบและรู้จักกลไกของรถ สามารถพ่นได้ทั่วถึงทุกซอกทุกมุมไม่มีจุดอับ และไม่พ่นไปทับเซ็นเซอร์หรืออุปกรณ์อิเล็คทรอนิคส์ที่ซุกเอาไว้

498. การขับใช้งาน รถใหม่ควรจะมีการรัน - อินบ้างในช่วงแรก ซึ่งไม่เพียงแต่รันอินเครื่องยนต์เท่านั้น แต่เป็นการรัน - อินส่วนอื่น ๆ ของตัวรถด้วย เช่น เฟืองเกียร์ เฟืองท้าย ยาง ช็อคอับ และเบรค การขับขี่ในช่วงแรกจึงไม่ควรเท้าหนักนัก รอบเครื่องไม่ควรเกิน 2/3 ของรอบเครื่องสูงสุด การออกตัวรถ การขับ ให้ใช้ความนุ่มนวลบ้าง ไม่เบรคอย่างกะทันหันรุนแรง (ยกเว้นจำเป็นก็ให้ว่าเต็มที่เลย)

499. การซื้อรถมือสอง เมื่อท่านจะ ตกลงซื้อรถเก่า จากเจ้าของ หรือจากผู้ขาย ตามเต็นท์ขายรถ ต้องขอหมายเลขเครื่อง หมายเลขตัวถัง และสำเนาทะเบียนรถ มาตรวจสอบ กับทะเบียนรถ ในท้องถิ่นที่ รถนั้นจดทะเบียน ไว้เสียก่อน เพราะอาจเป็นรถ ที่ไม่ถูกต้อง หรือขโมย มาสวมทะเบียน เมื่อซื้อรถมาแล้ว ควรต้องเปลี่ยนกุญแจ และติดตั้งอุปกรณ์ กันขโมยเช่นเดียวกับ รถใหม่ พึงระมัดระวัง ระลึกอยู่เสมอว่า คนร้ายจ้องรอโอกาส ขโมยรถของท่านอยู่

500.การจอดรถต้องระวัง การจอดรถไม่ว่าจะจอดในที่ ส่วนบุคคล ที่สาธารณะ แม้จอดทิ้งไว้ ระยะสั้นหรือ นานเพียงใด เพื่อไปทำธุระ หรือทำงาน ก็ตาม ไม่ควร จอดไว้ห่างไกล ควรมีคนเฝ้า ดูแลหรือยาม รปภ. ก่อนทิ้งรถ ควรไปตรวจสอบ การล็อคกุญแจประตู และใช้ อุปกรณ์ กันขโมย ให้ครบถ้วน อย่าทิ้งทรัพย์สิน สิ่งของมีค่า ไว้ในรถ ล่อตาคนร้าย บางครั้งรถ ไม่หายแต่ ของหาย

1 ความคิดเห็น:

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ขอบคุณมากนะครับสำหรับบทความ