24 พ.ค. 2552

มะเขือเทศ เพื่อผิวหนังอ่อนเยาว์ห่างไกลความแก่

มะเขือเทศเป็นพืชผักที่มีคุณค่ามหาศาล จนได้รับคำเปรียบเทียบว่าเป็น "super food" เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า มะเขือเทศมีคุณสมบัติช่วยลดคลอเรสเตอรอล และยังสามารถป้องกันการเกิดมะเร็งหลายชนิด แต่ล่าสุดจากการศึกษา ก็พบคุณสมบัติที่เป็นประโยชน์แก่สุขภาพที่เราจะได้จากมะเขือเทศอีก 2 ประการคือ มะเขือเทศสามารถป้องกันอันตรายจากแสงแดด และยังทำให้ผิวหนังและดูอ่อนเยาว์อีกด้วย

ศาสตราจารย์ Mark Birch-Machin กล่าวว่ามะเขือเทศเป็นวิธีที่ง่ายและถูกที่สุดในการปรับปรุงสุขภาพให้ดีขึ้น ผลการสำรวจของมหาวิทยาลัย Manchester และ Newcastle แนะนำให้รับประทานมะเขือเทศกับอาหารมือหลัก มื้อละ 2 ลูก เพื่อสุขภาพที่ดีเยี่ยม โดยเมนูง่ายๆในแต่ละวันก็คือ น้ำมะเขือเทศในมือเช้า ซุปมะเขือเทศในมื้อกลางวันและ พาสต้าซอสมะเขือเทศสำหรับอาหารเย็น

คณะสำรวจได้ทำการทดสอบคุณสมบัติของมะเขือเทศที่จะมีผลต่อผิวหนัง โดยการให้อาสาสมัครสิบคน รับประทานซอสมะเขือเทศเข้มข้น 5 ช้อนโต๊ะ ผสมกับน้ำมันมะกอก ทุกๆวันเป็นเวลาสามเดือน ในขณะที่อาสาสมัครอีกสิบคนรับประทานน้ำมันมะกอกที่ไม่ผสมมะเขือเทศ เป็นเวลาสามเดือนเช่นกัน

การทดสอบกับแสงอุลตร้าไวโอเล็ทปรากฎว่า ผู้ที่รับประทานน้ำมันมะกอกผสมมะเขือเทศมีความต้านทานต่อรังสีเพิ่มขึ้น 33% เมื่อทียบกับก่อนรับประทานมะเขือเทศ ในขณะที่ผู้ที่รับประทานน้ำมันมะกอกอย่างเดียว กับไม่มีการเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัด จากการทดสอบยังพบว่า กลุ่มที่รับประทานน้ำมันมะกอกกับมะเขือเทศ ยังมีการสร้างคอลลาเจนที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ยังพบว่ามะเขือเทศยังช่วยปกป้อง mitochondria ซึ่งเป็นองค์ประกอบใน cell ของร่างกายที่ช่วยเปลี่ยนอาหารให้เป็นพลังงาน

ศาสตราจารย์ Birch - Machin แห่งมหาวิทยาลัย Newcastle กล่าวว่าการที่มะเขือเทศมีคุณต่อ mitochondria น่าจะเป็นผลดีในการเพิ่มสุขภาพของผิว ซึ่งทำให้มีผลในการชะลอความแก่ได้ในที่สุด อย่างไรก็ตามผลการสำรวจนี้ไม่ได้หมายความว่าเราสามารถเลิกใช้ครีมกันแดด แต่มีความหมายว่ามะเขือเทศเป็นตัวเสริม เพิ่มความสามารถในการป้องกันอันตรายจากแสงแดดเท่านั้น

ประโยชน์มหาศาลของมะเขือเทศ มาจากสาร Lycopene ซึ่งทำให้มะเขือเทศมีสีแดงสุกปลั่ง Lycopne เป็นสาร Antioxidant ที่สามารถต่อต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งเป็นผลร้ายต่อโมเลกุลในร่างกายของเรา และมีความเกี่ยวข้องกับการเกิดมะเร็ง การปรุงมะเขือเทศให้สุกจะช่วยให้ร่างกายของเราดูดซึมสาร Lycopne ไปใช้ได้ง่ายยิ่งขึ้น

ไม่มีความคิดเห็น: